fbpx
วิกิพีเดีย

ครุฑ

บทความนี้เกี่ยวกับสัตว์ในนิยาย สำหรับแบบอักษร ดูที่ ครุฑ (แบบอักษร)

ครุฑ (สันสกฤต: गरुड) เป็นสัตว์ในนิยายในประมวลเรื่องปรัมปราฮินดูและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู นอกจากนี้ ยังมีปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ

ครุฑยุดนาคปูนปั้นปิดทอง ประดับรอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะของพระวิษณุ ปกติอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"

ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ

ครุฑจะแบ่งได้ 5 ประเภทคือ

  1. ตัวเป็นคนอย่างธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่มีปีก
  2. ตัวเป็นคน หัวเป็นนก
  3. ตัวเป็นคน หัวและขาเป็นนก
  4. ตัวเป็นนก หัวเป็นคน
  5. รูปร่างเหมือนนกทั้งตัว

เทพปกรณัม

 
ครุฑยุดนาค ภาพเขียนประดับบานประตูพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม
 
ภาพแกะสลักพระนารายณ์ทรงครุฑ ที่ปราสาทนครวัด

เทพปกรณัมของครุฑในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เล่าว่าครุฑเป็นบุตรของพระกัศยปมุนีเทพบิดร และนางวินตา พระกัศยปมุนีองค์นี้เป็นฤษีที่มีฤทธิ์เดชมากองค์หนึ่ง และเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอีกหลายองค์ในศาสนาพราหมณ์ พระองค์มีชายาหลายองค์ แต่องค์ที่เกี่ยวข้องกับครุฑนั้น นอกจากนางวินตาแล้ว ยังมีอีกองค์หนึ่งคือ นางกัทรุ ซึ่งเป็นพี่น้องกับนางวินตาและเป็นมารดาของนาคทั้งปวง

ทั้งสองนางได้ขอพรให้กำเนิดบุตรจากพระกัศยป โดยนางกัทรุได้ขอพรว่าขอให้มีบุตรจำนวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้ให้กำเนิดนาคหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอบุตรเพียงสององค์และขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา เมื่อนางคลอดบุตรปรากฏว่าออกมาเป็นไข่สองฟอง นางรออยู่เป็นเวลา 500 ปี ไข่ก็ยังไม่ฟัก นางทนรอไม่ไหวว่าบุตรของตนจะมีหน้าตาอย่างไร จึงทุบไข่ออกมาฟองหนึ่ง ปรากฏว่าเป็นเทพบุตรที่มีกายแค่ครึ่งท่อนบนชื่อ อรุณ อรุณเทพบุตรโกรธมารดาของตนที่ทำให้ตนออกจากใข่ก่อนกำหนด จึงสาปให้มารดาของตนเป็นทาสนางกัทรุ และให้บุตรคนที่สองของนางเป็นผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองออกมาดู นางรอต่อไปอีก 1000 ปี รอให้ถึงกำหนดที่บุตรคนที่สองซึ่งก็คือพญาครุฑออกมาจากไข่เอง อนึ่ง เมื่อพญาครุฑแรกเกิดว่ากันว่า มีร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจรดฟ้า ดวงตาเมื่อกะพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกทีใด ขุนเขาก็จะตกใจหนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วสี่ทิศ ซึ่งทำให้บรรดาเทวดาทั้งหลายเดือดร้อนอย่างมาก บรรดาเทวดาจึงพากันไปขอร้อง ให้ลดขนาดลงมา

ในกาลต่อมา นางกัทรุและนางวินตาได้พนันกันถึงสีของม้าอุไฉศรพที่เกิดคราวกวนเกษียรสมุทรและเป็นสมบัติของพระอินทร์ โดยพนันว่าใครแพ้ต้องเป็นทาสอีกฝ่ายห้าร้อยปี นางวินตาทายว่าม้าสีขาวส่วนนางกัทรุทายว่าสีดำ ความจริงม้าเป็นสีขาวดังที่นางวินตาทาย แต่นางกัทรุใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมอยู่เต็มตัวม้า (บางตำนานว่าให้นาคพ่นพิษใส่ม้าจนเป็นสีดำ) นางวินตาไม่ทราบในอุบายเลยยอมแพ้ ต้องเป็นทาสของนางกัทรุถึงห้าร้อยปี

ภายหลังเมื่อครุฑได้ทราบสาเหตุที่มารดาต้องตกเป็นทาสและได้ทราบเงื่อนไขจากพวกนาคว่า ต้องไปเอาน้ำอมฤตให้นาคเสียก่อนจึงจะให้นางวินตาเป็นไท ครุฑจึงบินไปสวรรค์ไปเอาน้ำอมฤตซึ่งอยู่กับพระจันทร์ แล้วคว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมา และเกิดต่อสู้กันขึ้น ฝ่ายเทวดานั้นไม่อาจเอาชนะได้ โดยเมื่อพระอินทร์ใช้วัชระโจมตีครุฑนั้น ครุฑไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ครุฑก็จำได้ว่าวัชระเป็นอาวุธที่พระอิศวรประทานให้แก่พระอินทร์ จึงสลัดขนของตนให้หล่นลงไปเส้นหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อวัชระและรักษาเกียรติของพระอินทร์ผู้ป็นหัวหน้าของเหล่าเทพ ด้านพระวิษณุหรือพระนารายณ์ก็ได้ออกมาขวางครุฑไว้และสู้รบพญาครุฑด้วยเช่นกัน แต่ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ ทั้งสองจึงทำความตกลงยุติศึกต่อกัน โดยพระวิษณุให้พรแก่ครุฑว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะและให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระวิษณุ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า

เมื่อครุฑได้หม้อน้ำอมฤตนั้น พระอินทร์ได้ตามมาขอคืน ครุฑก็บอกว่าตนต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้นาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็นทาส และให้พระอินทร์ตามไปเอาคืนเอง ครุฑจึงเอาน้ำอมฤตไปให้นาคโดยวางไว้บนหญ้าคา (และว่าได้ทำน้ำอมฤตหยดบนหญ้าคา 2-3 หยด ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคลในทางศาสนาพราหมณ์) ส่วนนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดี จึงยอมปล่อยนางวินตาแม่ครุฑให้เป็นอิสระ ขณะพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อจะมากินน้ำอมฤตนั่นเอง พระอินทร์ก็นำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้นาคไม่ได้กิน พวกนาคจึงเลียที่ใบหญ้าคาด้วยเชื่อว่าอาจมีหยดน้ำอมฤตหลงเหลืออยู่ ทำให้ใบหญ้าคาบาดกลางลิ้นเป็นทางยาว (เรื่องนี้กลายเป็นที่มาว่าทำไมงูจึงมีลิ้นเป็นสองแฉกสืบมาจนทุกวันนี้) แต่นั้นครุฑกับนาคจึงเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด และครุฑนั้นก็จะจับนาคกินเป็นอาหารเสมอ

ครุฑมีชายาชื่ออุนนติหรือวินายกา โอรสชื่อ สัมปาติหรือสัมพาที และชฎายุหรือสดายุ ตามวรรณคดีพุทธศาสนากล่าวว่าครุฑมีขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้ 150 โยชน์ เวลากระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุใหญ่ เกิดมืดมนและทำลายบ้านเมืองให้หมดสิ้นไปได้ ที่อยู่ของครุฑเรียกว่า สุบรรณพิภพเป็นวิมานอยู่บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว อยู่เชิงเขาพระสุเมรุ

การใช้ครุฑเป็นสัญลักษณ์

 
ครุฑตราตั้งห้างของประเทศไทย
 
ครุฑตราตั้งห้าง ประดับเหนืออาคารบริษัทเทเวศร์ประกันภัย กรุงเทพฯ

ด้วยฤทธานุภาพของพญาครุฑ จึงได้มีการสร้างรูป ครุฑพ่าห์ (หรือ พระครุฑพ่าห์) หมายถึง ครุฑซึ่งเป็นพาหนะ เป็นรูปครุฑกางปีก และใช้เป็นสัญลักษณ์สำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ของไทยก็มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยว่าไทยเราได้รับลัทธิเทวราชของอินเดียที่ถือว่าพระมหากษัตริย์คืออวตารของพระนารายณ์ ดังนั้น ครุฑซึ่งเป็นผู้มีฤทธิ์มากและเป็นพาหนะของพระนารายณ์ จึงเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังที่ปรากฏอยู่ในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ประจำแผ่นดิน ประจำราชวงศ์ และประจำรัชกาล เป็นต้น

จากการที่ไทย ใช้ตราครุฑเป็นพระราชลัญจกรสำหรับประทับหนังสือราชการแผ่นดินที่เป็นพระบรมราชโองการ และใช้พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ประทับหนังสือราชการแผ่นดินมาแต่โบราณกาล ต่อมาจึงได้มีการใช้ ตราครุฑ เป็นหัวกระดาษของหนังสือของราชการทั่วไปด้วย เพื่อให้ทราบว่างานนั้นเป็นราชการ ส่วนรูปครุฑที่เป็นธงแทนองค์พระมหากษัตริย์นั้นเรียกว่า ธงมหาราช เป็นรูปครุฑสีแดงอยู่บนพื้นธงสีเหลือง เริ่มใช้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ธงมหาราชนี้เมื่อเชิญขึ้นเหนือเสา ณ พระราชวังใดแสดงว่าพระมหากษัตริย์ประทับอยู่ ณ ที่นั้น

สำหรับครุฑที่ปรากฏอยู่ในขบวนเรือหลวงก็มีอยู่ 3 ลำคือเรือครุฑเหินเห็จ เป็นหัวโขนรูปพญาครุฑสีแดงยุดนาค เรือครุฑเตร็จไตรจักรเป็นหัวโขนรูปพญาครุฑสีชมพูยุดนาค และ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ เป็นเรือที่สร้างขึ้นในรัชกาลปัจจุบัน

นอกเหนือจากการที่ตราครุฑปรากฏในส่วนราชการต่างๆแล้ว ในภาคเอกชนก็สามารถรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑหรือตราแผ่นดินในกิจการได้ด้วย โดยเริ่มมีมาแต่รัชกาลที่ 5 ซึ่งเดิมเป็นตราอาร์ม โดยมีข้อความประกอบว่า โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ต่อมาในรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์ การพระราชทานตรานี้ แต่เดิมถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทานตามพระราชอัธยาศัย ผู้ได้รับนอกจากจะเป็นช่างหลวง เช่น ช่างทอง ช่างถ่ายรูป เป็นต้นแล้ว ก็มักจะเป็นผู้ประกอบกิจการค้ากับราชสำนัก และเป็นประโยชน์ต่อราชการงานแผ่นดิน

ปัจจุบัน ต้องยื่นคำขอพระราชทานตราต่อสำนักพระราชวัง เพื่อพิจารณานำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตราตั้งนี้ถือเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้จะสิ้นสุดเมื่อสำนักพระราชวังเรียกคืนเนื่องจากบุคคล ห้างร้าน บริษัทที่ได้รับพระราชทานตาย หรือเลิกประกอบกิจการหรือโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือสำนักพระราชวังเห็นสมควรเพิกถอนสิทธิ

ประเทศอินโดนีเซียเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่ใช้ครุฑ (Garuda) เป็นตราประจำแผ่นดิน โดยครุฑของอินโดนีเซียนั้นเป็นนกอินทรีทั้งตัว สายการบินประจำชาติอินโดนีเซียก็ใช้ครุฑเป็นสัญลักษณ์ คือสายการบิน Garuda Airlines

ชื่อของครุฑ

ครุฑมีชื่อเรียกหลายนาม เช่น

  • กาศยปิ (บุตรแห่งพระกัศยปมุนี)
  • เวนไตย (บุตรแห่งนางวินตา)
  • สุบรรณ (ผู้มีปีกอันงาม)
  • ครุตมาน (เจ้าแห่งนก)
  • สิตามัน (ผู้มีหน้าสีขาว)
  • รักตปักษ์ (ผู้มีปีกสีแดง)
  • เศวตโรหิต (ผู้มีสีขาวและแดง)
  • สุวรรณกาย (ผู้มีกายสีทอง)
  • คคเนศวร (เจ้าแห่งอากาศ)
  • ขเคศวร (ผู้เป็นใหญ่แห่งนก)
  • นาคนาศนะ (ศัตรูแห่งนาค)
  • สุเรนทรชิต (ผู้ชนะพระอินทร์)

ครุฑราชการ

ครุฑที่ใช้ในส่วนราชการมีความแตกต่างกันออกไป ครุฑที่เท้าตั้งเฉียงจะใช้ในราชการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ส่วนการใช้ในหน่วยงานอื่นจะใช้เป็นครุฑเท้างุ้ม

ในบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก ที่มุขหน้าปีกซ้าย-ขวา ประดับด้วยประติมากรรมปูนปั้นครุฑในแบบศิลปะร่วมสมัย ขนาดสูงเป็น 2 เท่าของคนจริง ผลงานของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี รูปปั้นครุฑทั้ง 2 นี้ จัดว่าเป็นรูปปั้นครุฑที่ได้เชื่อว่างดงามที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2486 ด้วยมีสรีระร่างกายที่บึกบึนกำยำ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ อีกทั้งในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ที่อาคารสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ถูกระเบิดทำลายเสียหาย แต่อาคารไปรษณีย์กลางแห่งนี้กลับไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ จนทำให้มีความเชื่อกันว่า เป็นเพราะครุฑทั้ง 2 ตนนี้บินไปปัดระเบิดไว้

ในวัฒนธรรมร่วมสมัย

มีการอ้างอิงถึงครุฑไว้ในวัฒนธรรมร่วมสมัยเช่น ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ปักษาวายุ" ในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นไซไฟ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับครุฑซึ่งเป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตมาแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และจับไดโนเสาร์กินจนสูญพันธุ์ และยังคงสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ออกอาละวาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

หรือในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เซนต์เซย่า หนึ่งในขุนพลผู้พิพากษาแห่งยมโลกที่ชื่อ "การูด้า ไออาคอส" ก็สวมชุดเซอร์พลีสที่เป็นรูปครุฑด้วยเช่นกัน

ระเบียงภาพ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. ครุฑถอดแบบงานบรมครูอ.ศิลป์ พีระศรี
  2. 70 ปี "ไปรษณีย์กลาง" ความคลาสสิกคู่บางรัก
  3. ปักษาวายุ

คร, บทความน, เก, ยวก, บส, ตว, ในน, ยาย, สำหร, บแบบอ, กษร, แบบอ, กษร, นสกฤต, गर, เป, นส, ตว, ในน, ยายในประมวลเร, องปร, มปราฮ, นด, และปรากฏในวรรณคด, สำค, ญหลายเร, อง, เช, มหาภารตะ, เล, าว, เป, นพ, องก, บนาคและทะเลาะก, นจนเป, นศ, ตร, นอกจากน, งม, ราณะท, อว, ราณะ,. bthkhwamniekiywkbstwinniyay sahrbaebbxksr duthi khruth aebbxksr khruth snskvt गर ड epnstwinniyayinpramwleruxngprmprahinduaelapraktinwrrnkhdisakhyhlayeruxng echn mhapharta elawa khruthepnphinxngkbnakhaelathaelaakncnepnstru nxkcakni yngmipuranathichuxwa khruthpurana epneruxngelaphyakhruthkhruthyudnakhpunpnpidthxng pradbrxbphraxuobsth wdphrasrirtnsasdaram tamkhtiithyobran echuxwakhruthepnphyaaehngnkthngmwl aelaepnphahnakhxngphrawisnu pktixasyxyuthiwimanchimphli mirupepnkhrungkhnkhrungnkxinthri idrbphrihepnxmta immixawuthidthalaylngid aemkrathngsayfakhxngphraxinthrkidaetephiyngthaihkhnkhxngkhruthhludrwnglngmaephiyngesnhnungethann dwyehtuni khruthcungmichuxxikxyanghnungwa subrrn sunghmaythung khnwiess khruthepnstwihy mixanuphaphaelaphlakalngmhasal aekhngaerng binidrwderw mistipyyaechiybaehlm xxnnxmthxmtn aelamismmakharwakhruthcaaebngid 5 praephthkhux twepnkhnxyangthrrmdathw ip aetmipik twepnkhn hwepnnk twepnkhn hwaelakhaepnnk twepnnk hwepnkhn ruprangehmuxnnkthngtwenuxha 1 ethphpkrnm 2 karichkhruthepnsylksn 3 chuxkhxngkhruth 4 khruthrachkar 5 inwthnthrrmrwmsmy 6 raebiyngphaph 7 duephim 8 xangxingethphpkrnm aekikh khruthyudnakh phaphekhiynpradbbanpratuphraxuobsth wdsuthsnethphwraram phaphaekaslkphranaraynthrngkhruth thiprasathnkhrwd ethphpkrnmkhxngkhruthinsasnaphrahmn hindu elawakhruthepnbutrkhxngphraksypmuniethphbidr aelanangwinta phraksypmunixngkhniepnvsithimivththiedchmakxngkhhnung aelaepnphuihkaenidethphxikhlayxngkhinsasnaphrahmn phraxngkhmichayahlayxngkh aetxngkhthiekiywkhxngkbkhruthnn nxkcaknangwintaaelw yngmixikxngkhhnungkhux nangkthru sungepnphinxngkbnangwintaaelaepnmardakhxngnakhthngpwngthngsxngnangidkhxphrihkaenidbutrcakphraksyp odynangkthruidkhxphrwakhxihmibutrcanwnmak sungtxmakidihkaenidnakhhnungphntw xasyxyuinaednbadal swnnangwintakhxbutrephiyngsxngxngkhaelakhxihlukmixanacwasna emuxnangkhlxdbutrpraktwaxxkmaepnikhsxngfxng nangrxxyuepnewla 500 pi ikhkyngimfk nangthnrximihwwabutrkhxngtncamihnataxyangir cungthubikhxxkmafxnghnung praktwaepnethphbutrthimikayaekhkhrungthxnbnchux xrun xrunethphbutrokrthmardakhxngtnthithaihtnxxkcakikhkxnkahnd cungsapihmardakhxngtnepnthasnangkthru aelaihbutrkhnthisxngkhxngnangepnphuchwynangihphncakkhwamepnthas caknncungkhunipepnsarthiihkbphraxathityhruxsuriyethph nangwintacungimklathubikhfxngthisxngxxkmadu nangrxtxipxik 1000 pi rxihthungkahndthibutrkhnthisxngsungkkhuxphyakhruthxxkmacakikhexng xnung emuxphyakhruthaerkekidwaknwa mirangkaykhyaytwxxkihyotcncrdfa dwngtaemuxkaphribehmuxnfaaelb ewlakhybpikthiid khunekhakcatkichnihayipphrxmphraphay rsmithiphwyphungxxkcakkaymilksnadngifihmthwsithis sungthaihbrrdaethwdathnghlayeduxdrxnxyangmak brrdaethwdacungphaknipkhxrxng ihldkhnadlngmainkaltxma nangkthruaelanangwintaidphnnknthungsikhxngmaxuichsrphthiekidkhrawkwneksiyrsmuthraelaepnsmbtikhxngphraxinthr odyphnnwaikhraephtxngepnthasxikfayharxypi nangwintathaywamasikhawswnnangkthruthaywasida khwamcringmaepnsikhawdngthinangwintathay aetnangkthruichxubayihnakhlukkhxngtnaeplngepnkhnsidaipaesmxyuetmtwma bangtananwaihnakhphnphisismacnepnsida nangwintaimthrabinxubayelyyxmaeph txngepnthaskhxngnangkthruthungharxypiphayhlngemuxkhruthidthrabsaehtuthimardatxngtkepnthasaelaidthrabenguxnikhcakphwknakhwa txngipexanaxmvtihnakhesiykxncungcaihnangwintaepnith khruthcungbinipswrrkhipexanaxmvtsungxyukbphracnthr aelwkhwaphracnthrmasxniwitpik aetthukphraxinthraelathwyethphtidtamma aelaekidtxsuknkhun fayethwdannimxacexachnaid odyemuxphraxinthrichwchraocmtikhruthnn khruthimidrbbadecbaemaetnxy aetkhruthkcaidwawchraepnxawuththiphraxiswrprathanihaekphraxinthr cungsldkhnkhxngtnihhlnlngipesnhnungephuxaesdngkhwamekharphtxwchraaelarksaekiyrtikhxngphraxinthrphupnhwhnakhxngehlaethph danphrawisnuhruxphranaraynkidxxkmakhwangkhruthiwaelasurbphyakhruthdwyechnkn aettangfaytangimxacexachnaknid thngsxngcungthakhwamtklngyutisuktxkn odyphrawisnuihphraekkhruthwacaihkhruthepnxmtaaelaihxyutaaehnngsungkwaphraxngkh swnkhruthkthwaysyyawacaepnphahnakhxngphrawisnu aelaepnthngkhruthphahsahrbpkxyubnrthsukkhxngphrawisnuxnepnthisungkwaemuxkhruthidhmxnaxmvtnn phraxinthridtammakhxkhun khruthkbxkwatntxngrksastythicanaipihnakhephuxithmardaihphncakkarepnthas aelaihphraxinthrtamipexakhunexng khruthcungexanaxmvtipihnakhodywangiwbnhyakha aelawaidthanaxmvthydbnhyakha 2 3 hyd dwyehtuni hyakhacungthuxepnsingmngkhlinthangsasnaphrahmn swnnakhemuxehnnaxmvtkyindi cungyxmplxynangwintaaemkhruthihepnxisra khnaphaknipsrngnacharakayephuxcamakinnaxmvtnnexng phraxinthrknahmxnaxmvtklbip thaihnakhimidkin phwknakhcungeliythiibhyakhadwyechuxwaxacmihydnaxmvthlngehluxxyu thaihibhyakhabadklanglinepnthangyaw eruxngniklayepnthimawathaimngucungmilinepnsxngaechksubmacnthukwnni aetnnkhruthkbnakhcungepnstruknmaodytlxd aelakhruthnnkcacbnakhkinepnxaharesmxkhruthmichayachuxxunntihruxwinayka oxrschux smpatihruxsmphathi aelachdayuhruxsdayu tamwrrnkhdiphuththsasnaklawwakhruthmikhnadihymak wdcakpikkhanghnungipyngxikkhanghnungid 150 oychn ewlakraphuxpiksamarththaihekidphayuihy ekidmudmnaelathalaybanemuxngihhmdsinipid thixyukhxngkhrutheriykwa subrrnphiphphepnwimanxyubntnsimphlihruxtnngiw xyuechingekhaphrasuemrukarichkhruthepnsylksn aekikh khruthtratnghangkhxngpraethsithy khruthtratnghang pradbehnuxxakharbristhethewsrpraknphy krungethph dwyvththanuphaphkhxngphyakhruth cungidmikarsrangrup khruthphah hrux phrakhruthphah hmaythung khruthsungepnphahna epnrupkhruthkangpik aelaichepnsylksnsakhyekiywkbphramhakstriykhxngithykmimaaetsmykrungsrixyuthya dwywaithyeraidrblththiethwrachkhxngxinediythithuxwaphramhakstriykhuxxwtarkhxngphranarayn dngnn khruthsungepnphumivththimakaelaepnphahnakhxngphranarayn cungepnsylksnaethnphramhakstriy dngthipraktxyuindwngtrahruxphrarachlyckrpracaphraxngkh pracaaephndin pracarachwngs aelapracarchkal epntncakkarthiithy ichtrakhruthepnphrarachlyckrsahrbprathbhnngsuxrachkaraephndinthiepnphrabrmrachoxngkar aelaichphrarachlyckrphrakhruthphahprathbhnngsuxrachkaraephndinmaaetobrankal txmacungidmikarich trakhruth epnhwkradaskhxnghnngsuxkhxngrachkarthwipdwy ephuxihthrabwangannnepnrachkar swnrupkhruththiepnthngaethnxngkhphramhakstriynneriykwa thngmharach epnrupkhruthsiaedngxyubnphunthngsiehluxng erimichinsmyrchkalthi 4 thngmharachniemuxechiykhunehnuxesa n phrarachwngidaesdngwaphramhakstriyprathbxyu n thinnsahrbkhruththipraktxyuinkhbwneruxhlwngkmixyu 3 lakhuxeruxkhruthehinehc epnhwokhnrupphyakhruthsiaedngyudnakh eruxkhruthetrcitrckrepnhwokhnrupphyakhruthsichmphuyudnakh aela eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9 epnrupphranaraynthrngkhruth epneruxthisrangkhuninrchkalpccubnnxkehnuxcakkarthitrakhruthpraktinswnrachkartangaelw inphakhexkchnksamarthrbphrarachthanphrabrmrachanuyatihichtrakhruthhruxtraaephndininkickariddwy odyerimmimaaetrchkalthi 5 sungedimepntraxarm odymikhxkhwamprakxbwa odyidrbphrabrmrachanuyat txmainrchkalthi 6 idepliyntraaephndinepntraphrakhruthphah karphrarachthantrani aetedimthuxepnphramhakrunathikhunthicaphrarachthantamphrarachxthyasy phuidrbnxkcakcaepnchanghlwng echn changthxng changthayrup epntnaelw kmkcaepnphuprakxbkickarkhakbrachsank aelaepnpraoychntxrachkarnganaephndinpccubn txngyunkhakhxphrarachthantratxsankphrarachwng ephuxphicarnanakhwamkhunkrabbngkhmthulkhxphrarachthanphrabrmrachanuyat tratngnithuxepnkhxngphrarachthanechphaabukhkhl siththirbphrarachthanaelakarichekhruxnghmaynicasinsudemuxsankphrarachwngeriykkhunenuxngcakbukhkhl hangran brisththiidrbphrarachthantay hruxelikprakxbkickarhruxoxnkickarihphuxun hruxsankphrarachwngehnsmkhwrephikthxnsiththipraethsxinodniesiyepnxikpraethshnung thiichkhruth Garuda epntrapracaaephndin odykhruthkhxngxinodniesiynnepnnkxinthrithngtw saykarbinpracachatixinodniesiykichkhruthepnsylksn khuxsaykarbin Garuda Airlineschuxkhxngkhruth aekikhkhruthmichuxeriykhlaynam echn kasypi butraehngphraksypmuni ewnity butraehngnangwinta subrrn phumipikxnngam khrutman ecaaehngnk sitamn phumihnasikhaw rktpks phumipiksiaedng eswtorhit phumisikhawaelaaedng suwrrnkay phumikaysithxng khkhenswr ecaaehngxakas khekhswr phuepnihyaehngnk nakhnasna struaehngnakh suernthrchit phuchnaphraxinthr khruthrachkar aekikh pratimakrrmkhruth thixakhariprsniyklang bangrk khruththiichinswnrachkarmikhwamaetktangknxxkip khruththiethatngechiyngcaichinrachkarkrathrwngkartangpraethsethann swnkarichinhnwynganxuncaichepnkhruthethanguminbristh iprsniyithy cakd xakhariprsniyklang thnnecriykrung ekhtbangrk thimukhhnapiksay khwa pradbdwypratimakrrmpunpnkhruthinaebbsilparwmsmy khnadsungepn 2 ethakhxngkhncring phlngankhxng sastracarysilp phirasri ruppnkhruththng 2 ni cdwaepnruppnkhruththiidechuxwangdngamthisudinpraethsithy srangkhuninpi ph s 2486 dwymisrirarangkaythibukbunkaya etmipdwyklamenux xikthnginchwngsngkhrammhaexechiyburpha thixakharsthanthitang inkrungethph thukraebidthalayesiyhay aetxakhariprsniyklangaehngniklbimidrbkhwamesiyhayid epnthinaxscrry cnthaihmikhwamechuxknwa epnephraakhruththng 2 tnnibinippdraebidiw 1 2 inwthnthrrmrwmsmy aekikhmikarxangxingthungkhruthiwinwthnthrrmrwmsmyechn phaphyntrithyeruxng pksawayu inpi ph s 2547 sungepnphaphyntraexkhchnisif odymienuxhaekiywkbkhruthsungepnstwthidarngchiwitmaaetyukhkxnprawtisastr aelacbidonesarkincnsuyphnthu aelayngkhngsubephaphnthumacnthungpccubnni xxkxalawadinphunthikrungethphmhankhr 3 hruxinkartunyipuneruxng esntesya hnunginkhunphlphuphiphaksaaehngymolkthichux karuda ixxakhxs kswmchudesxrphlisthiepnrupkhruthdwyechnknraebiyngphaph aekikh khruthyudnakh inphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphinhlwng r 9 khruthtraaephndinkhxngxinodniesiy khruthtraaephndinkhxngithy khruth Khangarid trapracakrungxulanbatar praethsmxngokeliy rupslkkhruthcbnakh silpacam smyphuththstwrrsthi 18 rupslkkhruthaebkthiemuxng Thap Mam praethsewiydnam silpacam smyphuththstwrrsthi 17 ruphlxkhrutholhasarid smyphuththstwrrsthi 17 18 silpakhxm phiphithphnthcxhnyng mhawithyalyhawayaexthmanw University of Hawaii at Manoa khruth rupslkimrabaysi silpabahli emuxngxubud ekaabahli praethsxinodniesiy khruthyun pratimakrrmhinaekaslk wdecnnaekswa emuxngeblwr rthkrnatka praethsxinediy ethwrupphranaraynthrngsubrrn hrux thrngkhruth hnaorngaermxinetxrkhxntienltl thnnephlincit okhnerux hwerux naraynthrngsubrrn eruxphrathinngsungepnrupphranaraynthrngsubrrn hrux thrngkhruth khruth thukichpradbthiphraemrumasphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedchduephim aekikhtraaephndinkhxngithy nakhxangxing aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb khruth praethsithy khruththxdaebbnganbrmkhrux silp phirasri 70 pi iprsniyklang khwamkhlassikkhubangrk pksawayuekhathungcak https th wikipedia org w index php title khruth amp oldid 9533875, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม