จิตต์ สังขดุลย์
พลเรือเอก จิตต์ สังขดุลย์ (นามเดิม จงจิตต์ สังขดุลย์) นายทหารผ่านศึกในยุทธนาวีเกาะช้าง อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหาร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง เสนาธิการทหารเรือ และปลัดกระทรวงกลาโหม
พลเรือเอก จิตต์ สังขดุลย์ | |
---|---|
ปลัดกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2517 – 30 กันยายน พ.ศ. 2520 | |
ก่อนหน้า | พลเอก บุลศักดิ์ วรรณมาศ |
ถัดไป | พลเอก ประลอง วีรปรีย |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 |
เสียชีวิต | 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 (78 ปี) |
ประวัติ
พลเรือเอกจิตต์ สังขดุลย์เกิดที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 เป็นบุตรคนที่ 4 ของพระพิจิตรจำนง (แจง สังขดุลย์) และนางยิ่ง สังขดุลย์ จากจำนวนพี่น้องชายหญิงทั้งหมด 11 คน ท่านเป็นพี่ชายของคุณหญิงบรรจบพันธุ์ นวรัตน ณ อยุธยา ภริยาของหม่อมราชวงศ์นิมิตรมงคล นวรัตน อดีตทหารอากาศและนักประพันธ์ชื่อดังของเมืองไทย
พลเรือเอกจิตต์จบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือและได้เข้าประจำการเป็นนายทหารเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2480
ขณะที่พลเรือเอกจิตต์มียศเป็นเรือโทนั้น ท่านได้รับคำสั่งให้ประจำอยู่ที่แผนกการปืน เรือหลวงธนบุรี ซึ่งเป็นเรือปืนยามฝั่งที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือในขณะนั้น ต่อมาเมื่อเกิดกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส เรือหลวงธนบุรีจึงได้รับคำสั่งให้ไปรักษาน่านไทยบริเวณพรมแดนด้านตะวันออกที่หมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อเกิดเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้างในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 เรือโทจงจิตต์ สังขดุลย์ (ยศและชื่อในขณะนั้น) ก็ได้เข้าร่วมรบในฐานะนายป้อมปืนท้ายด้วย ภายหลังสิ้นสงครามแล้ว เรือโทจงจิตต์จึงได้รวบรวมบันทึกความทรงจำของตนเอง และของเพื่อนทหารที่ร่วมรบ ตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ "เมื่อธนบุรีรบ" เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2484
หลังจากสิ้นสุดกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศสแล้ว พลเรือเอกจิตต์ได้รับราชการในกองทัพเรือ และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตามลำดับ จากตำแหน่งในหน่วยรบของกองต่อสู้อากาศยาน เป็นต้นเรือเรือหลวงศรีอยุธยา ย้ายมาประจำอยู่ที่กรมเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนนายเรือ จนได้เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนใน พ.ศ. 2500 จากนั้นก็ได้ย้ายไปเป็นทูตฝ่ายทหารเรือประจำประเทศฝรั่งเศสและประเทศสเปน ผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2507 - 30 กันยายน พ.ศ. 2510[1]) เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหาร (1 ตุลาคม พ.ศ. 2510 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2511[2]) เสนาธิการทหารเรือ และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 และในปี พ.ศ. 2519 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
พลเรือเอกจิตต์ สังขดุลย์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 รวมอายุได้ 78 ปี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2515 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2511 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2515 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
- พ.ศ. 2506 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)
อ้างอิง
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ
- พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- ราชกิจจานุเบกษา 22 พฤศจิกายน 2519 เรื่อง ประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2519/A/145/1.PDF
- https://www.dol.go.th/personnel/24%20%2060/01%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A22515.pdf
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เล่ม 85 ตอนที่ 122 วันที่ 31 ธันวาคม 2511
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์
แหล่งข้อมูลอื่น
- จิตต์ สังขดุลย์, พล.ร.อ.. เมื่อธนบุรีรบ. ม.ป.ท.: ม.ป.พ., ม.ป.ป. หน้า 1-2. (หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพของพลเรือเอกจิตต์ สังขดุลย์)