fbpx
วิกิพีเดีย

น้ำประสานทอง

น้ำประสานทอง หรือ บอแรกซ์ เป็นสารประกอบที่สำคัญของโบรอน ชื่อทางเคมี โซเดียมโบเรท ชื่อสามัญ น้ำประสานทอง หรือผงเนื้อกรอบ หรือเพ่งแซ เมื่อถ้าอยู่ในรูปผลึกบริสุทธิ์จะไม่มีสี ถ้านำไปเผาต่อจนไม่มีน้ำอยู่ในโมเลกุลจะเรียกน้ำประสานทองสะตุ เป็นผงมีสีขาว ละลายน้ำได้ง่าย มีรสขมเล็กน้อย

น้ำประสานทอง/บอแรกซ์
ชื่อตาม IUPAC Sodium tetraborate

decahydrate

เลขทะเบียน
เลขทะเบียน CAS [1303-96-4][CAS]
EC number 215-540-4
ATC code S01AX07
SMILES
InChI
ChemSpider ID 17339255
คุณสมบัติ
สูตรเคมี Na2B4O7·10H2O or Na2[B4O5 (OH) 4]·8H2O
มวลต่อหนึ่งโมล 381.38 (decahydrate)
201.22 (anhydrate)
ลักษณะทางกายภาพ white solid
ความหนาแน่น 1.73 g/cm3 (solid)
จุดหลอมเหลว

743 °C, 1016 K, 1369 °F (anhydrate)

จุดเดือด

1575 °C, 1848 K, 2867 °F

ความอันตราย
NFPA 704
0
1
0
 
สารประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องกัน
แอนไอออนที่เกี่ยวข้อง
แคทไอออนที่เกี่ยวข้อง
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
สถานีย่อย:เคมี

การผลิต

บอแรกซ์พบได้ในธรรมชาติตามก้นทะเลสาบหลายแห่งที่แห้งในฤดูแล้ง รวมทั้งมักพบปนในดินและน้ำใต้ดินในแถบพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟ บอแรกซ์ที่ผลิตในทางการค้าทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญได้แก่ สหรัฐ ชิลี ตุรกี อิหร่าน ธิเบต โรมาเนีย เป็นต้น

การใช้ประโยชน์

บอแรกซ์ประมาณ 70 % ที่ผลิต ถูกใช้เป็นส่วนผสมในการทำแก้วและเซรามิก บอแรกซ์เป็นสารที่มีการใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ใช้สกัดแร่ทองคำ เป็นฟลักซ์ในการเชื่อมโลหะ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านหลายอย่าง เช่น เป็นส่วนผสมในสารทำความสะอาด สบู่ ยาสีฟัน ใช้เป็นสารปรับสภาพน้ำในสระว่ายน้ำ ในภาคเกษตรใช้ทำปุ๋ยให้โบรอนซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่พืชต้องการรวมทั้งสามารถใช้ทำยาเบื่อแมลงเนื่องจากมีความเป็นพิษต่อแมลง

บอแรกซ์ถูกใช้เป็นส่วนผสมในอาหารมาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเฉพาะใช้ในการถนอมอาหาร บอแรกซ์สามารถใช้แทนเกลือแกงในกรณีที่ไม่ต้องการให้มีรสเค็ม เช่นใช้ดองไข่ปลาคาร์เวียร์เป็นต้น ชาวเอเชียบางประเทศนิยมใส่ในแป้งให้เหนียวกรุบ ใส่ในลูกชิ้นทำให้เนื้อเหนียวเด้ง ประวัติการใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารที่ยาวนานนับพันปีทำให้นักวิชาการส่วนหนึ่งเชื่อว่าบอแรกซ์ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์

 อันตราย และ ข้อโต้แย้ง บอแรกซ์เป็นสารที่มีข้อถกเถียงโต้แย้งว่าปลอดภัยหรือมีอันตราย ข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายนำมาเสนอมีความขัดแย้งกันอย่างมาก การรับฟังข้อมูลควรพิจารณา ข้อมูลที่ทางราชการของประเทศไทยยอมรับอยู่ในกลุ่มที่เชื่อว่าบอแรกซ์มีอันตราย แต่ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้จะยึดถือตาม Wikipedia ภาคภาษาอังกฤษซึ่งให้ระดับอันตรายเท่ากับ 1 คือ อาจก่อเกิดความระคายเคืองเท่านั้น 
อันตรายแยกเป็นสองประเภท คือ ความเป็นพิษ (toxicity) กับ ความเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง (carcinogen)

ความเป็นพิษ (toxicity) บอแรกซ์ไม่มีความเป็นพิษต่อมนุษย์โดยตรง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีผลต่อร่างกายคล้ายการได้รับเกลือแกง (NaCl) โดยร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากโซเดียมในบอแรกซ์ได้เช่นเดียวกับเกลือแกง อาการเป็นพิษจะเกิดต่อเมื่อได้รับบอแรกซ์เป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูงมาก ปริมาณที่เป็นพิษ (median lethal dose) คือ 2.66 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณที่เกลือแกงจะเกิดเป็นอันตรายต่อร่างกาย กลไกการเกิดพิษและอาการที่ถูกพิษก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับการได้รับเกลือแกงมากเกินขนาด คือทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายเสียสมดุล ในกรณีของเกลือแกงนั้นผู้บริโภคอาหารสามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานเกลือแกงมากเกินขนาดได้จากการสัมผัสรู้รสเค็ม แต่เนื่องจากบอแรกซ์ไม่มีรสเค็ม ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่าในอาหารมีบอแรกซ์อยู่มากแค่ไหน จึงมีโอกาสที่จะรับประทานมากเกินขนาดได้ง่ายกว่า

ความเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง (carcinogen) ในอดีตเคยมีรายงานการทดลองทางการแพทย์อ้างว่าการให้หนูทดลองรับประทานบอแรกซ์ในปริมาณที่สูงมากๆติดต่อกันหลายปีอาจทำให้เป็นมะเร็งได้ ในสหรัฐ EPA ออกข้อจำกัดการใช้บอแรกซ์ในปี พ.ศ. 2489 อย่างไรก็ตามผลการทดลองทางการแพทย์นี้มีข้อเคลือบแคลง เนื่องจากเทียบเท่ากับการใช้ปริมาณบอแรกซ์ที่สูงมากติดต่อกัน 5-10 ปี ซึ่งไม่ใช่เงื่อนไขที่จะเป็นจริงในทางปฏิบัติ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 EPA ได้ประเมินใหม่ว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าบอแรกซ์มีอันตรายหรืออาจก่อให้เกิดมะเร็ง การประเมินซ้ำในปี พ.ศ. 2549 ยืนยันว่าไม่พบความเป็นอันตรายของบอแรกซ์

ในปัจจุบันหลายประเทศยังคงห้ามใช้บอแรกซ์เป็นส่วนผสมในอาหารรวมทั้งประเทศไทย

อ้างอิง

  1. Lide, D. R., บ.ก. (2005). CRC Handbook of Chemistry and Physics (86th ed.). Boca Raton (FL): CRC Press. p. 88. ISBN 0-8493-0486-5.

ำประสานทอง, หร, บอแรกซ, เป, นสารประกอบท, สำค, ญของโบรอน, อทางเคม, โซเด, ยมโบเรท, อสาม, หร, อผงเน, อกรอบ, หร, อเพ, งแซ, เม, อถ, าอย, ในร, ปผล, กบร, ทธ, จะไม, านำไปเผาต, อจนไม, ำอย, ในโมเลก, ลจะเร, ยกสะต, เป, นผงม, ขาว, ละลายน, ำได, าย, รสขมเล, กน, อย, บอแรกซ, อ. naprasanthxng hrux bxaerks epnsarprakxbthisakhykhxngobrxn chuxthangekhmi osediymoberth chuxsamy naprasanthxng hruxphngenuxkrxb hruxephngaes emuxthaxyuinrupphlukbrisuththicaimmisi thanaipephatxcnimminaxyuinomelkulcaeriyknaprasanthxngsatu epnphngmisikhaw lalaynaidngay mirskhmelknxynaprasanthxng bxaerkschuxtam IUPAC Sodium tetraborate decahydrateelkhthaebiynelkhthaebiyn CAS 1303 96 4 CAS EC number 215 540 4ATC code S01AX07SMILES Na Na O B1OB2OB O OB O1 O2 O O O O O O O O O OInChI 1 B4O7 2Na 10H2O c5 1 7 3 9 2 6 10 4 8 1 11 3 h 10 1H2 q 2 2 1 ChemSpider ID 17339255khunsmbtisutrekhmi Na2B4O7 10H2O or Na2 B4O5 OH 4 8H2Omwltxhnungoml 381 38 decahydrate 201 22 anhydrate lksnathangkayphaph white solidkhwamhnaaenn 1 73 g cm3 solid cudhlxmehlw 743 C 1016 K 1369 F anhydrate 1 cudeduxd 1575 C 1848 K 2867 FkhwamxntrayNFPA 704 0 1 0 sarprakxbxunthiekiywkhxngknaexnixxxnthiekiywkhxngaekhthixxxnthiekiywkhxnghakmiidrabuepnxun khxmulkhangtnnikhuxkhxmulsar n phawamatrthanthi 25 C 100 kPasthaniyxy ekhmi karphlit aekikh bxaerksphbidinthrrmchatitamknthaelsabhlayaehngthiaehnginvduaelng rwmthngmkphbpnindinaelanaitdininaethbphunthiiklphuekhaif bxaerksthiphlitinthangkarkhathnghmdmacakthrrmchati praethsphuphlitthisakhyidaek shrth chili turki xihran thiebt ormaeniy epntn karichpraoychn aekikh bxaerkspraman 70 thiphlit thukichepnswnphsminkarthaaekwaelaesramik bxaerksepnsarthimikarichpraoychnidhlaydan ichskdaerthxngkha epnflksinkarechuxmolha phlitphnththiichinbanhlayxyang echn epnswnphsminsarthakhwamsaxad sbu yasifn ichepnsarprbsphaphnainsrawayna inphakhekstrichthapuyihobrxnsungepnthatuxaharrxngthiphuchtxngkarrwmthngsamarthichthayaebuxaemlngenuxngcakmikhwamepnphistxaemlngbxaerksthukichepnswnphsminxaharmatngaetyukhobran odyechphaaichinkarthnxmxahar bxaerkssamarthichaethnekluxaeknginkrnithiimtxngkarihmirsekhm echnichdxngikhplakharewiyrepntn chawexechiybangpraethsniymisinaepngihehniywkrub isinlukchinthaihenuxehniywedng prawtikarichepnswnprakxbkhxngxaharthiyawnannbphnpithaihnkwichakarswnhnungechuxwabxaerksimmixntraytxmnusy xntray aela khxotaeyng bxaerksepnsarthimikhxthkethiyngotaeyngwaplxdphyhruxmixntray khxmulthithngsxngfaynamaesnxmikhwamkhdaeyngknxyangmak karrbfngkhxmulkhwrphicarna khxmulthithangrachkarkhxngpraethsithyyxmrbxyuinklumthiechuxwabxaerksmixntray aetkhxmulthinaesnxinthinicayudthuxtam Wikipedia phakhphasaxngkvssungihradbxntrayethakb 1 khux xackxekidkhwamrakhayekhuxngethann xntrayaeykepnsxngpraephth khux khwamepnphis toxicity kb khwamepnsarkxihekidmaerng carcinogen khwamepnphis toxicity bxaerksimmikhwamepnphistxmnusyodytrng emuxekhasurangkaycamiphltxrangkaykhlaykaridrbekluxaekng NaCl odyrangkaysamarthichpraoychncakosediyminbxaerksidechnediywkbekluxaekng xakarepnphiscaekidtxemuxidrbbxaerksepnprimanthikhxnkhangsungmak primanthiepnphis median lethal dose khux 2 66 krmtxnahnktwhnungkiolkrmsungiklekhiyngkbprimanthiekluxaekngcaekidepnxntraytxrangkay klikkarekidphisaelaxakarthithukphiskmilksnakhlaykhlungkbkaridrbekluxaekngmakekinkhnad khuxthaihradbekluxaerinrangkayesiysmdul inkrnikhxngekluxaekngnnphubriophkhxaharsamarthhlikeliyngkarrbprathanekluxaekngmakekinkhnadidcakkarsmphsrursekhm aetenuxngcakbxaerksimmirsekhm thaihphubriophkhimruwainxaharmibxaerksxyumakaekhihn cungmioxkasthicarbprathanmakekinkhnadidngaykwakhwamepnsarkxihekidmaerng carcinogen inxditekhymirayngankarthdlxngthangkaraephthyxangwakarihhnuthdlxngrbprathanbxaerksinprimanthisungmaktidtxknhlaypixacthaihepnmaerngid inshrth EPA xxkkhxcakdkarichbxaerksinpi ph s 2489 xyangirktamphlkarthdlxngthangkaraephthynimikhxekhluxbaekhlng enuxngcakethiybethakbkarichprimanbxaerksthisungmaktidtxkn 5 10 pi sungimichenguxnikhthicaepncringinthangptibti ineduxnkumphaphnth ph s 2529 EPA idpraeminihmwaimmihlkthanthibngchiwabxaerksmixntrayhruxxackxihekidmaerng karpraeminsainpi ph s 2549 yunynwaimphbkhwamepnxntraykhxngbxaerksinpccubnhlaypraethsyngkhnghamichbxaerksepnswnphsminxaharrwmthngpraethsithyxangxing aekikh Lide D R b k 2005 CRC Handbook of Chemistry and Physics 86th ed Boca Raton FL CRC Press p 88 ISBN 0 8493 0486 5 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title naprasanthxng amp oldid 9219499, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม