ประเทศไทยในสงครามเกาหลี
ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 21 ประเทศที่ตอบรับคำขอของสหประชาชาติในการส่งกำลังเพื่อช่วยเหลือเกาหลีใต้ในช่วงสงครามเกาหลี (พ.ศ. 2493–96) ตลอดจนเป็นประเทศแรก ๆ ที่แสดงออกซึ่งการสนับสนุนอุดมการณ์ของเกาหลีใต้ ขณะที่เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยของสหประชาชาติในสงคราม การสนับสนุนของไทยมีความสำคัญในการตัดสินผลของบางสมรภูมิ เช่น เนินพอร์กช็อปและยุทธการที่โซลครั้งที่สาม
กองทัพไทยในเกาหลี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ | |
---|---|
ตราสัญลักษณ์ของกองทัพไทยในเกาหลี | |
ประจำการ | สิงหาคม พ.ศ. 2493 - มีนาคม พ.ศ. 2498 |
ประเทศ | ไทย |
ขึ้นต่อ | สหประชาชาติ |
เหล่า | กองทัพบกไทย |
รูปแบบ | กองพันทหารราบ |
กำลังรบ | 11,786 นาย ตลอดสงคราม |
ขึ้นกับ | กองทหารม้าที่ 1 สหรัฐ |
สมญา | "พยัคฆ์น้อย" |
สงคราม สำคัญ | สงครามเกาหลี |
ปฏิบัติการ สำคัญ | ยุทธการที่เนินพอร์กช็อป ยุทธการที่โซลครั้งที่สาม |
อิสริยาภรณ์ | Republic of Korea Presidential Unit Citation |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผบ.สำคัญ | พลโท หม่อมเจ้าพิศิษฐ์ดิศพงษ์ ดิศกุล พันโท เกรียงไกร อัตตะนันทน์ พันตรี เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ |
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ส่งความช่วยเหลือไปยังเกาหลีใต้ รัฐบาลตระหนักว่าหากพรรคคอมมิวนิสต์เข้าครอบครองเกาหลีอาจเป็นความหายนะต่อระเบียบทางการเมืองของไทย รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจสนับสนุนอุดมการณ์ของเกาหลีใต้อย่างเต็มที่ มีการส่งข้าวสี่ตันไปช่วยเหลือประเทศเกาหลี และต่อมาส่งทหารราบหนึ่งกองพันจากกรมทหารผสมที่ 21 (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์) และเรือรบอีกหลายลำ ต่อมา รัฐบาลไทยส่งอากาศยานขนส่งไปช่วยหลายลำ กรมทหารราบนี้กลับสู่ประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2498
กรมทหารราบที่ 21
ปฏิบัติการในเกาหลี
- ยุทธการที่เนินพอร์กช็อป
- ยุทธการที่โซลครั้งที่สาม
ยุทธการที่เนินพอร์กช็อป
ยุทธการที่เนินพอร์กช็อป (31 ตุลาคมถึง 11 พฤศจิกายน 2495) เป็นการสู้รบหลายครั้งเพื่อแย่งชิงการควบคุมเนินด่านหน้าที่สำคัญตามแนวหน้าระหว่างที่มีการเจรจาพักรบที่พันมุนจ็อม ยุทธการบนเนินเกิดขึ้น ณ "เนินพอร์กช็อป" ซึ่งขณะนั้นกองพันทหารราบที่ 21 ของไทยถือครองอยู่ ทหารไทยสามารถผลักดันการเข้าตีของอาสาสมัครประชาชนจีน หลังได้ชัย กองทัพสหรัฐมอบรางวัลลีจันออฟเมอริตแก่ทหารไทยหนึ่งนาย 12 นายได้ซิลเวอร์สตาส์ และอีก 26 นายได้รับเหรียญบรอนซ์สตาร์ พลเอก เจมส์ แวน ฟลีต ผู้บังคับบัญชากองทัพสหรัฐที่ 8 มอบสมญาให้ทหารเหล่านี้ว่า "เสือน้อย"
ทหารจีนพยายามแบบสุดตัวในการยึดเนินพอร์กช็อป โดยเข้าตีห้าครั้ง แต่ล้มเหลวทั้งหมด
ในฤดูใบไม้ผลิสุดท้ายของสงคราม (มีนาคมถึงมิถุนายน 2496) ทหารไทยใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฝึกและในฐานะกองหนุนของเหล่าสหรัฐที่ 9 ถูกย้ายไปยังเคียวตง (Kyo-dong) ในวันที่ 4 พฤษภาคม ยุทธการที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาในบริเวณของ "บูมเมอแรง" ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 27 กรกฎาคม 2496 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Kumhwa
กำลังทางเรือ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2493 เรือรบไทยสองลำ เรือหลวง ประแส และ เรือหลวง บางปะกง มาถึงเกาหลีใต้ ทั้งสองลำรับราชการภายใต้กองบัญชาการสหประชาชาติ โดยปฏิบัติหน้าที่นำขบวนและยิงปืนใหญ่ถล่มเป้าหมายบนพื้นดิน เรือ ประแส เกยตื้นบนชายฝั่งใกล้กับยางยางระหว่างเกิดพายุหิมะ ความพยายามในการทำให้เรือกลับมาลอยอีกครั้งล้มเหลว และมีการยิงถล่มซากเรือเพื่อให้สิ้นซาก เรือ บางปะกง ออกจากเกาหลีในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2495 และในวันที่ 29 ธันวาคม 2494 เรือรบไทยอีกสองลำ เรือหลวง ประแส 2 และเรือหลวงท่าจีน มาถึงเกาหลี ทั้งสองลำกลับประเทศหลังมีการสงบศึกในวันที่ 21 มกราคม 2498
เรือขนส่ง เรือหลวง สีชัง มาถึงเกาหลีในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2493 และอยู่จนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2494
อากาศยาน
กองทัพอากาศไทยจัดหาอากาศยานดักลาส ซี-47 สกายเทรน เข้าร่วมในสงครามเกาหลี วันที่ 22 กันยายน 2493 รัฐบาลไทยสั่งให้หน่วยของตนสนับสนุนปฏิบัติการของกองทัพสหประชาชาติ
มรดก
ตลอดระยะเวลาของสงครามเกาหลี ประเทศไทยส่งทหารรวม 11,786 นายไปประเทศเกาหลีใต้ มีบันทึกว่าทหารไทย 136 นายเสียชีวิตในสงคราม ในปี 2517 รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเกาหลีสร้างอนุสาวรีย์และศาลาไทยในเมืองโพชอนเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารไทยที่เข้าร่วมในสงครามเกาหลี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซล โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ช่วยทูตสำนักงานกลาโหมเป็นเจ้าภาพในพิธีเปิดงานอนุสรณ์สถานไทย ณ สุสานอนุสรณ์สหประชาชาติในเกาหลี (UNMCK) เพื่อระลึกถึงการเสียสละของทหารไทยในสงครามเกาหลี
เรือหลวง ประแส 2 ถูกปลดประจำการจากกองทัพเรือไทยในปี 2543 และมีการกำหนดให้เป็นเรือพิพิธภัณฑ์ เรือมองเห็นได้ที่ปากแม่น้ำประแส จังหวัดระยอง โดยคณะกรรมการชุมชนแม่น้ำประแส เรือใช้เป็นอนุสรณ์ นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์กรมทหารราบที่ 21
เหรียญบำเหน็จ
เหรียญชัยสมรภูมิ การร่วมรบกับสหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี
แพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิ การร่วมรบกับสหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี กำหนดลักษณะไว้ตามตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยแพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิ พ.ศ. 2494 ดังนี้
"แพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิสำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำการร่วมรบกับสหประชาชาตินั้น ให้เป็นสีฟ้า ขนาดกว้าง 3.5 เซนติเมตร และถัดริ้วสีฟ้าเข้าไปเป็นริ้วสีขาวทั้งสองข้าง ด้านบนแพรแถบมีเข็มโลหะรูปคทาจอมพลจารึกอักษรว่า "ชัยสมรภูมิ""
อนุสรณ์
- อนุสรณ์ไทย ณ อนุสรณ์สถานสุสานทหารสหประชาชาติในประเทศเกาหลี ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
- อนุสาวรีย์ทหารไทย เมืองโพชอน จังหวัดคย็องกี ประเทศเกาหลีใต้
- อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกเกาหลี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
วันที่ระลึก
วันที่ระลึกทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี ตรงกับวันที่ 22 ตุลาคม ของทุกปี
ปัจจุบัน
ในปัจจุบันนี้ รัฐบาลไทยยังคงมอบหมายให้นายทหาร 1 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานในคณะกรรมการสงบศึก และนายทหารอีก 6 นาย เป็นสมาชิกกองร้อยเกียรติยศกองบัญชาการสหประชาชาติในกรุงโซล
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 19 October 2013. สืบค้นเมื่อ 17 May 2013.CS1 maint: archived copy as title (link)
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-03-14. สืบค้นเมื่อ 2012-07-03.CS1 maint: archived copy as title (link)
- http://www.nationsonline.org/oneworld/History/Thailand-history.htm
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-03-14. สืบค้นเมื่อ 2012-07-03.CS1 maint: archived copy as title (link)
- http://www.thaiembassy.org/seoul/en/relation
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2494/A/007/33.PDF
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ประเทศไทยในสงครามเกาหลี |
- Ministry of Patriots and Veterans Affairs (2010), The Eternal Partnership: Thailand and Korea - A History of the Participation of the Thai Forces in the Korean War (PDF), Sejong City, South Korea: Ministry of Patriots and Veterans Affairs, สืบค้นเมื่อ 2014-08-22
- History of Thailand
- 60 Years of the "Little Tiger" – Thai Soldiers in the Korean War
- Thai Forces
- [1]