วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 - 18 โดยวัดนี้เป็นวัดสำคัญในเขตเมืองเชลียงมาแต่เดิม ปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 1 และในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จไปปราบชุมชนพระฝางเมืองสวางคบุรี แล้วได้เสด็จสมโภชพระบรมธาตุเมืองเชลียงนี้ด้วย และวัดนี้ยังเป็นที่สรงน้ำมูรธาภิเษก สำหรับพระเจ้าแผ่นดินใหม่ที่จะขึ้นเสวยราชสมบัติมาแต่ครั้งโบราณกาล
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2478 ได้โอนมาขึ้นในปกครองคณะสงฆ์ เมื่อ พ.ศ. 2479 ได้รับสถาปนาเป็นพระอารามหลวง เมื่อ พ.ศ. 2501
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียงตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย ตรงช่วงแหลมโค้งข้อศอกของแม่น้ำยม หันหน้าวัดไปทางทิศตะวันออก และตั้งอยู่นอกกำแพงด้านใต้ของเมืองศรีสัชนาลัยระยะทาง 1.9 กิโลเมตร
สถาปัตยกรรม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียงเป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ประกอบด้วย
- พระปรางค์ประธาน ก่อด้วยศิลาแลงฉาบแล้วลงสีชาดทับ แต่ปัจจุบันสีได้ลอกออกบางส่วน ลักษณะภายนอกเป็นปรางค์แบบอยุธยา ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 30 เมตร ฐานเขียงขั้นแรกย่อมุมไม้สิบสอง ฐานล่างสุดก่อผนังแบบทึบ เจาะช่องแสงกันอยู่ด้านในสามชั้น (วิหารคด) เรือนธาตุทางด้านหน้าทำเป็นซุ้มโถง มีบันไดขึ้นไปสู่ซุ้มทางด้านหลังพระวิหาร ภายในซุ้มโถงมีสถูปขนาดเล็กรูปดอกบัวตูมประดิษฐานอยู่ อาจเป็นที่บรรจุพระธาตุ ตามผนังภายในองค์ปรางค์มีร่องรอยว่าแต่เดิมมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ส่วนบริเวณเรือนธาตุทางด้านหลัง ทำเป็นบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์เช่นเดียวกัน แต่เป็นประตูหลอก ฐานชั้นล่างสุดมีพระสาวกเดินประณมมือประทักษิณ
- พระวิหาร ก่อด้วยศิลาแลง ฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 19.20 เมตร ยาว 25.20 เมตร ฐานสูง 1.20 เมตร เป็นวิหารขนาดหกห้อง มีมุขยื่นออกมาทางด้านหน้า ผนังวิหารเป็นแบบผนังทึบเจาะช่องแสง พระประธานเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ขนาบด้วยพระพุทธรูปยืนขนาดเล็กทั้งขวาและซ้าย ปัจจุบันเหลือเฉพาะฐานพระวิหารและเสาบางส่วน
- พระวิหารขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลาแลงอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระวิหารประธานฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร ด้านหลังตอนบนทำเป็นซุ้มพระ ทรงโค้งแหลมภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก
- ฐานพระวิหารขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลาแลงอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐานขนาดห้าห้อง กว้าง 7 เมตร ยาว 10 เมตร ด้านหลังทำเป็นซุ้มพระ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งซึ่งชำรุดหักพังเป็นส่วนใหญ่
- พระเจดีย์ราย เป็นเจดีย์ทรงกลม ก่อด้วยศิลาแลง ตั้งอยู่บริเวณมุมทั้งสี่ของพระปรางค์ประธาน ขนาดโดยเฉลี่ย 5 เมตร มีอยู่ห้าองค์
- กำแพงวัด เป็นศิลาแลงแท่งกลมขนาดใหญ่ปักเรียงชิดติดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 60 เมตร ยาว 90 เมตร มีคานทับหลังกำแพง เป็นรูปหลังเจดีย์ตัด มีทางเข้าออกที่ด้านหน้าและด้านหลังเหนือซุ้มประตูทำเป็นรูปคล้ายหลังคายอดแหลมเหมือนช่อฟ้า เหนือซุ้มขึ้นไปเป็นรูปปั้นรูปพรหมพักตร์ และรูปนางอัปสรฟ้อนรำอยู่ต่ำลงมา
- พระธาตุมุเตา อยู่ด้านหลังพระปรางค์ประธาน นอกกำแพงแก้ว ก่อด้วยศิลาแลงฐานรูปแปดเหลี่ยม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 22 เมตร ซ้อนกันสี่ชั้น ต่อจากนั้นเป็นชั้นบัวสามชั้น ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นไปหักพังหมด บริเวณบัวถลาทำเป็นซุ้มหลอกเจ็ดส่วน ซุ้มทางด้านหน้ามีทางเข้าไปภายในแต่หักพังปิดทับหมด มีบันไดขึ้นไปสู่ซุ้ม
- มณฑปพระอัฏฐารส อยู่ทางด้านหลังพระธาตุมุเตา สันนิษฐานว่า เป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ เป็นพระพุทธรูปประทับยืนทางทิศเหนือ ด้านทิศตะวันออกเหลือส่วนพระชงฆ์ของพระพุทธรูป ด้านหลัง (ทิศใต้) และทางด้านขวาหักพังเสียหายมาก จากการสำรวจโดยรอบพระมณฑป พบเศษกระเบื้องมุงหลังคาดินเผา ตกกระจายอยู่ค่อนข้างหนาแน่น สันนิษฐานว่า หลังคาพระมณฑปน่าจะเป็นเครื่องไม้มุงด้วยกระเบื้องดินเผา
- พระวิหารสองพี่น้อง อยู่ทางด้านซ้ายของพระมณฑปพระอัฏฐารศ ก่อด้วยศิลาแลงฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 11 เมตร ยาว 27 เมตร ขนาดเจ็ดห้อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยสององค์ ด้านหลังมีขนาดใหญ่กว่าด้านหน้า
- อาคารขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลาแลงเป็นแบบฐานปัทม์เพียงชั้นเดียว หักพังไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
- พระอุโบสถ อยู่ถัดออกมาทางด้านหน้าพระปรางค์ประธานนอกกำแพงแก้ว ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2500 เป็นโบสถ์ขนาดห้าห้อง มีมุขยื่นอีกหนึ่งห้อง หลังคาลดสามชั้นซ้อนสองตับ ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก องค์พระประธานคือ หลวงพ่อพุทธเรืองฤทธิ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4.08 เมตร ประดิษฐานเป็นพระพุทธปฏิมาประธานในพระวิหาร ซึ่งเป็นพระวิหารใหญ่ขนาด 7 ห้อง สร้างด้วยศิลาแลง หน้าต่างเจาะเป็นช่องเล็ก ๆ เบื้องหน้าพระประธานมีพระพุทธรูปยืนปูนปั้นศิลปะสุโขทัย พุทธลักษณะงดงามมาก
- กุฏิพระร่วงพระลือ หรือที่เรียกกันว่าศาลพระร่วง-พระลือ ลักษณะเป็นพระมณฑปฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 7.20 เมตร หลังคาคล้ายรูปชามคว่ำสี่ชั้น ภายในประดิษฐานรูปพระร่วง พระลือ (จำลอง)
เส้นทางเข้าสู่วัด จากตัวเมืองสุโขทัยไปทางทิศเหนือตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ประมาณ 55 กิโลเมตร ปัจจุบันนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าชมสามารถนั่งรถ บขส. มาลงได้โดยถ้ามาจากสถานีขนส่ง ที่อ.เมือง สุโขทัย ให้แจ้งว่ามาลงที่ "พระปรางค์" ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกขานวัดนี้ เมื่อลงจากรถ บขส. จะเป็นซุ้มประตูทางเข้าวัดโดยผ่านชุมชน นักท่องเที่ยวสามารถขี่จักรยานชมรอบๆ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย โดยเช่าจักรยานได้ ณ ร้านค้าที่จุดลงจากรถ บขส.นี้และฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่ร้านค้าได้ เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะผ่านชุมชนประมาณ 100 เมตร จะพบสะพานแขวนไม้ข้ามแม่น้ำยม เพื่อไปยังวัดพระปรางค์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม นักท่องเที่ยวชาวไทยเสียค่าธรรมเนียมบำรุงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเฉพาะจุดนี้ก่อน 10 บาท และจะได้แผนที่นำชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยด้วย
อ้างอิง - วัดศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรวิหาร จ.สุโขทัย
- มรดกทางพระพุทธศาสนา[ลิงก์เสีย]
ดพระศร, ตนมหาธาต, เชล, ยง, เป, นโบราณสถานท, อย, ในอ, ทยานประว, ศาสตร, ศร, ชนาล, อำเภอศร, ชนาล, งหว, ดส, โขท, เป, นพระอารามหลวงช, นเอก, ชน, ดราชวรว, หาร, เป, นว, ดท, ความสำค, ญมาแต, โบราณกาล, สร, างข, นเม, อประมาณพ, ทธศตวรรษท, โดยว, ดน, เป, นว, ดสำค, ญในเขตเม, . wdphrasrirtnmhathatuechliyng epnobransthanthixyuinxuthyanprawtisastrsrischnaly xaephxsrischnaly cnghwdsuokhthy epnphraxaramhlwngchnexk chnidrachwrwihar epnwdthimikhwamsakhymaaetobrankal srangkhunemuxpramanphuththstwrrsthi 17 18 odywdniepnwdsakhyinekhtemuxngechliyngmaaetedim prakthlkthaninsilacarukhlkthi 1 aelainsmykrungthnburi emuxsmedcphraecataksinmharachesdcipprabchumchnphrafangemuxngswangkhburi aelwidesdcsmophchphrabrmthatuemuxngechliyngnidwy aelawdniyngepnthisrngnamurthaphiesk sahrbphraecaaephndinihmthicakhuneswyrachsmbtimaaetkhrngobrankalwdphrasrirtnmhathatu wdphrasrirtnmhathatu idkhunthaebiynobransthanaehngchati emux ph s 2478 idoxnmakhuninpkkhrxngkhnasngkh emux ph s 2479 idrbsthapnaepnphraxaramhlwng emux ph s 2501 enuxha 1 sthanthitng 2 sthaptykrrm 3 esnthangekhasuwd 4 xangxingsthanthitng aekikhwdphrasrirtnmhathatuechliyngtngxyunxkkaaephngemuxngsrischnaly trngchwngaehlmokhngkhxsxkkhxngaemnaym hnhnawdipthangthistawnxxk aelatngxyunxkkaaephngdanitkhxngemuxngsrischnalyrayathang 1 9 kiolemtrsthaptykrrm aekikhwdphrasrirtnmhathatuechliyngepnklumobransthankhnadihyprakxbdwy phraprangkhprathan kxdwysilaaelngchabaelwlngsichadthb aetpccubnsiidlxkxxkbangswn lksnaphaynxkepnprangkhaebbxyuthya thanrupsiehliymcturs kwang 30 emtr thanekhiyngkhnaerkyxmumimsibsxng thanlangsudkxphnngaebbthub ecaachxngaesngknxyudaninsamchn wiharkhd eruxnthatuthangdanhnathaepnsumothng mibnidkhunipsusumthangdanhlngphrawihar phayinsumothngmisthupkhnadelkrupdxkbwtumpradisthanxyu xacepnthibrrcuphrathatu tamphnngphayinxngkhprangkhmirxngrxywaaetedimmiphaphcitrkrrmfaphnng swnbriewneruxnthatuthangdanhlng thaepnbnidkhunsuxngkhprangkhechnediywkn aetepnpratuhlxk thanchnlangsudmiphrasawkedinpranmmuxprathksin phrawihar kxdwysilaaelng thanrupsiehliymphunpha kwang 19 20 emtr yaw 25 20 emtr thansung 1 20 emtr epnwiharkhnadhkhxng mimukhyunxxkmathangdanhna phnngwiharepnaebbphnngthubecaachxngaesng phraprathanepnphraphuththrupkhnadihypangmarwichy khnabdwyphraphuththrupyunkhnadelkthngkhwaaelasay pccubnehluxechphaathanphrawiharaelaesabangswn phrawiharkhnadelk kxdwysilaaelngxyuthangthistawnxxkechiyngehnuxkhxngphrawiharprathanthanrupsiehliymphunpha kwang 5 emtr yaw 10 emtr danhlngtxnbnthaepnsumphra thrngokhngaehlmphayinpradisthanphraphuththruppangnakhprk thanphrawiharkhnadelk kxdwysilaaelngxyuthangthistawnxxkechiyngitepnthankhnadhahxng kwang 7 emtr yaw 10 emtr danhlngthaepnsumphra phayinpradisthanphraphuththrupnngsungcharudhkphngepnswnihy phraecdiyray epnecdiythrngklm kxdwysilaaelng tngxyubriewnmumthngsikhxngphraprangkhprathan khnadodyechliy 5 emtr mixyuhaxngkh kaaephngwd epnsilaaelngaethngklmkhnadihypkeriyngchidtidknepnrupsiehliymphunpha kwang 60 emtr yaw 90 emtr mikhanthbhlngkaaephng epnruphlngecdiytd mithangekhaxxkthidanhnaaeladanhlngehnuxsumpratuthaepnrupkhlayhlngkhayxdaehlmehmuxnchxfa ehnuxsumkhunipepnruppnrupphrhmphktr aelarupnangxpsrfxnraxyutalngma phrathatumueta xyudanhlngphraprangkhprathan nxkkaaephngaekw kxdwysilaaelngthanrupaepdehliym khnadesnphasunyklang 22 emtr sxnknsichn txcaknnepnchnbwsamchn swnthixyuehnuxkhuniphkphnghmd briewnbwthlathaepnsumhlxkecdswn sumthangdanhnamithangekhaipphayinaethkphngpidthbhmd mibnidkhunipsusum mnthpphraxtthars xyuthangdanhlngphrathatumueta snnisthanwa epnmnthpphrasixiriyabth epnphraphuththrupprathbyunthangthisehnux danthistawnxxkehluxswnphrachngkhkhxngphraphuththrup danhlng thisit aelathangdankhwahkphngesiyhaymak cakkarsarwcodyrxbphramnthp phbesskraebuxngmunghlngkhadinepha tkkracayxyukhxnkhanghnaaenn snnisthanwa hlngkhaphramnthpnacaepnekhruxngimmungdwykraebuxngdinepha phrawiharsxngphinxng xyuthangdansaykhxngphramnthpphraxtthars kxdwysilaaelngthanrupsiehliymphunpha kwang 11 emtr yaw 27 emtr khnadecdhxng pradisthanphraphuththruppunpnpangmarwichysxngxngkh danhlngmikhnadihykwadanhna xakharkhnadelk kxdwysilaaelngepnaebbthanpthmephiyngchnediyw hkphngipaelwepnswnihy phraxuobsth xyuthdxxkmathangdanhnaphraprangkhprathannxkkaaephngaekw idrbkarburnasxmaesmkhunmaihm emux ph s 2500 epnobsthkhnadhahxng mimukhyunxikhnunghxng hlngkhaldsamchnsxnsxngtb phayinphraxuobsthmiphraphuththrupepncanwnmak xngkhphraprathankhux hlwngphxphuththeruxngvththisungepnphraphuththrupkhnadihy pangmarwichy silpasmysuokhthy khnadhnatkkwang 4 08 emtr pradisthanepnphraphuththptimaprathaninphrawihar sungepnphrawiharihykhnad 7 hxng srangdwysilaaelng hnatangecaaepnchxngelk ebuxnghnaphraprathanmiphraphuththrupyunpunpnsilpasuokhthy phuththlksnangdngammak 1 kutiphrarwngphralux hruxthieriykknwasalphrarwng phralux lksnaepnphramnthpthansiehliymcturs kwang 7 20 emtr hlngkhakhlayrupchamkhwasichn phayinpradisthanrupphrarwng phralux calxng 2 esnthangekhasuwd aekikhcaktwemuxngsuokhthyipthangthisehnuxtamthanghlwngaephndinhmayelkh 101 praman 55 kiolemtr pccubnnkthxngethiywaelaphusnicekhachmsamarthnngrth bkhs malngidodythamacaksthanikhnsng thix emuxng suokhthy ihaecngwamalngthi phraprangkh sungepnchuxthichawbanicheriykkhanwdni emuxlngcakrth bkhs caepnsumpratuthangekhawdodyphanchumchn nkthxngethiywsamarthkhickryanchmrxb xuthyanprawtisastrsrischnaly odyechackryanid n rankhathicudlngcakrth bkhs niaelafakkraepasmpharaiwthirankhaid emuxphansumpratuekhamacaphanchumchnpraman 100 emtr caphbsaphanaekhwnimkhamaemnaym ephuxipyngwdphraprangkhsungxyufngtrngkham nkthxngethiywchawithyesiykhathrrmeniymbarungxuthyanprawtisastrsrischnalyechphaacudnikxn 10 bath aelacaidaephnthinachmxuthyanprawtisastrsrischnalydwyxangxing aekikh wdsrirtnmhathatu rachwrwihar c suokhthy mrdkthangphraphuththsasna lingkesiy ekhathungcak https th wikipedia org w index php title wdphrasrirtnmhathatuechliyng amp oldid 9664393, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
