fbpx
วิกิพีเดีย

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า

สิงหาคม 16, 2021

สำหรับความหมายอื่น ดูที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (แก้ความกำกวม)

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เป็นอดีตสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เคยมีสถานะเป็นกรมในกระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2514 โดยการรวมวิทยาลัย 3 แห่งเข้าด้วยกัน คือ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี รวมทั้งมีวิทยาลัยอีกหนึ่งแห่งเข้ามาสมทบภายหลัง คือ วิทยาลัยก่อสร้างบางพลัด สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความแตกต่างของวิทยาเขตและวิกฤตการบริหารงาน จึงได้แยกออกเป็นเป็นสถาบันอุดมศึกษาอิสระสามแห่งใน พ.ศ. 2529 รวมอายุสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นเอกเทศได้ 15 ปี ในระหว่างนี้มีอธิการบดีดำรงแหน่งสองคน โดยในช่วงบั้นปลายที่มีวิกฤตการบริหาร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดเปลี่ยนกันรักษาการตำแหน่งอธิการบดี

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
King Mongkut's Institute of Technology
ดำเนินงาน24 เมษายน ค.ศ. 1971 (1971-04-24)–19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1986 (1986-02-19)
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
ชื่อเดิมวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี
วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ
วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี
สีประจำสถาบัน     สีแสด[ต้องการอ้างอิง]


ประวัติ

เมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2514 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ตั้งขึ้น จากการรวม วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี ในสังกัด กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เข้าด้วยกัน ตาม พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยเป็นสถาบันการศึกษาและวิจัย มีวัตถุประสงค์ที่จะผลิตครูอาชีวศึกษาระดับปริญญา ให้การศึกษาทั้งระดับปริญญา และระดับต่ำกว่าปริญญา และทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้สถาบันเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นกรมในกระทรวงศึกษาธิการ

เมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2515 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้รวม วิทยาลัยวิชาการก่อสร้างบางพลัด เข้ากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ซึ่งถูกรวมเข้ากับ ศูนย์ลาดกระบัง และทำให้ ศูนย์ธนบุรี ได้ยุติการรับนักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 และจัดตั้งเป็น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศูนย์ลาดกระบัง ในปีการศึกษา 2516 ปัจจุบันคณะดังกล่าวอยู่ในสังกัด สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง )

เมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ถูกโอนย้ายไปสังกัด ทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ ตาม พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๗ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ทบวงมหาวิทยาลัย

เมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2522 จากการขยายตัวของสถาบันอย่างรวดเร็ว จึงมีการปรับโครงสร้างตามมาหลายครั้ง กระทั่งมีมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า

พ.ศ.2515

กำหนดการแบ่งส่วนราชการ

(๑) สำนักงานอธิการบดี

(๒) คณะ


สำนักงานอธิการบดี อาจแบ่งส่วนราชการออกเป็นกองและแผนก คณะ แบ่งส่วนราชการออกเป็นภาควิชาและสำนักงานเลขานุการ สำนักงานเลขนุการคณะ อาจแบ่งส่วนราชการออกเป็นแผนก


การดำเนินงานของสถาบัน

มีสภาสถาบันเป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของสถาบัน สภาสถาบัน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นนายกสภาสถาบัน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองนายกสภาสถาบัน อธิบดีกรมอาชีวศึกษา อธิการบดี รองอธิการบดี และคณะบดี เป็นกรรมการสภาสถาบัน โดยตำแหน่ง และกรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมีจำนวนไม่น้อยกว่าสี่คน แต่ไม่เกินเก้าคน หัวหน้าสำนักงานอธิการบดี เป็นกรรมการและเลขานุการสภาสถาบัน


การบริหารงานของสถาบัน

มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในการบริหารงานของสถาบัน อธิการบดี นั้นจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งแต่โดยคำแนะนำของสภาสถาบัน และให้ดำรงตำแหน่งสามปี แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่อีกก็ได้ และจะให้มีรองอธิการบดีคนหนึ่งหรือหลายคนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยก็ได้ ในคณะหนึ่ง ให้มีคณบดีเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ คณบดี นั้นสภาสถาบันจะได้แต่งตั้งจากคณาจารย์หรือผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันมาแล้ว และให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ และจะมีรองคณบดีคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยก็ได้ ถ้ามีการแบ่งส่วนราชการเป็นภาควิชา ให้มีหัวหน้าภาควิชาเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในงานของภาควิชา ให้มีกรรมการประจำคณะประกอบ ด้วยคณบดีเป็นประธานกรรมการ รองคณบดี และหัวหน้าภาควิชาในคณะนั้นเป็นกรรมการ หรือเป็นกรรมการเพิ่มเติมให้ได้จำนวน ๔ คน ให้คณะกรรมการตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเลขานุการกรรมการประจำคณะ ซึ่งสภาสถาบันแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสองปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้


การจัดการศึกษา

การจัดการศึกษาของสถาบันแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ

๑. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ซึ่งเป็นระดับเดียวกบประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายสายอาชีพ หรือเรียกเป็นสามัญว่าระดับช่างฝีมือ ระดับนี้รับผู้สำเร็จจากมัธยมศึกษาตอนต้นสายสามัญ หรือที่เรียกโดยย่อว่า มศ. ๓ เข้าศึกษาหลักสูตร ๓ ปี

๒. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือที่เรียกเป็นสามัญว่าช่างเทคนิค ระดับนี้รับนักศึกษาสองประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง รับผู้สำเร็จจากมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ซึ่งเรียกโดยย่อว่า มศ. ๕ เข้าศึกษาหลักสูตร ๓ ปี ประเภทที่สอง รับผู้สำเร็จจากระดับที่หนึ่งคือวิชาชีพ และจากมัธยมศึกษาตอนปลายสายอาชีพ ซึ่งเรียกโดยย่อว่า มศ. ๖ เข้าศึกษาหลักสูตร ๒ ปี

๓. ระดับปริญญา รับผู้สำเร็จการศึกษาจากระดับที่สอง คือระดับวิชาชีพชั้นสูง เข้าศึกษาหลักสูตร ๒ ปี


การศึกษาทั้งสามระดับมีหลักสูตรจบในตัวแต่ละระดับ เพื่อผู้สำเร็จจะได้ออกไปประกอบอาชีพได้ หากผู้ใดประสงค์จะศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไปก็ย่อมทำได้โดยสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบัน ทั้งนี้เพราะต้องการผู้มีสติปัญญาและผลการเรียนดีพอ เนื่องจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าได้รวมวิทยาลัย ๓ แห่งเข้ามาเป็นสถาบันสถานศึกษาทั้ง ๓ แห่ง มีที่ตั้งแยกออกไปเป็นแต่ละแห่งห่างไกลกัน

การจัดการศึกษาก็เป็นไปตามความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของสัญญาและข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือของต่างประเทศ คือ

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์ธนบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก โครงงานพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) แห่ง UNESCO

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์พระนครเหนือ ได้รับความช่วยเหลือจาก รัฐบาลเยอรมัน

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์นนทบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก รัฐบาลญี่ปุ่น


ฉะนั้น แม้จะได้รวมสถานศึกษาทั้ง ๓ แห่งเข้าเป็นสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่การดำเนินงานก็ต้องแยกกันทำ สถานที่ตั้งก็ยังแยกกันอยู่ตามเดิม เพราะทั้ง ๓ แห่งได้วางรากฐานไว้มั่นคงแล้ว จึงไม่อาจรวมงานให้เป็นที่เดียวกันได้

โครงสร้างการบริหารงาน

๑. สำนักงานอธิการบดี จัดแบ่งสายงานการดำเนินงานดังนี้

  • กองกลาง ดำเนินงานด้านธุรการเกี่ยวกับการประสานงานทั่วไป เกี่ยวกับระเบียบข้าราชการ ระเบียนนักศึกษา

การประชาสัมพันธ์ การประสานงานทั่วไป ตลอดจนการเงินสถาบัน การจัดแบ่งคณะและภาควิชาจัดแบ่งดังนี้

๒. คณะวิศวกรรมศาสตร์ธนบุรี เปิดสอนภาควิชา

  • วิศวกรรมไฟฟ้า
  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • วิศวกรรมโยธา
  • วิศวกรรมอุตสาหการ

ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ ใช้อักษรย่อ วศ.บ. (B.Eng.)

๓. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ธนบุรี เปิดสอนภาควิชาเช่นเดียวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์

แต่ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาในคณะนี้จะได้รับปริญญาครุศาสตร์และอุตสาหกรรม ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)

๔. คณะวิศวกรรมศาสตร์พระนครเหนือ เปิดสอนภาควิชา

  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • วิศวกรรมไฟฟ้า
  • เทคนิคอุตสาหกรรม

๓.๑ ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อ ว.ศ.บ. (B.Eng.)

๓.๒ ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี ของภาควิชาเทคนิคอุตสาหกรรม จะได้รับปริญญาอุตสาหกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า อส.บ. (B.Ind. Technology)

๕. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์พระนครเหนือ เปิดสอนภาควิชา

  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรมเครื่องกล
  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรมไฟฟ้า

ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)

๖. คณะวิศวกรรมศาสตร์นนบุรี เปิดสอนภาควิชา

  • วิศวกรรมไฟฟ้า (โทรคมนาคม)

ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ว.ศ.บ. (B.Eng.) สาขาวิชาไฟฟ้าโทรคมนาคม

๗. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เปิดสอนภาควิชา

  • สถาปัตยกรรมศาสตร์
  • มัณฑนศิลป์
  • ศิลปอุตสาหกรรม

ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า สถ.บ. (B.Arch.)

ภาควิชาครุศาสตร์นนทบุรี เปิดสอนสาขาวิชา

  • ไฟฟ้าโทรคมนาคม
  • สถาปัตยกรรม
  • มัณฑนศิลป์
  • ศิลปอุตสาหกรรม

ผู้ศึกษาครบหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)

การแยกสถาบัน

จุดเริ่มต้นการแยกเป็นสามสถาบันเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ในการสรรหาอธิการบดีใหม่ เนื่องจากทั้งสามวิทยาเขตมีความแตกต่างกันหลายประการ ทั้งความเป็นมา ปรัชญา และวิธีการจัดการศึกษา และมีปัญหาในการสรรหาสรรหาอธิการบดีคนใหม่ เมื่อตำแหน่งอธิการบดีว่างลงใน พ.ศ. 2526 จึงให้รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดกันเป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี คนละ 3 เดือนไปพลางก่อน ระหว่างที่ข้อเสนอเพื่อแยกวิทยาเขตออกจากกันเป็นอิสระโดยออกเป็นกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณา กระบวนการนี้ยืดเยื้อยาวนาน เพราะมีการเสนอโครงสร้างหลายรูปแบบ แม้กฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วแต่วุฒิสภากลับไม่รับหลักการ ในที่สุดพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2529 เป็นจุดสิ้นสุดของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าที่มีอายุเกือบ 15 ปี และทำให้เกิดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ที่เป็นอิสระต่อกันสามแห่งได้แก่

สัญลักษณ์

  • ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนาม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2514

ภาษาไทย "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า" ภาษาอังกฤษ "King Mongkut's Institute of Technology"

  • ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญ “พระมหามงกุฏ” เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2514


ทำเนียบผู้บริหาร

นายกสภา

  1. นายสุกิจ นิมมานเหมินทร์ (4 กุมภาพันธ์ 2514 – 16 พฤศจิกายน 2514)
  2. นายบุญถิ่น อัตถากร (17 พฤศจิกายน 2514 – 18 ธันวาคม 2515)
  3. นายอภัย จันทวิมล (19 ธันวาคม 2515 – 29 พฤษภาคม 2517)
  4. นายเกรียง กีรติกร (30 พฤษภาคม 2517 – 28 มิถุนายน 2517)
  5. นายเกษม สุวรรณกุล (29 มิถุนายน 2517 – 25 มกราคม 2518)
  6. พลเรือตรี ชลี สินธุโสภณ (26 มกราคม 2518 – 13 มกราคม 2521)
  7. นายจำรัส ฉายะพงศ์ (14 มกราคม 2521 – 30 มิถุนายน 2531)

อธิการบดี

  1. ศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ศักดิ์ วรสุนทรโรสถ (22 ธันวาคม 2514 - 1 ตุลาคม 2521) (ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต)
  2. ศาสตราจารย์ ดร.บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ (3 พฤศจิกายน 2521 - 22 สิงหาคม 2526) (สภาสถาบันอนุมัติให้ลาออก)

มีการประชุมสภาสถาบันเมื่อ 13 สิงหาคม 2524 เพื่อสรรหาอธิการบดีในวาระต่อไปแต่ไม่อาจตกลงกันได้ เป็นวิกฤตการบริหารงานและนำมาซึ่งการปรับโครงสร้าง แยกเป็นสามสถาบันอุดมศึกษาอิสระใน พ.ศ. 2529 หลังจากสภาสถาบันอนุมัติให้ ศาสตราจารย์บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ ลาออก จึงกำหนดให้รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดกันเป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี คนละ 3 เดือน

ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างสามสถาบัน

งานกีฬาและฟุตบอลประเพณี 3 พระจอมเกล้า

งานกีฬาและฟุตบอลประเพณี 3 พระจอมเกล้า ประเพณี 3K ซึ่งจะถูกจัดขึ้นในทุกปี เป็นการแข่งขันกีฬาและฟุตบอล ของนักศึกษา จากสถาบันการศึกษาพระจอมเกล้าทั้ง 3 โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อความสามัคคี และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของชาวพระจอมเกล้าฯ ทั้ง 3


พิธีพระราชทานปริญญาบัตร

พิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรของบัณฑิตทั้งสามสถาบันนั้น จะจัดร่วมกัน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ครั้งแรก ประจำปีการศึกษา 2510-2514 จำนวน 468 คน ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2515


บทเพลงประจำสถาบันร่วมกัน

ได้เแก่บทเพลงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ และบทเพลงลูกพระจอมเกล้า

อ้างอิง

  1. พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. 2514 ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 88 ตอนที่ 43 วันที่ 23 เมษายน 2514
  2. ประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ วิทยาลัยวิชาการก่อสร้างรวมเข้ากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
  3. http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=2
  4. พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๗ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 91 ตอนที่ 112 ฉบับพิเศษ
  5. พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
  6. ↑ http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=4
  7. http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=5
  8. http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=5 ที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 10/2528 (สมัยสามัญ)
  9. พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. ๒๕๒๘ ราชกิจจานุเบกษา
  10. พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. ๒๕๔๑ ราชกิจจานุเบกษา
  11. พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา
  12. พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. ๒๕๕๑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๔๕ ก ๗ มีนาคม ๒๕๕๑ หน้า ๙๕-๑๒๔
  13. http://archive.lib.kmutt.ac.th index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=2
  บทความเกี่ยวกับสถานศึกษานี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล

สิงหาคม 16, 2021
สถาบ, นเทคโนโลย, พระจอมเกล, สำหร, บความหมายอ, แก, ความกำกวม, เป, นอด, ตสถาบ, นอ, ดมศ, กษาของร, เคยม, สถานะเป, นกรมในกระทรวงศ, กษาธ, การ, อต, งข, นใน, 2514, โดยการรวมว, ทยาล, แห, งเข, าด, วยก, ทยาล, ยเทคน, คธนบ, ทยาล, ยเทคน, คพระนครเหน, และ, ทยาล, ยโทรคมนาคมนนท. sahrbkhwamhmayxun duthi sthabnethkhonolyiphracxmekla aekkhwamkakwm sthabnethkhonolyiphracxmekla epnxditsthabnxudmsuksakhxngrth ekhymisthanaepnkrminkrathrwngsuksathikar kxtngkhunin ph s 2514 odykarrwmwithyaly 3 aehngekhadwykn khux withyalyethkhnikhthnburi withyalyethkhnikhphrankhrehnux aela withyalyothrkhmnakhmnnthburi rwmthngmiwithyalyxikhnungaehngekhamasmthbphayhlng khux withyalykxsrangbangphld sthabnethkhonolyiphracxmeklaetibotxyangrwderw aetdwykhwamaetktangkhxngwithyaekhtaelawikvtkarbriharngan cungidaeykxxkepnepnsthabnxudmsuksaxisrasamaehngin ph s 2529 rwmxayusthabnethkhonolyiphracxmeklainthanasthabnxudmsuksathiepnexkethsid 15 pi inrahwangnimixthikarbdidarngaehnngsxngkhn odyinchwngbnplaythimiwikvtkarbrihar rxngxthikarbdipracawithyaekhtphldepliynknrksakartaaehnngxthikarbdisthabnethkhonolyiphracxmeklaKing Mongkut s Institute of Technologydaeninngan24 emsayn kh s 1971 1971 04 24 19 kumphaphnth kh s 1986 1986 02 19 praephthsthabnxudmsuksakhxngrthchuxedimwithyalyethkhnikhthnburiwithyalyethkhnikhphrankhrehnuxwithyalyothrkhmnakhmnnthburisipracasthabn siaesd txngkarxangxing enuxha 1 prawti 1 1 sthabnethkhonolyiphracxmekla 1 2 kahndkaraebngswnrachkar 1 3 kardaeninngankhxngsthabn 1 4 karbriharngankhxngsthabn 1 5 karcdkarsuksa 1 6 okhrngsrangkarbriharngan 1 7 karaeyksthabn 2 sylksn 3 thaeniybphubrihar 3 1 naykspha 3 2 xthikarbdi 4 khwamsmphnthinpccubnrahwangsamsthabn 4 1 ngankilaaelafutbxlpraephni 3 phracxmekla 4 2 phithiphrarachthanpriyyabtr 4 3 bthephlngpracasthabnrwmkn 5 xangxingprawti aekikhemux 23 emsayn ph s 2514 sthabnethkhonolyiphracxmekla tngkhun cakkarrwm withyalyethkhnikhthnburi withyalyethkhnikhphrankhrehnux aela withyalyothrkhmnakhmnnthburi insngkd krmxachiwsuksa krathrwngsuksathikar ekhadwykn tam phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla ph s 2514 1 odyepnsthabnkarsuksaaelawicy miwtthuprasngkhthicaphlitkhruxachiwsuksaradbpriyya ihkarsuksathngradbpriyya aelaradbtakwapriyya aelathawicythangwithyasastraelaethkhonolyi thngnisthabnepnnitibukhkhl mithanaepnkrminkrathrwngsuksathikaremux 20 mithunayn ph s 2515 krathrwngsuksathikar idprakasihrwm withyalywichakarkxsrangbangphld ekhakb sthabnethkhonolyiphracxmekla 2 sungthukrwmekhakb sunyladkrabng aelathaih sunythnburi idyutikarrbnksuksasthaptykrrmsastr tngaet ph s 2515 aelacdtngepn khnasthaptykrrmsastr sunyladkrabng inpikarsuksa 2516 pccubnkhnadngklawxyuinsngkd sthabnethkhonolyiphracxmekla withyaekhtecakhunthharladkrabng 3 emux 28 mithunayn ph s 2517 sthabnethkhonolyiphracxmekla thukoxnyayipsngkd thbwngmhawithyalykhxngrth tam phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla chbbthi 2 ph s 2517 4 sungtxmaepliynchuxepn thbwngmhawithyalyemux 20 emsayn ph s 2522 cakkarkhyaytwkhxngsthabnxyangrwderw cungmikarprbokhrngsrangtammahlaykhrng krathngmimikarprakasich phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla chbbthi 3 ph s 2522 5 sthabnethkhonolyiphracxmekla aekikh ph s 2515 kahndkaraebngswnrachkar aekikh 1 sanknganxthikarbdi 2 khnasanknganxthikarbdi xacaebngswnrachkarxxkepnkxngaelaaephnk khna aebngswnrachkarxxkepnphakhwichaaelasanknganelkhanukar sanknganelkhnukarkhna xacaebngswnrachkarxxkepnaephnk kardaeninngankhxngsthabn aekikh misphasthabnepnphukhwbkhumduaelkickarthwipkhxngsthabn sphasthabn prakxbdwy rthmntriwakarkrathrwngsuksathikar epnnayksphasthabn pldkrathrwngsuksathikar epnrxngnayksphasthabn xthibdikrmxachiwsuksa xthikarbdi rxngxthikarbdi aelakhnabdi epnkrrmkarsphasthabn odytaaehnng aelakrrmkarsphasthabnphuthrngkhunwuthi sungthrngphrakrunaoprdekla aetngtngmicanwnimnxykwasikhn aetimekinekakhn hwhnasanknganxthikarbdi epnkrrmkaraelaelkhanukarsphasthabn karbriharngankhxngsthabn aekikh mixthikarbdiepnphubngkhbbycharbphidchxbinkarbriharngankhxngsthabn xthikarbdi nncaidthrngphrakrunaoprdekla tngaetodykhaaenanakhxngsphasthabn aelaihdarngtaaehnngsampi aetcathrngphrakrunaoprdekla aetngtngihmxikkid aelacaihmirxngxthikarbdikhnhnunghruxhlaykhnthahnathiepnphuchwykid inkhnahnung ihmikhnbdiepnphubngkhbbycharbphidchxb khnbdi nnsphasthabncaidaetngtngcakkhnacaryhruxphusungekhydarngtaaehnngkrrmkarsphasthabnmaaelw aelaihdarngtaaehnngsipi aetxacidrbaetngtngihmxikid aelacamirxngkhnbdikhnhnungthahnathiepnphuchwykid thamikaraebngswnrachkarepnphakhwicha ihmihwhnaphakhwichaepnphubngkhbbycharbphidchxbinngankhxngphakhwicha ihmikrrmkarpracakhnaprakxb dwykhnbdiepnprathankrrmkar rxngkhnbdi aelahwhnaphakhwichainkhnannepnkrrmkar hruxepnkrrmkarephimetimihidcanwn 4 khn ihkhnakrrmkartngphuhnungphuidepnelkhanukarkrrmkarpracakhna sungsphasthabnaetngtngihdarngtaaehnngsxngpi aetxacidrbaetngtngihmxikid karcdkarsuksa aekikh karcdkarsuksakhxngsthabnaebngxxkepn 3 radb1 radbprakasniybtrwichachiph sungepnradbediywkbpraoykhmthymsuksatxnplaysayxachiph hruxeriykepnsamywaradbchangfimux radbnirbphusaerccakmthymsuksatxntnsaysamy hruxthieriykodyyxwa ms 3 ekhasuksahlksutr 3 pi2 radbprakasniybtrwichachiphchnsung hruxthieriykepnsamywachangethkhnikh radbnirbnksuksasxngpraephth khux praephththihnung rbphusaerccakmthymsuksatxnplaysaysamy sungeriykodyyxwa ms 5 ekhasuksahlksutr 3 pi praephththisxng rbphusaerccakradbthihnungkhuxwichachiph aelacakmthymsuksatxnplaysayxachiph sungeriykodyyxwa ms 6 ekhasuksahlksutr 2 pi3 radbpriyya rbphusaerckarsuksacakradbthisxng khuxradbwichachiphchnsung ekhasuksahlksutr 2 pikarsuksathngsamradbmihlksutrcbintwaetlaradb ephuxphusaerccaidxxkipprakxbxachiphid hakphuidprasngkhcasuksatxinradbsungkhunipkyxmthaidodysmkhrsxbkhdeluxkekhasuksainsthabn thngniephraatxngkarphumistipyyaaelaphlkareriyndiphx enuxngcaksthabnethkhonolyiphracxmeklaidrwmwithyaly 3 aehngekhamaepnsthabnsthansuksathng 3 aehng mithitngaeykxxkipepnaetlaaehnghangiklknkarcdkarsuksakepniptamkhwammunghmayaelawtthuprasngkhkhxngsyyaaelakhxtklnginkarihkhwamchwyehluxkhxngtangpraeths khuxsthabnethkhonolyiphracxmekla sunythnburi idrbkhwamchwyehluxcak okhrngnganphthnaaehngshprachachati UNDP aehng UNESCOsthabnethkhonolyiphracxmekla sunyphrankhrehnux idrbkhwamchwyehluxcak rthbaleyxrmnsthabnethkhonolyiphracxmekla sunynnthburi idrbkhwamchwyehluxcak rthbalyipunchann aemcaidrwmsthansuksathng 3 aehngekhaepnsthabnethkhonolyiphracxmeklatamkdhmayaelwktam aetkardaeninnganktxngaeykkntha sthanthitngkyngaeykknxyutamedim ephraathng 3 aehngidwangrakthaniwmnkhngaelw cungimxacrwmnganihepnthiediywknid okhrngsrangkarbriharngan aekikh 1 sanknganxthikarbdi cdaebngsayngankardaeninngandngni kxngklang daeninngandanthurkarekiywkbkarprasannganthwip ekiywkbraebiybkharachkar raebiynnksuksakarprachasmphnth karprasannganthwip tlxdcnkarenginsthabn karcdaebngkhnaaelaphakhwichacdaebngdngni2 khnawiswkrrmsastrthnburi epidsxnphakhwicha wiswkrrmiffa wiswkrrmekhruxngkl wiswkrrmoytha wiswkrrmxutsahkarphusuksakhrbtamhlksutr 2 pi caidrbpriyyawiswkrrmsastr ichxksryx ws b B Eng 3 khnakhrusastrxutsahkrrmaelawithyasastrthnburi epidsxnphakhwichaechnediywkbkhnawiswkrrmsastraetphucbkarsuksaradbpriyyainkhnanicaidrbpriyyakhrusastraelaxutsahkrrm ichxksryxwa kh x b B S I Ed 4 khnawiswkrrmsastrphrankhrehnux epidsxnphakhwicha wiswkrrmekhruxngkl wiswkrrmiffa ethkhnikhxutsahkrrm3 1 phusuksakhrbtamhlksutr 2 pi caidrbpriyyawiswkrrmsastrbnthit ichxksryx w s b B Eng 3 2 phusuksakhrbtamhlksutr 2 pi khxngphakhwichaethkhnikhxutsahkrrm caidrbpriyyaxutsahkrrmsastrbnthit ichxksryxwa xs b B Ind Technology 5 khnakhrusastrxutsahkrrmaelawithyasastrphrankhrehnux epidsxnphakhwicha khrusastrxutsahkrrmekhruxngkl khrusastrxutsahkrrmiffaphusuksakhrbtamhlksutr 2 pi caidrbpriyyakhrusastrxutsahkrrmbnthit ichxksryxwa kh x b B S I Ed 6 khnawiswkrrmsastrnnburi epidsxnphakhwicha wiswkrrmiffa othrkhmnakhm phusuksakhrbtamhlksutr 2 pi caidrbpriyyawiswkrrmsastrbnthit ichxksryxwa w s b B Eng sakhawichaiffaothrkhmnakhm7 khnasthaptykrrmsastr epidsxnphakhwicha sthaptykrrmsastr mnthnsilp silpxutsahkrrmphusuksakhrbtamhlksutr 2 pi caidrbpriyyasthaptykrrmsastrbnthit ichxksryxwa sth b B Arch phakhwichakhrusastrnnthburi epidsxnsakhawicha iffaothrkhmnakhm sthaptykrrm mnthnsilp silpxutsahkrrmphusuksakhrbhlksutr 2 pi caidrbpriyyakhrusastrxutsahkrrmbnthit ichxksryxwa kh x b B S I Ed karaeyksthabn aekikh cuderimtnkaraeykepnsamsthabnerimtngaet ph s 2524 inkarsrrhaxthikarbdiihm enuxngcakthngsamwithyaekhtmikhwamaetktangknhlayprakar thngkhwamepnma prchya aelawithikarcdkarsuksa 6 aelamipyhainkarsrrhasrrhaxthikarbdikhnihm 6 emuxtaaehnngxthikarbdiwanglngin ph s 2526 cungihrxngxthikarbdipracawithyaekhtphldknepnphurksakaraethnxthikarbdi khnla 3 eduxnipphlangkxn rahwangthikhxesnxephuxaeykwithyaekhtxxkcakknepnxisraodyxxkepnkdhmayxyurahwangkarphicarna 7 krabwnkarniyudeyuxyawnan ephraamikaresnxokhrngsranghlayrupaebb aemkdhmayphansphaphuaethnrasdripaelwaetwuthisphaklbimrbhlkkar 8 inthisudphrarachbyytidngklawkprakasinrachkiccanuebksaemux 19 kumphaphnth 2529 9 epncudsinsudkhxngsthabnethkhonolyiphracxmeklathimixayuekuxb 15 pi aelathaihekidsthabnxudmsuksakhxngrth sngkdthbwngmhawithyaly thiepnxisratxknsamaehngidaek sthabnethkhonolyiphracxmeklathnburi epliynepn mhawithyalyethkhonolyiphracxmeklathnburi phrxmaeplngsphaphepn sthabnxudmsuksainkakbkhxngrthbal emux ph s 2541 10 sthabnethkhonolyiphracxmeklaphrankhrehnux epliynepn mhawithyalyethkhonolyiphracxmeklaphrankhrehnux phrxmaeplngsphaphepn sthabnxudmsuksainkakbkhxngrthbal emux ph s 2550 11 sthabnethkhonolyiphracxmeklaecakhunthharladkrabng aeplngsphaphepn sthabnxudmsuksainkakbkhxngrthbal emux ph s 2551 12 sylksn aekikhidrbphrarachthanphramhakrunathikhunoprdeklaoprdkrahmxmphrarachthannam emuxwnthi 28 phvsphakhm ph s 2514 13 phasaithy sthabnethkhonolyiphracxmekla phasaxngkvs King Mongkut s Institute of Technology idrbphrarachthanphrabrmrachanuyatechiy phramhamngkut epntrasylksnpracasthabn emuxwnthi 24 thnwakhm ph s 2514thaeniybphubrihar aekikhnaykspha aekikh naysukic nimmanehminthr 4 kumphaphnth 2514 16 phvscikayn 2514 naybuythin xtthakr 17 phvscikayn 2514 18 thnwakhm 2515 nayxphy cnthwiml 19 thnwakhm 2515 29 phvsphakhm 2517 nayekriyng kirtikr 30 phvsphakhm 2517 28 mithunayn 2517 nayeksm suwrrnkul 29 mithunayn 2517 25 mkrakhm 2518 phleruxtri chli sinthuosphn 26 mkrakhm 2518 13 mkrakhm 2521 naycars chayaphngs 14 mkrakhm 2521 30 mithunayn 2531 xthikarbdi aekikh sastracary dr phngsskdi wrsunthrorsth 22 thnwakhm 2514 1 tulakhm 2521 prasbxubtiehtuesiychiwit sastracary dr buyyskdi iccngkic 3 phvscikayn 2521 22 singhakhm 2526 sphasthabnxnumtiihlaxxk mikarprachumsphasthabnemux 13 singhakhm 2524 ephuxsrrhaxthikarbdiinwaratxipaetimxactklngknid epnwikvtkarbriharnganaelanamasungkarprbokhrngsrang aeykepnsamsthabnxudmsuksaxisrain ph s 2529 hlngcaksphasthabnxnumtiih sastracarybuyyskdi iccngkic laxxk cungkahndihrxngxthikarbdipracawithyaekhtphldknepnphurksakaraethnxthikarbdi khnla 3 eduxnkhwamsmphnthinpccubnrahwangsamsthabn aekikhngankilaaelafutbxlpraephni 3 phracxmekla aekikh ngankilaaelafutbxlpraephni 3 phracxmekla praephni 3K sungcathukcdkhuninthukpi epnkaraekhngkhnkilaaelafutbxl khxngnksuksa caksthabnkarsuksaphracxmeklathng 3 odyphldepliynhmunewiynknepnecaphaph ephuxkhwamsamkhkhi aelaepnxnhnungxnediywkn khxngchawphracxmekla thng 3 phithiphrarachthanpriyyabtr aekikh phithirbphrarachthanpriyyabtrkhxngbnthitthngsamsthabnnn cacdrwmknphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr aela smedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwng phrarachthanpriyyabtraekphusaerckarsuksa cak sthabnethkhonolyiphracxmekla khrngaerk pracapikarsuksa 2510 2514 canwn 468 khn n hxprachumkhuruspha krathrwngsuksathikar emuxwnphuththi 18 tulakhm ph s 2515 bthephlngpracasthabnrwmkn aekikh ideaekbthephlngsthabnethkhonolyiphracxmekla aelabthephlnglukphracxmeklaxangxing aekikh phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla ph s 2514 rachkiccanuebksa chbbphiess elm 88 txnthi 43 wnthi 23 emsayn 2514 prakas krathrwngsuksathikar eruxng ih withyalywichakarkxsrangrwmekhakb sthabnethkhonolyiphracxmekla http archive lib kmutt ac th index php option com content amp view article amp id 169 3A2010 01 19 13 10 23 amp catid 47 3A2010 01 19 13 06 25 amp Itemid 66 amp limitstart 2 phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla chbbthi 2 ph s 2517 rachkiccanuebksa elm 91 txnthi 112 chbbphiess phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmekla chbbthi 3 ph s 2522 6 0 6 1 http archive lib kmutt ac th index php option com content amp view article amp id 169 3A2010 01 19 13 10 23 amp catid 47 3A2010 01 19 13 06 25 amp Itemid 66 amp limitstart 4 http archive lib kmutt ac th index php option com content amp view article amp id 169 3A2010 01 19 13 10 23 amp catid 47 3A2010 01 19 13 06 25 amp Itemid 66 amp limitstart 5 http archive lib kmutt ac th index php option com content amp view article amp id 169 3A2010 01 19 13 10 23 amp catid 47 3A2010 01 19 13 06 25 amp Itemid 66 amp limitstart 5 thiprachumwuthispha khrngthi 10 2528 smysamy phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmeklaecakhunthharladkrabng sthabnethkhonolyiphracxmeklathnburi aelasthabnethkhonolyiphracxmeklaphrankhrehnux ph s 2528 rachkiccanuebksa phrarachbyytimhawithyalyethkhonolyiphracxmeklathnburi ph s 2541 rachkiccanuebksa phrarachbyytimhawithyalyethkhonolyiphracxmeklaphrankhrehnux ph s 2550 rachkiccanuebksa phrarachbyytisthabnethkhonolyiphracxmeklaecakhunthharladkrabng ph s 2551 rachkiccanuebksa elm 125 txnthi 45 k 7 minakhm 2551 hna 95 124 http archive lib kmutt ac th index php option com content amp view article amp id 169 3A2010 01 19 13 10 23 amp catid 47 3A2010 01 19 13 06 25 amp Itemid 66 amp limitstart 2 bthkhwamekiywkbsthansuksaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmulekhathungcak https th wikipedia org w index php title sthabnethkhonolyiphracxmekla amp oldid 9243155, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม