สิรินธรวัลลี
สิรินธรวัลลี | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Rosids |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
สกุล: | Bauhinia |
สกุลย่อย: | Phanera |
สปีชีส์: | P. sirindhorniae |
ชื่อทวินาม | |
Phanera sirindhorniae |
สิรินธรวัลลี หรือ สามสิบสองประดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Phanera sirindhorniae) พืชตระกูลเสี้ยว (Bauhinia ) เป็นหนึ่งในสมาชิกพืชวงศ์ถั่ว (Leguminosae-Caesalpinioideae ) สิรินธรวัลลีเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งในสกุลชงโค วงศ์ถั่ว มีการกระจายพันธุ์ในเขตร้อนทั่วโลกกว่า 300 ชนิด กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง เมื่อแก่ เปลือกเถาเรียบ บิดตามยาวเล็กน้อย เนื้อไม้เมื่อตัดตามขวาง สีน้ำตาลเข้มออกแดง มีลวดลายสีน้ำตาลอ่อนเป็นกลุ่มเหมือนกลีบดอกไม้ ดอกออกเป็นช่อสีน้ำตาล ออกดอกตลอดปี แต่ดอกจะบานมากในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม เป็นไม้ถิ่นเดียวในประเทศไทย พบครั้งแรกโดย ดร.ชวลิต นิยมธรรม เมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2538 ที่ภูทอกน้อย จากบริเวณป่าภูทอกน้อย อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดหนองคาย (ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดบึงกาฬ) ดอกสิรินธรวัลลี ดอกไม้ประจำจังหวัดบึงกาฬ ชื่อของพืชชนิดนี้ตั้งตามพระนามาภิไธยของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และตีพิมพ์โดย ศาสตราจารย์ ไค ลาร์เซน (Kai Larsen) และอาจารย์สุพีร์ ศักดิ์สุวรรณ ลาร์เซน (Supee Larsen) โดยทั้งสองท่านร่วมกับกรมป่าไม้ ขอพระราชทานพระราชานุญาต ใช้พระนามาภิไธยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระนามพระองค์ท่านที่ทรงสนพระทัย และให้การสนับสนุนงานทางพฤกษศาสตร์ตลอดมา โดยใช้ชื่อ Bauhinia sirindhorniae K.& S.S. Larsen หรือ สิรินธรวัลลี อันหมายถึง วัลยชาติแห่งองค์สมเด็จพระเทพฯ ในปี พ.ศ. 2540
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
สิรินธรวัลลีเป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ในวงศ์ถั่ว เป็นไม้ถิ่นเดียวในประเทศไทย พบขึ้นกระจายตามป่าดิบแล้งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลำต้น: กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลอมแดง กิ่งแก่ไม่มีขน กิ่งเกลี้ยงเรียบมีใบพัน
ใบ: ใบเป็นลักษณะใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่จนเกือบกลม โดยใบอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน และใบแก่มีสีเขียวแก่ ปลายใบฉีก ฐานใบรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ ปลายใบพูมน มีขนบริเวณเส้นกลางใบ แผ่นของใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบด้านบนเข้มเป็นมัน เส้นใบข้างละ 9–11 เส้น จากโคนใบ ก้านใบยาว 2–7 เซนติเมตร
ดอก: ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน ดอกมีสีน้ำตาลแดงหรือสีส้มเข้ม ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก ดอกออกเป็นช่อ ดอกย่อยสีน้ำตาลหรือสีส้มแดง กลีบดอก 5 กลีบ ไม่สมมาตรและหลุดร่วงง่าย เกสรผู้ 3 อัน ดอกตูมรี ช่อดอกยาวได้ถึงประมาณ 15 เซนติเมตร ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 3 เซนติเมตร
ผล: เป็นฝักแบน กว้าง 3 – 5 เซนติเมตร ยาว 10 – 18 เซนติเมตร มีขนอ่อนปกคลุม ภายในมี 5 – 7 เมล็ด
การขยายพันธุ์: ตอนกิ่งและเพาะเมล็ด ชอบน้ำปานกลาง และชอบแสงแดดตลอดวัน ดินปลูกควรเป็นดินร่วนระบายน้ำดี
สรรพคุณทางยา
ตำรายาไทย:
เนื้อไม้: ใช้รักษาอาการประดงที่เกิดจากระบบโลหิตในร่างกายชนิดต่าง ๆ รวมเรียกว่า ประดงทั้งสามสิบสองประการ อาการโดยรวมคือเป็นเม็ด ผื่นคัน ปวดแสบปวดร้อน แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ลมพิษ หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ
ผลอ่อน: ขับปัสสาวะ แก้โรคหนองใน กามโรค ขับพยาธิในเด็ก ทำให้แท้งได้
ใบ: เป็นยาขับพยาธิ
ลำต้นและรากแห้ง: ทารักษาอาการฝีและหนอง
ตำรายาโบราณ:
เนื้อไม้: เนื้อไม้ของสิรินธรวัลลีใช้รักษาโรคที่ในตำรายาโบราณเรียกว่า ประดงทั้งสามสิบสองประการ อาการโดยรวมคือเป็นเม็ด ผื่นคัน ปวดแสบปวดร้อน แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ลมพิษ หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ ในจังหวัดมุกดาหารใช้แก้โรคประดง บำรุงกำลัง
ประโยชน์
สิรินธรวัลลีมีลำต้นเป็นเถาเลื้อยหนา และแตกใบดก จึงปลูกเพื่อทำซุ้มสำหรับเป็นร่มเงาบังแดด ส่วนดอกสิรินธรวัลลีออกดอกเป็นช่อใหญ่ ตัวดอกมีสีน้ำตาลแดงสวยงาม จึงใช้ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือนและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม
ระเบียงภาพ
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ปิยะ เฉลิมกลิ่น จิรพันธุ์ ศรีทองกุล และอนันต์ พิริยะภัทรกิจ. พรรณไม้ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย. กทม. โครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพ. 2551 หน้า 15
- http://puechkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5/
- ↑ สามสิบสองประดง-ฐานข้อมูลเครื่องยา
- https://www.panmai.com/PvFlower/fl_46.shtml
- http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=165
- http://hsst.or.th/articles-flowering-and-ornamental-plants-th/phanera-sirindhorniae/
- http://www.rspg.or.th/plants_data/hrs_flower/hrs_flowers2.htm
- https://www.baanlaesuan.com/plants/orchid/137713.html
- http://www.suanluangrama9.or.th/data-detail.php?data_id=5&lang=
- http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=1394
- http://hsst.or.th/articles-flowering-and-ornamental-plants-th/phanera-sirindhorniae/#
- http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=137
- http://old.forest.go.th/orip/index.php?option=com_content&view=article&id=426%3A2012-01-24-04-m-s&catid=68%3A2012-01-24-03-m-s&Itemid=484&lang=en
- http://www.ananhosp.go.th/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3/3.1.6%20%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87/5%20%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5.html
- https://www.teaoilcenter.org/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5/