อำเภอสุคิริน
อำเภอสุคิริน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนราธิวาส
อำเภอสุคิริน | |
---|---|
คำขวัญ: หลายประเพณี ที่สร้างตน ต้นลำธาร หวานผลไม้ ใต้เหมืองทอง | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 5°56′20″N 101°46′14″E / 5.93889°N 101.77056°E | |
อักษรไทย | อำเภอสุคิริน |
อักษรโรมัน | Amphoe Sukhirin |
จังหวัด | นราธิวาส |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 513.0 ตร.กม. (198.1 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2563) | |
• ทั้งหมด | 26,449 คน |
• ความหนาแน่น | 51.56 คน/ตร.กม. (133.5 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 96190 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 9609 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอสุคิริน หมู่ที่ 4 ตำบลสุคิริน อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส 96190 |
ประวัติ
อำเภอสุคิรินเดิมเคยเป็นกิ่งอำเภอหนึ่งที่ได้จัดตั้งขึ้น พ.ศ. 2474 ชื่อ กิ่งอำเภอปาโจ (ปาโจ แปลว่า น้ำตก) ขึ้นกับอำเภอโต๊ะโมะ (คืออำเภอแว้งในปัจจุบัน) กิ่งอำเภอนี้จัดตั้งเพราะมีชาวฝรั่งเศสได้เข้ามาขอสัมปทานทำเหมืองแร่ทองคำบริเวณเทือกเขาลีซอ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลโต๊ะโมะ มีราษฎรอพยพเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก ทางราชการจึงได้พิจารณาจัดตั้งกิ่งอำเภอนี้ขึ้นมาเพื่อสะดวกในการปกครอง ดูแลผลประโยชน์ของทางราชการในการจัดเก็บภาษีอากรและให้บริการประชาชน โดยแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 ตำบล คือ ตำบลโต๊ะโมะและตำบลมาโมง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2482 เกิดสงครามอินโดจีนขึ้น ชาวฝรั่งเศสเจ้าของกิจการเหมืองแร่ทองคำได้หนีภัยสงคราม จึงทิ้งเหมืองแร่ทองคำ ดังนั้นรัฐบาลไทยโดยกรมโลหะกิจ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้แต่งตั้งพระอุดมธรณีศาสตร์ มาเป็นผู้ดำเนินการเหมืองแร่ทองคำดังกล่าวแทน ประมาณปีเศษเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในบริเวณเหมืองแร่ทองคำ และต่อมาได้ล้มเลิกกิจการไป คนไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ได้อพยพออกหมด
ต่อมาใบปี พ.ศ. 2506 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กรมประชาสงเคราะห์จัดตั้งนิคมพัฒนาตนเองภาคใต้ จังหวัดนราธิวาส เพื่ออพยพราษฎรที่มีฐานะยากจนและไม่มีที่ดินทำกินจากท้องที่ต่าง ๆ เข้ามาประกอบอาชีพ เขตนิคมคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอสุคิรินและอำเภอจะแนะ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2520 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้ง กิ่งอำเภอสุคิริน ขึ้น ประกอบด้วย 2 ตำบล คือ ตำบลมาโมงและตำบลสุคิริน และเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2529 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศยกฐานะกิ่งอำเภอสุคิรินเป็น อำเภอสุคิริน จนถึงปัจจุบัน
คำว่า "สุคิริน" เป็นชื่อตำหนักที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชทานเมื่อคราวเสด็จมาประทับแรม เมื่อปี พ.ศ. 2510 ซึ่งหมายความว่า "พรรณไม้งามเขียวชอุ่ม" ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชทานเพื่อความเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยป่าและภูเขา มีพรรณไม้นานาชนิดขึ้นอยู่อย่างงดงาม
ภูมิศาสตร์
อำเภอสุคิรินตั้งอยู่ทางตอนล่างด้านใต้สุดของจังหวัดนราธิวาส มีสภาพเป็นป่าและภูเขาโอบล้อมรอบ มีเนื้อที่ประมาณ 577 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 323,125 ไร่ โดยเกือบทั้งหมดอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองสุคิริน อำเภอสุคิรินอยู่ห่างจากตัวจังหวัดนราธิวาสประมาณ 120 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ และอำเภอสุไหงปาดี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอสุไหงปาดีและอำเภอแว้ง
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเยอลี รัฐกลันตัน และอำเภอฮูลูเปรัก รัฐเปรัก (ประเทศมาเลเซีย)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอฮูลูเปรัก รัฐเปรัก (ประเทศมาเลเซีย) และอำเภอจะแนะ
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นภูเขาสูงชันและป่าทึบ มีที่ราบระหว่างภูเขาบ้างเล็กน้อย ลักษณะดินมีความอุดมสมบูรณ์ สภาพพื้นที่เป็นเทือกเขามีเทือกเขาที่สำคัญ ได้แก่
- เทือกเขาตูแว กั้นพรมแดนระหว่างอำเภอสุคิรินกับอำเภอจะแนะ และอำเภอสุไหงปาดี
- เทือกเขาบาตูกาเตาะ กั้นพรมแดนระหว่างอำเภอสุคิรินกับประเทศมาเลเซีย
- เทือกเขาบาลา กั้นพรมแดนระหว่างอำเภอสุคิรินและอำเภอแว้ง และประเทศมาเลเซีย เป็นต้นน้ำของแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโกลก
พื้นที่การใช้ประโยชน์มีทั้งหมด 319,849 ไร่ เป็นพื้นที่ป่า 246,129 ไร่ พื้นที่ถือครองทางการเกษตรจำนวน 81,648 ไร่ พื้นที่ทำการเกษตรจริง 72,256 ไร่ โดยการถือครองที่ดินในอำเภอสุคิริน ส่วนใหญ่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ โดยจะมีเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ของทางนิคมสร้างตนเอง และทางนิคมได้ออกเอกสารสิทธิ ซึ่งได้นำมาเปลี่ยนเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้ว มีจำนวนเพียง 156 แปลงเท่านั้น
ลักษณะภูมิอากาศ
อำเภอสุคิริน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือจากมหาสมุทรอินเดีย ประกอบกับพื้นที่ทั่วไป เป็นภูเขาสูงชันและป่าทึบจึงทำให้มีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี มีฤดูกาลเพียง 2 ฤดู คือ
- ฤดูร้อน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ เดือนมกราคม - เมษายน ช่วงร้อนที่สุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 30 C ปริมาณน้ำฝน 50 มม.
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม - ธันวาคม ฝนจะตกชุกในเดือนกันยายน - ธันวาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 20 C ปริมาณน้ำฝน 265 มม.
แม่น้ำและคลอง
แม่น้ำสายบุรี มีต้นกำเนิดจากคลองเล็กๆหลายสายในเขตเทือกเขาสันกาลาคีรีรวมกัน และไหลลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีคลองสาขาที่สำคัญ ได้แก่
- คลองไอร์ตากอ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย บริเวณหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 12 และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองกือซา คลองไอร์ตูงอ และคลองไอร์กือซา
- คลองน้ำตกซอย 3 หรือคลองประปา มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี บริเวณบ้านน้ำตก และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์กาบู มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี บริเวณเขาแม่วัว และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองซอยปราจีน และคลองเขาแม่วัว
- คลองไอร์จือบอ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์จานูแวะ ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองน้ำใส ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์ยามู มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองไอร์โซ และคลองเกียร์
- คลองสอวอ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองไอร์มือตอ
- คลองไอร์กาเป๊ะ ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์กานัว มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์กาเน๊ะ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรีมีคลองสาขา ได้แก่ คลองปารี
- คลองไอร์แซะ ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองของ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด และไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี
- คลองไอร์ตีมุง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย และไหลไปรวมกับคลองไอร์ยาเด๊ะ เป็นแม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองไอร์ปาโจ คลองไอร์จือโกะ คลองไอร์จือรี คลองไอร์ปาโจ คลองไอร์จือรง และคลองโต๊ะโม๊ะ
- คลองไอร์ยาเด๊ะ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย และไหลไปรวมกับคลองไอร์ตีมุง เป็นแม่น้ำสายบุรี มีคลองสาขา ได้แก่ คลองไอร์บือแน และคลองไอร์ดาลอ
แม่น้ำสุไหงโกลก มีต้นกำเนิดจากป่าบาลา เป็นเขตแดนทางธรรมชาติกั้นระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ไหลผ่านอำเภอแว้ง อำเภอสุไหงโกลก และลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีคลองไอร์กาดิง เป็นคลองสาขาที่อยู่ในเขตอำเภอสุคิริน
นอกจากนี้ยังมีคลองบือแจง ซึ่งเกิดจากคลองไอร์มาโก๊ะ กับคลองกูยิ ไหลมารวมกัน มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบูโด ไหลรวมกับลำน้ำสาขาต่างๆ จนกลายเป็นคลองตันหยงมัสและไหลลงสู่แม่น้ำบางนราและอ่าวไทยที่อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอสุคิรินแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 5 ตำบล 41 หมู่บ้าน ได้แก่
ตำบลสุคิริน | ตำบลมาโมง | ตำบลเกียร์ | ตำบลภูเขาทอง | ตำบลร่มไทร |
1.บ้านไอร์กาบู | 1.บ้านกะลุบี | 1.บ้านเกียร์ | 1.บ้านไอปาโจ | 1.บ้านลุโบะลาเซาะ |
2.บ้านสอวอนอก | 2.บ้านยาเด๊ะ | 2.บ้านไอร์ยามู | 2.บ้านภูเขาทอง | 2.บ้านบาลูกายาอิง |
3.บ้านกม.3 | 3.บ้านสายปารีย์ | 3.บ้านน้ำใส | 3.บ้านโต๊ะโม๊ะ | 3.บ้านไอดีแย |
4.บ้านราษฎรสามัคคี | 4.บ้านไอตีมุง | 4.บ้านทรงคีรี | 4.บ้านไอกาเปาะ | 4.บ้านกูยิ |
5.บ้านน้ำตก | 5.บ้านไอจือเราะ | 5.บ้านสายบริษัท | 5.บ้านโนนสมบูรณ์ | 5.บ้านไผ่งาม |
6.บ้านลีนานนท์ | 6.บ้านสายเอก | 6.บ้านชุมทอง | ||
7.บ้านสันติ | 7.บ้านไอปูลง | 7.บ้านต้นทุเรียน | ||
8.บ้านราษฎร์ผดุง | 8.บ้านสอวอใน | 8.บ้านวังน้ำเย็น | ||
9.บ้านราษฎร์ประสาน | 9.บ้านราษฎรพัฒนา | |||
10.บ้านรักธรรม | 10.บ้านสามซอย | |||
11.บ้านซอยปราจีน | ||||
12.บ้านน้อมเกล้า | ||||
13.บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอสุคิรินประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลสุคิริน ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลสุคิริน ตำบลมาโมง และตำบลเกียร์
- องค์การบริหารส่วนตำบลมาโมง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมาโมง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลสุคิริน)
- องค์การบริหารส่วนตำบลสุคิริน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสุคิริน (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลสุคิริน)
- องค์การบริหารส่วนตำบลเกียร์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกียร์ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลสุคิริน)
- องค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลภูเขาทองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลร่มไทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลร่มไทรทั้งตำบล
ประชากร
ประชากรตามสถิติทะเบียนราษฎร์ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2560 มีจำนวน 26,258 คน หลังคาเรือน 8,561 หลัง
- ชาย 13,412 คน
- หญิง 12,846 คน
- ความหนาแน่นเฉลี่ย 51.18 คน / ตารางกิโลเมตร
- ความหนาแน่นของบ้านต่อพื้นที่ 16.68 หลังคาเรือน / ตร.กม.
เศรษฐกิจ
- การเกษตรกรรม มีพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 81,648 ไร่ ครอบครัวเกษตร 3,623 ครอบครัว สภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ยางพารา (57,455 ไร่) เงาะ (4,538 ไร่) ลองกอง (39,173 ไร่) ทุเรียน (3,242 ไร่) มังคุด (1,346 ไร่) สะตอ (877 ไร่)
- การปศุสัตว์ ได้แก่การเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ สุกร ไก่ เป็ด ห่าน
- การพาณิชย์ มีสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ 1 แห่ง มีธนาคาร 1 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน สาขาสุคิริน และมีสหกรณ์ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ จำนวน 1 แห่ง คือ สหกรณ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
สถานที่ราชการ
- ที่ว่าการอำเภอสุคิริน
- ที่ทำการนิคมสร้างตนเองสุคิริน
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสุคิริน
- สถานีตำรวจภูธรสุคิริน
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาสุคิริน
- สำนักงานเกษตรอำเภอสุคิริน
- หมวดทางหลวงสุคิริน แขวงทางหลวงนราธิวาส
- โครงการไฟฟ้าพลังน้ำไอกาเปาะ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1 แห่ง
- โรงพยาบาลสุคิริน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 9 แห่ง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สว.นอก
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กะลูบี
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จุฬาภรณ์พัฒนา ๑๒
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ภูเขาทอง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่มไทร
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านน้ำตก
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไอยามู
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่มเกล้าพยาบาล
- สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ไอปาโจ
โรงเรียนมัธยมศึกษา 1 แห่ง
- โรงเรียนสุคิรินวิทยา
สถาบันอาชีวะศึกษา 1 แห่ง
- ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอสุคิริน สาขาวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส
โรงเรียนประถมศึกษา (ขยายโอกาสทางการศึกษา) 4 แห่ง
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๒
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๑๐
- โรงเรียนรักไทย
- โรงเรียนบ้านบาลูกายาอิง
โรงเรียนประถมศึกษา 11 แห่ง
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๔
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๕
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๖
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๗
- โรงเรียนนิคมพัฒนา ๙
- โรงเรียนสุคิริน
- โรงเรียน ตชด. บ้านลีลานนท์
- โรงเรียนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา ๑๒
- โรงเรียนบ้านร่วมใจ
- โรงเรียนบ้านน้ำใส
- โรงเรียนภูเขาทอง
ศาสนสถาน
วัดและสำนักสงฆ์
- วัดสุคิรินประชาราม
- วัดชลภูผาวนาราม (วัดไอร์ตีมุง)
- วัดสุวรรณบรรพต (วัด ก.ม.10)
- วัดลีนานนท์ (วัดไอร์ตากอร์)
- วัดโต๊ะโมะ
- วัดป่าชุมทอง
- วัดพลับพลาวนาราม
- สำนักสงฆ์สายสุวรรณาราม (ไอร์ปาโจ)
- สำนักสงฆ์พระธาตุภูเขาทอง
- สำนักสงฆ์ต้นทุเรียน
- สำนักสงฆ์บ้านโนนสมบูรณ์
- สำนักสงฆ์อีสานสามัคคีใต้
- สำนักสงฆ์บ้านราษฎร์ผดุง
- สำนักสงฆ์วังน้ำเย็น
- สำนักสงฆ์บ้าน สอ วอ ใน
มัสยิด
- มัสยิดอัลอิคลัธ
- มัสยิดดารุลอิสลมมียะห์
- มัสยิดนูรุลฮีมายะห์
- มัสยิดดารุลอามาน
- มัสยิดซาฟีนาตุลอาคีเราะห์
- มัสยิดดารุลอามาน
- มัสยิดยามิลอุลอิสลามี
- มัสยิดอัตตักวา
- มัสยิดดารุลฟาละห์
- มัสยิดนูรุลฮีดายะห์
- มัสยิดเราะห์มาตุลซาลามียะห์
- มัสยิดดารุลมุนตาฮา
- มัสยิดนูรุลฮูดา
- มัสยิดอัลฮาดี
- มัสยิดดารุลฮูดา
- มัสยิดอัลฮีดายาตุลอัสลามี
- มัสยิดรอวียะห์
- มัสยิดไอร์ยามู
- มัสยิดคอย์รียะห์
- มัสยิดอัลมูเนาวาเราะห์
- มัสยิดอัสสอฮาบะห์
- มัสยิดอีดายะห์
- มัสยิดตัสดีกียะห์
- มัสยิดนูรุลอิสลาม
- มัสยิดดารุลฟาละห์
- มัสยิดจือบอ
- มัสยิดดารุลอามาน
โบสถ์
- โบสถ์คริสตจักร
ศาลเจ้า
- ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ
สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ
- ตำหนักสุคิริน เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพื้นที่ประกอบด้วยตัวอาคารที่ประทับ และพระบรมนุสาวรีย์พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
- เหมืองทองคำโต๊ะโม๊ะ เปิดดำเนินการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2475 ปัจจุบันได้เลิกดำเนินกิจการแล้ว แต่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาธรรมชาติ
- พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา ๑๒ เป็นแหล่งรวบรวมภาพถ่าย อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ของอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา กรม 10
- ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ มีการตั้งศาลขึ้นบริเวณใกล้เหมืองทองคำโต๊ะโม๊ะ เป็นที่เคารพนับถือทั้งชาวไทย จีน มาเลเซีย
- สำนักสงฆ์พระธาตุภูเขาทอง เป็นวัดที่สร้างอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดชมทะเลหมอก และบ้านพัก(ของเอกชน)ไว้บริการนักท่องเที่ยว
- จุดผ่อนปรนชายแดนไทย - มาเลเซีย มีหลักมุดเขตแดนไทย-มาเลเซีย และสามารถเห็นป้อมสังเกตการณ์ของทหารฝั่งมาเลเซียได้แบบใกล้ชิด
- ลานหินขาวบ้านสามซอย เป็นจุดชมวิวและจุดกางเต๊นท์ที่นิยมจุดหนึ่งในสุคิริน
- ผาสน ภูเขาทอง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา บาลา เป็นจุดชมทะเลหมอก และเส้นทางเดินป่าที่นักท่องเที่ยวนิยมจุดหนึงในสุคิริน
- ฟาร์มตัวอย่าง ฯ บ้านไอปาโจ เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยนำเอาปรัญญาเศษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 มาปรับใช้
- ผานับดาว บ้านราษฏร์ประสาน เป็นจุดชมทะเลหมอกและจุดกางเต๊นท์ที่นิยมจุดหนึ่งในสุคิริน
- โครงการนาข้าวขั้นบันไดบ้านยาเด๊ะ อันเนื่องพระราชดำริ เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2527 เป็นแหล่งเรียนรู้การทำนาในที่สูง และศึกษาการปรัญญาเศษฐกิจพอเพียง
- น้ำตกศรีทักษิณ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา บาลา ใกล้กับสำนักสงฆ์พระธาตุภูเขาทอง
- อ่างเก็บน้ำเขาสำนัก
- ต้นกระพงษ์ยักษ์ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา บาลา อยู่ระหว่างเส้นทางไปน้ำตกศรีทักษิณ อายุกว่า 100 ปี ลำต้นขนาด 25 เมตร หรือราว 27 คนโอบสูง 30 เมตร
- เนินพิศวง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา บาลา เนินเขานี้มองมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นทางลาดเอียง สามารถทดสอบโดยการนำรถจอดในที่ต่ำ แต่รถจะเคลื่อนที่ขึ้นไปที่สูงกว่า
อ้างอิง
- ประพนธ์ เรืองณรงค์. "บทผนวกเกียรติยศ". ใน รัฐปัตตานีใน "ศรีวิชัย" เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยในประวัติศาสตร์. สุจิตต์ วงษ์เทศ (บรรณาธิการ). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:มติชน. 2547, หน้า 353