อำเภอไพศาลี
ไพศาลี เป็นอำเภอในจังหวัดนครสวรรค์ และเป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัด
อำเภอไพศาลี | |
---|---|
คำขวัญ: หลวงพ่อโอนลือนาม หลวงพ่อดำลือเลื่อง เมืองเก่าเวสาลี หน่อไม้ดีรสหวาน ตำนานเขาหินกลิ้ง งามยิ่งรอยพระพุทธบาท สวนรุกขชาติซับสมบูรณ์ | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 15°35′51″N 100°39′29″E / 15.59750°N 100.65806°E | |
อักษรไทย | อำเภอไพศาลี |
อักษรโรมัน | Amphoe Phaisali |
จังหวัด | นครสวรรค์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 979 ตร.กม. (378 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2563) | |
• ทั้งหมด | 70,276 คน |
• ความหนาแน่น | 71.78 คน/ตร.กม. (185.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 60220 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 6009 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอไพศาลี เลขที่ 500 หมู่ที่ 8 ตำบลไพศาลี อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ 60220 |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอไพศาลีเป็นอำเภอหนึ่งใน 15 อำเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตัวจังหวัดห่างจากจังหวัดประมาณ 70 กิโลเมตร การติดต่อกับจังหวัดใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3004 (ถนนสายนครสวรรค์ – ท่าตะโก – ไพศาลี)
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอหนองบัว
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี (จังหวัดเพชรบูรณ์) และอำเภอโคกเจริญ (จังหวัดลพบุรี)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอโคกเจริญ อำเภอหนองม่วง (จังหวัดลพบุรี) อำเภอตากฟ้า และอำเภอท่าตะโก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอท่าตะโก
ประวัติ
อำเภอไพศาลีเป็นเมืองเก่าโบราณสมัยขอมเรืองอำนาจในดินแดนสุวรรณภูมิมีซากวัตถุโบราณปรากฏให้เห็น เช่น อุโบสถ วิหาร หอสมุด กุฏิฤๅษี พระพุทธปฏิมากร ระฆัง จอมปราสาท สระแก้ว สระขวัญ ฯ ในท้องที่หมู่ที่ 5 (บ้านหนองไผ่) หมู่ที่ 9 (บ้านพระพุทธบาท) ตำบลสำโรงชัย ประมาณว่ามีอายุราวปีพุทธศักราช 1204
นอกจากนี้ยังขุดพบซากโครงกระดูกมนุษย์โบราณ พร้อมทั้งเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ขวานหิน ขวานสัมฤทธิ์ ลูกธนูสัมฤทธิ์ หม้อดิน และเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น กำไล ลูกปัด ต่างหู ที่บ้านหมู่ที่ 5 (บ้านโพธิ์ประสาท) ตำบลโพธิ์ประสาท และบริเวณหมู่บ้าน ใกล้เคียง ถือเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดที่เคยขุดพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรได้มาตรวจสอบแล้ว ประมาณว่ามี อายุราว 4,000 - 6,000 ปี ใกล้เคียงกับที่ขุดพบที่บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานีนอกจากนี้ยังพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ พร้อมทั้งอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ประปรายที่บ้านเขาหินกลิ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลวังน้ำลัด และ บ้านประจันตคีรี หมู่ที่ 6 ตำบลนาขอม อำเภอไพศาลีเป็นเมืองเก่าโบราณสมัยขอมเรืองอำนาจ คือ "เมืองเวสาลี" หรือ "เมืองไผ่สาลี" และเพี้ยนมาเป็น "ไพศาลี" อำเภอไพศาลีเดิมขึ้นอยู่กับอำเภอท่าตะโก จัดตั้งเป็น กิ่งอำเภอไพศาลี เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2505 และได้ยกฐานะขึ้นเป็น อำเภอไพศาลี เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2508
ประชาการ/ศาสนา
อำเภอไพศาลี มีจำนวนประชากรทั้งสิ้นประมาณ 71,581คน แยกเป็นชายประมาณ 35,419 คน และหญิงประมาณ 36,162 คน ประชาชนส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ ประมาณร้อยละ 99.84 ศาสนาอื่น ร้อยละ 0.16
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอไพศาลี แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 8 ตำบล 101 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | โคกเดื่อ | (Khok Duea) | 9 หมู่บ้าน | 7. | นาขอม | (Na Khom) | 11 หมู่บ้าน | ||||
2. | สำโรงชัย | (Samrong Chai) | 21 หมู่บ้าน | 8. | ไพศาลี | (Phaisali) | 8 หมู่บ้าน | ||||
3. | วังน้ำลัด | (Wang Nam Lat) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||
4. | ตะคร้อ | (Takhro) | 18 หมู่บ้าน | ||||||||
5. | โพธิ์ประสาท | (Pho Prasat) | 13 หมู่บ้าน | ||||||||
6. | วังข่อย | (Wang Khoi) | 11 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอไพศาลีประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 9 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลไพศาลี ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลโคกเดื่อ และบางส่วนของตำบลไพศาลี
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเดื่อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกเดื่อ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลไพศาลี)
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงชัย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสำโรงชัยทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังน้ำลัด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังน้ำลัดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตะคร้อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตะคร้อทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประสาท ครอบคลุมพื้นที่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังข่อย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังข่อยทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาขอม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาขอมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลไพศาลี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไพศาลี (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลไพศาลี)
การศึกษา
อำเภอไพศาลีเป็นที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 3
อำเภอไพศาลีมีสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ดังนี้
- โรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ 40 โรงเรียน จำนวนนักเรียนประมาณ 6,050 คนจำนวนครูประมาณ 375 คน
- โรงเรียนมัธยมศึกษา 3 โรงเรียน จำนวนนักเรียนประมาณ1,770คน จำนวนครูประมาณ80คน
- โรงเรียนเอกชน 5 โรงเรียนจำนวนนักเรียนประมาณ3,220คน จำนวนครูประมาณ120คน
- โรงเรียนปริยัติธรรมแผนกสามัญ 1 แห่ง จำนวนนักเรียนประมาณ180คน จำนวนครูประมาณ8คน
- ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอไพศาลี
- ศูนย์การเรียนชุมชน8แห่ง (ตำบลละ 1 แห่ง)
- สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน
โรงเรียนระดับประถมศึกษา
- โรงเรียนอนุบาลไพศาลี(โคกเดื่อประชาสรรค์)
- โรงเรียนบ้านโคกสามัคคี
- โรงเรียนบ้านใหม่วารีเย็น
- โรงเรียนวัดสำโรงชัย
ฯลฯ
โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
- โรงเรียนไพศาลีพิทยา
- โรงเรียนตะคร้อพิทยา
- โรงเรียนวังข่อยพิทยา
สภาพสังคมวัฒนธรรม
อำเภอไพศาลี เรียกได้ว่า เป็นเมืองพุทธ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แม้ประชาชนจะตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างๆ กัน แต่สังคมไพศาลีจะเป็นสังคมที่มีความสนิทชิดใกล้ รู้จักกัน มีความโอบอ้อมอารีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงามและสืบทอดมายังปัจจุบันให้คนรุ่นหลังได้ร่วมหวงแหนและอนุรักษ์ไว้สืบไป อาทิเช่น ประเพณีก่อเจดีย์ข้าวเปลือก ทำขวัญข้าว ของหมู่บ้านห้วยตะโก , ประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลนาขอม,ประเพณีกวนข้าวทิพย์
เศรษฐกิจ/การประกอบอาชีพ
ด้านเกษตร
ประชาชนส่วนมากประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นหลัก ได้แก่ การทำนา ทำไร่ พืชที่ปลูกได้แก่ข้าว ข้าวโพด ข้างฟ่าง รองลงมาได้แก่มันสำปะหลัง ถั่ว ทานตะวัน การเลี้ยงโค กระบือ สุกร ไก่ และปลา การทำเกษตรกรรมอาศัยน้ำฝนแต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีระบบชลประทาน ไม่มีแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม มีการรวมกลุ่มสหกรณ์เพื่อการเกษตร มีพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 465,328 ไร่ แยกได้ดังนี้
- ทำนา 274,579ไร่
- ทำไร่158,916ไร่
- ไม้ผล-พืชผัก3,613ไร่
- ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์6,110ไร่
- พื้นที่อื่น146,833 ไร่
ข้อมูลการผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ปี 2559
- พื้นที่ปลูกข้าวนาปี 274,579ไร่
- พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง36,886ไร่
- พื้นที่ปลูกข้าวโพด68,044 ไร่
- อ้อยโรงงาน17,270 ไร่
ด้านการพาณิชย์
มีแหล่งธุรกิจการพาณิชย์ คือ ตลาดโคกเดื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบล ไพศาลีและบางส่วนในตำบลและหมู่บ้าน มีธนาคาร 4 แห่ง คือ
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)สาขาไพศาลี
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)สาขาบ้านหนองไผ่
- ธนาคารออมสินสาขาไพศาลี
- ธนาคารธนชาติสาขาไพศาลี
ด้านอุตสาหกรรม
อำเภอไพศาลีมีโรงสีขนาดใหญ่ 6โรง โรงสีขนาดเล็ก10โรง
การรวมกลุ่มอาชีพ
– โครงการหนึ่งตาบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ประกอบด้วย
กลุ่มผลไม้เผาดูดกลิ่นบ้านหนองยอเหนือ หมู่ที่ 13 ตำบลโพธิ์ประสาท
กลุ่มจักสานตะกร้าหวายบ้านหนองปลาย หมู่ที่ 7 ตำบลโพธิ์ประสาท
กลุ่มแปรรูปหน่อไม้บ้านคีรีล้อม หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ประสาท
กลุ่มกระยาสารทบ้านผักแว่น หมู่ที่ 13 ตำบลตะคร้อ
กลุ่มแกะสลักตอไม้โคกเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกเดื่อ
กลุ่มทำสมุนไพรบ้านโคกเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกเดื่อ
กลุ่มกระเป๋าเชือกฝางบ้านเขาหินกลิ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลวังน้ำลัด
กลุ่มประติมากรรมกระดาษบ้านโพธิ์ศรี หมู่ที่ 6 ตำบลวังน้ำลัด
กลุ่มปุ๋ยชีวภาพบ้านสระแก้ว หมู่ที่ 11 ตำบลสำโรงชัย
กลุ่มเพาะเห็ดฟางบ้านสระแก้ว หมู่ที่ 11 ตำบลสำโรงชัย
กลุ่มจักสานที่รองบาตรพระบ้านตะคร้อลาด หมู่ที่ 10 ตำบลสำโรงชัย
กลุ่มดอกไม้ใยบัวบ้านหนองสะแกยาว หมู่ที่ 5 ตำบลวังข่อย
กลุ่มน้ำส้มควันไม้ยูคาลิปตัสบ้านซับสมบูรณ์ หมู่ที่ 6 ตำบลวังข่อย
กลุ่มจักสานตะกร้าเชือกฟางบ้านวังข่อย หมู่ที่ 1 ตำบลวังข่อย
การสาธารณสุข
มีโรงพยาบาลชุมชนอำเภอไพศาลี1แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลไพศาลี มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 15 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง ร้านขายยา 10 ร้าน
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มีเขตป่าสงวนแห่งชาติที่สำคัญ 2 แห่ง ได้แก่
- ป่าสงวนแห่งชาติเขาคอก เขานางโลม และเขาสอยดาว เนื้อที่ 105,600 ไร่ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2526 ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 1013 (พ.ศ. 2526 )อยู่ในท้องที่ ตำบลไพศาลี ตำบลวังข่อย ตำบลสำโรงชัย และตำบลตะคร้อ
- ป่าสงวนแห่งชาติเขาสูง เขาพระ เนื้อที่ 8,000 ไร่ ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2538 ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 1239 (พ.ศ. 2538)อยู่ใน ท้องที่ตำบลวังนำลัด
สถานที่ท่องเที่ยว
- หลวงปู่โอน ฐิตปัญโญ ศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เป็นพระอาจารย์ที่มีปฏิปทาสูงในสายปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อเดิมนั้น มีอยู่อย่างมากมายเหมือนกับสายปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ผู้แสวงหาความหลุดพ้นโดยแท้สำหรับหลวงพ่อเดิมผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่โอนนั้น ท่านมีฐานานุกรมเป็นพรครูนิวาสธรรมขันธ์และเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเฮง วัดเขาดินพระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมที่หาผู้เปรียบมิได้ในรัชกาลที่ 5 หลวงปู่โอน ฐิตปัญโญ จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากหลวงพ่อเดิม ทุกอย่างประวัติหลวงปู่ โอน วัดโคกเดื่อได้กล่าวไว้ว่า หลวงปู่โอนท่านเกิดเมื่อเดือนอ้าย ปี พ.ศ. 2449 ที่บ้านโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัด นครสวรรค์ โยมบิดา ชื่อ นายจันทร์ โยมมารดาชื่อ จัด เป็นชาวนามาแต่บรรพบุรุษและมีการประกอบในทางค้าขายเป็นบางครั้ง ในสมัยยังหนุ่มนั้นหลวงปู่โอนท่านมักชอบผจญภัยไปในที่ต่างๆเพราะชีวิตของท่านชอบเดินทางและชอบที่จะไปศึกษาวิชาอาคมจากอาจารย์ต่างๆทั้งที่เป็นฆราวาสและบรรพชิต
- การเดินทาง วัดโคกเดื่อ สถานที่ซึ่งพระครูนิมิตรพุทธิสาร (หลวงพ่อโอน) ใช้ปฏิบัติธรรมและทำวัตรอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอตั้งอยู่ที่ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
- หลวงพ่อดำ วัดสระทะเล เป็นโบราณสถานที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีดำ ทราบตามคำสันนิษฐานของกรมศิลปากรว่าสร้างในสมัยสุโขทัย มีอายุประมาณ 700 ปีเศษ เล่าขานกันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีผู้คนมาบนบานสานกล่าวกันเป็นจำนวนมาก และเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป
**การเดินทาง หลวงพ่อดำประดิษฐานอยู่ที่วัดสระทะเล ตำบลโคกเดื่อ อำเภอ ไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
- เมืองเก่าเวสาลี ความเก่าแก่ของเมืองเก่าเวสาลีที่ปรากฏหลักฐานจากการสำรวจของกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2511 สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยทวารวดี โดยมีลักษณะเป็นเมืองสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุมมน มีกำแพงดินสองชั้น มีคูเมืองคั่นกลาง ยาวประมาณ 700 เมตร กว้าง 500 เมตร และเป็นเมืองที่มีพัฒนาการผ่านหลายยุคหลายสมัยโดยสามารถอ้างอิงได้จากหลักฐานที่ขุดค้นพบ กล่าวกันว่ากลุ่มเมืองเวสาลีนั้นน่าจะมีชุมชนมาตั้งหลักแหล่ง มานานแล้วตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย และได้พัฒนาสู่การเป็นชุมชนคูน้ำคันดินในสมัยทวารวดี ครั้นในสมัยละโว้ เมืองเวลาสีก็เคยเป็นเมืองหน้าด่านเล็กๆ ในสมัยนั้น โดยปรากฏหลักฐานซากวัตถุโบราณต่างๆ เช่น พระปรางค์ หอสมุด และพระพุทธรูปขอมโบราณ ราว พ.ศ. 1100-1400 อันเป็นช่วงเวลาที่ขอมเรืองอำนาจ ในแคว้นสุวรรณภูมิ แผ่ขยายอิทธิพลไปในแคว้นโคตรบูร แคว้นโยนก และแคว้นทวารวดี โดยมีกรุงละโว้เป็นราชธานี ซึ่งเมืองเวสาลีนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยนั้น และมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับกรุงสุโขทัย นครโยนก เมืองโอฆะบุรี และเมืองศรีเทพ โดยที่เมืองเหล่านี้เป็นเมืองหน้าด่านของกรุงละโว้ทั้งสิ้น ต่อมาเมืองเวสาลีตกอยู่ภายใต้ การปกครองของกรุงสุโขทัย และถูกปล่อยร้างมานานถึง 400 ปี จนถึง พ.ศ. 2199 สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์เมืองละโว้ขึ้นเป็นราชธานีอีกแห่งหนึ่งโดยให้ชื่อเมืองลพบุรี เนื่องจากพระองค์ทรงดำริเห็นว่า หัวเมืองฝ่ายเหนือยังไม่สงบลงได้ง่าย เพราะมีพม่าคอยหนุนหลัง ดังนั้นบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มทำนาข้าวได้ดี เหมาะแก่การตั้งกองรักษาด่านไว้เพื่อป้องกันข้าศึกทางฝ่ายล้านนา จึงได้บูรณะเมืองเวสาลีขึ้นใหม่ ซึ่งในปีพ.ศ. 2539 ได้มีการขุดค้นพบโบราณสถานทางด้านตะวันออกของเมือง ซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย มีทั้งอุโบสถ มณฑป วิหาร และเจดีย์
- ที่ตั้ง หมู่ที่5 ตำบลสำโรงชัย
- เขาหินกลิ้ง บริเวณที่เป็นหลักชัยกลิ้งหิน ปัจจุบันมีหินก้อนกลมใหญ่สองก้อนขนาดเท่าๆ กันอยู่กลางทุ่งนา ณ บ้านเขาหินกลิ้ง ตำบลวังน้ำลัด อำเภอไพศาลี ส่วนเมืองไผ่สาลี ก็คือ บ้านหนองไผ่ อำเภอไพศาลี เมืองจำคา ก็คือ บ้านดอนคา อำเภอท่าตะโก และเมืองปัจจันตคาม ก็คือ บ้านเขาข้างพุ่ม อำเภอไพศาลี นั่นเอง
- การเดินทาง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ บ้านเขาหินกลิ้ง ตำบลวังน้ำลัด อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
- รอยพระพุทธบาท วัดเขาพระบาท ตำบลสำโรงชัย มีลักษณะเป็นแผ่นหินชนวนสีเขียวแกะสลัก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระยาลิไท แห่งกรุงสุโขทัย จากเอกสารที่มีผู้บันทึกไว้ทำให้ทราบว่า รอยพระพุทธบาทนี้ได้อัญเชิญมาจากกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พร้อมกับผู้คนที่เกณฑ์มาสร้างเมืองเวสาลี โดยได้นำไปประดิษฐานไว้บนยอดเขา แล้วสร้างวิหารครอบภูเขาลูกนี้ คือที่ตั้งของวัดพระพุทธบาท ตำบลสำโรงชัยในปัจจุบัน พระครูนิมุตพัฒนาทร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทบริเวณวัดอีกรอยหนึ่ง มีลักษณะเป็นรอยพระพุทธบาทประทับอยู่บนแผ่นหิน สร้างมณฑปครอบไว้ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่ส่วนยอด และมณฑ ปหลังนี้ยังได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นเมื่อ พ.ศ. 2537 จากสมาคมสถาปนิกสยาม และบริเวณทางเดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุ สันนิษฐานว่าเป็นฐานเจดีย์เก่า
- การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับเมืองเก่าตามถนนสายบ้านหนองไผ่-บ้านโคกเจริญ วัดพระพุทธบาทอยู่เลยจากทางแยกไปเมืองเก่าประมาณ 5 กิโลเมตร
- สวนรุกขชาติไพศาลี ซึ่งภายในสวนรุกขชาติเป็นที่ตั้งของน้ำตกซับสมบูรณ์เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสวยงามแฝงอยู่ท่ามกลางแมกไม้ เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตามร่องเขาโลมนาง โดยมีต้นน้ำลำธารมาจากขุนน้ำตก และส่วนหนึ่งมาจากต้นน้ำเทือกเขาสอยดาว ลักษณะน้ำตกมีจำนวน 7 ชั้น เป็นขนาดใหญ่ 4 ชั้น และเป็นแก่งเล็ก ๆ 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ในช่วงฤดูฝนของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมน้ำตกจำนวนมาก ซึ่งจะมีช่วงระยะเวลาการท่องเที่ยวในแต่ละปีประมาณ 3-4 เดือน ปัจจุบันได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางน้ำตก เพื่อให้ได้รับความรู้ทางพฤกษศาสตร์ป่าไม้ควบคู่กันไป
- ที่ตั้ง หมู่ที่6บ้านซับสมบูรณ์ ตำบลวังข่อย
- ทุ่งปอเทืองและทุ่งทานตะวัน สถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ของอำเภอไพศาลี สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆ เพื่อถ่ายรูป หรือสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติในช่วงหน้าหนาว ที่อากาศกำลังดี มีลมเย็นๆ ช่วยพัดไม่ให้ร้อนเกินไป มีทุ่งดอกไม้สีเหลืองท่ามกลางขุนเขา เหมาะแก่การถ่ายรูป เดินเล่นพักผ่อนกายใจให้สมองปลอดโปร่ง ต้องห้ามพลาดเที่ยวชมทุ่งปอเทืองและทุ่งทานตะวันของอำเภอไพศาลี ซึ่งเบ่งบานในฤดูหนาว โดยสามารถเที่ยวชมได้หลายจุดที่มีการเพาะปลูกกระจัดกระจายไปในตำบลโพธิ์ประสาทและด้วยความงดงามและสีสันเหลืองสดใสท่ามกลางธรรมชาตินี้เอง ทำให้ทุ่งปอเทืองและทุ่งทานตะวันอำเภอไพศาลี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในช่วงหน้าหนาว
- การเดินทาง บริเวณสองข้างถนนสายเกษตรชัย-ไพศาลี ในท้องที่ตำบลโพธิ์ประสาท
สถานที่สำคัญ
- หลวงพ่อดำ วัดสระทะเล
- วัดไพศาลี
- วัดโคกเดื่อ
- วัดหนองไผ่ไพศาลี
- น้ำตกซับสมบูรณ์
- อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่
- อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำลาด
- วัดพระพุทธบาทไพศาลี
- เมืองเก่าเวสาลี
- ตำนานเขาหินกลิ้ง
- วัดโคกมะขวิด
- วัดสำโรงชัย
- วัดโพธิ์ประสาท
- น้ำตกซับใหญ่
- วัดวังข่อยสามัคคีธรรม
บุคคลสำคัญ
พระเกจิอาจารย์/พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์
- พระครูนิมิตรพุทธิสาร (โอน ฐิตปัญโญ)อดีตเจ้าคณะอำเภอไพศาลี/เจ้าอาวาสวัดโคกเดื่อรูปที่ 3
- หลวงพ่ออ่อน เนออญญา เจ้าอาวาสวัดหนองไผ่ไพศาลี
- พระครูใบฎีกาโหมด
- พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทฺธสโร)
- หลวงพ่อทองดี อสฺสุสฺสโก วัดสำโรงชัยอดีตเจ้าอาวาสวัดสำโรงชัย
นักกีฬา
- อำพร หญ้าผา นักวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย