เจ้าฟ้าเสือดัง
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
สุดางฟ้า เป็นราชโอรสที่ติดมากับพระมเหสีรองของท้าวขำติ ซึ่งถูกลอยแพมาตามแม่น้ำพรหมบุตร กุนาภิรามกล่าวว่า กษัตริย์องค์นี้ทรงกระทำตามพระทัยตนเอง แต่ไม่มีตำนานบุรานชิ ฉบับใดยืนยันคำกล่าวนี้ รัชกาลของพระองค์เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ และพระองค์เองก็เคยออกนำหน้ากองทัพในการสู้รบอย่างน้อยที่สุดหนึ่งครั้ง
เจ้าฟ้าเสือดัง | |
---|---|
พระนามเต็ม | เจ้าฟ้าเสือดัง |
พระอิสริยยศ | เจ้าหลวงแห่งอาณาจักรอาหม |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์อาหม |
ครองราชย์ | ค.ศ. 1397-1407 |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
พระราชชนก | ท้าวคำถี่ |
ก่อนขึ้นครองราชย์
ประสูติ
สุดางฟ้าประสูติที่หมู่บ้านฮาบุง เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๒๕ ซึ่งพระราชมารดาสิ้นพระชนม์หลังพระองค์ประสูติได้ไม่นานนัก พราหมณ์ที่ให้การอุปการะแก่พระราชมารดาได้ให้ชื่อแก่พระองค์ว่า "สุดาง" และเลี้ยงดูมาพร้อมกับบุตรของเขา
เส้นทางสู่ราชบัลลังก์
จนกระทั่งพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ "ท้าวเชี่ยวแคน" ได้เดินทางมาพบพระองค์ และความได้ไปถึง บุรฮา โกฮาอิน ผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น พระองค์จึงเดินทางไปชารายเทโว และได้ราชบัลลังก์มาครอง
ขึ้นครองราชย์
แรกเริ่มครองราชย์
สุดางฟ้าได้เป็นกษัตริย์เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๔๐ ชันษาได้ 15ปี เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากพราหมณ์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงถูกขนานพระนามว่า "เจ้าชายพราหมณ์" และอิทธิพลของพราหมณ์ได้เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากในรัชกาลนี้ สุดางฟ้าได้สร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งที่โธลา และได้ย้ายราชธานีมาอยู่ที่ ชากุยะ ใกล้แม่น้ำทิหิง ซึ่งพราหมณ์ที่เลี้ยงดูพระองค์ได้เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิด และบุตรชายของเขาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญอยู่ชายแดน
แผนการกบฏ
หัวหน้าพวกทิปามกลุ่มหนึ่งไม่พอใจในระบอบการปกครองของพระองค์ ซึ่งเขาได้วางแผนการคิดร้ายต่อสุดางฟ้า แต่ข่าวได้ล่วงรู้ไปถึงพระกรรณเสียก่อน แต่แทนที่จะทรงจัดการโดยทันที พระองค์กลับรับสั่งให้สร้างเพนียดคล้องช้าง และเมื่อคล้องช้างได้บ้างแล้วก็จัดให้มีงานสมโภชน์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงเชิยผู้สบคบคิดการร้ายเหล่านี้มาร่วมด้วย และระหว่างงานฉลองนั้น ผู้คิดการร้ายทั้งหมดก็ถูกฆ่าตาย ศีรษะได้ถูกนำมากองไว้เป็นพะเนิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะตามประเพณีของอาหม
ความวุ่นวายที่ตามมา
หลังจากที่จัดการพวกคิดการร้ายเสร็จสิ้นแล้ว สุดางฟ้าได้มีพระราชประสงค์ที่จะเอาใจพวกทิปามที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งพระองค์ได้อภิเษกสมรสกับธิดาของหัวหน้าพวกทิปามคนหนึ่งชื่อ "ขุนไท" แต่หญิงสาวคนนี้มีชูรักอยู่แล้วชื่อ "ไท สุไล" ในงานเลี้ยงอาหารค่ำวันหนึ่ง ไท สุไลลอบส่งแหวนของตนไปให้คนรัก เมื่อสุดางฟ้าทรงทราบเรื่อง ก็ให้นำตัวไท สุไลมาสอบสวน แต่ไท สุไลได้หนีไปขอความช่วยเหลือจากสุรุมฟ้า กษัตริย์แห่งเมืองกัง
สงครามอาหม-เมืองกัง
สุรุมฟ้าได้ส่งบาร์ โกฮาอินของพระองค์ พร้อมด้วยกองทัพมารบกับสุดางฟ้า สุดางฟ้าตีข้าศึกพ่ายแพ้ใกล้กุหิอาร์บารี ในดินแดนของทิปาม ส่วนพระองค์เองถูกหอกบาดเจ็บเล็กน้อยในขณะที่ประทับบนคอช้างออกนำหน้ากองทัพ และบาร์ โกฮาอินแห่งอาหมรุกได้ไล่ข้าศึกไปจนถึงพัทกาย
สัญญาสงบศึก
ในที่สุดสัญญาสงบศึกก็ได้จัดทำขึ้นในปี พ.ศ. ๑๙๔๔ ซึ่งตกลงเอาพัทกายเป็นพรมแดนระหว่างประเทศทั้งสอง การเจรจาของบาร์ โกฮาอินของทั้งสองฝ่ายกระทำกันบนฝั่งทะเลสาบหนองยาง ห่างจากมาเกอริตาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 28 ไมล์ กล่าวกันว่า รูปของบุคคลทั้งสองถูกแกะสลักอยู่บนผาหิน ณ ที่นั้น ทั้งสองฝ่ายต่างให้สัตย์สาบานเป็นมิตรไมตรีต่อกัน และฆ่าลูกวัวตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องสังเวย
การบุกกามะตา
ไท สุไลหนีออกจากที่พักพิง หลบภัยไปพึ่งราชาแห่งกามะตา ซึ่งปฏิเสธไม่ยอมส่งตัวไท สุไลให้แก่สุดางฟ้า บาร์ โกฮาอินจึงยกกองทัพเข้าบุกกามะตา แต่ราชาแห่งกามะตาเลี่ยงสงคราม โดยยกธิดาชื่อ พัชนี ให้แก่สุดางฟ้า โดยมีสินสมรสประกอบด้วย ช้าง 2 เชือก ม้าหลายตัว และข้าทาส พร้อมด้วยเงินและทองเป็นจำนวนมาก
การปราบปรามชนเผ่าที่กระด้างกระเดื่อง
สุดางฟ้าทรงอุทิศเวลาที่เหลือทั้งหมดให้กับการปราบปรามชนเผ่าทิปาม คำจัง และไอทัน ซึ่งประมุขแต่ละเผ่าไม่ยอมถวายบรรณาการ ทั้งนี้เป็นเพราะได้รับความสนับสนุนจากราชาแห่งนะรา สุดางฟ้าส่งทูตไปเจรจากับราชาแห่งนะรามิให้ทรงกระทำเช่นนั้น ซึ่งฝ่ายหลังก็ปฏิบัติตาม สุดางฟ้าได้บอกกล่าวแก่ประมุขที่ขัดขืนเหล่านั้น มิให้หวังความช่วยเหลือจากนะราอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ประมุขเหล่านั้นจึงต้องยอมจำนนต่อสุดางฟ้า
สิ้นพระชนม์
สุดางฟ้าทรงสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. ๑๙๕๐ ทรงครองราชย์ได้ ๑๐ ปี มีพระชนม์รวม ๒๕ พรรษา
พระบรมวงศานุวงศ์
อ้างอิง
- พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ. งานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | เจ้าฟ้าเสือดัง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ว่างกษัตริย์ | กษัตริย์อาหม (พ.ศ. 1840 - พ.ศ. 1850) | สุจางฟ้า |