fbpx
วิกิพีเดีย

โครงสร้างของโลก

พฤศจิกายน 04, 2021

โครงสร้างภายในของโลกแบ่งเป็นชั้นในเปลือกทรงกลมคล้ายหัวหอม ชั้นเหล่านี้สามารถนิยามโดยคุณสมบัติทางเคมีหรือวิทยากระแส (rheology) ของมัน โลกมีเปลือกแข็งซิลิเกตชั้นนอก เนื้อโลกที่หนืดมาก แก่นนอกที่เหลวซึ่งหนืดน้อยกว่าเนื้อโลกมาก และแก่นในแข็ง ความเข้าใจโครงสร้างภายในของโลกอาศัยการสังเกตภูมิลักษณ์และการวัดความลึกของมหาสมุทร (bathymetry) การสังเกตหินในหินโผล่ ตัวอย่างซึ่งถูกนำสู่พื้นผิวจากชั้นที่ลึกกว่าโดยกิจกรรมภูเขาไฟ การวิเคราะห์คลื่นแผ่นดินไหวซึ่งผ่านโลก การวัดสนามความโน้มถ่วงของโลกและการทดลองกับของแข็งผลึกที่ลักษณะเฉพาะความดันและอุณหภูมิของภายในชั้นลึกของโลก

โครงสร้างของโลก

มวลของโลก

แรงกระทำโดยแรงโน้มถ่วงของโลกสามารถนำมาใช้ในการคำนวณหามวลของโลกและการประมาณค่าปริมาตรของโลกได้ ดังนั้นความหนาแน่น (density) เฉลี่ยของโลกก็จะสามารถคำนวณได้ นักดาราศาสตร์ยังสามารถคำนวณหามวลของโลกได้จากวงโคจรและผลกระทบต่อวัตถุที่วางอยู่บนดาวเคราะห์ในระยะใกล้เคียงได้

โครงสร้างของโลก

การแจกแจงค่าความหนาแน่นตามแนวรัศมีของโลกตามแบบจำลองโลกอ้างอิงเบื้องต้น (preliminary reference earth model) (PREM)
แรงโน้มถ่วงของโลกตามแบบจำลองโลกอ้างอิงเบื้องต้น (PREM) การเปรียบเทียบการประมาณค่าของการใช้ค่าความหนาแน่นคงที่และความหนาแน่นเชิงเส้นสำหรับภายในของโลก
มุมมองแผนผังโครงสร้างภายในของโลก 1. เปลือกทวีป – 2. เปลือกมหาสมุทร – 3. แมนเทิลด้านบน – 4. แมนเทิลด้านล่าง – 5. แก่นชั้นนอก – 6. แก่นชั้นใน – A: ความไม่ต่อเนื่องของโมโฮโลวิคซิค (Mohorovičić discontinuity) – B: ความไม่ต่อเนื่องของกูเทนเบิร์ก (Gutenberg Discontinuity) – C: ความไม่ต่อเนื่องของเลห์แมนน์-บัลเลน (Lehmann–Bullen discontinuity)

โครงสร้างของโลกสามารถกำหนดนิยามได้ในสองแนวทางคือ : โดยคุณสมบัติเชิงทางกล เช่น วิทยาศาสตร์การไหล (rheology) หรือ คุณสมบัติทางเคมี คุณสมบัติโครงสร้างภายในของโลกในทางกายภาพนั้น, ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ชั้น ได้แก่ ชั้นธรณีภาค (lithosphere), ชั้นฐานธรณีภาค (asthenosphere), ชั้นเนื้อโลกมัชฌิมภาค (mesospheric mantle) , แก่นโลกชั้นนอก (outer core) และ แก่นโลกชั้นใน (inner core) ในทางเคมี, โครงสร้างภายในของโลกแบ่งออกเป็น 5 ชั้นที่สำคัญ, สามารถแบ่งออกได้เป็น เปลือกโลก (crust), เนื้อโลกตอนบน (upper mantle), เนื้อโลกตอนล่าง (lower mantle), แก่นโลกชั้นนอก, และแก่นโลกชั้นใน องค์ประกอบทางธรณีวิทยาในระดับชั้นต่าง ๆ ของโลก อยู่ที่ระดับความลึกภายใต้พื้นผิวลงไปดังต่อไปนี้:

ความลึก ระดับชั้น
กิโลเมตร ไมล์
0–60 0–37 ธรณีภาค (Lithosphere) (เฉพาะส่วนที่แตกต่างกันระหว่าง 5 และ 200 กิโลเมตร)
0–35 0–22 ... เปลือกโลก (Crust) (เฉพาะส่วนที่แตกต่างกันระหว่าง 5 และ 70 กิโลเมตร)
35–60 22–37 ... ส่วนบนสุดของแมนเทิล
35–2,890 22–1,790 เนื้อโลก หรือ แมนเทิล (Mantle)
100–200 210-270 ... มัชฌิมภาคส่วนบน (Upper mesosphere) (แมนเทิลส่วนบน)
660–2,890 410–1,790 … มัชฌิมภาคส่วนล่าง (Lower mesosphere) (แมนเทิลส่วนล่าง)
2,890–5,150 1,790–3,160 แก่นโลกด้านนอก (Outer core)
5,150–6,360 3,160–3,954 แก่นโลกด้านใน (Inner core)

โครงสร้างแต่ละชั้นของโลกได้รับการคาดการณ์โดยทางอ้อมโดยใช้เวลาในการเดินทางของการหักเหและการสะท้อนของคลื่นแผ่นดินไหวที่ถูกสร้างขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหว แก่นโลกนั้นจะไม่อนุญาตให้คลื่นเฉือน (shear wave) เคลื่อนที่ผ่านมันไปได้ในขณะที่ความเร็วของการเดินทาง (ความเร็วของคลื่นไหวสะเทือน (seismic velocity)) จะมีความเร็วแตกต่างกันในระดับชั้นอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงความเร็วของคลื่นไหวสะเทือนระหว่างชั้นที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดการหักเหของทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นอันเนื่องมาจากกฎของสเนลล์ (Snell's law) เหมือนการเบี่ยงเบนทิศทางของแสงขณะที่มันผ่านปริซึม ในทำนองเดียวกันการสะท้อนจะเกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากในความเร็วของคลื่นไหวสะเทือนและมีความคล้ายคลึงกับแสงสะท้อนจากกระจก

แก่นโลก

ดูบทความหลักที่: แก่นโลก

ความหนาแน่นเฉลี่ยของโลกคือ 5,515 kg/m3 เนื่องจากความหนาแน่นเฉลี่ยของพื้นผิวของโลกมีค่าเพียงประมาณ 3,000 kg/m3 เราจึงสรุปว่าจะต้องมีวัตถุที่มีความหนาแน่นอยู่ภายในแก่นของโลก การตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแสดงให้เห็นว่าแก่นโลกจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็น "ของแข็ง" จะอยู่ตรงแก่นโลกชั้นในที่มีรัศมีประมาณ 1,220 กิโลเมตร และส่วนที่เป็นของเหลว จะอยู่บริเวณแก่นโลกชั้นนอกที่ขยายขอบเขตอาณาบริเวณเป็นรัศมีเกินกว่าประมาณ 3,400 กม มีความหนาแน่นอยู่ระหว่าง 9,900 และ 12,200 kg/m3 ในแก่นชั้นนอกและ 12,600-13,000 kg/m3 ในแก่นชั้นใน

แก่นโลกชั้นในถูกค้นพบในปี 1936 โดย อิงเง ลีแมน (Inge Lehmann) และเชื่อกันว่าโดยทั่วไปจะมีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิกเกิลเป็นบางส่วน มันไม่จำเป็นต้องเป็นของแข็ง, แต่, เพราะมันสามารถที่จะหันเห (deflect) ทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นแผ่นดินไหวได้, มันจึงต้องประพฤติตัวเป็นของแข็งได้ในบางสมัย หลักฐานที่ได้รับจากการทดลองได้จากในช่วงเวลาวิกฤตของแบบจำลองผลึกของแก่นโลก

แมนเทิล

แผนที่โลกแสดงตำแหน่งของโมโฮ (Moho)
ดูบทความหลักที่: เนื้อดาว (ธรณีวิทยา)

ชั้นแมนเทิลหรือเนื้อโลก (Earth's mantle) แผ่ขยายไปถึงระดับความลึกประมาณ 2,890 กม. ทำให้มันเป็นชั้นที่มีความหนามากที่สุดในภายในโครงสร้างของโลก

ดูเพิ่ม

  Earth sciences
  • Rain-out model
  • Mohorovičić discontinuity, boundary crust and mantle.
  • Core-mantle boundary
  • Hollow Earth
  • Lehmann discontinuity
  • Receiver function
  • Geological history of Earth
  • Scale height
  • Solid Earth

อ้างอิง

  1. ↑ A. M. Dziewonski, D. L. Anderson (1981). (PDF). Physics of the Earth and Planetary Interiors. 25 (4): 297–356. doi:10.1016/0031-9201(81)90046-7. ISSN 0031-9201. PMC 411539. PMID 16592703. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2013-11-13. สืบค้นเมื่อ 2014-10-20.
  2. http://www.rmutphysics.com/charud/naturemystery/sci3/earthquake/thai2.html
  3. http://nkw04945.wordpress.com/%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/
  4. T. H. Jordan (1979). "Structural Geology of the Earth's Interior". Proceedings of the National Academy of Sciences. 76 (9): 4192–4200. Bibcode:1979PNAS...76.4192J. doi:10.1073/pnas.76.9.4192. PMC 411539. PMID 16592703.
  5. Monnereau, Marc; Calvet, Marie; Margerin, Ludovic; Souriau, Annie (May 21, 2010). "Lopsided Growth of Earth's Inner Core". Science. 328 (5981): 1014–1017. Bibcode:2010Sci...328.1014M. doi:10.1126/science.1186212. PMID 20395477.
  6. Hazlett, James S. Monroe; Reed Wicander; Richard (2006). Physical geology : exploring the earth; [the wrath of Hurricane Katrina ; Could you survive a Tsunami?; catastrophic earthquakes; global warming] (6. ed.). Belmont: Thomson. p. 346. ISBN 9780495011484.
  7. http://nstrusced.blogspot.com/2008_06_01_archive.html
  8. Stixrude, Lars; Cohen, R.E. (January 15, 1995). "Constraints on the crystalline structure of the inner core: Mechanical instability of BCC iron at high pressure". Geophysical Research Letters. 22 (2): 125–128. Bibcode:1995GeoRL..22..125S. doi:10.1029/94GL02742.

ดูเพิ่ม

  • Kruglinski, Susan. "Journey to the Center of the Earth." Discover.
  • Lehmann, I. (1936) Inner Earth, Bur. Cent. Seismol. Int. 14, 3–31
  • Schneider, David (October 1996) A Spinning Crystal Ball, Scientific American
  • Wegener, Alfred (1915) "The Origin of Continents and Oceans"

พฤศจิกายน 04, 2021
โครงสร, างของโลก, บทความน, อาจต, องการตรวจสอบต, นฉบ, ในด, านไวยากรณ, ปแบบการเข, ยน, การเร, ยบเร, ยง, ณภาพ, หร, อการสะกด, ณสามารถช, วยพ, ฒนาบทความได, โครงสร, างภายในของโลกแบ, งเป, นช, นในเปล, อกทรงกลมคล, ายห, วหอม, นเหล, าน, สามารถน, ยามโดยค, ณสมบ, ทางเคม, หร, . bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamidokhrngsrangphayinkhxngolkaebngepnchninepluxkthrngklmkhlayhwhxm chnehlanisamarthniyamodykhunsmbtithangekhmihruxwithyakraaes rheology khxngmn olkmiepluxkaekhngsiliektchnnxk enuxolkthihnudmak aeknnxkthiehlwsunghnudnxykwaenuxolkmak aelaaekninaekhng khwamekhaicokhrngsrangphayinkhxngolkxasykarsngektphumilksnaelakarwdkhwamlukkhxngmhasmuthr bathymetry karsngekthininhinophl twxyangsungthuknasuphunphiwcakchnthilukkwaodykickrrmphuekhaif karwiekhraahkhlunaephndinihwsungphanolk karwdsnamkhwamonmthwngkhxngolkaelakarthdlxngkbkhxngaekhngphlukthilksnaechphaakhwamdnaelaxunhphumikhxngphayinchnlukkhxngolkokhrngsrangkhxngolk enuxha 1 mwlkhxngolk 2 okhrngsrangkhxngolk 3 aeknolk 4 aemnethil 5 duephim 6 xangxing 7 duephim mwlkhxngolk aekikh aerngkrathaodyaerngonmthwngkhxngolksamarthnamaichinkarkhanwnhamwlkhxngolkaelakarpramankhaprimatrkhxngolkid dngnnkhwamhnaaenn density echliykhxngolkkcasamarthkhanwnid nkdarasastryngsamarthkhanwnhamwlkhxngolkidcakwngokhcraelaphlkrathbtxwtthuthiwangxyubndawekhraahinrayaiklekhiyngid okhrngsrangkhxngolk aekikh karaeckaecngkhakhwamhnaaenntamaenwrsmikhxngolktamaebbcalxngolkxangxingebuxngtn preliminary reference earth model PREM 1 aerngonmthwngkhxngolktamaebbcalxngolkxangxingebuxngtn PREM 1 karepriybethiybkarpramankhakhxngkarichkhakhwamhnaaennkhngthiaelakhwamhnaaennechingesnsahrbphayinkhxngolkmummxngaephnphngokhrngsrangphayinkhxngolk 1 epluxkthwip 2 epluxkmhasmuthr 3 aemnethildanbn 4 aemnethildanlang 5 aeknchnnxk 6 aeknchnin A khwamimtxenuxngkhxngomoholwikhsikh Mohorovicic discontinuity B khwamimtxenuxngkhxngkuethnebirk Gutenberg Discontinuity C khwamimtxenuxngkhxngelhaemnn bleln Lehmann Bullen discontinuity okhrngsrangkhxngolksamarthkahndniyamidinsxngaenwthangkhux odykhunsmbtiechingthangkl echn withyasastrkarihl rheology hrux khunsmbtithangekhmi khunsmbtiokhrngsrangphayinkhxngolkinthangkayphaphnn ksamarthaebngxxkidepn 5 chn idaek chnthrniphakh lithosphere chnthanthrniphakh asthenosphere chnenuxolkmchchimphakh mesospheric mantle 2 3 aeknolkchnnxk outer core aela aeknolkchnin inner core inthangekhmi okhrngsrangphayinkhxngolkaebngxxkepn 5 chnthisakhy samarthaebngxxkidepn epluxkolk crust enuxolktxnbn upper mantle enuxolktxnlang lower mantle aeknolkchnnxk aelaaeknolkchnin xngkhprakxbthangthrniwithyainradbchntang khxngolk 4 xyuthiradbkhwamlukphayitphunphiwlngipdngtxipni khwamluk radbchnkiolemtr iml0 60 0 37 thrniphakh Lithosphere echphaaswnthiaetktangknrahwang 5 aela 200 kiolemtr 0 35 0 22 epluxkolk Crust echphaaswnthiaetktangknrahwang 5 aela 70 kiolemtr 35 60 22 37 swnbnsudkhxngaemnethil35 2 890 22 1 790 enuxolk hrux aemnethil Mantle 100 200 210 270 mchchimphakhswnbn Upper mesosphere aemnethilswnbn 660 2 890 410 1 790 mchchimphakhswnlang Lower mesosphere aemnethilswnlang 2 890 5 150 1 790 3 160 aeknolkdannxk Outer core 5 150 6 360 3 160 3 954 aeknolkdanin Inner core okhrngsrangaetlachnkhxngolkidrbkarkhadkarnodythangxxmodyichewlainkaredinthangkhxngkarhkehaelakarsathxnkhxngkhlunaephndinihwthithuksrangkhuncakkarekidaephndinihw aeknolknncaimxnuyatihkhlunechuxn shear wave ekhluxnthiphanmnipidinkhnathikhwamerwkhxngkaredinthang khwamerwkhxngkhlunihwsaethuxn seismic velocity camikhwamerwaetktangkninradbchnxun karepliynaeplngkhwamerwkhxngkhlunihwsaethuxnrahwangchnthiaetktangkncathaihekidkarhkehkhxngthisthangkarekhluxnthikhxngkhlunxnenuxngmacakkdkhxngsenll Snell s law ehmuxnkarebiyngebnthisthangkhxngaesngkhnathimnphanprisum inthanxngediywknkarsathxncaekidcakkarephimkhunxyangmakinkhwamerwkhxngkhlunihwsaethuxnaelamikhwamkhlaykhlungkbaesngsathxncakkrack aeknolk aekikh dubthkhwamhlkthi aeknolk khwamhnaaennechliykhxngolkkhux 5 515 kg m3 enuxngcakkhwamhnaaennechliykhxngphunphiwkhxngolkmikhaephiyngpraman 3 000 kg m3 eracungsrupwacatxngmiwtthuthimikhwamhnaaennxyuphayinaeknkhxngolk kartrwcwdkhlunihwsaethuxnaesdngihehnwaaeknolkcaaebngxxkepnsxngswn idaek swnthiepn khxngaekhng caxyutrngaeknolkchninthimirsmipraman 1 220 kiolemtr 5 aelaswnthiepnkhxngehlw caxyubriewnaeknolkchnnxkthikhyaykhxbekhtxanabriewnepnrsmiekinkwapraman 3 400 km mikhwamhnaaennxyurahwang 9 900 aela 12 200 kg m3 inaeknchnnxkaela 12 600 13 000 kg m3 inaeknchnin 6 aeknolkchninthukkhnphbinpi 1936 ody xingeng liaemn 7 Inge Lehmann aelaechuxknwaodythwipcamixngkhprakxbhlkepnehlkaelanikekilepnbangswn mnimcaepntxngepnkhxngaekhng aet ephraamnsamarththicahneh deflect thisthangkarekhluxnthikhxngkhlunaephndinihwid mncungtxngpraphvtitwepnkhxngaekhngidinbangsmy hlkthanthiidrbcakkarthdlxngidcakinchwngewlawikvtkhxngaebbcalxngphlukkhxngaeknolk 8 aemnethil aekikh aephnthiolkaesdngtaaehnngkhxngomoh Moho dubthkhwamhlkthi enuxdaw thrniwithya chnaemnethilhruxenuxolk Earth s mantle aephkhyayipthungradbkhwamlukpraman 2 890 km thaihmnepnchnthimikhwamhnamakthisudinphayinokhrngsrangkhxngolkduephim aekikh Earth sciencesRain out model Mohorovicic discontinuity boundary crust and mantle Core mantle boundary Hollow Earth Lehmann discontinuity Receiver function Geological history of Earth Scale height Solid Earthxangxing aekikh 1 0 1 1 A M Dziewonski D L Anderson 1981 Preliminary reference Earth model PDF Physics of the Earth and Planetary Interiors 25 4 297 356 doi 10 1016 0031 9201 81 90046 7 ISSN 0031 9201 PMC 411539 PMID 16592703 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2013 11 13 subkhnemux 2014 10 20 http www rmutphysics com charud naturemystery sci3 earthquake thai2 html http nkw04945 wordpress com E0 B8 90 E0 B8 B2 E0 B8 99 E0 B8 98 E0 B8 A3 E0 B8 93 E0 B8 B5 E0 B8 A0 E0 B8 B2 E0 B8 84 T H Jordan 1979 Structural Geology of the Earth s Interior Proceedings of the National Academy of Sciences 76 9 4192 4200 Bibcode 1979PNAS 76 4192J doi 10 1073 pnas 76 9 4192 PMC 411539 PMID 16592703 Monnereau Marc Calvet Marie Margerin Ludovic Souriau Annie May 21 2010 Lopsided Growth of Earth s Inner Core Science 328 5981 1014 1017 Bibcode 2010Sci 328 1014M doi 10 1126 science 1186212 PMID 20395477 Hazlett James S Monroe Reed Wicander Richard 2006 Physical geology exploring the earth the wrath of Hurricane Katrina Could you survive a Tsunami catastrophic earthquakes global warming 6 ed Belmont Thomson p 346 ISBN 9780495011484 http nstrusced blogspot com 2008 06 01 archive html Stixrude Lars Cohen R E January 15 1995 Constraints on the crystalline structure of the inner core Mechanical instability of BCC iron at high pressure Geophysical Research Letters 22 2 125 128 Bibcode 1995GeoRL 22 125S doi 10 1029 94GL02742 duephim aekikhKruglinski Susan Journey to the Center of the Earth Discover Lehmann I 1936 Inner Earth Bur Cent Seismol Int 14 3 31 Schneider David October 1996 A Spinning Crystal Ball Scientific American Wegener Alfred 1915 The Origin of Continents and Oceans ekhathungcak https th wikipedia org w index php title okhrngsrangkhxngolk amp oldid 9634536, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม