Nepenthes hurrelliana
บทความเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนี้มีชื่อบทความเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ เนื่องจากไม่มีชื่อสามัญเป็นภาษาไทย |
Nepenthes hurrelliana | |
---|---|
หม้อบนของ Nepenthes hurrelliana | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | พืช (Plantae) |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Caryophyllales |
วงศ์: | Nepenthaceae |
สกุล: | Nepenthes |
สปีชีส์: | N. hurrelliana |
ชื่อทวินาม | |
Nepenthes hurrelliana Cheek & A.L.Lamb (2003) |
Nepenthes hurrelliana (ได้ชื่อตามแอนดริว เฮอร์เรลล์ (Andrew Hurrell), นักพฤกษศาสตร์ ) เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่สูงจากเกาะบอร์เนียว พบได้ในตอนเหนือของรัฐซาราวัก, บรูไน และตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐซาบะฮ์ N. hurrelliana มีหม้อรูปกรวยสวยงาม มันอาจเป็นลูกผสมที่คาดว่าพัฒนาตัวมาจากพ่อแม่ดั้งเดิมคือ N. fusca และ N. veitchii มันมีขนน้ำตาลสนิมปกคลุมหนาแน่นตลอดทุกส่วนซึ่งน่าจะได้รับสืบทอดมาจาก N. veitchii
ประวัติทางพฤกษศาสตร์
N. hurrelliana เป็นที่รู้จักของนักพฤกษศาสตร์ก่อนที่มันจะถูกระบุเป็นชนิดเสียอีก ถึงแม้ว่ามันจะมีรูปร่างที่ต่างไปแต่บางคนได้ถือเอาว่ามันเป็นรูปแบบหนึ่งของ N. veitchii, ที่มีรูปแบบคล้าย N. maxima, หรือไม่ก็ยึดถือมันเป็นลูกผสมทางธรรมชาติไปเลย ในปี ค.ศ. 1988 แอนเทีย ฟิลลิปซ์ (Anthea Phillipps) และ แอนโทนี แลมบ์ (Anthony Lamb) ได้ตีพิมพ์ภาพประกอบของตัวอย่าง N. hurrelliana จากภูเขามูรุดภายใต้ชื่อ "N. veitchii × N. fusca" อย่างไรก็ตามเอกสารในปี ค.ศ. 1996 ที่ชื่อ Pitcher-Plants of Borneo (หม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งบอร์เนียว) มันกับถูกจัดเป็นชนิดที่ยังไม่มีการระบุ "Nepenthes sp." อนุกรมวิธานของพืชนี้ถูกจัดเป็นชนิดที่ยังไม่มีการระบุ "Nepenthes sp. B" ในหนังสือของชาร์ลส์ คลาร์ก (Charles Clarke) ที่ชื่อ Nepenthes of Borneo (หม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งบอร์เนียว) (1997) และหนังสือของฮิวโก สทีเนอร์ (Hugo Steiner) ที่ชื่อ Borneo: Its Mountains and Lowlands with their Pitcher Plants (บอร์เนียว:ภูเขาและที่ลุ่มกับหม้อข้าวหม้อแกงลิง) (2002)
ใน "Nepenthes of Gunung Murud (หม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งภูเขามูรุด)" หัวข้อที่ถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1996 ซึ่งเป็นเนื้อหาของ Carnivorous Plant Newsletter (จดหมายข่าวพืชกินสัตว์) ชอน เดอ วีตต์ (John De Witte) พรรณารูปร่างของลูกผสมว่า "เป็นไปได้มากที่จะเป็นลูกผสมระหว่าง N. veitchii และ N. stenophylla[a] หรือ N. fusca" ตามเขียนถึงพืชชนิดนี้
ในปี ค.ศ. 1999 บรูซ แซลมอน (Bruce Salmon) เสนอว่ามันอาจจะเป็นชนิดเดียวกันกับ N. mollis ที่ยังเป็นปริศนาที่มีเพียงตัวอย่างของหม้อเพียงหม้อเดียว ข้อเสนอนี้ถูกคัดค้านโดยมาร์ติน ชีก (Martin Cheek) และแอนโทนี แลมบ์ ผู้ระบุบแจกแจงรูปแบบของ N. hurrelliana ในปี ค.ศ. 2003 ตัวอย่างต้นแบบ A.Lamb & Surat 145/99 เก็บมาจากภูเขาลุมมาร์กู (Lumarku) ในรัฐซาบะฮ์และเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ของกรมป่าไม้ซานดากัน(Sandakan)
N. hurrelliana ได้ชื่อตามแอนดริว เฮอร์เรลล์ ผู้ศึกษาต้นไม้บนภูเขา Murud ในปี ค.ศ. 1995 และเป็นเจ้าของพื้นที่สังเกตการณ์ที่แสดงว่าประชากรของมันโตอย่างอิสระภายใต้ตัวมันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่นที่คาดว่าเป็นพ่อแม่ของมัน ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกพิจารณาว่าเป็นชนิด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
N. hurrelliana เป็นไม้เลื้อย มีรูปแบบต่างกันเล็กน้อยจากถิ่นที่อยู่ต่างกัน หม้อข้าวหม้อแกงลิงจากภูเขามูลู (Mulu) และอีกบางภูเขามีปล้องยาวถึง 10 ซม.
รูปแบบใบของหม้อข้าวหม้อแกงลิงจากภูเขาลุมมาร์กู ยาวถึง 24 ซม.และยาวไปเป็นปีกที่ก้านใบ แล้วโอบล้อมลำต้นประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นรอบวงมีลักษณะเป็นครีบประมาณ 1 ซม. ต้นไม้จากภูเขามูลูมีใบเป็นรูปหอกที่แคบกว่า ก้านใบมีปีกกว้างเป็นครีบไปจรดข้อ (ยาว ≤10 ซม.)
หม้อล่างเป็นรูปไข่แคบจนถึงรูปกรวย มีขนาดใหญ่สูงถึง 30 ซม. ฝาปิดเป็นทรงสามเหลี่ยมกว้าง ขอบเป็นคลื่น เพอริสโตมแผ่กว้างคอขอด (ยาว ≤9 ซม.) ที่ด้านหลังและกว้างประมาณ 7 ซม.
หม้อบนเป็นรูปกรวยมากกว่าหม้อล่างแต่มีขนาดประมาณ 28.5 ซม. ฝาปิดเป็นทรงสามเหลี่ยมแคบมาก ยาว 8 ซม.กว้าง 4.2 ซม. มีฐานเป็นรูปหัวใจล้อมรอบด้วยสันรูปตะขอและมีรยางค์ยอดรูปเส้นด้ายยาว 5 มม. มีต่อมน้ำต้อยจำนวนมากใต้, ตามขอบและใกล้กับฐาน
N. hurrelliana มีช่อดอกแบบช่อกระจะ ก้านดอกย่อยมีใบประดับที่ฐานยาว 3 ถึง 4 มม.
สิ่งปกคลุมสีนำตาลแดงที่มีอยู่อย่างหนานแน่นของ N. hurrelliana นั้นเป็นหนึ่งในลักษณะเด่นของหม้อข้าวหม้อแกงลิง หลายชนิด บนผิวบนของฝาหม้อมีขนสีสนิมขณะที่ผิวล่างมีตามขอบเท่านั้น เป็นสิ่งผิดปกติสำหรับ หม้อข้าวหม้อแกงลิง ปกติขนจะปรากฏบนผิวบนของแผ่นใบและบนสันต่อมของฝาหม้อ
นิเวศวิทยา
N. hurrelliana เป็นพืชถิ่นเดียวของบอร์เนียว สถานที่ที่มีการบันทึกว่าพบได้แก่ภูเขาทางเหนือของรัฐซาราวัก, ตะวันตกเฉียงใต้ของซาบะฮ์, และบรูไน โดยเฉพาะที่ภูเขาลุมมาร์กู, ภูเขามูลู, ภูเขามูรุด, และภูเขาในเทือกเขาเมอลีกัน (Meligan) ใกล้กับรง ปาซีย์ (Long Pasia) (รวมถึงภูเขารีเมา (Rimau)) มีการกระจายตัวที่ 1300 ถึง 2400 ม.จากระดับน้ำทะเล บนภูเขามูรุด (2423 ม.) N. hurrelliana ที่อยู่บนยอดเขาหรือสันเขาที่สูงกว่า 2100 ม.นั้นหาได้ยากเพราะที่ความสูงขนาดนั้นจะทำให้มันแคระแกรน ประชากรที่อยู่บนสันเขาของภูเขาลุมมาร์กู (ประมาณ 1900 ม.) อยู่ที่ความสูงสูงกว่า 1620 ม.
โดยทั่วไปถิ่นอาศัยของ N. hurrelliana คือป่ามอสส์สูงและแนวป่าดิบเขาที่ๆมันเติบโตคล้ายกาฝากสูงจากพื้น 10 ม. มีการบันทึกว่าบนในสถานที่ๆปกคลุมด้วยมอสส์ในป่าสมบูรณ์ มีการพบบนพื้นดินบ้างแต่เป็นส่วนน้อย
N. hurrelliana เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บางชนิด อย่างที่เด่นๆก็มีกบทองขนาดเล็กที่อยู่ในสกุล Philautus พบในหม้อของ N. hurrelliana ที่อิงอาศัยบนต้นไม้บนภูเขาลุมมาร์กู
จุดกำเนิดจากลูกผสม
N. hurrelliana มีหม้อที่มีลักษณะที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง N. fusca และ N. veitchii ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การคาดเดาถึงเรื่องเชื้อสายของหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ ซึ่งมีหลายคนที่คิดว่าเป็นไปได้ที่มันจะมีจุดกำเนิดจากลูกผสม
นักพฤษศาสตร์ที่ชื่อ ไคลฟ์ เอ. สเทซ (Clive A. Stace) เขียนไว้ว่า
ลูกผสมที่เสถียรเมื่อมันมีการพัฒนาการกระจายตัว, รูปร่างลักษณะ หรือพันธุกรรมของลักษณะจนห่างไกลที่จะเชื่อมโยงเข้ากับพ่อและแม่ของมัน, ... ถ้าลูกผสมกลายเป็นอิสระ, จำได้, สืบพันธุ์ด้วยตัวเอง, มันเป็น de facto คนละชนิดกัน
ข้อความนี้สนับสนุนสถานะของ N. hurrelliana ให้เป็นชนิด ตั้งแต่ประชากรของมันมีความเสถียรภาพและมีสถานที่มากมายที่มันเจริญเติบโต ยิ่งกว่านั้นไม่พบว่าหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้มีการแพร่กระจายอยู่ที่เดียวกันกับชนิดที่คาดเดาว่าเป็นพ่อและแม่ของมัน กรณีแบบนี้อาจเกิดโดยเฉพาะบางแห่ง ลูกผสมอาจมีการแข่งขันกับพ่อแม่และในตอนท้ายก็ซ้อนทับพ่อแม่สำเร็จ ถึงแม้ว่าอาจเป็นไปได้ที่มันจะกระจายตัวไปยังพื้นที่ใหม่ที่ๆไม่มีทั้งพ่อและแม่
N. murudensis เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่มีจุดกำเนิดจากลูกผสม
ญาติใกล้ชิด
หม้อบนของ N. hurrelliana มีลักษณะคล้ายคลึงกับ N. fusca ซึ่งมีเพียงสองชนิดในบอร์เนียวเท่านั้นที่มีฝาหม้อเป็นสามเหลี่ยมแคบ สิ่งที่ต่างคือหม้อบนของ N. hurrelliana มีปากตามขวางยกชันยาวคอดไปที่ด้านหลังและมีขนหยาบแข็งใต้ฝา
N. hurrelliana คล้ายกับ N. fusca จากทางตอนใต้ของเทือกเขาคร็อกเกอร์ (Crocker Range) ในรัฐซาบะฮ์เป็นพิเศษ คือมีเพอริสโตมกว้าง, คอคอดยาวกว่า และฝาหม้อเป็นสามเหลี่ยมมากกว่า N. fusca ในที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามเพอริสโตมก็ไม่ได้ถูกพัฒนามากเหมือนใน N. hurrelliana และไม่สิ่งปกคลุม ยิ่งกว่านั้น N. hurrelliana ยังมีต่อมน้ำต้อยบนผิวล่างของฝาหม้อ
N. hurrelliana อาจมีการสับสนกับชนิดที่คาดว่าเป็นพ่อแม่คือ N. veitchii ทั้งสองชนิดโตในถิ่นอาศัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนและ N. hurrelliana มีหม้อเป็นรูปกรวยมากกว่าและมีจุดสีม่วงบนหม้อ ที่สำคัญ ทรงของฝาก็ต่างกัน
นอกจากนี้ หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับ N. maxima ถึงแม้ว่า N. maxima จะเป็นที่รู้กันว่าไม่มีการพบในบอร์เนียว
Nepenthes mollis
ใบสอบเรียวและสิ่งปกคลุมหนาแน่นของ N. hurrelliana เป็นสิ่งที่มีคล้ายกับ N. mollis และมันอาจเป็นสิ่งที่แสดงว่าหม้อข้าวหม้อแกงลิงทั้งสองชนิดเป็นชนิดเดียวกัน บรูซ แซลมอนเขียนไว้ว่าตัวอย่างของ N. mollis ต่างจากรูปแบบของ N. hurrelliana จากภูเขาลุมมาร์กูตรงไม่มีใบประดับก้านดอกย่อยและมีฐานใบเป็นครีบ ปีกยาว 6 ซม. (ตรงข้ามกับ N. hurrelliana ที่มีเพียง 1-2 ซม.)
ผู้เขียนบางคนพิจารณาข้อสันนิษฐานเหล่านี้เท่าๆกัน ทั้งสองชนิด"ค่อนข้างจะไม่น่าเป็นไปได้"ที่เป็นชนิดเดียวกัน หมายเหตุบรรณาธิการโดย เจน สเชลาเลอร์ (Jan Schlauer) ในบทความของแซลมอน เตือนว่าตัวอย่างจากที่ตั้งแบบฉบับของ N. mollis ต้องมีการตรวจสอบก่อนรวมทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน:
รูปพรรณของตัวอย่างจากภูเขาลุมมาร์กูในส่วน N. mollis นั้น ควรจะพิสูจน์โดยเทียบเคียงกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่เชื่อถือได้จากภูเขาเกอมุล (Kemul) นอกจากจะทำอย่างนี้แล้ว ข้อมูลไม่สามารถยึดเอาตามการพรรณารูปแบบของ N. mollis โดยแดนเซอร์ แต่เดิมที่ตรวจทานว่าถูกต้องแล้วแต่เป็นการอ้างถึงหม้อข้าวหม้อแกงลิงบอร์เนียวเพียงอย่างเดียวเท่านั้นโดยไม่มีข้อสงสัย
ถ้า N. mollis และ N. hurrelliana เป็นชนิดเดียวกัน N. hurrelliana จะกลายเป็นชื่อพ้องเฮเทอโรไทปิกของต้นแบบ
ลูกผสมทางธรรมชาติ
- N. hurrelliana × N. lowii
- N. hurrelliana × N. veitchii
อ้างอิง
- ↑ Phillipps, A. & A. Lamb 1996. Pitcher-Plants of Borneo. Natural History Publications (Borneo) , Kota Kinabalu.
- Phillipps, A. & A. Lamb 1988. Pitcher-plants of East Malaysia and Brunei. Nature Malaysiana 13 (4) : 8–27.
- ↑ Clarke, C.M. 1997. Nepenthes of Borneo. Natural History Publications (Borneo) , Kota Kinabalu.
- ↑ Steiner, H. 2002. Borneo: Its Mountains and Lowlands with their Pitcher Plants. Toihaan Publishing Company, Kota Kinabalu.
- De Witte, J. 1996. Nepenthes of Gunung Murud.PDF (567 KiB) Carnivorous Plant Newsletter 25 (2) : 41–45.
- ↑ Salmon, B.[R.] 1999. Nepenthes mollis (Nepenthaceae) —Rediscovered?PDF (561 KiB) Carnivorous Plant Newsletter 28 (1) : 24–26.
- Cheek, M., M. Jebb, C.C. Lee, A. Lamb & A. Phillipps. 2003. Nepenthes hurrelliana (Nepenthaceae) , a New Species of Pitcher Plant from Borneo. Sabah Parks Nature Journal 6: 117–124.
- Schlauer, J. 2006. Nepenthes hurrelliana. Carnivorous Plant Database.
- ↑ Phillips, A., A. Lamb & C.C. Lee 2008. Pitcher Plants of Borneo. Second Edition. Natural History Publications (Borneo) , Kota Kinabalu.
- ↑ Clarke, C.M. & C.C. Lee 2004. Pitcher Plants of Sarawak. Natural History Publications (Borneo) , Kota Kinabalu.
- Stace, C.A. 1980. Plant Taxonomy and Biosystematics. Arnold, London.
- Jebb, M.H.P. & M.R. Cheek 1997. A Skeletal Revision of Nepenthes (Nepenthaceae). Blumea 42 (1) : 1–106.
- Lee, C.C. 2007. Re: lowii and hurrelliana of Mt. Murud. Carnivorous Plants in the tropics.
- Cheek, M., M. Jebb, C.C. Lee, A. Lamb & A. Phillipps. 2003. Nepenthes hurrelliana (Nepenthaceae) , a New Species of Pitcher Plant from Borneo. Sabah Parks Nature Journal 6: 117-124.
- Clarke, C.M. & C.C. Lee 2004. Pitcher Plants of Sarawak. Natural History Publications (Borneo) , Kota Kinabalu.
- De Witte, J. 1996. Nepenthes of Gunung Murud.PDF (567 KiB) Carnivorous Plant Newsletter 25 (2) : 41–45.
แหล่งข้อมูลอื่น
- WildBorneo: Nepenthes hurrelliana
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: Nepenthes hurrelliana |