สามารถ แก้วมีชัย
สามารถ แก้วมีชัย (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 -) เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (ชุดที่ 23) และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย สังกัดพรรคเพื่อไทย
สามารถ แก้วมีชัย | |
---|---|
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 | |
ก่อนหน้า | สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ |
ถัดไป | เจริญ จรรย์โกมล |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 (70 ปี) จังหวัดเชียงราย |
พรรคการเมือง | พรรคไทยสร้างไทย |
คู่สมรส | รัตนพร แก้วมีชัย |
ศาสนา | พุทธ |
ประวัติ
สามารถ แก้วมีชัย เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 จบการศึกษาชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และปริญญาตรีรัฐศาสตร์ (เกียรตินิยมเรียนดี) สาขาวิชาการปกครอง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รุ่นที่ 22) เมื่อปี พ.ศ. 2517
การทำงาน
สามารถ แก้วมีชัย เคยทำงานที่การเคหะแห่งชาติ ก่อนจะลาออกไปเป็นนักธุรกิจก่อนจะเข้ามาทำงานการเมืองท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเชียงราย และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ต่อมาจึงได้เข้าร่วมกลุ่มของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย สังกัดพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 และการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน ต่อมาก็ได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยพร้อมกันกับสมาชิกจากพรรคพลังประชาชนเดิม
สามารถ แก้วมีชัย เคยได้รับตำแหน่งทางการเมืองหลายตำแหน่ง อาทิ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โฆษกคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 จึงได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แทนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ใน การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 นายสามารถยังได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกสมัย ส่วน การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ถูกประกาศให้เป็นโมฆะ แต่ใน การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถสูญเสียตำแหน่งให้กับนาย เอกภพ เพียรพิเศษ จาก พรรคอนาคตใหม่ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ต่อมาในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
กระทั่งวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 นายสามารถได้โพสต์ภาพหนังสือการลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวน 3 ฉบับแก่นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคและ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองและให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไปโดยให้เหตุผลว่าต้องการเป็นอิสระและปลอดสังกัดพรรคการเมือง
ในปี 2564 เขาได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งนำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2552 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2551 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2540 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)
อ้างอิง
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23
- พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษ 195ง
- ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
- ทิ้ง'เพื่อไทย'!! 'สามารถ แก้วมีชัย'ยื่นหนังสือลาออกพ้น'กก.บห.-รองหัวหน้าพรรค'
- สามารถ ลาออกเพื่อไทย ให้เหตุผล ต้องการอิสระ
- ส่อง 4 ภาค ขุนพล 'ไทยสร้างไทย'
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๙, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๙ ข หน้า ๕, ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๐