การโจมตีทางอากาศใส่อาคารที่อยู่อาศัยในดนีปรอ พ.ศ. 2566

ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 15:39 นาฬิกา ขีปนาวุธประเภท Kh-22 ของรัสเซียได้ถล่มอาคารที่พักอาศัย 9 ชั้น เลขที่ 118 ถนนนาแบแรฌนา แปแรมอฮือ ในเมืองดนีปรอ ประเทศยูเครน ทำลายทางเข้าและห้องอยู่อาศัย 236 ห้อง ตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคม ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 46 คน (รวมเด็ก 6 คน) และผู้บาดเจ็บ 80 คน (12 คนมีอาการสาหัส) ผู้อยู่อาศัยในอาคาร 39 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาในขณะที่มีรายงานผู้สูญหาย 11 คน อาคารที่ถูกทำลายเสียหายส่งผลให้มีผู้คนราว 400 คนไร้ที่อยู่อาศัย

การโจมตีทางอากาศใส่อาคารที่อยู่อาศัย ในดนีปรอ พ.ศ. 2566
เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีดนีปรอด้วยขีปนาวุธ และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนโดยรัสเซีย
นักผจญเพลิงดับไฟที่ไหม้อาคารที่อยู่อาศัยในเมืองดนีปรอหลังจากถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Kh-22
สถานที่	เขตซอบอร์นึย ดนีปรอ ยูเครน
พิกัด	48°25′09″N 35°04′04″E / 48.41917°N 35.06778°E / 48.41917; 35.06778พิกัดภูมิศาสตร์: 48°25′09″N 35°04′04″E / 48.41917°N 35.06778°E / 48.41917; 35.06778
วันที่	14 มกราคม พ.ศ. 2566 ประมาณ 15:30 น.
ประเภท	การโจมตีด้วยขีปนาวุธ
อาวุธ	Kh-22
ตาย	≥46 คน (รวมเด็ก 6 คน)
เจ็บ	80 คน
ผู้ก่อเหตุ	กองทัพรัสเซีย

เหตุโจมตีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนยูเครน และกลายเป็นเหตุโจมตีของรัสเซียที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดแก่อาคารที่อยู่อาศัยในยูเครนในรอบหกเดือนที่ผ่านมา มีการประกาศการไว้ทุกข์เป็นเวลาสามวันในเมืองดนีปรอ

เส้นเวลา

การแจ้งเตือนภัยทางอากาศในท้องถิ่นเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 14:00 นาฬิกา กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ 6 ลูกจาก 8 ลูกตกเหนือแคว้นดนีปรอแปตร็อวสก์ เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15:30 นาฬิกา เมื่อขีปนาวุธประเภท Kh-22 พุ่งชนอาคารหลายชั้นเลขที่ 118 ถนนนาแบแรฌนา แปแรมอฮือ เขตซอบอร์นึย เมืองดนีปรอ ในขณะนั้นยูเครนไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่จะสกัดกั้นขีปนาวุธ Kh-22 ได้ และนับตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา รัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธประเภทดังกล่าวโจมตียูเครนมาแล้ว 210 ลูก โดยไม่มีลูกใดถูกยิงตกเลย

ในเบื้องต้นมีรายงานว่าการโจมตีได้คร่าชีวิตผู้คนไป 20 คน (รวมถึงเด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่ง) และทำให้มีผู้บาดเจ็บ 73 คน (รวมถึงเด็ก 14 คน เด็กที่อายุน้อยที่สุดมีอายุ 3 ปี และมีรายงานว่าเด็กหญิงอายุ 9 ปีคนหนึ่งมีการสาหัส) ไม่มีใครทราบชะตากรรมของผู้อยู่อาศัยในอาคารอีก 26 คน อานัสตาซียา ชแวตส์ วัย 23 ปี ซึ่งอยู่ในอาการตกใจในห้องน้ำชั้น 7 รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่พ่อแม่ของเธอที่อยู่ในบ้านเดียวกันสูญหายไป สองวันต่อมา ร่างของพ่อแม่ของชแวตส์ถูกพบอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน กองทัพรัสเซียได้สังหารวลาดึสเลา คู่หมั้นของชแวตส์ซึ่งเป็นทหารยูเครน

เมื่อวันที่ 15 มกราคม สำนักงานสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งรัฐยูเครนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 23 คนจากการยิงขีปนาวุธของรัสเซียใส่อาคารดังกล่าว เมื่อถึงเวลา 13:15 นาฬิกา (วันถัดมา) มีรายงานผู้สูญหาย 43 คน ผู้บาดเจ็บ 72 คน (รวมถึงเด็ก 13 คน) และผู้ได้รับการช่วยเหลือออกมา 39 คน ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต 25 คนผ่านทางเทเลแกรม ในช่วงเช้าของวันที่ 16 มกราคม วาแลนตึน แรซนีแชนกอ ผู้ว่าการแคว้นดนีปรอแปตร็อวสก์ ได้ปรับยอดผู้เสียชีวิตเป็น 35 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คน มีผู้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 39 คน และมีผู้บาดเจ็บ 75 คน โดย 14 คนในจำนวนนี้เป็นเด็ก ผู้อยู่อาศัยในอาคาร 35 คนยังคงสูญหาย ความเสียหายจากการโจมตีทำให้ห้องอยู่อาศัย 236 ห้องเสียหาย และผู้คนราว 400 คนไร้ที่อยู่อาศัย ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถูกยกเลิกในวันอังคารที่ 17 เมื่อยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 44 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 5 คน มีผู้บาดเจ็บ 79 คน และผู้ได้รับการช่วยเหลือ 39 คน

หนึ่งในบรรดาผู้เสียชีวิตได้แก่ มือคัยลอ กอแรนอว์สกึย หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักมวยทีมชาติยูเครนจากแคว้นดนีปรอแปตร็อวสก์

อาวุธ

ขีปนาวุธที่ใช้โจมตีอาคารแห่งนี้คือขีปนาวุธต่อต้านเรือ Kh-22 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกันกับที่ใช้โจมตีศูนย์การค้าอัมสตอร์ที่เมืองแกรแมนชุกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2565 พลอากาศโท มือกอลา ออแลชชุก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน กล่าวว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ กองทัพยูเครนไม่มีอาวุธที่จะยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว และในช่วงสงครามเต็มรูปแบบตลอดปีที่ผ่านมา ในบรรดาขีปนาวุธ Kh-22 ทั้ง 210 ลูกที่รัสเซียยิงใส่ยูเครน ไม่มีแม้แต่ลูกเดียวที่ถูกยิงตก ออแลชชุกกล่าวถึงรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงตกว่าเชื่อถือไม่ได้และไม่ถูกต้อง

การสืบสวน

ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2566 สำนักงานอัยการสูงสุดแห่งยูเครนระบุว่าผู้ที่ยิงขีปนาวุธโจมตีดังกล่าวน่าจะเป็นกรมบินที่ 52 ของรัสเซีย ซึ่งประจำการอยู่ที่ฐานไชคอฟกาในแคว้นคาลูกาเท่านั้น ในวันเดียวกัน รายชื่อทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรมครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Molfar Global (ชุมชนข่าวกรองจากแหล่งข้อมูลเปิด) ชื่อของทหาร 44 นายจาก 52 นายของกรมบินที่ 52 ได้รับการเปิดเผย นี่คือกองทหารเดียวกันกับที่ยิงขีปนาวุธโจมตีศูนย์การค้าอัมสตอร์ในเมืองแกรแมนชุกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2566 สำนักงานความมั่นคงแห่งยูเครนยืนยันการมีส่วนร่วมในการโจมตีด้วยขีปนาวุธของกรมบินที่ 52 ของรัสเซีย โดยเจาะจงไปที่ทหารรัสเซีย 6 นาย

อ้างอิง

1. "Russian attack on Dnipro: death toll rises to 46 people". Ukrainska Pravda. 2023-01-19.
2. "In Dnipro missile strike: Nine floors of random death and destruction". The Washington Post. 2023-01-19.
3. Число погибших в Днепре увеличилось до 45 человек, среди них 6 детей
4. Oleh Bildin (15 January 2023). "I was sitting on the 7th floor: as in the Dnieper in a ruined house rescued a cat Kuju". Informator (ภาษายูเครน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
5. "Ракетный удар по Днепру. Что происходит на месте трагедии, где находятся ближайшие Пункты несокрушимости". dnpr.com.ua (ภาษารัสเซีย). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 14 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
6. "Filatov: « The city is settling people from the house on the victory, and will pay them compensation. But 236 apartments destroyed — with this should help the state»". Informator (ภาษายูเครน). 16 January 2023. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.
7. "Death toll rises to 29 after attack on Dnipro". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
8. "Attack on Dnipro: death toll rises to 40 people". Ukrainska Pravda. 2023-01-16. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.
9. "German battle tanks for Ukraine 'won't be ready until 2024'". The Guardian (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
10. В Днепре из-за ракетного удара погибли 40 человек, больше 70 пострадали. Зеленский призвал россиян перестать «трусливо молчать»
11. "Three days of mourning announced in Dnipro city". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
12. Oleh Bildin (14 January 2023). "Russian troops hit a high-rise building in Dnipro". Informator (ภาษายูเครน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 14 January 2023. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
13. "ОнлайнОНЛАЙНВойна в Украине: в Днепре российская ракета попала в многоэтажный дом, Британия первая направит Киеву 14 танков". จากแหล่งเดิมเมื่อ 14 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
14. Stas Rudenko (15 January 2023). "«Deviation from the target can be hundreds of meters»: the Ministry of Defense denied Arestovich's words about the rocket that hit the house in Dnieper". Informator (ภาษายูเครน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
15. "Что известно о попадании российской ракеты в многоэтажку в Днепре". BBC News Русская служба. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-01-15.
16. "Власти Днепра сообщили о 20 погибших. Что известно о последствиях удара по жилому дому". The Insider (ภาษารัสเซีย). จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-01-15.
17. "В результате обстрела Днепра разрушен многоэтажный жилой дом". จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
18. "Что известно о попадании российской ракеты в многоэтажку в Днепре". 14 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
19. "12 killed as Russian airstrikes hit targets across Ukraine". CNN. 14 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
20. "She lost her beloved and then her home in the war: what is known about the girl from the photo on the ruins of the house in Dnipro". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
21. "The parents of the girl who was rescued from the bathroom of a destroyed house in Dnipro were found under the rubble". Informator (ภาษายูเครน). 16 January 2023. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.
22. "In Dnipro, the death toll rises to 23 people, and about 40 others are missing". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
23. "Zelenskyy reports about 25 people killed and 43 missing in Dnipro city". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 15 January 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
24. Hunder, Max; Vasovic, Aleksandar. "Ukraine ends search for survivors in Dnipro, death toll hits 44". www.reuters.com. Ruters. สืบค้นเมื่อ 17 January 2023.
25. "Из-за удара по Днепру погиб заслуженный тренер Украины по боксу". จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
26. "The Prosecutor General's Office named the unit of the Russian Federation, which launched a rocket at home in Dnipro". Ukrainska Pravda (ภาษายูเครน). 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.
27. Viktoriia Roshchyna (15 January 2023). ""Hatred for Russia is stronger than fear". A report from Dnipro, where Russian forces attacked an apartment block". Ukrainska Pravda. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.
28. "Х-22. Що відомо про ракету, якою Росія вдарила по Дніпру. І чи могли її збити". BBC News Україна. จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-01-15.
29. "Ракетна атака по житловій багатоповерхівці у місті Дніпро: імена 44 осіб з 52 гвардійського полку (Шайківка), причетних до терористичного акту". www.molfar.global (ภาษายูเครน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-01-15.
30. "СБУ ідентифікувала російських військових, які причетні до ракетного удару по Дніпру". SSU (ภาษายูเครน). สืบค้นเมื่อ 2023-01-16.
31. "Security Service of Ukraine names six Russian soldiers involved in attack on multi-storey residential building in Dnipro". Ukrainska Pravda (ภาษาอังกฤษ). 16 January 2023. สืบค้นเมื่อ 16 January 2023.