คดีเพชรซาอุ
คดีขโมยเครื่องเพชรราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบีย หรือ คดีเพชรซาอุ เป็นคดีการขโมยเครื่องเพชรของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย โดยลูกจ้างชาวไทยในปี 2532 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดิอาระเบียและไทยเสื่อมลงเป็นเวลามากกว่า 30 ปี
ชื่อภาษาอังกฤษ | Blue Diamond Affair |
---|---|
วันที่ | 2532 |
ประเภท | โจรกรรม |
ผู้เข้าร่วม |
|
ผล |
|
เสียชีวิต | 7 |
ลำดับเหตุการณ์ | |
---|---|
2532 | โจรกรรมเครื่องเพชรจากซาอุดีอาระเบีย |
2533 |
|
2537 |
|
ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว แต่ทางการซาอุดีอาระเบียแจ้งว่าเพชรบลูไดมอนด์และเครื่องเพชรส่วนใหญ่หายไป ทางการซาอุดีอาระเบียส่งข้าราชการเข้ามาสืบสวนเอง แต่ถูกลักพาตัวไม่ก็ลอบฆ่า เรื่องที่อยู่ของเพชรปัจจุบันและผู้ก่อเหตุฆ่านักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียยังเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน ชุดสืบสวนของพลตำรวจโท ชลอ เกิดเทศ ถูกพิพากษาลงโทษในหลายคดี เช่น อุ้มฆ่าภรรยาและลูกของพ่อค้าเพชร และยักยอกของกลาง
สาเหตุ
คดีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่ได้เดินทางไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบีย และถูกจัดให้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดภายในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย เขาเริ่มการโจรกรรมในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2532 เมื่อนายเกรียงไกรเมื่อเข้าไปทำงานในพระราชวังจึงได้เห็นช่องทางในการขโมยเครื่องเพชรดังกล่าว เพราะเครื่องเพชรเหล่านั้นมีจำนวนมากและถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง แม้แต่ตู้เซฟก็ยังถูกเปิดทิ้งเอาไว้
นายเกรียงไกรอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด บิน อับดุล อซิซ (Prince Faisal Bin Fahud Bin Abdul Aziz) แปรพระราชฐานไปพักผ่อนในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในเดือนธันวาคม 2532 ทำการขโมยเครื่องเพชร 91 กิโลกรัม (200 ปอนด์):185 ซึ่งรวมไปถึงเพชรน้ำเงินกับอัญมณีอื่น ๆ รวม 50 กะรัต โดยแอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง เมื่อได้เครื่องเพชรมาแล้ว นายเกรียงไกรใช้วิธีส่งเครื่องเพชรกลับมายังประเทศไทยล่วงหน้า ด้วยบริการขนส่งพัสดุทางอากาศ โดยปะปนกับเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งด่านศุลกากรของทั้งสองประเทศไม่สามารถตรวจพบ เมื่อทำการโจรกรรมเรียบร้อยแล้ว เกรียงไกรได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที ก่อนที่เจ้าชายไฟซาลจะเสด็จกลับมายังพระราชวัง ทั้งที่เหลือเวลาทำงานตามสัญญาอีก 2 เดือน
โดยเครื่องเพชรดังกล่าวถูกนำมายังจังหวัดลำปาง เนื่องจากเครื่องเพชรเหล่านั้นแยกยาก เขาจึงขายมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยเครื่องเพชรส่วนใหญ่ถูกขายให้กับช่างทำเพชรพลอยชาวกรุงเทพ สันติ ศรีธนะขัณฑ์ หลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ประสานมายังรัฐบาลไทย ขอให้ติดตามเครื่องเพชรประจำราชวงศ์ส่งคืน
การสืบสวน
การสืบสวน
เครื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกหยิบยกขึ้นมาจากสื่อในประเทศไทยฝ่ายเดียว ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" โดยมีนายเกรียงไกรเป็นผู้กระทำความผิด พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ทราบเรื่องนี้ดี เพราะเป็นผู้ถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล
เรื่องนี้ได้มีการพิสูจน์กันสองทางคือ ประการแรกตำรวจได้ส่งภาพถ่ายดังกล่าวไปให้สถาบันอัญมณีในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรวจพิสูจน์ ได้ข้อยุติว่า วัตถุที่ว่าเป็นอัญมณีสีน้ำเงินแล้วอนุมานว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ ได้คำตอบ ไม่ใช่เพชรหรืออัญมณีแต่อย่างใด แต่เป็นวัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง ผลพิสูจน์นี้อยู่ ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ ประการที่สอง บุตรชายของสุภาพสตรีท่านนั้นได้นำสร้อยและจี้ที่ปรากฏในภาพถ่ายมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับผลตรวจพิสูจน์ของสถาบันในลอนดอน
ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้อีกประการหนึ่งก็คือ ผลการสอบสวนนายเกรียงไกรพบว่า นายเกรียงไกรได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็น ทั้งไม่รู้ด้วยว่าแบ่งเครื่องเพชรชนิดและประเภทใดให้เพื่อนไปบ้าง เนื่องจากมีความรู้เรื่องอัญมณีน้อยมาก เมื่อนำเครื่องเพชรทั้งหมดกลับมาที่บ้านใน จ.ลำปาง ก็ได้ทำการแยกชิ้นส่วนเอาเพชรกับทองแยกออกจากกัน เพราะรู้แต่ทองมีค่า โดยนำทองไปขายที่ร้านทองใน จ.ลำปาง และ จ.แพร่ ผลการสอบสวนเจ้าของร้านทองไม่ปรากฏว่าพบเห็น หรือรู้เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ส่วนเพชรนายเกรียงไกรไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเพชรมีความแข็งมาก จึงลองทุบบางส่วน เม็ดไหนแตกก็ทิ้งไป เม็ดไหนไม่บุบสลายก็แยกไว้ ไม่ได้ทุบทั้งหมด จากนั้นได้นำเพชร พลอย อัญมณีอื่น ๆ ที่แยกออกจากทองแล้วไปฝังดินไว้บางส่วน บางส่วนทยอยขายให้แก่นายสันติ ศรีธนขัณฑ์ เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ย่านถนนเจริญกรุง ซึ่งบางส่วนถูกนำไปขายต่ออีกทอดโดยมี พล.ต.อ. คนหนึ่ง ซึ่งเป็น อดีตรอง ผบ.ตร. ชอบค้าของเก่าและของมีค่า ร่วมมือกับนายสันติขายเพชรซาอุ แต่หลักฐานสาวไปไม่ถึงจึงลอยนวลอยู่จนทุกวันนี้
การให้การของนายเกรียงไกร กรณีเพชรบลูไดมอนด์ มีความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน เหมือนว่าขายให้นายสันติ แต่นายเกรียงไกรก็ไม่เคยยืนยันอย่างหนักแน่นกับพนักงานสอบสวนในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่มีความมั่นใจ เพราะนำเครื่องเพชรออกมาเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ครบถ้วน
พนักงานสอบสวน และราชสำนักซาอุดิอาระเบีย ประมาณการณ์ว่า เพชรซาอุถูกขายไปประมาณ 20 % ทั้งนายสันติ และภริยา ต่างยืนยันว่า ไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ ความตายของนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนขันฑ์ เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า ผู้รับซื้อเพชรซึ่งมีอยู่รายเดียวจากนายเกรียงไกร ต่างไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ มิฉะนั้นคงรับสารภาพและคืนให้ไปแล้วเมื่อเห็นความตายและความเดือดร้อนของตนเอง ครอบครัว และบุตรอยู่ตรงหน้า
ผลสรุปของการสอบสวนคดีเพชรซาอุ มีข้อยุติว่า ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์อยู่ในเครื่องเพชรที่นายเกรียงไกรขโมยมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพชรบลูไดมอนด์ไม่เคยมีอยู่ในประเทศไทย การกล่าวหากล่าวอ้างว่าบุคคลนั้นบุคคลนี้ครอบครองเพชรบลูไดมอนด์ไว้ จึงไม่เป็นความจริง
ประการที่สองเจ้าชายหรือเจ้าหญิงของซาอุดิอาระเบียไม่รู้ว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีชนิดหรือประเภทใดอย่างครบถ้วนเพราะเครื่องเพชรมีเป็นจำนวนมากที่อยู่ในครอบครองและที่ถูกขโมยมา ทั้งยอมรับว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีทั้งของจริงและของปลอมที่ซื้อจากห้าง May Flower ซึ่งทำอัญมณีประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงมาก ทั้งไม่ทราบว่าเครื่องเพชรอันใดเทียมหรือจริง ข้อตำหนิเรื่องส่งคืนเครื่องเพชรปลอมและไม่ครบถ้วนจึงสามารถทำความเข้าใจที่ชัดเจนได้ในเวลาต่อมา
การจับกุมผู้ต้องหา
อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบพื้นที่ในเขตภาคเหนือ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย หลังจากนั้นเมื่อนายเกรียงไกร ถูกชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.ชลอ จับกุมและนำตัวมาสอบสวนจนยอมรับสารภาพ และให้การถึงบุคคลที่รับซื้อเครื่องเพชรไป เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับส่งไปดำเนินคดีที่ซาอุฯ ซึ่งมีโทษเพียงสถานเดียว คือ "แขวนคอ" ทำให้ศาลพิพากษาตัดสินจำคุกนายเกรียงไกร เตชะโม่งในข้อหาลักทรัพย์ 7 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือ 3 ปี 6 เดือน
ทางการไทยส่งตัวแทนไปคืนเครื่องเพชร แต่ทางการซาอุดีอาระเบียพบว่าเพชรบลูไดมอนด์หายไป และเครื่องเพชรประมาณครึ่งหนึ่งเป็นของปลอม นอกจากนี้ มีข่าวลือในสื่อไทยว่าภาพถ่ายในงานเลี้ยงการกุศลพบว่าภรรยาของข้าราชการหลายคนสวมสร้อยคอเพชรที่คล้ายกับเครื่องเพชรที่ถูกโจรกรรมจากซาอุดีอาระเบีย ทำให้ซาอุดีอาระเบียสงสัยว่าตำรวจไทยยักยอกเครื่องเพชรเอาไว้เอง
การตามหาเครื่องเพชรของจริง
การย้อนรอยตามหาเพชรฯ โดยคณะทำงานของ พล.ต.ท.ชลอ เริ่มต้นที่กลุ่มญาติของ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อ.ตร. แต่ภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบไม่พบว่ามีมูลความจริง นอกจากนี้ นักการเมือง ตลอดจนคุณหญิง คุณนาย และ "คนมีสี" หลายคนก็ถูกกล่าวหาว่ามีการจัด "ปาร์ตี้เพชรซาอุฯ" ในสโมสรแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้น นายโมฮัมหมัด ซาอิค โคจา อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ได้ว่าจ้าง "ชุดสืบสวนพิเศษ" เพื่อแกะรอยอย่างลับ ๆ ตามหาเครื่องเพชรราชวงศ์แห่งซาอุดิอาระเบีย
ข้าราชการชาวซาอุดีอาระเบีย
Mohammad al-Ruwaili นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซะอูด เดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพื่อสืบสวนด้วยตนเอง เขาหายสาบสูญไปในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 และสันนิษฐานว่าถูกฆ่า ก่อนเขาหายตัวไป นักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียถูกฆ่าในย่านสีลม เขตบางรัก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 มีนักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คนในย่านยานนาวา ซึ่งคดีเหล่านี้ยังไม่ได้ข้อยุติมาจนปัจจุบัน:185 ถึงแม้ไม่มีความเชื่อมโยงว่ารัฐบาลไทยเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมเครื่องเพชร แต่ทางการซาอุดีอาระเบียเชื่อว่ารัฐบาลไทยดำเนินการไม่เพียงพอในการไขปริศนาเกี่ยวกับการฆ่านักการทูตซาอุดีอาระเบีย
มีสมมุติฐานหลายประการเกี่ยวกับเหตุการณ์ฆ่าดังกล่าว โมฮัมเหม็ด ซาอิด โคจา (Mohammed Said Khoja) นักการทูตชาวซาอุดีอาระเบีย เชื่อว่ามีนายตำรวจ 18 นายเกี่ยวข้องกับการหายไปของเพชร และเชื่อว่าตำรวจเป็นผู้ลงมือฆ่านักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียสามคน ด้านบันทึกการทูตในปี 2553 จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยที่เผยแพร่โดยวิกิลีกส์ระบุว่า การฆ่าดังกล่าว "แทบแน่นอน" ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการบาดหมางระหว่างซาอุดีอาระเบียกับกลุ่มติดอาวุธเลบานอนฮิซบุลลอฮ์
บทสัมภาษณ์ในเวลาต่อมา เกรียงไกรไม่สามารถระบุได้ว่าเพชรบลูไดมอนด์ขณะนี้อยู่ที่ใด และว่า "ถ้าเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจในประเทศไทย เรื่องก็จะไม่ใหญ่ขนาดนี้" ในปี 2563 ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า "สร้อยพระศอของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นบลูแซฟไฟร์ไม่ใช่บลูไดมอนด์เครื่องเพชรราชวงศ์ซาอุ"
คดีความของชุดสืบสวน
พลตำรวจโท ชลอ เกิดเทศ กลับมาทำคดีนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ได้ทุกวิถีทางในการนำเพชรที่เหลือกลับคืนมาให้ได้ จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้สันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร แต่เขายืนยันว่าคืนให้หมดแล้ว ในปี 2537 ชุดปฏิบัติงานของตำรวจลักพาตัวภรรยาและลูกของสันติเพื่อบีบให้เขาคืนเพชรให้ จนสุดท้ายฆ่าปิดปากทั้งสองโดยจัดฉากให้ดูเหมือนอุบัติเหตุจราจร
ต่อมา ทีมสอบสวนชุดใหม่กลับสืบพบว่าเป็นการอุ้มฆ่า จึงได้ทำการจับกุมตัว พล.ต.ท.ชลอ และลูกน้องทั้ง 9 คน มาดำเนินการทางกฎหมาย พล.ต.ท. ชลอถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานออกคำสั่งฆ่าสองแม่ลูกในปี พ.ศ. 2538 และในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาให้ประหารชีวิต พล.ต.ท.ชลอ และศาลฎีกาก็ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต ต่อมาเขาได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 50 ปีในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตำรวจอีกหกนายถูกพิพากษาว่ามีความผิดด้วย และได้รับพระราชทานอภัยโทษในปี 2558 ตำรวจนายหนึ่งในชุดทำงานยังถูกพิพากษาลงโทษฐานยักยอกเงินของกลางในปี 2557
ในวันที่ 22 มีนาคม 2562 ศาลฎีกาพิพากษาปล่อยตัวนายตำรวจห้านายในคดีลักพาตัวและฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย Mohammad al-Ruwaili
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ซาอุดิอาระเบียยกเลิกการทำวีซ่าทำงานให้กับคนไทย และประกาศเตือนคนในประเทศไม่ให้เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร ทำให้จำนวนคนงานไทยในซาอุดิอาระเบียลดลงจาก 150,000 คน ในปี พ.ศ. 2532 เหลือเพียง 10,000 คน ในปี พ.ศ. 2549
เชิงอรรถ
- นักการทูตชาวซาอุดีอาระเบีย 5 คนและภรรยาและลูกของสันติ ศรีธนะขัณฑ์
อ้างอิง
- Shay, Christopher (2010-03-07). "Thailand's Blue Diamond Heist: Still a Sore Point". Time. สืบค้นเมื่อ 14 Feb 2015.
- Mccarthy, Terry (25 September 1994). "Saudi gems theft leaves deadly trail in Thailand". The Independent. London.
- "วันนี้ในอดีต 6 ส.ค. 2532 'เกรียงไกร เตชะโม่ง' ขโมยเพชรซาอุฯ". คมชัดลึก. กรุงเทพมหานคร. 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ McClincy, Meghan A. (Apr 2012). "A Blue Thai Affair: The Blue Diamond Affair's Illustration of the Royal Thai Police Force's Standards of Corruption". Penn State Journal of Law & International Affairs. 1 (1): 182–201. สืบค้นเมื่อ 14 Feb 2015.
- Murdoch, Lindsay (1 April 2014). "Thai court throws out murder charges in 'Blue Diamond Affair'". Sydney Morning Herald. สืบค้นเมื่อ 4 June 2020.
- Thai Foreign Minister to reopen Saudi gems scandal case
- Hughes, Roland; Yongcharoenchai, Chaiyot (28 September 2019). "Blue Diamond Affair: The mystery of the stolen Saudi jewels". BBC News. สืบค้นเมื่อ 28 September 2019.
- Marshall, Andrew (22 September 2010). "The curse of the blue diamond". Thomson Reuters Foundation News. Reuters. สืบค้นเมื่อ 4 June 2020.
- "The Thai police: A law unto themselves". The Economist. 2008-04-17. สืบค้นเมื่อ 14 Feb 2015.
- Ramsey, Adam (2015-10-02). "Assassinations, Curses, and Stolen Jewels: The 'Blue Diamond Affair' Is Still Darkening Saudi-Thai Relations". Vice News. สืบค้นเมื่อ 13 October 2018.
- "Assassinations, Curses, and Stolen Jewels: The 'Blue Diamond Affair' Is Still Darkening Saudi-Thai Relations". Vice (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- "Court stands by ex-policeman's acquittal". Bangkok Post. 2016-05-04. สืบค้นเมื่อ 4 May 2016.
- ↑ "Former Bangkok cops cleared of murder of Saudi businessman". Bangkok Post. 2019-03-22. สืบค้นเมื่อ 2019-03-24.
- ↑ . Arab News. 2014-07-04. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-07-05. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
- Shenon, Philip (19 September 1994). "Saudi Envoy Helps Expose a Thai Crime Group: The Police (Published 1994)". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- ↑ "Blue Diamond Affair: The mystery of the stolen Saudi jewels". BBC News. 27 September 2019. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- "'ไพศาล'เปิดเบื้องลึกปมเพชรซาอุฯ ซัดเลิกโกหกเด็กป้ายสีสถาบันได้แล้ว". ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- "30 ปีคดีเพชรซาอุ เปิดใจนักโจรกรรม ผู้เขย่าสัมพันธ์ 2 ประเทศ". BBC ไทย. 25 September 2019. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- The Economist: A law unto themselves
- ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต 'ชลอ เกิดเทศ'
- Laohong, King-oua (2013-10-26). "Saudi gem killer Chalor freed". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 14 Feb 2015.
- Ngamkham, Wassayos (12 October 2018). "Ex-cop linked to Saudi gems case held in slaying". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 13 October 2018.
- Charuvastra, Teeranai (2016-03-17). . Khaosod English. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-04-07. สืบค้นเมื่อ 27 March 2016.
- "จำคุกลูกน้อง'พล.ต.ท.ชลอ'ยักยอกเงินคดีเพชรซาอุฯ". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.
- Saksornchai, Jintamas (2019-03-22). "TOP COURT CLEARS COPS OF MURDER IN SAUDI 'BLUE DIAMOND' CASE". Khaosod English. สืบค้นเมื่อ 2019-03-24.
แหล่งข้อมูลอื่น
- "The Curse of the Blue Diamond: Thailand Indicts Five Policemen to Salvage Relationship with Saudi Arabia". Wikileaks. 2010. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021.