ประมวล รุจนเสรี
นายประมวล รุจนเสรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตหัวหน้าพรรคประชามติ เจ้าของผลงานหนังสือ พระราชอำนาจ
ประมวล รุจนเสรี ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 – 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ วัฒนา อัศวเหม ประภัตร โพธสุธน พินิจ จารุสมบัติ สนธยา คุณปลื้ม |
ถัดไป | เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช สมชาย สุนทรวัฒน์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 21 มีนาคม พ.ศ. 2482 (82 ปี) จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ประชามติ (พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2551) |
คู่สมรส | วันเพ็ญ รุจนเสรี |
ศาสนา | พุทธ |
ประวัติ
ประมวล รุจนเสรี เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2482 ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับราชการในกระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอด จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง จากนั้นจึงเข้าสู่วงการการเมืองด้วยการเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
จนกระทั่งเกิดวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2550 เมื่อนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทยเริ่มมีการไม่ลงรอยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายประมวลซึ่งเป็นผู้ที่สนิทกับนายเสนาะ ได้เขียนหนังสือออกมา 2 เล่ม ซึ่งเป็นที่ฮือฮาและกล่าวขานกันอย่างมาก คือ การใช้อำนาจเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และ พระราชอำนาจ (โดยเฉพาะหนังสือ พระราชอำนาจ นี้ นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ได้อัญเชิญกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแจ้งกับนายประมวล ว่าเมื่อได้ทอดพระเนตรแล้ว ได้มีพระราชดำรัสว่า "…เราอ่านแล้ว เราชอบมาก เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง")
จนกระทั่งเกิดการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2549 ที่ท้องสนามหลวง นายประมวลได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับนายเสนาะ เทียนทอง ด้วย
จากนั้น นายประมวลได้เข้าร่วมงานกับพรรคประชาราช แต่ในกลางปี พ.ศ. 2550 นายประมวลก็ได้ออกจากพรรคประชาราชเพื่อดำเนินงานทางการเมืองด้วยตนเอง และมีข่าวว่าอาจจะไปร่วมงานกับทางพรรคประชาธิปัตย์ หากตั้งพรรคการเมืองของตัวเองไม่สำเร็จ แต่ท้ายที่สุด นายประมวลก็ได้จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยที่ตนเองเป็นหัวหน้า คือ พรรคประชามติ
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับนางวันเพ็ญ รุจนเสรี มีบุตรชาย หญิง รวม 3 คน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2535 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2536 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 1 (ส.ช.)
- พ.ศ. 2530 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
- พ.ศ. 2529 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1
อ้างอิง
- ประวัติผู้สมัคร ส.ส.กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- บทอาเศียรวาท
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๕๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๗ ตอนที่ ๒๔๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๕๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๓, ๒๘ เมษายน ๒๕๓๖
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๒๖๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๘, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๐
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ประจำปี ๒๕๓๐, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๕๐ ง หน้า ๑๘๙๖, ๑๙ มีนาคม ๒๕๓๐