พระประวัติ พระนารทพุทธเจ้า ประสูติเป็นนารทราชกุมาร ในราชวงศ์กษัตริย์แห่งธัญญวดีนคร พระราชบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุเทวะ และพระราชมารดาทรงพระนามว่าพระนางอโนมา นารทราชกุมารทรงเกษมสำราญครองฆราวาสอยู่นาน 9,000 ปี ในปราสาท 3 หลัง ชื่อ วิชิตะ วิชิตาวี และวิชิตาภิรามะปราสาท มีพระมเหสีพระนามว่า วิชิตเสนาเทวี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก 120,000 นาง
วันหนึ่ง พระมหาบุรุษทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา เมื่อพระนางวิชิตเสนาเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า นันทุตตรกุมาร จึงได้เสด็จด้วยพระบาทออกบรรพชาในธนัญชัยราชอุทยานนอกพระนคร โดยมีผู้ออกบรรพชาตามจำนวน 1 แสนคน
นารทราชกุมารทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่ในพระราชอุทยานเป็นเวลา 7 วัน จนถึงวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ทรงรับข้าวมธุปายาสจากพระนางวิชิตเสนาเทวีอัครมเหสี และรับหญ้า 8 กำจากพนักงานเฝ้าอุทยาน ปูลาดใต้ต้นมหาโสณะ (ต้นอ้อยช้างใหญ่) เป็นโพธิบัลลังก์ และได้ตรัสรู้เป็นพระปัญญาธิกะพุทธเจ้าในคืนนั้น
พระนารทพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พระภิกษุ ผู้บรรพชาตามจำนวน 1 แสนคนในราชอุทยานนั้นเอง
พระนารทพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมาภิสมัยให้บังเกิดขึ้น 3 วาระ คือ
- วาระที่ 1 แสดงปฐมเทศนา ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 100,000 โกฏิ
- วาระที่ 2 แสดงธรรมแก่พญานาคโทณะ ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 90,000 โกฏิ พญานาคโทณะได้เนรมิตมณฑบสำเร็จด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการขึ้นในแม่น้ำคงคา
- วาระที่ 3 แสดงธรรมแก่พระโอรส ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา 80,000 โกฏิ
พระนารทพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 100,000 โกฏิ
- ครั้งที่ 2 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 90,000 โกฏิ ที่มาประชุมกันในสมาคมพระญาติ
- ครั้งที่ 3 ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก 8,000,000 ที่มาประชุมกันในคราวเสด็จโรงทานของพญานาคชื่อ เวโรจนะ
พระนารทพุทธเจ้ามีพระสาวกองค์สำคัญ คือ
- พระอัครสาวก คือ พระภัททสาละเถระ และพระชิตมิตตะเถระ
- พระอัครสาวิกา คือ พระอุตตราเถรี และพระผัคคุนีเถรี
- พระอุปัฏฐาก คือ พระวาเสฏฐะ
พระนารทพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 88 ศอก มีพระรัศมีวาหนึ่ง เมื่อพระชนมายุได้ 90,000 ปี จึงปรินิพพาน พระศาสนาดำรงมาได้อีก 90,000 ปีนานพอสมควรแล้วก็อันตรธานไป
ความเกี่ยวข้องกับพระพุทธโคดม ในสมัยของพระนารทพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็นมนุษย์ ได้ออกบวชเป็นฤๅษี บำเพ็ญพรตในป่าใหญ่จนสำเร็จอภิญญา 5 วันหนึ่ง พระพุทธองค์และพระอริยสงฆ์พร้อมทั้งเหล่าอุบาสกอุบาสิกา พากันมาใกล้อาศรมของฤๅษี ในคราวนั้น พระฤๅษีโพธิสัตว์ทรงอภิญญาทัศนาเห็น ก็มีความปีติยินดี ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธองค์ จึงเนรมิตอาศรมมากมายให้มีจำนวนเพียงพอ กับพระพุทธองค์และเหล่าพระสาวก แล้วถวายให้นั่งเป็นที่เรียบร้อย
ครานั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม แก่พระสาวกและมหาฤๅษี ทำให้มหาฤๅษีมีความปีติปราโมทย์เป็นที่สุด ในวันรุ่งขึ้น จึงเหาะไปยังอุตตรกุรุทวีป เพื่อนำเอาภัตตาหารมาถวายพระพุทธองค์และพระสาวก อย่างเพียงพอ กระทำอย่างนั้นอยู่เป็นเวลา 7 วัน วันสุดท้าย สักการะด้วยแก่นจันทน์แดงอันมีคุณค่า พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนา แล้วตรัสพยากรณ์ว่า
มหาฤๅษีผู้มีอนุภาพนี้ นานไปในอนาคตกำหนดอีก 1 อสงไขยกับอีกเศษแสนมหากัป จะได้ตรัสรุเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า
หลังจากนั้นมหาฤๅษีโพธิสัตว์จึงทำความเพียรสร้างสมบารมี จนสิ้นอายุขัย ก็จุติเป็นพรหมบนพรหมโลก
อ้างอิงดูเพิ่ม พระนารทพ, ทธเจ, ระว, งส, บสนก, พระนารทส, มพ, ทธเจ, หล, งจากพระศาสนาของพระปท, มพ, ทธเจ, าล, วงไปแล, งได, งสม, ยของพระพ, ทธเจ, าทรงพระนามว, เป, นพระพ, ทธเจ, าองค, ดท, ายในวรก, ปเด, ยวก, นข, อม, องค, อนหน, าพระปท, มพ, ทธเจ, าองค, ดไปพระปท, ตตรพ, ทธเจ, สถาน, อยพระ. rawngsbsnkb phranarthsmphuththeca hlngcakphrasasnakhxngphrapthumphuththecalwngipaelw cungidthungsmykhxngphraphuththecathrngphranamwa phranarthphuththeca epnphraphuththecaxngkhsudthayinwrkpediywknphranarthphuththecakhxmul xngkhkxnhnaphrapthumphuththecaxngkhthdipphrapthumuttrphuththeca sthaniyxyphraphuththsasna enuxha 1 phraprawti 2 khwamekiywkhxngkbphraphuththokhdm 3 xangxing 4 duephimphraprawti aekikhphranarthphuththeca prasutiepnnarthrachkumar inrachwngskstriyaehngthyywdinkhr phrarachbidathrngphranamwaphraecasuethwa aelaphrarachmardathrngphranamwaphranangxonma narthrachkumarthrngeksmsaraykhrxngkhrawasxyunan 9 000 pi inprasath 3 hlng chux wichita wichitawi aelawichitaphiramaprasath miphramehsiphranamwa wichitesnaethwi aelathrngmisnmnariaewdlxmxik 120 000 nangwnhnung phramhaburusthxdphraentrehnethwthutthngsi khux khnaek khnecb khntay aelankbwch phraxngkhcungmiphrathynxmipthangbrrphcha emuxphranangwichitesnaethwiprasutiphraoxrs phranamwa nnthuttrkumar cungidesdcdwyphrabathxxkbrrphchainthnychyrachxuthyannxkphrankhr odymiphuxxkbrrphchatamcanwn 1 aesnkhnnarthrachkumarthrngbaephykhwamephiyrxyuinphrarachxuthyanepnewla 7 wn cnthungwnephyeduxnwisakha thrngrbkhawmthupayascakphranangwichitesnaethwixkhrmehsi aelarbhya 8 kacakphnknganefaxuthyan puladittnmhaosna tnxxychangihy epnophthibllngk aelaidtrsruepnphrapyyathikaphuththecainkhunnnphranarthphuththecathrngaesdngpthmethsnaaekphraphiksu phubrrphchatamcanwn 1 aesnkhninrachxuthyannnexngphranarthphuththeca thrngaesdngthrrmaphismyihbngekidkhun 3 wara khux warathi 1 aesdngpthmethsna thrrmaphismybngekidaekmnusyaelaethwda 100 000 okti warathi 2 aesdngthrrmaekphyanakhothna thrrmaphismybngekidaekmnusyaelaethwda 90 000 okti phyanakhothnaidenrmitmnthbsaercdwyrtnathng 7 prakarkhuninaemnakhngkha warathi 3 aesdngthrrmaekphraoxrs thrrmaphismybngekidaekmnusyaelaethwda 80 000 oktiphranarthphuththeca thrngprachumsawksnnibat 3 khrng khrngthi 1 thrngaesdngpatiomkkhaekphrasngkhsawk 100 000 okti khrngthi 2 thrngaesdngpatiomkkhaekphrasngkhsawk 90 000 okti thimaprachumkninsmakhmphrayati khrngthi 3 thrngaesdngpatiomkkhaekphrasngkhsawk 8 000 000 thimaprachumkninkhrawesdcorngthankhxngphyanakhchux eworcnaphranarthphuththecamiphrasawkxngkhsakhy khux phraxkhrsawk khux phraphththsalaethra aelaphrachitmittaethra phraxkhrsawika khux phraxuttraethri aelaphraphkhkhuniethri phraxuptthak khux phrawaestthaphranarthphuththecamiphrawrkaysung 88 sxk miphrarsmiwahnung emuxphrachnmayuid 90 000 pi cungpriniphphan phrasasnadarngmaidxik 90 000 pinanphxsmkhwraelwkxntrthanipkhwamekiywkhxngkbphraphuththokhdm aekikhinsmykhxngphranarthphuththeca phraophthistwidbngekidepnmnusy idxxkbwchepnvisi baephyphrtinpaihycnsaercxphiyya 5 wnhnung phraphuththxngkhaelaphraxriysngkhphrxmthngehlaxubaskxubasika phaknmaiklxasrmkhxngvisi inkhrawnn phravisiophthistwthrngxphiyyathsnaehn kmikhwampitiyindi srththaeluxmisinphraphuththxngkh cungenrmitxasrmmakmayihmicanwnephiyngphx kbphraphuththxngkhaelaehlaphrasawk aelwthwayihnngepnthieriybrxykhrannphraphuththxngkhthrngaesdngthrrm aekphrasawkaelamhavisi thaihmhavisimikhwampitipraomthyepnthisud inwnrungkhun cungehaaipyngxuttrkuruthwip ephuxnaexaphttaharmathwayphraphuththxngkhaelaphrasawk xyangephiyngphx krathaxyangnnxyuepnewla 7 wn wnsudthay skkaradwyaekncnthnaedngxnmikhunkha phraphuththxngkhthrngxnuomthna aelwtrsphyakrnwa mhavisiphumixnuphaphni nanipinxnakhtkahndxik 1 xsngikhykbxikessaesnmhakp caidtrsruepnphraphuththecaxngkhhnung minamwa phrasrisakymuniokhdmphuththeca hlngcaknnmhavisiophthistwcungthakhwamephiyrsrangsmbarmi cnsinxayukhy kcutiepnphrhmbnphrhmolkxangxing aekikhhttp larndham net index php showtopic 24451 amp st 4 http web archive org 20090215232101 www geocities com ss12345 th poti P204 htmlkxnhna phranarthphuththeca thdipphrapthumphuththeca100 000 pi phraphuththecainxdit xngkhthi 12 90 000 pi phrapthumuttrphuththeca 100 000 pi duephim aekikhphraphuththeca phraphuththecainxditekhathungcak https th wikipedia org w index php title phranarthphuththeca amp oldid 8878558, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
