ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น
ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: サッカー日本代表 โรมาจิ: Sakkā Nippon Daihyō; ฉายา ซามูไรสีน้ำเงิน (サムライ・ブルー)) เป็นทีมฟุตบอลแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่น หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนปัจจุบันคือ ฮาจิเมะ โมริยาซุ ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนของทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีด้วย
ฉายา | サムライ・ブルー (ซามูไรสีน้ำเงิน) ทีมปลาดิบ (ฉายาในภาษาไทย) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สมาพันธ์ย่อย | สหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันออก (EAFF) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สมาพันธ์ | เอเอฟซี (เอเชีย) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | ฮาจิเมะ โมริยาซุ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กัปตัน | มายะ โยชิดะ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ติดทีมชาติสูงสุด | ยาซูฮิโตะ เอ็นโด (152) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทำประตูสูงสุด | คูนิชิเงะ คามาโมโตะ (75) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สนามเหย้า | กรีฑาสถานแห่งชาติญี่ปุ่น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รหัสฟีฟ่า | JPN | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับฟีฟ่า | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับปัจจุบัน | 28 (27 พฤษภาคม 2021) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับสูงสุด | 9 (กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับต่ำสุด | 62 (กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ญี่ปุ่น 0 - 5 สาธารณรัฐจีน (โตเกียว ญี่ปุ่น; 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2460) ในนามสมาชิกฟีฟ่า ญี่ปุ่น 7–2 ฟิลิปปินส์ (โตเกียว ญี่ปุ่น; 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2473) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชนะสูงสุด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ญี่ปุ่น 15 - 0 ฟิลิปปินส์ (โตเกียว ญี่ปุ่น; 27 กันยายน พ.ศ. 2510) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แพ้สูงสุด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ไม่เป็นทางการ ญี่ปุ่น 2 - 15 ฟิลิปปินส์ (โตเกียว ญี่ปุ่น; 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2460) ทางการ ญี่ปุ่น 0–8 อิตาลี (เบอร์ลิน เยอรมนี; 7 สิงหาคม พ.ศ. 2479) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟุตบอลโลก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 6 (ครั้งแรกใน 1998) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2002, 2010, 2018) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เอเชียนคัพ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 9 (ครั้งแรกใน 1988) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1992, 2000, 2004, 2011) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โกปาอาเมริกา (เป็นทีมรับเชิญ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 2 (ครั้งแรกใน 1999) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | รอบแบ่งกลุ่ม (1999, 2019) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 5 (ครั้งแรกใน 1995) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | รองชนะเลิศ (2001) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกียรติยศ
|
เดิมญี่ปุ่นเป็นเพียงทีมฟุตบอลสมัครเล่นขนาดเล็ก แต่ในทศวรรษ 1990 ฟุตบอลญี่ปุ่นได้เข้าสู่ระบบอาชีพอย่างเต็มตัว ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชีย พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในหกครั้งหลังสุดท้าย โดยผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในปี 2002, 2010, และ 2018 ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ชนะเลิศเอเชียนคัพมากที่สุดที่สี่สมัยในปี 1992, 2000, 2004 และ 2011 นอกจากนี้ ยังเคยจบอันดับที่สองในฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2001 และเอเชียนคัพ 2019 ทีมชาติญี่ปุ่นเป็นเพียงทีมเดียวจากเอเอฟซีที่เคยเข้าชิงชนะเลิศในรายการแข่งขันฟุตบอลชายของฟีฟ่า
การก้าวกระโดดของฟุตบอลญี่ปุ่นในระยะเวลาอันสั้นเป็นแรงบันดาลใจและตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาฟุตบอล ญี่ปุ่นมีคู่ปรับร่วมทวีปหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, จีน, ออสเตรเลีย, อิหร่าน และฟุตบอลทีมชาติซาอุดีอาระเบีย
ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกจากนอกอเมริกาที่ได้เข้าร่วมแข่งขันโกปาอาเมริกา โดยได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในปี 1999, 2011, 2015 และ 2019 อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เพียงสองครั้งในปี 1999 และ 2019
ประวัติ
ยุคก่อนสงคราม (ทศวรรษ 1910–1930)
นัดการแข่งขันระหว่างประเทศครั้งแรกสุดของญี่ปุ่นเกิดขึ้นในกีฬาตะวันออกไกล 1917 ที่โตเกียว ซึ่งแข่งขันโดยทีมจากโรงเรียนมัธยมปลายโตเกียว แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีความโดดเด่นในด้านกีฬาว่ายน้ำ เบสบอล และกรีฑา แต่ทีมฟุตบอลกลับพ่ายแพ้ทั้งทีมสาธารณรัฐจีนและฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม เกมฟุตบอลได้มีบทบาทมากขึ้นในโรงเรียนญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1920 สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นก่อตั้งใน ค.ศ. 1921, และเข้าร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่าในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1929
ทีมชาติญี่ปุ่นทีมแรก "อย่างแท้จริง" (ซึ่งเกิดขึ้นจากกระแสต่อต้านการส่งทีมมหาวิทยาลัยเป็นตัวแทนของประเทศ) ลงสนามแข่งขันในกีฬาตะวันออกไกล 1930 พวกเขาเสมอกับจีนและคว้าแชมป์ร่วมกัน ชิเงโยชิ ซูซูกิ ได้คุมทีมชาติลงเล่นในโอลิมปิกครั้งแรกในโอลิมปิกฤดูร้อน 1936 ที่กรุงเบอร์ลิน ญี่ปุ่นยังได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 1938 รอบคัดเลือก แต่ทีมได้ถอนตัวออกไปก่อนนัดที่จะพบกับทีมชาติหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์
หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่สองได้เริ่มขึ้น ญี่ปุ่นไม่ได้ลงเล่นเกมการแข่งขันระหว่างประเทศอีกเลย นอกเหนือไปจากนัดที่แข่งกับทีมแมนจูเรียและทีมอาณานิคมอื่น ๆ นัดการแข่งขันสุดท้ายที่มีผลต่ออันดับอีโลในตอนนั้นคือนัดกระชับมิตรที่พบกับฟิลิปปินส์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940
ในช่วงเดียวกันที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น มีนักฟุตบอลชาวเกาหลีหลายคนลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่น อาทิ คิม ย็อง-ซิก (1936–40), คิม ซึง-กัน (1940) และ อี โย-ฮย็อง (1940)
ยุคหลังสงคราม (ทศวรรษ 1950–1980)
หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งในเอเชียนเกมส์ 1951 ที่ประเทศอินเดีย พวกเขากลับมาเป็นสมาชิกของฟีฟ่าอีกครั้งใน ค.ศ. 1950 และเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 1954 รอบคัดเลือก ซึ่งญี่ปุ่นแพ้เกาหลีใต้จนต้องตกรอบคัดเลือก ทำให้สองชาตินี้เริ่มเป็นคู่อริกัน ต่อมาใน ค.ศ. 1954 ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย
เดตต์มาร์ คราเมอร์เข้ารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1960 เขาคุมทีมเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ที่โตเกียว ความสำเร็จแรกในระดับนานาชาติของญี่ปุ่นเกิดขึ้นในโอลิมปิกฤดูร้อน 1968 ที่เม็กซิโกซิตี ซึ่งญี่ปุ่นสามารถคว้าเหรียญทองแดงได้ แม้ว่าความสำเร็จครั้งนี้จะทำให้ฟุตบอลได้รับความนิยมในประเทศมากขึ้น แต่การขาดลีกฟุตบอลอาชีพเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกยาวนานถึง 30 ปี ญี่ปุ่นเกือบผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 1986 แต่แพ้เกาหลีใต้ในนัดตัดสินจนต้องตกรอบไป
ญี่ปุ่นลงเล่นในเอเชียนคัพครั้งแรกใน ค.ศ. 1988 ซึ่งพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มจากการเสมอกับอิหร่านและแพ้ให้กับเกาหลีใต้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์
ปลายทศวรรษ 1980 เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงฟุตบอลในประเทศให้เข้าสู่ระบบอาชีพมากขึ้น ใน ค.ศ. 1986 สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นเปิดตัวระบบผู้เล่นไลเซนส์พิเศษซึ่งจำกัดผู้เล่นชาวต่างชาติที่ลงแข่งขันในลีกกึ่งอาชีพในประเทศ ต่อมาใน ค.ศ. 1988 และ 1989 มีการประชุมเพื่ออภิปรายถึงการจัดตั้งลีกฟุตบอลอาชีพเต็มรูปแบบในญี่ปุ่น
ทศวรรษ 1990: เติบโต
ใน ค.ศ. 1991 ได้มีการยุบลีกกึ่งอาชีพ เจแปนซอกเกอร์ลีก และเตรียมจัดตั้งลีกอาชีพอย่างเจลีกขึ้นมาแทน เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ฟุตบอลในประเทศและศักยภาพของทีมชาติ ในปีถัดมา ญี่ปุ่นได้เจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนคัพ 1992 และชนะเลิศการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่เอาชนะซาอุดีอาระเบีย 1–0 ในนัดชิงชนะเลิศ เจลีกซึ่งเริ่มแข่งขันใน ค.ศ. 1993 ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของฟุตบอลและช่วยให้ทีมชาติเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นพลาดโอกาสไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 1994 จากการเสมอกับอิรักในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก โดยนัดนั้นถูกกล่าวขานว่าเป็น "โศกนาฏกรรมแห่งโดฮา" ต่อมาญี่ปุ่นต้องลงแข่งขันเพื่อป้องกันแชมป์ในเอเชียนคัพ 1996 แม้ว่าพวกเขาชนะทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่ม แต่สุดท้ายก็ไปแพ้คูเวตในรอบก่อนรองชนะเลิศ 2–0
ญี่ปุ่นเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกในปี 1998 โดยในสองนัดแรก พวกเขาแพ้อาร์เจนตินาและโครเอเชียด้วยผล 1–0 เหมือนกัน ก่อนที่จะแพ้จาเมกา 2–1 ในนัดสุดท้าย แม้ว่าจะแพ้รวดทุกนัด แต่ทีมก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการแพ้ด้วยผลต่างเพียงนัดละลูกเท่านั้น
ทศวรรษ 2000
ในเอเชียนคัพ 2000 ญี่ปุ่นคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยสองหลังจากที่เอาชนะซาอุดีอาระเบียในนัดชิงชนะเลิศ
สองปีถัดมา ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2002 ร่วมกับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นประเดิมสนามด้วยการเสมอกับเบลเยียม 2–2 ก่อนที่จะเอาชนะรัสเซีย 1–0 และตูนิเซีย 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังจากที่แพ้ตุรกีซึ่งจบอันดับที่สามในทัวร์นาเมนต์นั้น
ในเอเชียนคัพ 2004 ที่ประเทศจีน ญี่ปุ่นป้องกันแชมป์ได้สำเร็จแม้ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคที่ยากลำบาก แม้ว่าจะถูกกดดันจากแฟนบอลจีนที่เป็นอริ แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะไทยและโอมานในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่จะเอาชนะจอร์แดนและบาห์เรน และเอาชนะเจ้าภาพอย่างจีนในนัดชิงชนะเลิศ 3–1
วันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2005 ญี่ปุ่นผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นการเข้าร่วมฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน หลังจากที่พวกเขาเอาชนะเกาหลีเหนือในรอบคัดเลือกที่สนามกลาง 2–0 อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลโลกครั้งนั้น ญี่ปุ่นไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกได้ พวกเขาแพ้ออสเตรเลีย 1–3, เสมอโครเอเชีย 0–0 และบราซิล 1–4
ในเอเชียนคัพ 2007 พวกเขาอยู่อันดับที่หนึ่งของกลุ่มเหนือเวียดนาม, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่อมาพวกเขาเอาชนะการยิงลูกโทษเหนือออสเตรเลีย ก่อนที่จะแพ้ต่อซาอุดีอาระเบียในรอบรองชนะเลิศ และแพ้เกาหลีใต้ในนัดชิงอันดับที่สาม ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้
ผลงาน
ฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย | ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปี | ผล | อันดับ | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | |
1930 | ไม่ได้เข้าร่วม | – | – | – | – | – | – | ||||||||
1934 | – | – | – | – | – | – | |||||||||
1938 | ถอนตัว | – | – | – | – | – | – | ||||||||
1950 | ถูกห้ามเข้าร่วม | – | – | – | – | – | – | ||||||||
1954 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | 2 | 0 | 1 | 1 | 3 | 7 | ||||||||
1958 | ไม่ได้เข้าร่วม | – | – | – | – | – | – | ||||||||
1962 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | 2 | 0 | 0 | 2 | 1 | 4 | ||||||||
1966 | ไม่ได้เข้าร่วม | – | – | – | – | – | – | ||||||||
1970 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | 4 | 0 | 2 | 2 | 4 | 8 | ||||||||
1974 | 4 | 1 | 0 | 3 | 5 | 4 | |||||||||
1978 | 4 | 0 | 1 | 3 | 0 | 5 | |||||||||
1982 | 4 | 2 | 0 | 2 | 4 | 2 | |||||||||
1986 | 8 | 5 | 1 | 2 | 15 | 5 | |||||||||
1990 | 6 | 2 | 3 | 1 | 7 | 3 | |||||||||
1994 | 13 | 9 | 3 | 1 | 35 | 6 | |||||||||
1998 | รอบแบ่งกลุ่ม | 31st | 3 | 0 | 0 | 3 | 1 | 4 | 15 | 9 | 5 | 1 | 51 | 12 | |
2002 | รอบ 16 ทีม | 9th | 4 | 2 | 1 | 1 | 5 | 3 | – | – | – | – | – | – | |
2006 | รอบแบ่งกลุ่ม | 28th | 3 | 0 | 1 | 2 | 2 | 7 | 12 | 11 | 0 | 1 | 25 | 5 | |
2010 | รอบ 16 ทีม | 9th | 4 | 2 | 1 | 1 | 4 | 2 | 14 | 8 | 4 | 2 | 23 | 9 | |
2014 | รอบแบ่งกลุ่ม | 29th | 3 | 0 | 1 | 2 | 2 | 6 | 14 | 8 | 3 | 3 | 30 | 8 | |
2018 | รอบ 16 ทีม | 15th | 4 | 1 | 1 | 2 | 6 | 7 | 18 | 13 | 3 | 2 | 44 | 7 | |
Total | รอบ 16 ทีม | 6/21 | 21 | 5 | 5 | 11 | 20 | 29 | 120 | 68 | 26 | 26 | 247 | 85 |
เอเชียนคัพ
ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ
กีฬาโอลิมปิก(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2535)
อีสต์เอเชียนคัพ
หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนสำคัญ
นักเตะชุดปัจจุบันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019
นักฟุตบอลในนามทีมชาติที่ทำประตูสูงสุด
อดีตผู้เล่นคนสำคัญฟุตบอลโลก 1998
ฟุตบอลโลก 2002
ฟุตบอลโลก 2006
ฟุตบอลโลก 2010
ฟุตบอลโลก 2014
ฟุตบอลโลก 2018
อดีตผู้เล่นที่มีชื่อเสียง
ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|