ภาษามลายูปัตตานี
ภาษามลายูปัตตานี หรือ ภาษามลายูปาตานี (มลายูปัตตานี: บาซอนายูตานิง; มลายู: Bahasa Melayu Patani, อักษรยาวี: بهاس ملاي ڤطاني) หรือนิยมเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ภาษายาวี (มลายูปัตตานี: บาซอญฺวี, บอซอยาวี, อักษรยาวี: بهاس جاوي) เป็นภาษากลุ่มออสโตรนีเซียนที่พูดโดยชาวไทยเชื้อสายมลายูในจังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา รวมทั้งในอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย ทางทิศตะวันออกของจังหวัดสงขลา (ไม่รวมจังหวัดสตูล) และในเขตฮูลูเปรักในรัฐเปรักของมาเลเซีย
ภาษามลายูปัตตานี | |
---|---|
บาซอนายูตานิง หรือ แกแจะนายู | |
ออกเสียง | /baˈsɔ ˈnːaju ˈtːaniŋ/ |
ประเทศที่มีการพูด | ไทย |
ภูมิภาค | จังหวัดปัตตานี, นราธิวาส, ยะลา บางส่วนของสงขลา และบางส่วนของรัฐเปรัก (อาจจรวมถึงรัฐกลันตัน) |
จำนวนผู้พูด | 1 ล้านคน (2549) |
ตระกูลภาษา | ออสโตรนีเชียน
|
ระบบการเขียน | อักษรยาวี, อักษรไทย, อักษรโรมัน |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | mfa (Pattani) |
ในประเทศไทยมีประชากรที่พูดภาษานี้มากกว่า 1 ล้านคน ภาษานี้ใกล้เคียงมากกับภาษามลายูถิ่นในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นภาษาถิ่นที่แตกต่างจากส่วนที่เหลือของประเทศมาเลเซีย บางครั้งก็มีการเรียกรวมกันเป็นภาษาเดียวกันว่า ภาษามลายูกลันตัน-ปัตตานี (มลายูปัตตานี: บาซอนายูกือลาแต-ตานิง, กลันตัน: Baso nayu Kelate-Taning)
ระบบเสียง
พยัญชนะ
ประเภทเสียง | ตำแหน่งเกิดเสียง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ริมฝีปาก | ริมฝีปาก กับฟัน | ปุ่มเหงือก | เพดานแข็ง | เพดานอ่อน | เส้นเสียง | |||
เสียงนาสิก | m | n | ɲ | ŋ | ||||
เสียงกึ่งนาสิก | mb | nd | ɲɟ | ŋg | ||||
เสียงกัก | ไม่ก้อง | ไม่พ่นลม | p | t | c | k | ʔ | |
พ่นลม | (pʰ) | (tʰ) | (cʰ) | (kʰ) | ||||
ก้อง | b | d | ɟ | g | ||||
เสียงเสียดแทรก | ไม่ก้อง | (f) | s | (x) | h | |||
ก้อง | (z) | ɣ | ||||||
เสียงลิ้นรัว | r | |||||||
เสียงข้างลิ้น | l | |||||||
เสียงกึ่งสระ | w | j |
- หน่วยเสียงที่อยู่ในวงเล็บคือหน่วยเสียงที่ปรากฏในคำยืม เช่น /kʰeʔ/ 'เค้ก', /tʰorasaʔ/ 'โทรศัพท์'
- หน่วยเสียงที่ปรากฏในตำแหน่งท้ายพยางค์มี 3 หน่วยเสียง ได้แก่ /ŋ/, /ʔ/ และ /h/ เช่น /tɨpoŋ/ 'ขนม', /kɔtɔʔ/ 'กล่อง', /panah/ 'ร้อน'
- หน่วยเสียงพยัญชนะกึ่งนาสิกเป็นหน่วยเสียงที่ไม่พบทั้งในภาษามาเลเซียและภาษาไทย เกิดจากการรวบเสียงพยัญชนะนาสิกเข้ากับเสียงพยัญชนะกักซึ่งใช้ฐานกรณ์เดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนกลมกลืนเป็นเสียงเดียว โดยเกิดเฉพาะในตำแหน่งกลางคำเท่านั้น ตัวอย่างคู่เทียบเสียงได้แก่ /kɨmæ/ 'ไมยราบ' - /kɨmbæ/ 'บาน', /kanæ/ 'ขวา' - /kandæ/ 'คอก' และ /tuŋa/ 'ไร' - /tuŋga/ 'โทน, โดด'
- นอกจากหน่วยเสียงพยัญชนะข้างต้นแล้ว ภาษามลายูปัตตานียังมีหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงยาว ซึ่งก็คือเสียงพยัญชนะต้นที่ถูกยืดให้ยาวกว่าปกติเล็กน้อยเนื่องมาจากการลดรูปของคำ การยืดเสียงเช่นนี้เกิดได้กับพยัญชนะทุกหน่วยเสียง ยกเว้น /ʔ/, /h/ และหน่วยเสียงพยัญชนะกึ่งนาสิก ตัวอย่างคู่เทียบเสียงได้แก่ /buŋɔ/ 'ดอกไม้' - /bːuŋɔ/ 'ออกดอก' และ /malæ/ 'กลางคืน' - /mːalæ/ 'ค้างคืน'
สระ
ประเภท | สระหน้า | สระกลางลิ้น | สระหลัง |
---|---|---|---|
สระสูง | i | ɨ | u, ũ |
สระกึ่งสูง | e | o | |
สระกึ่งต่ำ | æ, æ̃ | ɔ, ɔ̃ | |
สระต่ำ | a, ã |
คำยืม
นอกจากคำศัพท์พื้นฐานของภาษามลายูแล้ว ภาษามลายูปัตตานีมีคำยืมจากภาษาอื่นหลายภาษา ได้แก่
- ภาษาสันสกฤต เข้ามาพร้อมกับศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ฮินดู เช่น ภาษา เป็น บาฮาซอ หรือ บาซอ, หฤทยะ (ใจ) เป็น ฮาตี (ตับ, ใจ), คช (ช้าง) เป็น ฆฺเย๊าะห์,ชัย (ชัยชนะ) เป็น จายอ (เจริญ), โทษ (ความชั่ว) เป็น ดอซอ (บาป), วาจา (คำพูด) เป็น บาจอ (อ่าน), นคร (เมือง) เป็น เนฆือรฺ (ประเทศ)
- ภาษาอาหรับ เข้ามาพร้อมกับศาสนาอิสลาม เช่น قلم /กอลัม/ (ปากกา) เป็น กาแล, تمر /ตะมัร/ (อินทผาลัม) เป็น ตามา, عالم /อาลัม/ (โลก) เป็น อาแล, تفاحة /ฏุฟฟาห์/ (แอปเปิ้ล) เป็น ตอเปาะห์, وقت /วักตู/ (เวลา) เป็น วะกือตู, กีตาบ (หนังสือ) เป็น กีตะ (คัมภีร์ทางศาสนาอิสลาม), دنيا /ดุนยา/ (โลก) เป็น ดุนิยอ
- ภาษาเขมร เช่น กำปง (หมู่บ้าน) เป็น กาปง
- ภาษาจีน เช่น กุยช่าย เป็น กูจา
- ภาษาเปอร์เซีย เช่น มะตับ (แสงจันทร์) เป็น มะตับ, ฆันดุม (แป้ง) เป็น ฆฺนง
- ภาษาฮินดี เช่น โรตี เป็น รอตี
- ภาษาทมิฬ เช่น มานิกัม (เพชร) เป็น มานิแก
- ภาษาอังกฤษ เช่น Glass (แก้ว) เป็น ฆฺอละห์, Free (ฟรี) เป็น ปือรี, Motorcycle (มอเตอร์ไซค์) เป็น มูตู-ซีกา
- ภาษาไทย เช่น นายก เป็น นาโย๊ะ, ปลัด เป็น บือละ, มักง่าย เป็น มะงา โทรศัพท์ เป็น โทราสะ
ความแตกต่างระหว่างภาษามลายูปัตตานีกับภาษามาเลเซีย
ความแตกต่างระหว่างภาษามลายูปัตตานีกับภาษามลายูกลางหรือภาษามาเลเซียมีดังนี้
การใช้คำ
บางคำทั้งสองภาษาใช้คำต่างกัน เช่น ฉัน ภาษามาเลเซียใช้ saya ภาษามลายูปัตตานีใช้ อามอ หรือ ซายอ; มันเทศ ภาษามาเลเซียใช้ ubi keledek ภาษามลายูปัตตานีใช้ อูบีกือแตลอ หรือ อูบีแตลอ; ภาษามาเลเซียใช้ kacap ภาษามลายูปัตตานีใช้ แกแจะ นอกจากนี้ ยังมีการใช้คำภาษาไทยปะปนเข้ามาในบางส่วน
การออกเสียง
- ออกเสียงสระต่างกัน ได้แก่
- เสียง /a/ + พยัญชนะนาสิกในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɛ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น ayam (ไก่) เป็น อาแย; makan (กิน) เป็น มาแก
- เสียง /a/ ท้ายคำในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɔ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น nama (ชื่อ) เป็น นามอ; sila (เชิญ) เป็น ซีลอ
- เสียง /a/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɔʔ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น bawa (พา) เป็น บอเวาะ; minta (ขอ) เป็น มีเตาะ
- เสียง /ah/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɔh/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น rumah (บ้าน) เป็น รูเมาะฮ
- เสียง /aj/ ท้ายคำในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /a/ หรือ /ɛ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น sungai (คลอง) เป็น ซูงาหรือซูแง; kedai (ตลาด) เป็น กือดาหรือกือแด (การแปรเป็นเสียง /ɛ/ พบในบางท้องถิ่นเท่านั้น)
- เสียง /aw/ ท้ายคำในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /a/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น pisau (มีด) เป็น ปีซา
- เสียง /i/ ท้ายคำที่ประสมกับพยัญชนะนาสิกในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /iŋ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น sini (ที่นั่ง) เป็น ซีนิง
- เสียง /ia/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ijɛ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น Siam (สยาม) เป็น ซีแย
- เสียง /ia/ พยางค์แรกในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɛ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น biasa (เคย) เป็น แบซอ
- เสียง /ua/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɔ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น puasa (บวช) เป็น ปอซอ
- ออกเสียงพยัญชนะต้นต่างกัน เช่น
- เสียง /r/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ɣ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น 'orang (คน) เป็น ออแรฺ, rantai (โซ่) เป็น รฺาตา
- ออกเสียงตัวสะกดต่างกัน เช่น
- ตัวสะกดที่เป็นเสียงเสียดแทรก /s/, /f/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียงที่เกิดจากคอหอย /h/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น malas (เกียจคร้าน) เป็น มาละฮ
- ตัวสะกด /n/, /m/ ในภาษามาเลเซีย แปรเป็นเสียง /ŋ/ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น hakim (ตุลาการ) เป็น ฮาเก็ง
นอกจากนั้นภาษามลายูปัตตานียังนิยมลดเสียงและคำที่พูด เช่น emak saudara (น้าผู้หญิง) ในภาษามาเลเซีย เป็น เมาะซือดารฺอ ในภาษามลายูปัตตานี
โครงสร้างประโยค
ภาษามลายูปัตตานีนิยมเรียงประโยคแบบภาษาไทยคือใช้รูปประธานกระทำ ส่วนภาษามาเลเซียใช้ประโยคแบบประธานถูกกระทำ เช่น ภาษามลายูใช้ ตูวัน ดีเปอรานะกัน ตีมานา (ท่านถูกเกิดที่ไหน) ภาษามลายูปัตตานีใช้ ตูแว บือราเนาะ ดีมานอ (ท่านเกิดที่ไหน)
ความต่างของไวยากรณ์และคำศัพท์
- ภาษามลายูปัตตานีตัดคำอุปสรรคที่ไม่จำเป็นออก เช่น berjalan (เดิน) ในภาษามาเลเซีย เป็น 'ยฺแล ในภาษามลายูปัตตานี
- ภาษามลายูปัตตานีใช้คำง่ายกว่า เช่น มาแก ใช้ได้ทั้ง กินข้าว ดื่มน้ำ สูบบุหรี่ แต่ภาษามาเลเซียแยกเป็น makan (กิน), minum (ดื่ม) และ hisap (สูบ)
- ภาษามาเลเซียมีการแยกระดับของคำมากกว่า เช่น ผู้ชายใช้ laki-laki สัตว์ตัวผู้ใช้ jantan ส่วนภาษามลายูปัตตานีใช้ ยฺแต กับทั้งคนและสัตว์ ส่วน ลือลากี มีใช้น้อย
- ภาษามลายูปัตตานีมีการเรียงคำแบบภาษาไทยมากกว่า เช่น ทำนา ใช้ บูวะบือแน
อ้างอิง
- ↑ http://www.ethnologue.com/language/mfa
- ราชบัณฑิตยสถาน. คู่มือระบบเขียนภาษามลายูปาตานีอักษรไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2553, หน้า 20.
- ราชบัณฑิตยสถาน. คู่มือระบบเขียนภาษามลายูปาตานีอักษรไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2553, หน้า 24.
- ประพนธ์, 2540
- ประพนธ์, 2540
- ประพนธ์ เรืองณรงค์. บุหงาปัตตานี: คติชนไทยมุสลิมชายแดนภาคใต้. กทม. มติชน. 2540