ประเทศมอลตา
มอลตา (มอลตา: Malta) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมอลตา (มอลตา: Repubblika ta' Malta) เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่มีประชากรหนาแน่น (1,262 คน ต่อตารางกิโลเมตร) มีประชากรทั้งหมดประมาณ 475,000 (พฤษภาคม พ.ศ. 2561) คน เมืองหลวงชื่อเมืองวัลเลตตา (Valletta)
สาธารณรัฐมอลตา Republic of Malta (อังกฤษ) Repubblika ta' Malta (มอลตา) | |
---|---|
เมืองหลวง | วัลเลตตา 35°54′N 14°31′E / 35.900°N 14.517°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 35°54′N 14°31′E / 35.900°N 14.517°E |
เมืองใหญ่สุด | บีร์กีร์การา |
ภาษาราชการ | ภาษามอลตาและภาษาอังกฤษ |
การปกครอง | สาธารณรัฐประชาธิปไตย |
• ประธานาธิบดี | จอร์จ เวลลา |
• นายกรัฐมนตรี | โจเซฟ มัสกัต |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
เอกราช | |
• จาก สหราชอาณาจักร | 21 กันยายน ค.ศ. 1964 |
• สาธารณรัฐ | 13 ธันวาคม ค.ศ. 1974 |
พื้นที่ | |
• รวม | 316 ตารางกิโลเมตร (122 ตารางไมล์) (187) |
0.001 | |
ประชากร | |
• พ.ย. 2548 ประมาณ | 404,039 (166) |
• สำมะโนประชากร 2548 | 404,039¹ |
1,282 ต่อตารางกิโลเมตร (3,320.4 ต่อตารางไมล์) (7) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2562 (ประมาณ) |
• รวม | $22.802 พันล้าน |
• ต่อหัว | $48,246 |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2562 (ประมาณ) |
• รวม | $15.134 พันล้าน |
• ต่อหัว | $32,021 |
จีนี (2562) | 28.0 ต่ำ · 15 |
HDI (2019) | 0.895 สูงมาก · 28 |
สกุลเงิน | ยูโร (€) (EUR) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (DST) | UTC+2 (CEST) |
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ |
รหัสโทรศัพท์ | 356 |
โดเมนบนสุด | .mt2 |
1ประชากรทั้งหมดรวมผู้มีถิ่นอาศัยชาวต่างชาติ ผู้อยู่อาศัยชาวมอลตาเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2547 มี 389,769 คน 2และยังใช้ .eu ร่วมกับรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป อื่น ๆ ด้วย |
ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป ถัดลงมาจากตอนใต้ของประเทศอิตาลี นับเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งหนึ่งในยุโรป มีผู้มาครอบครองและถูกแย่งชิงนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต
ประวัติศาสตร์
มอลตาเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2344 และได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2507 โดยได้รับความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศและการเงินตามข้อตกลงที่มีกับอังกฤษเป็นระยะเวลา 10 ปี มอลตาเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2507 และยังอยู่ในเครือจักรภพอังกฤษ อย่างไรก็ดี ในช่วงสงครามเย็น มอลตามีรัฐบาลที่มาจากพรรคแรงงาน นำโดยนาย Dom Mintroff ซึ่งมีแนวทางสังคมนิยม-ชาตินิยม จึงดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (non-alignment) อย่างจริงจัง และได้ขอยกเลิกความตกลงที่ทำไว้กับอังกฤษฉบับปี 2507 และปี 2515 โดยขอทำความตกลงฉบับใหม่ซึ่งมีเนื้อหาที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศและเพื่อเป็นหลักประกันว่า มอลตาจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่จากการที่มีฐานทัพนาโตประจำอยู่ในมอลตา ความตกลงฉบับใหม่มีระยะเวลา 7 ปี (ปี 2515-2522) สาระสำคัญโดยสรุปคืออังกฤษต้องจ่ายค่าเช่าในการคงฐานทัพในมอลตา 14 ล้านปอนด์ต่อปี ต่อมา ในเดือนมีนาคม 2522 รัฐบาลมอลตาได้ขอยกเลิกการต่อสัญญาให้เช่าพื้นที่สำหรับเป็นฐานทัพ ทำให้กองกำลังอังกฤษต้องถอนกำลังออกจากมอลตาตั้งแต่นั้นมา
นอกจากนี้ รัฐบาลมอลตายังมีความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการค้ากับหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อิตาลี สหภาพโซเวียต จีน กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก ลิเบีย ตูนิเซีย และตกลงรับความช่วยเหลือด้านวิชาการจากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะลิเบีย อีกทั้งได้ลงนามในความตกลงรับรองความเป็นกลางและการร่วมมือทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ ผลของการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอย่างจริงจังทำให้ในปี 2524 สหภาพโซเวียตและอิตาลีได้ตกลงรับรองความเป็นกลางของมอลตา โดยเฉพาะอิตาลี ได้ให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการและการเงินแก่มอลตาเป็นระยะเวลา 5 ปี นอกจากนั้น มอลตายังมีความตกลงร่วมกับประชาคมเศรษฐกิจยุโรป ในปี 2513 ซึ่งได้ต่ออายุความตกลงมาจนถึงปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศ ปัจจุบัน มอลตาเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญหลายองค์การ อาทิ สหประชาชาติ กลุ่ม 77 IAEA OSCE UNCTAD UNESCO เป็นต้น
มอลตาได้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (NAM) ตั้งแต่เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2547 มอลต้าได้เพิ่มบทบาทของตนเองในนโยบาย EU-Mediterranean ซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศอื่น ๆ มีประเทศโมรอโค อัลจีเรีย ตูนิเซีย อียิป อิสราเอล ปาเลสไตน์ จอร์แดน เลบานอน ซีเรีย และตุรกี
ในเดือน กุมภาพันธ์ 2549 กระทรวงการต่างประเทศมอลต้าเสนอนโยบายด้านการต่างประเทศซึ่งเน้นการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ ระหว่างมอลต้ากับประเทศอื่นที่ชาวมอลต้าได้ย้ายถิ่นฐานไป
การเมือง
มอลตา เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547
การแบ่งเขตการปกครอง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภูมิศาสตร์
พื้นที่เป็นเกาะที่เกิดจากหินภูเขาไฟ บริเวณชายฝั่งเป็นโขดหินเกือบทั้งหมด
เศรษฐกิจ
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ 7.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2549)
- อัตราการเติบโตของ GDP ร้อยละ 1.0 (2549)
- รายได้เฉลี่ยต่อหัว 7,926 ดอลลาร์สหรัฐ (2549)
- อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 3.0 (2549)
- ปริมาณการส่งออก 2.744 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2549)
- ปริมาณการนำเข้า 3.859 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2549)
- สินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องจักรและอุปกรณ์เกี่ยวกับการขนส่ง
- สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักร อาหารและสัตว์ ผลิตภัณฑ์เคมี แร่ธาตุ เครื่องดื่มและยาสูบ
- ประเทศคู่ค้าสำคัญ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี
- ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ หินปูน เกลือ พื้นดินที่เหมาะกับการเพาะปลูก
- อุตสาหกรรมหลัก อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ การต่อและซ่อมเรือ การก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ รองเท้าและอุปกรณ์ ยาสูบ
ประชากร
- 417,617 ( 2012 )
วัฒนธรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
แหล่งข้อมูลอื่น
คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับ ประเทศมอลตา ได้โดยค้นหาจาก โครงการพี่น้องของวิกิพีเดีย : | |
---|---|
หาความหมาย จากวิกิพจนานุกรม | |
หนังสือ จากวิกิตำรา | |
คำคม จากวิกิคำคม | |
ข้อมูลต้นฉบับ จากวิกิซอร์ซ | |
ภาพและสื่อ จากคอมมอนส์ | |
เนื้อหาข่าว จากวิกิข่าว | |
แหล่งเรียนรู้ จากวิกิวิทยาลัย |
- ประเทศมอลตา ที่เว็บไซต์ Curlie
- ประเทศมอลตา ข้อมูลการท่องเที่ยวจาก วิกิท่องเที่ยว
- ↑ "Malta". International Monetary Fund.
- "Gini coefficient of equivalised disposable income – EU-SILC survey". ec.europa.eu. Eurostat. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2019. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
- Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020. pp. 343–346. ISBN 978-92-1-126442-5. สืบค้นเมื่อ 16 December 2020.