fbpx
วิกิพีเดีย

ระบบนิเวศ

ระบบนิเวศ คือกลุ่มอินทรีย์ (พืช สัตว์และจุลินทรีย์) ร่วมกับองค์ประกอบอชีวนะของสิ่งแวดล้อมของพวกมัน (เช่น อากาศ น้ำและดินอนินทรีย์) ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นระบบ ถือว่า ส่วนประกอบชีวนะและอชีวนะเชื่อมกันผ่านวัฏจักรสารอาหารและการถ่ายทอดพลังงาน ระบบนิเวศนิยามเป็นเครือข่ายปฏิสัมพันธ์ระหว่างอินทรีย์ด้วยกันและระหว่างอินทรีย์กับสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศมีขนาดเท่าใดก็ได้ แต่ปกติครอบคลุมพื้นที่เฉพาะจำกัด แม้นักวิทยาศาสตร์บางส่วนกล่าวว่า ทั้งโลกก็เป็นระบบนิเวศหนึ่งด้วย

พืดหินปะการังเป็นระบบนิเวศทะเลอย่างหนึ่ง

พลังงาน น้ำ ไนโตรเจนและดินอนินทรีย์เป็นอีกส่วนประกอบอชีวนะของระบบนิเวศ พลังงานซึ่งถ่ายทอดผ่านระบบนิเวศได้มาจากดวงอาทิตย์เป็นหลัก โดยทั่วไปเข้าสู่ระบบผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งกระบวนการนี้ยังจับคาร์บอนจากบรรยากาศด้วย สัตว์มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนของสสารและพลังงานผ่านระบบนิเวศ โดยการกินพืชและสัตว์อื่น นอกจากนี้ สัตว์ยังมีอิทธิพลต่อปริมาณพืชและชีวมวลจุลินทรีย์ที่มีอยู่ ตัวสลายสารอินทรีย์ปลดปล่อยคาร์บอนกลับสู่บรรยากาศและเอื้อการเกิดวัฏจักรสารอาหารโดยการแปลงสารอาหารที่สะสมอยู่ในชีวมวลตายกลับสู่รูปที่พร้อมถูกพืชและจุลินทรีย์อื่นใช้ โดยการย่อยสลายสารอินทรีย์ตาย ในธรรมชาติแล้วมีสาร 60 ชนิด ในจำนวน 96 ชนิด หมุนเวียนผ่านเข้าไปในอินทรีย์

ระบบนิเวศมีทั้งปัจจัยภายนอกและภายในควบคุม ปัจจัยภายนอก เช่น ภูมิอากาศ วัสดุกำเนิด (parent material) ซึ่งสร้างดินและภูมิลักษณ์ ควบคุมโครงสร้างโดยรวมของระบบนิเวศและวิธีที่สิ่งต่าง ๆ เกิดในนั้น แต่ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้รับอิทธิพลจากระบบนิเวศ ปัจจัยภายนอกอื่นรวมเวลาและชีวชาติศักยะ (potential biota) ระบบนิเวศเป็นสิ่งพลวัต คือ อยู่ภายใต้การรบกวนเป็นระยะและอยู่ในกระบวนการฟื้นตัวจากการรบกวนในอดีตบางอย่าง ระบบนิเวศในสิ่งแวดล้อมคล้ายกันที่ตั้งอยู่ในส่วนของโลกต่างกันสามารถมีลักษณะต่างกันมากเพราะมีชนิดต่างกัน การนำชนิดต่างถิ่นเข้ามาสามารถทำให้เกิดการเลื่อนอย่างสำคัญในการทำหน้าที่ของระบบนิเวศ ปัจจัยภายในไม่เพียงควบคุมกระบวนการของระบบนิเวศ แต่ยังถูกระบบนิเวศควบคุมและมักอยู่ภายใต้วงวนป้อนกลับ (feedback loop) เช่นกัน ขณะที่ทรัพยากรป้อนเข้าปกติถูกกระบวนการภายนอก เช่น ภูมิอากาศและวัสดุกำเนิด ควบคุม แต่การมีทรัพยากรเหล่านี้ในระบบนิเวศถูกปัจจัยภายใน เช่น การผุสลายตัว การแข่งขันรากหรือการเกิดร่ม ควบคุม ปัจจัยภายในอื่นมีการรบกวน การสืบทอด (succession) และประเภทของชนิดที่มี แม้มนุษย์อยู่ในและก่อให้เกิดผลภายในระบบนิเวศ แต่ผลลัพธ์รวมใหญ่พอมีอิทธิพลต่อปัจจัยภายนอกอย่างภูมิอากาศ

ความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) เช่นเดียวกับการรบกวนและการสืบทอด มีผลต่อการทำหน้าที่ของระบบนิเวศ ระบบนิเวศให้สินค้าและบริหารต่าง ๆ ที่มนุษย์ต้องการ หลักการการจัดการระบบนิเวศเสนอว่า แทนที่จะจัดการชนิดหนึ่งเพียงชนิดเดียว ควรจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ระดับระบบนิเวศด้วย การจำแนกระบบนิเวศเป็นหน่วยเอกพันธุ์ทางระบบนิเวศ (ecologically homogeneous unit) เป็นขั้นตอนสำคัญสู่การจัดการระบบนิเวศอย่างสัมฤทธิ์ผล แต่ไม่มีวิธีทำวิธีใดวิธีหนึ่งที่ตกลงกัน

กระบวนการระบบนิเวศ

   

ซ้าย: แผนภาพการถ่ายทอดพลังงานของกบ กบเป็นสัญลักษณ์ของปม (node) หนึ่งในสายใยอาหารขยาย พลังงานจากการกินถูกใช้ประโยชน์เพื่อกระบวนการเมแทบอลิซึมแล้วแปลงเป็นชีวมวล การถ่ายทอดพลังงานดำเนินวิถีของมันต่อหากกบถูกนักล่าหรือปรสิตกินต่อ หรือถูกกินเป็นซากสลายในดิน แผนภาพการถ่ายทอดพลังงานนี้แสดงวิธีที่พลังงานเสียไปเพื่อเป็นเชื้อเพลิงกระบวนการเมแทบอลิซึมซึ่งแปลงพลังงานและสารอาหารเป็นชีวมวล
ขวา: โซ่อาหารพลังงานเชื่อมโยงสามขยาย (1. พืช 2. สัตว์กินพืช 3. สัตว์กินเนื้อ) แสดงความสัมพันธ์ระหว่างแผนภาพการถ่ายทอดอาหารและสัดส่วนการแปลงพลังงาน (transformity) สัดส่วนการแปลงพลังงานลดลงจากคุณภาพสูงกว่าเป็นคุณภาพต่ำกว่าเมื่อพลังงานในโซ่อาหารไหลจากชนิดโภชนาการหนึ่งไปอีกชนิดหนึ่ง อักษรย่อ: I=สิ่งป้อนเข้า, A=การนำอาหารไปเสริมสร้างเนื้อเยื่อ, R=การหายใจ, NU=ไม่ถูกใช้ประโยชน์, P=การผลิต, B=ชีวมวล

การถ่ายทอดพลังงาน

คาร์บอนและพลังงานซึ่งรวมอยู่ในเนื้อเยื่อพืช (การผลิตปฐมภูมิสุทธิ) ถูกสัตว์บริโภคขณะพืชยังมีชีวิต หรือยังไม่ถูกกินเมื่อเนื้อเยื่อพืชตายและกลายเป็นซากสลาย ในระบบนิเวศบนดิน การผลิตปฐมภูมิสุทธิราว 90% ถูกตัวสลายสารอินทรีย์สลาย ส่วนที่เหลือไม่ถูกสัตว์บริโภคขณะยังมีชีวิตแล้วเข้าสู่ระบบโภชนาการที่มีพืชเป็นฐาน ก็ถูกบริโภคหลังตายแล้วแล้วเข้าระบบโภชนาการที่มีซากสลายเป็นฐาน ในระบบในน้ำ สัดส่วนชีวมวลพืชที่ถูกสัตว์กินพืชบริโภคมีสูงกว่ามาก ในระบบโภชนาการ อินทรีย์สังเคราะห์ด้วยแสงเป็นผู้ผลิตปฐมภูมิ อินทรีย์ที่บริโภคเนื้อเยื่อของผู้ผลิตปฐมภูมิ เรียก ผู้บริโภคปฐมภูมิ ผู้บริโภคลำดับที่หนึ่ง หรือผู้ผลิตทุติยภูมิ คือ สัตว์กินพืช สัตว์ที่กินผู้บริโภคปฐมภูมิ คือ สัตว์กินเนื้อ เป็นผู้บริโภคทุติยภูมิหรือผู้บริโภคลำดับที่สอง ผู้ผลิตและผู้บริโภคเหล่านี้ประกอบเป็นระดับโภชนาการ ลำดับการบริโภค ตั้งแต่พืชถึงสัตว์กินพืช ถึงสัตว์กินเนื้อ ก่อเป็นโซ่อาหาร ระบบจริงซับซ้อนกว่านี้มาก โดยทั่วไปอินทรีย์จะกินอาหารมากกว่าหนึ่งรูป และอาจกินที่ระดับโภชนาการมากกว่าหนึ่งระดับ สัตว์กินเนื้ออาจจับเหยื่อบางส่วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโภชนาการที่มีพืชเป็นฐาน และบางส่วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโภชนาการที่มีซากสลายเป็นฐาน เช่น นกกินทั้งตั๊กแตนซึ่งเป็นสัตว์กินพืช และไส้เดือนดินซึ่งบริโภคซากสลาย ระบบจริงที่มีบรรดาความซับซ้อนเหล่านี้ ก่อสายใยอาหารแทนโซ่อาหาร

การผุสลายตัว

คาร์บอนและสารอาหารที่อยู่ในสารอินทรีย์ที่ตายแล้วจะโดนแบ่งกลุ่มด้วยกระบวนการที่เรียกว่าการสลายตัว สารอาหารที่ได้จากการสลายตัวนั้นสามารถนำกลับมาใช้ได้สำหรับพืชและจุลินทรีย์และอีกส่วนหนึ่งจะกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์กลับสู่ชั้นบรรยากาศเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง หากไม่มีการสลายตัวจะมีสารอินทรีย์ที่ตายแล้วและสารอาหารการสะสมอยู่ในระบบและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศก็จะหมดไป ประมาณ 90 % ของอัตราการผลิตปฐมภูมิสุทธิ (Net Primary Productivity : NPP) จะมาจากผู้ย่อยสลายโดยตรง

กระบวนการย่อยสลายสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

  • การกระจายตัวและการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของวัตถุที่ตายแล้วเมื่อมีน้ำไหลผ่านสารอินทรีย์ที่ตายแล้ว มันจะละลายและกลายเป็นองค์ประกอบของน้ำซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดิน หรือสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่มีในระบบนิเวศ ใบไม้ที่เพิ่งผลัดใบและสัตว์ที่เพิ่งตายเป็นส่วนที่ทำให้ความเข้มข้นของน้ำเพิ่มมากขึ้นและรวมถึงน้ำตาล กรดอะมิโน และแร่ธาตุ การชะล้างที่สำคัญจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เปียกและความสำคัญจะลดลงเมื่อชะล้างที่แห้งแล้ง
  • กระบวนการการแยกชิ้นส่วนโดยการทำให้อินทรีย์วัตถุแตกแล้วกลายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆซึ่งทำให้เห็นบริเวณที่จุลินทรีย์กระจายตัว แต่สำหรับใบไม้สดจุลินทรีย์ไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากผิวหรือเปลือกไม้และองค์ประกอบเซลล์จะถูกปกป้องไว้ด้วยผนังเซลล์ สำหรับสัตว์ที่เพิ่งตายจะโดนครอบคลุมด้วยโครงกระดูกแข็ง โดยกระบวนการแยกนี้หากชิ้นส่วนที่แตกสามารถผ่านชั้นที่มีการปกป้องนี้ได้ก็จะสามารถช่วยเร่งการย่อยสลายของจุลินทรีย์ได้ดีขึ้น การล่าซากชิ้นส่วนของสัตว์ก็เพื่อนำไปเป็นอาหารเพื่อการดำรงชีพ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นวงจรที่ใช้ทดสอบความคงตัวและวงจรของชิ้นส่วนวัตถุที่ตายแล้วในสภาพแวดล้อมที่เปียกและแห้ง
  • การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารอินทรีย์ที่ตายส่วนใหญ่จะได้จากแบคทีเรียและการกระทำของเชื้อราเป็นหลัก โดยเส้นใยราจะสร้างเอนไซม์เพื่อสามารถแทรกผ่านโครงสร้างภายนอกของวัตถุอินทรีย์ของพืชที่ตายแล้วได้ อีกทั้งผลิตเอนไซม์เพื่อสลายลิกนินซึ่งช่วยให้มันสามารถผ่านไปยังทั้งสองเซลล์และไปยังไนโตรเจนที่อยู่ในลิกนิน เชื้อราสามารถแลกเปลี่ยนคาร์บอนและไนโตรเจนผ่านเส้นใยที่มีโครงสร้างเป็นร่างแหดังนั้นจึงแตกต่างจากแบคทีเรียและไม่ขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่มีอยู่ในบริเวณดังกล่าว

การจัดการระบบนิเวศ

การจัดการระบบนิเวศ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีในระบบนิเวศมากกว่า 1 ชนิด F. Stuart Chapin ได้นิยามไว้ว่า “การประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางนิเวศวิทยาในการจัดการทรัพยากรเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของระบบนิเวศในระยะยาวและ การส่งมอบสินค้าและบริการของระบบนิเวศที่สำคัญ” Norman Christensen และ coauthors นิยามว่า “การจัดการเป้าหมายอย่างชัดเจน ดำเนินการตามนโยบาย ระเบียบการ การปฏิบัติและสามารถปรับตัวได้จากการตรวจสอบและกระบวนการที่จำเป็นเพื่อรักษาโครงสร้างของระบบนิเวศและการวิจัยบนพื้นฐานความเข้าใจที่ดีที่สุดของเรามีปฏิสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยา” และ Peter Brussard และ colleaguesนิยามว่า “การจัดการพื้นที่ที่มีความหลากหลายแบบนิเวศบริการและชีวภาพ มีเก็บทรัพยากรเพื่อที่มนุษย์ใช้อย่างเหมาะสมและการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน”

แม้ว่าคำจำกัดความของการจัดการระบบนิเวศจะมีมากมาย ได้มีการกำหนดหลักการเพื่อรองรับคำนิยามเหล่านี้ ไว้ว่า หลักการพื้นฐานคือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวของการผลิตสินค้าและนิเวศบริการ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน[ เป็น ] สิ่งที่จำเป็นสำหรับการจัดการ ไม่ใช่ของแถม”นอกจากนี้ยังต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับทางโคจรในอนาคตและพฤติกรรมของระบบการจัดการ ข้อกำหนดสำคัญอื่น ๆ รวมถึงความเข้าใจนิเวศวิทยาเสียงของระบบ,รวมถึงการเชื่อมโยง,การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและในบริบทที่เป็นระบบแบบฝังตัว หลักการที่สำคัญอื่น ๆ รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของมนุษย์เป็นส่วนประกอบของระบบนิเวศและการจัดการที่เหมาะสม ในขณะที่การจัดการระบบนิเวศที่ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อการอนุรักษ์ป่าก็ยังสามารถนำมาใช้ใน การจัดการระบบนิเวศ เช่น ระบบนิเวศเกษตร

ภัยคุกคามจากมนุษย์ที่มีต่อระบบนิเวศ

ขณะที่ประชากรมนุษย์เติบโตขึ้นเพื่อทำต้องการทรัพยากรที่กำหนดในระบบนิเวศและผลกระทบของรอยเท้าทางนิเวศของมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติสามารถทำลายได้และใช้ได้อย่างมากมายผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการกระทำของมนุษย์ล้วนเป็นกระบวนการหรือวัสดุที่ได้มาจากการกระทำของมนุษย์ จะส่งผลให้คุณภาพของอากาศและน้ำถูกทำลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำการประมงที่มากเกินไปทำให้ศัตรูพืชและโรคระบาทจะขยายพื้นที่มากยิ่งขึ้นเกินการควบคุม และการตัดไม่ทำลายป่าจะก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง จากรายงานพบว่าประมาณ 40-50% ของโลกในส่วนที่เป็นชั้นน้ำแข็งได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากซึ่งความเสื่อมโทรมนี้ล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ และอีก 66% เป็นการทำประมงมากเกินไปของมนุษย์ ในปัจจุบันปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นกว่า 30% ตั้งแต่มีการทำอุตสาหกรรมต่างๆและในช่วง 2000 ปีที่ผ่านมามีสายพันธุ์ของนกกว่า 25% ที่สูญพันธ์ไป ทำให้สังคมมีการตระหนักถึงผลกระทบมากยิ่งขึ้นจึงก่อให้เกิดนิเวศบริการที่มีไม่จำกัด อย่างไรก็ตามภัยคุกคามส่วนใหญ่มักเกิดจากการกระทำของมนุษย์จึงจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศในระยะยาวและเพิ่มบทบาทในการเพิ่มที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพื่อเป็นกฎในการกระทำการทางเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มเหตุในการตัดสินใจในการทำธุรกิจซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายที่มนุษย์ได้เลือกใช้ เป็นอีกหนึ่ความท้าท้ายของการกำหนดมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น จะเป็นส่วนที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้อีกสาขาวิชาหนึ่งเพื่อช่วยในการจัดการสภาพแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม โอกาสทางธุรกิจและรวมไปถึงอนาคตของเราเอง

อ้างอิง

  1. Tansley (1934); Molles (1999), p. 482; Chapin et al. (2002), p. 380; Schulze et al. (2005); p. 400; Gurevitch et al. (2006), p. 522; Smith & Smith 2012, p. G-5
  2. Odum, EP (1971) Fundamentals of ecology, third edition, Saunders New York, ISBN 0534420664
  3. Schulze et al. (2005), p.400
  4. Chapin et al. (2002), p. 380; Schulze et al. (2005); p. 400
  5. Willis (1997), p. 269; Chapin et al. (2002), p. 5; Krebs (2009). p. 572
  6. Chapin et al. (2002), p. 10
  7. Salisbury and Ross, 1969; Naumov, 1972
  8. Chapin et al. (2002), pp. 11–13
  9. Odum, H. T. (1988). "Self-organization, transformity, and information". Science. 242 (4882): 1132–1139. doi:10.1126/science.242.4882.1132. JSTOR 1702630. PMID 17799729.
  10. Chapin et al. (2002), pp. 151–157
  11. Chapin et al. (2002), pp. 362–365
  12. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Christensen1998
  13. Brussard, Peter F.; J. Michael Reed; C. Richard Tracy (1998). "Ecosystem management: what is it really?" (PDF). Landscape and Urban Planning. 40 (1): 9–20. doi:10.1016/S0169-2046(97)00094-7.
  14. Vitousek, P.M., J. Lubchenco, H.A. Mooney, J. Melillo (1997) "Human domination of Earth's ecosystems". Science, 277: 494–499.

ระบบน, เวศ, อกล, มอ, นทร, ตว, และจ, นทร, วมก, บองค, ประกอบอช, วนะของส, งแวดล, อมของพวกม, เช, อากาศ, ำและด, นอน, นทร, งม, ปฏ, มพ, นธ, นเป, นระบบ, อว, วนประกอบช, วนะและอช, วนะเช, อมก, นผ, านว, ฏจ, กรสารอาหารและการถ, ายทอดพล, งงาน, ยามเป, นเคร, อข, ายปฏ, มพ, นธ, . rabbniews khuxklumxinthriy phuch stwaelaculinthriy rwmkbxngkhprakxbxchiwnakhxngsingaewdlxmkhxngphwkmn echn xakas naaeladinxninthriy sungmiptismphnthknepnrabb 1 thuxwa swnprakxbchiwnaaelaxchiwnaechuxmknphanwtckrsarxaharaelakarthaythxdphlngngan 2 rabbniewsniyamepnekhruxkhayptismphnthrahwangxinthriydwyknaelarahwangxinthriykbsingaewdlxm 3 rabbniewsmikhnadethaidkid aetpktikhrxbkhlumphunthiechphaacakd 4 aemnkwithyasastrbangswnklawwa thngolkkepnrabbniewshnungdwy 5 phudhinpakarngepnrabbniewsthaelxyanghnung phlngngan na inotrecnaeladinxninthriyepnxikswnprakxbxchiwnakhxngrabbniews phlngngansungthaythxdphanrabbniewsidmacakdwngxathityepnhlk odythwipekhasurabbphankarsngekhraahdwyaesng sungkrabwnkarniyngcbkharbxncakbrryakasdwy stwmibthbathsakhyinkarekhluxnkhxngssaraelaphlngnganphanrabbniews odykarkinphuchaelastwxun nxkcakni stwyngmixiththiphltxprimanphuchaelachiwmwlculinthriythimixyu twslaysarxinthriypldplxykharbxnklbsubrryakasaelaexuxkarekidwtckrsarxaharodykaraeplngsarxaharthisasmxyuinchiwmwltayklbsurupthiphrxmthukphuchaelaculinthriyxunich odykaryxyslaysarxinthriytay 6 inthrrmchatiaelwmisar 60 chnid incanwn 96 chnid hmunewiynphanekhaipinxinthriy 7 rabbniewsmithngpccyphaynxkaelaphayinkhwbkhum pccyphaynxk echn phumixakas wsdukaenid parent material sungsrangdinaelaphumilksn khwbkhumokhrngsrangodyrwmkhxngrabbniewsaelawithithisingtang ekidinnn aetpccydngklawimidrbxiththiphlcakrabbniews pccyphaynxkxunrwmewlaaelachiwchatiskya potential biota rabbniewsepnsingphlwt khux xyuphayitkarrbkwnepnrayaaelaxyuinkrabwnkarfuntwcakkarrbkwninxditbangxyang rabbniewsinsingaewdlxmkhlayknthitngxyuinswnkhxngolktangknsamarthmilksnatangknmakephraamichnidtangkn karnachnidtangthinekhamasamarththaihekidkareluxnxyangsakhyinkarthahnathikhxngrabbniews pccyphayinimephiyngkhwbkhumkrabwnkarkhxngrabbniews aetyngthukrabbniewskhwbkhumaelamkxyuphayitwngwnpxnklb feedback loop echnkn khnathithrphyakrpxnekhapktithukkrabwnkarphaynxk echn phumixakasaelawsdukaenid khwbkhum aetkarmithrphyakrehlaniinrabbniewsthukpccyphayin echn karphuslaytw karaekhngkhnrakhruxkarekidrm khwbkhum pccyphayinxunmikarrbkwn karsubthxd succession aelapraephthkhxngchnidthimi aemmnusyxyuinaelakxihekidphlphayinrabbniews aetphllphthrwmihyphxmixiththiphltxpccyphaynxkxyangphumixakas 8 khwamhlakhlaythangchiwphaph biodiversity echnediywkbkarrbkwnaelakarsubthxd miphltxkarthahnathikhxngrabbniews rabbniewsihsinkhaaelabrihartang thimnusytxngkar hlkkarkarcdkarrabbniewsesnxwa aethnthicacdkarchnidhnungephiyngchnidediyw khwrcdkarthrphyakrthrrmchatithiradbrabbniewsdwy karcaaenkrabbniewsepnhnwyexkphnthuthangrabbniews ecologically homogeneous unit epnkhntxnsakhysukarcdkarrabbniewsxyangsmvththiphl aetimmiwithithawithiidwithihnungthitklngkn enuxha 1 krabwnkarrabbniews 1 1 karthaythxdphlngngan 1 2 karphuslaytw 1 3 karcdkarrabbniews 2 phykhukkhamcakmnusythimitxrabbniews 3 xangxingkrabwnkarrabbniews aekikh say aephnphaphkarthaythxdphlngngankhxngkb kbepnsylksnkhxngpm node hnunginsayiyxaharkhyay phlngngancakkarkinthukichpraoychnephuxkrabwnkaremaethbxlisumaelwaeplngepnchiwmwl karthaythxdphlngngandaeninwithikhxngmntxhakkbthuknklahruxprsitkintx hruxthukkinepnsakslayindin aephnphaphkarthaythxdphlngnganniaesdngwithithiphlngnganesiyipephuxepnechuxephlingkrabwnkaremaethbxlisumsungaeplngphlngnganaelasarxaharepnchiwmwl khwa osxaharphlngnganechuxmoyngsamkhyay 1 phuch 2 stwkinphuch 3 stwkinenux aesdngkhwamsmphnthrahwangaephnphaphkarthaythxdxaharaelasdswnkaraeplngphlngngan transformity sdswnkaraeplngphlngnganldlngcakkhunphaphsungkwaepnkhunphaphtakwaemuxphlngnganinosxaharihlcakchnidophchnakarhnungipxikchnidhnung xksryx I singpxnekha A karnaxaharipesrimsrangenuxeyux R karhayic NU imthukichpraoychn P karphlit B chiwmwl 9 karthaythxdphlngngan aekikh kharbxnaelaphlngngansungrwmxyuinenuxeyuxphuch karphlitpthmphumisuththi thukstwbriophkhkhnaphuchyngmichiwit hruxyngimthukkinemuxenuxeyuxphuchtayaelaklayepnsakslay inrabbniewsbndin karphlitpthmphumisuththiraw 90 thuktwslaysarxinthriyslay swnthiehluximthukstwbriophkhkhnayngmichiwitaelwekhasurabbophchnakarthimiphuchepnthan kthukbriophkhhlngtayaelwaelwekharabbophchnakarthimisakslayepnthan inrabbinna sdswnchiwmwlphuchthithukstwkinphuchbriophkhmisungkwamak inrabbophchnakar xinthriysngekhraahdwyaesngepnphuphlitpthmphumi xinthriythibriophkhenuxeyuxkhxngphuphlitpthmphumi eriyk phubriophkhpthmphumi phubriophkhladbthihnung hruxphuphlitthutiyphumi khux stwkinphuch stwthikinphubriophkhpthmphumi khux stwkinenux epnphubriophkhthutiyphumihruxphubriophkhladbthisxng phuphlitaelaphubriophkhehlaniprakxbepnradbophchnakar ladbkarbriophkh tngaetphuchthungstwkinphuch thungstwkinenux kxepnosxahar rabbcringsbsxnkwanimak odythwipxinthriycakinxaharmakkwahnungrup aelaxackinthiradbophchnakarmakkwahnungradb stwkinenuxxaccbehyuxbangswnsungepnswnhnungkhxngrabbophchnakarthimiphuchepnthan aelabangswnsungepnswnhnungkhxngrabbophchnakarthimisakslayepnthan echn nkkinthngtkaetnsungepnstwkinphuch aelaiseduxndinsungbriophkhsakslay rabbcringthimibrrdakhwamsbsxnehlani kxsayiyxaharaethnosxahar karphuslaytw aekikh kharbxnaelasarxaharthixyuinsarxinthriythitayaelwcaodnaebngklumdwykrabwnkarthieriykwakarslaytw sarxaharthiidcakkarslaytwnnsamarthnaklbmaichidsahrbphuchaelaculinthriyaelaxikswnhnungcaklayepnkharbxnidxxkisdklbsuchnbrryakasephuxichinkarsngekhraahaesng hakimmikarslaytwcamisarxinthriythitayaelwaelasarxaharkarsasmxyuinrabbaelakaskharbxnidxxkisdinbrryakaskcahmdip 10 praman 90 khxngxtrakarphlitpthmphumisuththi Net Primary Productivity NPP camacakphuyxyslayodytrngkrabwnkaryxyslaysamarthaebngxxkepn 3 praephth karkracaytwaelakarepliynaeplngthangekhmikhxngwtthuthitayaelwemuxminaihlphansarxinthriythitayaelw mncalalayaelaklayepnxngkhprakxbkhxngnasungepnsingmichiwitthixyuindin hruxsingthixyunxkehnuxcaksingthimiinrabbniews 10 ibimthiephingphldibaelastwthiephingtayepnswnthithaihkhwamekhmkhnkhxngnaephimmakkhunaelarwmthungnatal krdxamion aelaaerthatu karchalangthisakhycaekidkhuninsphaphaewdlxmthiepiykaelakhwamsakhycaldlngemuxchalangthiaehngaelng 10 krabwnkarkaraeykchinswnodykarthaihxinthriywtthuaetkaelwklayepnchinswnelksungthaihehnbriewnthiculinthriykracaytw aetsahrbibimsdculinthriyimsamarthekhathungidenuxngcakphiwhruxepluxkimaelaxngkhprakxbesllcathukpkpxngiwdwyphnngesll sahrbstwthiephingtaycaodnkhrxbkhlumdwyokhrngkradukaekhng odykrabwnkaraeyknihakchinswnthiaetksamarthphanchnthimikarpkpxngniidkcasamarthchwyerngkaryxyslaykhxngculinthriyiddikhun 10 karlasakchinswnkhxngstwkephuxnaipepnxaharephuxkardarngchiph sungepriybesmuxnepnwngcrthiichthdsxbkhwamkhngtwaelawngcrkhxngchinswnwtthuthitayaelwinsphaphaewdlxmthiepiykaelaaehng 10 karepliynaeplngthangekhmikhxngsarxinthriythitayswnihycaidcakaebkhthieriyaelakarkrathakhxngechuxraepnhlk odyesniyracasrangexnismephuxsamarthaethrkphanokhrngsrangphaynxkkhxngwtthuxinthriykhxngphuchthitayaelwid xikthngphlitexnismephuxslaylikninsungchwyihmnsamarthphanipyngthngsxngesllaelaipynginotrecnthixyuinliknin echuxrasamarthaelkepliynkharbxnaelainotrecnphanesniythimiokhrngsrangepnrangaehdngnncungaetktangcakaebkhthieriyaelaimkhunxyukbthrphyakrthimixyuinbriewndngklaw 10 karcdkarrabbniews aekikh karcdkarrabbniews caekidkhunemuxmikarcdkarthrphyakrthrrmchati thimiinrabbniewsmakkwa 1 chnid F Stuart Chapin idniyamiwwa karprayuktichsastrthangniewswithyainkarcdkarthrphyakrephuxsngesrimkhwamyngyunkhxngrabbniewsinrayayawaela karsngmxbsinkhaaelabrikarkhxngrabbniewsthisakhy 11 Norman Christensen aela coauthors niyamwa karcdkarepahmayxyangchdecn daeninkartamnoybay raebiybkar karptibtiaelasamarthprbtwidcakkartrwcsxbaelakrabwnkarthicaepnephuxrksaokhrngsrangkhxngrabbniewsaelakarwicybnphunthankhwamekhaicthidithisudkhxngeramiptismphnththangniewswithya 12 aela Peter Brussard aela colleaguesniyamwa karcdkarphunthithimikhwamhlakhlayaebbniewsbrikaraelachiwphaph miekbthrphyakrephuxthimnusyichxyangehmaasmaelakardarngchiwitthiyngyun 13 aemwakhacakdkhwamkhxngkarcdkarrabbniewscamimakmay idmikarkahndhlkkarephuxrxngrbkhaniyamehlani 11 iwwa hlkkarphunthankhuxkarphthnaxyangyngyuninrayayawkhxngkarphlitsinkhaaelaniewsbrikar 11 karphthnaxyangyngyun epn singthicaepnsahrbkarcdkar imichkhxngaethm 12 nxkcakniyngtxngmiepahmaythichdecnekiywkbthangokhcrinxnakhtaelaphvtikrrmkhxngrabbkarcdkar khxkahndsakhyxun rwmthungkhwamekhaicniewswithyaesiyngkhxngrabb rwmthungkarechuxmoyng karepliynaeplngkhxngrabbniewsaelainbribththiepnrabbaebbfngtw hlkkarthisakhyxun rwmthungkhwamekhaicekiywkbbthbathkhxngmnusyepnswnprakxbkhxngrabbniewsaelakarcdkarthiehmaasm 12 inkhnathikarcdkarrabbniewsthi samarthnamaichepnswnhnungkhxngaephnephuxkarxnurkspakyngsamarthnamaichin karcdkarrabbniews 12 echn rabbniewsekstrphykhukkhamcakmnusythimitxrabbniews aekikhkhnathiprachakrmnusyetibotkhunephuxthatxngkarthrphyakrthikahndinrabbniewsaelaphlkrathbkhxngrxyethathangniewskhxngmnusy thrphyakrthrrmchatisamarththalayidaelaichidxyangmakmayphlkrathbtxsingaewdlxmcakkarkrathakhxngmnusylwnepnkrabwnkarhruxwsduthiidmacakkarkrathakhxngmnusy casngphlihkhunphaphkhxngxakasaelanathukthalaymakyingkhun rwmthungkarthakarpramngthimakekinipthaihstruphuchaelaorkhrabathcakhyayphunthimakyingkhunekinkarkhwbkhum aelakartdimthalaypacakxihekidnathwmrunaerng cakraynganphbwapraman 40 50 khxngolkinswnthiepnchnnaaekhngidepliynaeplngipepnxyangmaksungkhwamesuxmothrmnilwnekidcakkarkrathakhxngmnusy aelaxik 66 epnkarthapramngmakekinipkhxngmnusy inpccubnprimankhxngkaskharbxnidxxkisdephimkhunkwa 30 tngaetmikarthaxutsahkrrmtangaelainchwng 2000 pithiphanmamisayphnthukhxngnkkwa 25 thisuyphnthip 14 thaihsngkhmmikartrahnkthungphlkrathbmakyingkhuncungkxihekidniewsbrikarthimiimcakd xyangirktamphykhukkhamswnihymkekidcakkarkrathakhxngmnusycungcaepncatxngphicarnathungkhwamyngyunkhxngrabbniewsinrayayawaelaephimbthbathinkarephimthixyuxasykhxngmnusyephuxepnkdinkarkrathakarthangesrsthkic ephuxephimehtuinkartdsinicinkarthathurkicsungmkcakhunxyukbkhaichcaythimnusyideluxkich epnxikhnukhwamthathaykhxngkarkahndmulkhathangesrsthkicihkbthrrmchatixyangtxenuxng echn thnakharkhwamhlakhlaythangchiwphaph epntn caepnswnthichwyihekidkarepliynaeplngkareriynruxiksakhawichahnungephuxchwyinkarcdkarsphaphaewdlxm khwamrbphidchxbtxsngkhm oxkasthangthurkicaelarwmipthungxnakhtkhxngeraexngxangxing aekikh Tansley 1934 Molles 1999 p 482 Chapin et al 2002 p 380 Schulze et al 2005 p 400 Gurevitch et al 2006 p 522 Smith amp Smith 2012 p G 5 Odum EP 1971 Fundamentals of ecology third edition Saunders New York ISBN 0534420664 Schulze et al 2005 p 400 Chapin et al 2002 p 380 Schulze et al 2005 p 400 Willis 1997 p 269 Chapin et al 2002 p 5 Krebs 2009 p 572 Chapin et al 2002 p 10 Salisbury and Ross 1969 Naumov 1972 Chapin et al 2002 pp 11 13 Odum H T 1988 Self organization transformity and information Science 242 4882 1132 1139 doi 10 1126 science 242 4882 1132 JSTOR 1702630 PMID 17799729 10 0 10 1 10 2 10 3 10 4 10 5 Chapin et al 2002 pp 151 157 11 0 11 1 11 2 Chapin et al 2002 pp 362 365 12 0 12 1 12 2 12 3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Christensen1998 Brussard Peter F J Michael Reed C Richard Tracy 1998 Ecosystem management what is it really PDF Landscape and Urban Planning 40 1 9 20 doi 10 1016 S0169 2046 97 00094 7 Vitousek P M J Lubchenco H A Mooney J Melillo 1997 Human domination of Earth s ecosystems Science 277 494 499 bthkhwamekiywkbthrrmchati aelasastrtang thiekiywkhxngniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmulekhathungcak https th wikipedia org w index php title rabbniews amp oldid 9113930, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม