fbpx
วิกิพีเดีย

วังท่าพระ

วังท่าพระ หรือ วังล่าง ตั้งอยู่ข้างพระบรมมหาราชวัง ริมถนนหน้าพระลานทางด้านทิศตะวันตก ใกล้ท่าช้างวังหลวง แต่เดิมวังท่าพระนั้น ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระศรีศากยมุนี จากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ ณ วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อพระพุทธรูปมาถึงประตูท่าช้าง ปรากฏว่าอัญเชิญเข้ามาไม่ได้เนื่องจากองค์พระนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะนำผ่านเข้ามาได้ จึงจำเป็นต้องรื้อทั้งประตูถอนทั้งกำแพงออก จึงได้เรียกขานอดีตท่าเรือนี้แทนว่าท่าพระ วังที่อยู่ใกล้กันนั้นจึงเรียกตามว่า "วังท่าพระ"

วังท่าพระ
ท้องพระโรง
ชื่ออื่นวังล่าง
ที่มาท่าพระ
ข้อมูลทั่วไป
สถานะเปลี่ยนสภาพ
ประเภทวัง
ที่ตั้งแขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
เมือง กรุงเทพมหานคร
ประเทศ ไทย
เริ่มสร้างไม่ปรากฏ
เจ้าของมหาวิทยาลัยศิลปากร
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ

ประวัติ

เมื่อแรกเริ่ม วังท่าพระเป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนกษัตรานุชิต หรือ "เจ้าฟ้าเหม็น" ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพระองค์ โดยเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิมใหญ่ พระราชชายาของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนกษัตรานุชิต เสด็จประทับอยู่ ณ วังแห่งนี้จนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประทับของพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเจ้าจอมมารดาเรียม (สมเด็จพระศรีสุลาไลย) เสด็จประทับจนสิ้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงเสด็จเถลิงถวัลย์ครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้พระราชทานวังนี้เป็นที่ประทับของพระราชโอรส 3 พระองค์ คือ

จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงพระราชทานต่อให้ไปยังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ประทับที่วังนี้ จนถึง พ.ศ. 2480 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร จึงได้ทรงซื้อที่ดินตรงริมถนนพระรามที่ 4 คลองเตย สร้างตำหนักเป็นที่ประทับตากอากาศ เรียกว่า ตำหนักปลายเนิน แล้วโปรดประทับที่นั่นตลอดพระชนมายุ

วังท่าพระ เมื่อครั้งเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรมนั้น วังนี้จัดเป็นที่ทรงงานและงานช่างทุกชนิด รวมทั้งเป็นที่อยู่ของช่างต่าง ๆ อาศัยอยู่ในวังขณะนั้นไม่ต่ำกว่า 200 คน จัดเป็นวังขนาดใหญ่วังหนึ่งทีเดียว แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เสด็จมาประทับ ตำหนักอาคารต่าง ๆ ก็มีสภาพเก่าทรุดโทรม บางแห่งชำรุดผุพังจนไม่อาจใช้สอยได้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะจนมีสภาพเหมือนเดิม ส่วนตำหนักที่ประทับนั้นโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใหม่ 3 หลัง

ภายหลังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เสด็จไปประทับตำหนักปลายเนินแล้ว ทายาทของพระองค์จึงขายวังให้กับทางราชการ และศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้สร้างสถานศึกษาสำหรับวิชาศิลปะตามแบบยุโรปขึ้น ได้ใช้วังนี้เป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ จวบจนปัจจุบัน

สถาปัตยกรรม

  • ประตูและกำแพงวังท่าพระ

กำแพงก่ออิฐถือปูนมีใบเสมาประกอบ กำแพงนี้คาดว่าก่อสร้างพร้อมกับวังท่าพระตั้งแต่สมัยรัชกาลที่1 ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะด้านริมถนนหน้าพระลาน ถือเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร

  • ท้องพระโรงและกำแพงแก้ว

ปัจจุบันเป็นหอศิลป์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ลักษณะท้องพระโรงเป็นแบบเรือน 5 ห้อง เฉลียงรอบหันหน้ายาวออกหน้าวัง รูปทรงท้องพระโรงที่ปฏิสังขรณ์ใหม่นั้นภายนอกคงยึดตามแบบที่ปรากฏเมื่อครั้งรัชกาลที่3 แต่ภายในคงไว้แต่เสาเดิม มีบันไดใหญ่เข้าทางด้านหน้าได้ทางเดียว กำแพงนั้นเป็นสถาปัตยกรรมในรัชกาลที่5 มีลูกกรงที่ทำด้วยเหล็กหล่อเป็นลายสวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน

  • ตำหนักกลางและตำหนักพรรณราย

สถาปัตยกรรมแบบตะวันตกรุ่นแรก ๆ ในรัชกาลที่5 กล่าวคือเป็นตึกสองชั้น มีเฉลียงหลังหนึ่งหันเข้าหาอีกหลังหนึ่ง ส่วนหลังนอกนั้นอยู่ข้างสวนแก้ว ตึกหลังในที่มีเฉลียงทำเรียบกว่าหลังนอก และมีเสาทึบ หัวเสาเป็นแบบศิลปะโรมัน ช่องคูหาด้านล่างเป็นช่องโค้ง มีการตกแต่งที่ส่วนต่าง ๆ ภายนอกอาคารเล็กน้อย ส่วนตึกหลังนอกมีรูปทรงทึบกว่า มีการตกแต่งผิวหนังโดยการเซาะเป็นร่องในชั้นล่าง ส่วนชั้นบนผนังเรียบ มีเสาติดผนังระหว่างช่องหน้าต่างและประตูต่าง ๆ ด้วยลายปูนปั้นหรือตีตารางไม้ไว้ในช่องแสงเหนือประตูบางส่วน ตึกหลังนอกมีกันสาด มีเท้าแขนรับกันสาดทำอย่างเรียบ ๆ และประดับชายคาด้วยลายฉลุไม้ ตึกหลังในนี้เป็นที่ประทับของพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย พระมารดาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ โดยตำหนักกลางนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งของหอศิลป์และหน่วยงานของมหาวิทยาลัยศิลปากร

  • ศาลาในสวนแก้ว

เรียกว่า ศาลาดนตรี เมื่อครั้งรัชกาลที่5 องค์เจ้าของวังเคยประทับที่ศาลานี้เพื่อชมการแสดงหรือประชันดนตรีซึ่งจะตั้งวงกันในสวนแก้ว เพราะในวังท่าพระขณะนั้นมีวงดนตรีประจำวังที่มีชื่อเสียง ศาลาในสวนนี้ทำเป็นศาลาโปร่งมีผนังด้านเดียว หันหน้าเข้าหาสวนแก้ว หลังคาเป็นแบบปั้นหยา มีลายประดับอาคารอย่างละเอียดซับซ้อนกว่าตัวตำหนัก จึงเข้าใจว่าสร้างทีหลัง ลายฉลุไม้ทั้งที่ชายคาท้าวแขนระเบียบทำอย่างประณีตงดงาม

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

  • แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ วังท่าพระ
    • ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
    • แผนที่จากมัลติแมป หรือโกลบอลไกด์
    • ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์

พิกัดภูมิศาสตร์: 13°45′11″N 100°29′24″E / 13.7529331°N 100.4899639°E / 13.7529331; 100.4899639

งท, าพระ, หร, งล, าง, งอย, างพระบรมมหาราชว, มถนนหน, าพระลานทางด, านท, ศตะว, นตก, ใกล, าช, างว, งหลวง, แต, เด, มน, ในร, ชสม, ยพระบาทสมเด, จพระพ, ทธยอดฟ, าจ, ฬาโลกมหาราช, โปรดเกล, าฯ, ให, ญเช, ญพระศร, ศากยม, จากพระว, หารหลวงว, ดมหาธาต, งหว, ดส, โขท, มาประด, ษฐาน. wngthaphra hrux wnglang tngxyukhangphrabrmmharachwng rimthnnhnaphralanthangdanthistawntk iklthachangwnghlwng aetedimwngthaphrann inrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach oprdekla ihxyechiyphrasrisakymuni cakphrawiharhlwngwdmhathatu cnghwdsuokhthy mapradisthaniw n wdsuthsnethphwraram emuxphraphuththrupmathungpratuthachang praktwaxyechiyekhamaimidenuxngcakxngkhphrannmikhnadihyekinkwacanaphanekhamaid cungcaepntxngruxthngpratuthxnthngkaaephngxxk cungideriykkhanxditthaeruxniaethnwathaphra wngthixyuiklknnncungeriyktamwa wngthaphra wngthaphrathxngphraorngchuxxunwnglangthimathaphrakhxmulthwipsthanaepliynsphaphpraephthwngthitngaekhwngphrabrmmharachwng ekhtphrankhremuxng krungethphmhankhrpraeths ithyerimsrangimpraktecakhxngmhawithyalysilpakrpccubnepnthitngkhxngmhawithyalysilpakr withyaekhtwngthaphra enuxha 1 prawti 2 sthaptykrrm 3 xangxing 4 duephim 5 aehlngkhxmulxunprawti aekikhemuxaerkerim wngthaphraepnwngthiphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach oprdekla ihsrangephuxphrarachthanihepnthiprathbkhxngsmedcphraecahlanethx krmkhunkstranuchit hrux ecafaehmn sungepnphrarachnddakhxngphraxngkh odyepnphrarachoxrsinsmedcphraecabrmwngsethx ecafachimihy phrarachchayakhxngsmedcphraecakrungthnburismedcphraecahlanethx krmkhunkstranuchit esdcprathbxyu n wngaehngnicnsinphrachnminrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly phraxngkhcungoprdekla ihepnthiprathbkhxngphraecalukyaethx krmhmunecsdabdinthr sungepnphraecalukyaethxinphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly aelaecacxmmardaeriym smedcphrasrisulaily esdcprathbcnsinrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly cungesdcethlingthwlykhrxngrachsmbtiepnphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw aelaidphrarachthanwngniepnthiprathbkhxngphrarachoxrs 3 phraxngkh khux phraecabrmwngsethx phraxngkhecalkkhnanukhun miphrachnsanxy sinphrachnmemuxphrachnsa 24 pi phraecabrmwngsethx krmkhunrachsihwikrm tnrachskul chumsay esdcprathbthinicnsinphrachnminplayrchsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw ph s 2411 emuxphrachnsa 53 pi aela phraecabrmwngsethx krmhmunxdulylksnsmbti thrngkakbkrmaesngaelakrmchangsila sinphrachnmthiwngniinrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcnthungrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phraxngkhcungphrarachthantxihipyngsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs prathbthiwngni cnthung ph s 2480 inrchsmyphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthr cungidthrngsuxthidintrngrimthnnphraramthi 4 khlxngety srangtahnkepnthiprathbtakxakas eriykwa tahnkplayenin aelwoprdprathbthinntlxdphrachnmayuwngthaphra emuxkhrngepnthiprathbkhxngphraecabrmwngsethx krmkhunrachsihwikrmnn wngnicdepnthithrngnganaelanganchangthukchnid rwmthngepnthixyukhxngchangtang xasyxyuinwngkhnannimtakwa 200 khn cdepnwngkhnadihywnghnungthiediyw aetemuxsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngsesdcmaprathb tahnkxakhartang kmisphaphekathrudothrm bangaehngcharudphuphngcnimxacichsxyid phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw cungoprdekla ihburnacnmisphaphehmuxnedim swntahnkthiprathbnnoprdekla ihsrangkhunihm 3 hlngphayhlngthismedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngsesdcipprathbtahnkplayeninaelw thayathkhxngphraxngkhcungkhaywngihkbthangrachkar aelasastracarysilp phirasri idsrangsthansuksasahrbwichasilpatamaebbyuorpkhun idichwngniepnmhawithyalysilpakr wngthaphra cwbcnpccubnsthaptykrrm aekikhpratuaelakaaephngwngthaphrakaaephngkxxiththuxpunmiibesmaprakxb kaaephngnikhadwakxsrangphrxmkbwngthaphratngaetsmyrchkalthi1 pccubnkhngehluxechphaadanrimthnnhnaphralan thuxepnsylksnkhxngmhawithyalysilpakr thxngphraorngaelakaaephngaekwpccubnepnhxsilpkhxngmhawithyalysilpakr lksnathxngphraorngepnaebberuxn 5 hxng echliyngrxbhnhnayawxxkhnawng rupthrngthxngphraorngthiptisngkhrnihmnnphaynxkkhngyudtamaebbthipraktemuxkhrngrchkalthi3 aetphayinkhngiwaetesaedim mibnidihyekhathangdanhnaidthangediyw kaaephngnnepnsthaptykrrminrchkalthi5 milukkrngthithadwyehlkhlxepnlayswyngam aelaidrbkarkhunthaebiynobransthan tahnkklangaelatahnkphrrnraysthaptykrrmaebbtawntkrunaerk inrchkalthi5 klawkhuxepntuksxngchn miechliynghlnghnunghnekhahaxikhlnghnung swnhlngnxknnxyukhangswnaekw tukhlnginthimiechliyngthaeriybkwahlngnxk aelamiesathub hwesaepnaebbsilpaormn chxngkhuhadanlangepnchxngokhng mikartkaetngthiswntang phaynxkxakharelknxy swntukhlngnxkmirupthrngthubkwa mikartkaetngphiwhnngodykaresaaepnrxnginchnlang swnchnbnphnngeriyb miesatidphnngrahwangchxnghnatangaelapratutang dwylaypunpnhruxtitarangimiwinchxngaesngehnuxpratubangswn tukhlngnxkmiknsad miethaaekhnrbknsadthaxyangeriyb aelapradbchaykhadwylaychluim tukhlnginniepnthiprathbkhxngphrasmphnthwngsethx phraxngkhecaphrrnray phramardakhxngsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs odytahnkklangnnidrbkarkhunthaebiynobransthan pccubnichepnthitngkhxnghxsilpaelahnwyngankhxngmhawithyalysilpakr salainswnaekweriykwa saladntri emuxkhrngrchkalthi5 xngkhecakhxngwngekhyprathbthisalaniephuxchmkaraesdnghruxprachndntrisungcatngwngkninswnaekw ephraainwngthaphrakhnannmiwngdntripracawngthimichuxesiyng salainswnnithaepnsalaoprngmiphnngdanediyw hnhnaekhahaswnaekw hlngkhaepnaebbpnhya milaypradbxakharxyanglaexiydsbsxnkwatwtahnk cungekhaicwasrangthihlng laychluimthngthichaykhathawaekhnraebiybthaxyangpranitngdngamxangxing aekikhduephim aekikhmhawithyalysilpakraehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb wngthaphraaephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng wngthaphra phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicakmltiaemp hruxoklbxlikd phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxrphikdphumisastr 13 45 11 N 100 29 24 E 13 7529331 N 100 4899639 E 13 7529331 100 4899639ekhathungcak https th wikipedia org w index php title wngthaphra amp oldid 9389019, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม