fbpx
วิกิพีเดีย

วัดจองคำ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)

วัดจองคำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ในตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปรียบเสมือนเป็นวัดแฝดกับวัดจองกลางเนื่องจากตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงแก้วเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการประกาศรวมเป็นวัดเดียวกันตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2517 พื้นที่ด้านหน้าของวัดซึ่งเป็นสวนสาธารณะหนองจองคำ ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปีอีกด้วย

วัดจองคำ
วัดจองคำ (ซ้ายหลัง) และวัดจองกลาง (ขวาหน้า)
ที่ตั้งตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ประเภทพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ
นิกายมหานิกาย
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดจองคำ

วัดจองคำสร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 โดยพระยาสิหนาทราชาหรือเจ้าเมืองคนแรกของแม่ฮ่องสอน ใช้ช่างฝีมือชาวไทใหญ่เป็นศิลปะแบบไทใหญ่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2518 และได้รับพระราชทานยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527

อาคารเสนาสนะได้แก่ เจดีย์ หรือชาวไทใหญ่เรียกว่า กองมู มีลักษณะคล้ายมณีทบ รูปทรงจุฬามณี ความสูง 32 ศอก ฐานสี่เหลี่ยมมีมุข 4 ด้าน พร้อมสิงห์ด้านละหนึ่งตัว ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งด้านละหนึ่งองค์ และเริ่มสร้างเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2456 สร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2458 โดยศรัทธาขุนเพียร (พ่อเลี้ยงจองนุ) พิรุญกิจและแม่จองเฮือนคหบดี ชาวแม่ฮ่องสอนและในองค์พระเจดีย์ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้

อุโบสถเป็นอาคารรูปทรงมณฑปรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 เมตร ยาว 12 แมตร หลังคาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กรูป พระเจดีย์ 5 ยอด ภายในเขียนภาพพุทธประวัติบนฝาผนัง บานประตู หน้าต่างทำด้วยไม้แกะสลัก ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน ทางวัดได้ทำพิธีเททองหล่อขึ้น เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2522 เบิกพระเนตรเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2523 วิหารหลวงพ่อโตภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน คือ หลวงพ่อโต สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2496 โดยช่างชาวพม่าเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 4.85 เมตร จำลองมาจากพระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม วิหารมีความผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทใหญ่ผสมตะวันตก อาคารมีผังเป็นรูปตัวแอล ผนังก่ออิฐถือปูน ประตู หน้าต่างตอนบนโค้ง ประดับลวดลายแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก หลังคามุงสังกะสี เชิงชายมีลูกไม้ฉลุแบบขนมปังขิง

วัดจองกลาง

วัดจองกลาง เรียกเช่นนี้เพราะตั้งอยู่ระหว่างวัดจองคำ และวัดจองใหม่ (โรงเรียนพระปริยัติธรรม) เดิมเป็นศาลาที่พักคนมาจำศีลในวันพระ เมื่อเจ้าอาวาสวัดจองใหม่รูปสุดท้ายได้มรณภาพไป มีพระภิกษุจากเมืองหมอกใหม่มาร่วมงานศพเจ้าอาวาสวัดจองใหม่ และเข้ามาพักอาศัยในศาลาเย็นดังกล่าว คณะศรัทธาเคารพนับถือพระภิกษุองค์นี้เป็นอย่างมาก จึงพร้อมใจกันนิมนต์ท่านมาประจำศาลาต่อไป จนเมื่อ พ.ศ. 2410 ลุงจองจายหล่อ, ลุงพหะจ่า, ลุงจองตุ๊ก, พ่อเลี้ยงจางนุ (ขุนเพียร) และลุงจองจ่อ ได้ร่วมกันสร้างวัด หลังคามุงด้วยสังกะสีฉลุลวดลายแบบสถาปัตยกรรม โดยช่างฝีมือชาวไทใหญ่ โดยเฉพาะห้องทางด้านหลังทิศตะวันออก ตามฝาผนังประดับภาพรวม 180 ภาพ โดยมีช่างฝีมือช่างพม่า เมื่อสร้างเสร็จเรียกว่า "วัดจองกลาง" ปีต่อมาพ่อเลี้ยงจางนุ (ขุนเพียร) แม่จองเฮือน มีจิตศรัทธาสร้างพระธาตุเจดีย์ ฐานสี่เหลี่ยม มุขสี่ด้าน แต่ละด้านสร้างสิงห์ไว้ 1 ตัว พร้อมกับสร้างศาลาวิปัสสนาติดองค์พระธาตุเจดีย์ ทิศตะวันออกหลังคาทรงปราสาททำด้วยสังกะสีฉลุลวดลาย เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2456

ต่อมากระทรวงศึกษาธิการประกาศรวมวัดจองกลางกับวัดจองคำเป็นวัดเดียวกันตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2517 มีนามว่า "วัดจองคำ"

อาคารเสนาสนะของวัดจองกลาง ได้แก่ เจดีย์วิหารเล็กด้านหน้าศาลาการเปรียญติดหนองจอง สันนิษฐานว่าสร้างพร้อมกับการสร้างวัดจองกลาง เจดีย์วิหารมีหลังคาเรือนยอดทรงปราสาทซ้อนถึงห้าชั้น ส่วนยอดของหลังคาที่สูงที่สุดประดับด้วยฉัตรทองสามชั้น หลังคามุงสังกะสี มีโลหะฉลุลายตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของหลังคาและเชิงชาย วิหารใหญ่เป็นอาคารอเนกประสงค์ คือเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ใช้ประกอบพิธีกรรมงานบุญประเพณี จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งเป็นหอฉันและกุฏิของเจ้าอาวาส

อ้างอิง

  1. "วัดจองคำ". ระบบฐานข้อมูลพระกฐินพระราชทาน.
  2. "วัดจองคำพระอารามหลวง". มิวเซียมไทยแลนด์.
  3. "วัดจองคำ". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).
  4. "วัดจองกลาง". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).
  5. "ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง รวมวัดจองกลาง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา.

ดจองคำ, งหว, ดแม, องสอน, ดจองคำ, เป, นพระอารามหลวงช, นตร, ชน, ดสาม, ในตำบลจองคำ, อำเภอเม, องแม, องสอน, งหว, ดแม, องสอน, เปร, ยบเสม, อนเป, นว, ดแฝดก, บว, ดจองกลางเน, องจากต, งอย, ภายในเขตกำแพงแก, วเด, ยวก, กระทรวงศ, กษาธ, การประกาศรวมเป, นว, ดเด, ยวก, นต, งแต, . wdcxngkha epnphraxaramhlwngchntrichnidsamy intablcxngkha xaephxemuxngaemhxngsxn cnghwdaemhxngsxn epriybesmuxnepnwdaefdkbwdcxngklangenuxngcaktngxyuphayinekhtkaaephngaekwediywkn krathrwngsuksathikarprakasrwmepnwdediywkntngaetwnthi 14 tulakhm ph s 2517 phunthidanhnakhxngwdsungepnswnsatharnahnxngcxngkha yngichepnsthanthiprakxbphithitampraephnitang inrxbpixikdwywdcxngkhawdcxngkha sayhlng aelawdcxngklang khwahna thitngtablcxngkha xaephxemuxngaemhxngsxn cnghwdaemhxngsxnpraephthphraxaramhlwngchntrichnidsamynikaymhanikayswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnawdcxngkha aekikhwdcxngkhasrangemux ph s 2370 odyphrayasihnathrachahruxecaemuxngkhnaerkkhxngaemhxngsxn ichchangfimuxchawithihyepnsilpaaebbithihy idrbphrarachthanwisungkhamsimaemuxwnthi 2 knyayn ph s 2518 aelaidrbphrarachthanykkhunepnphraxaramhlwngchntrichnidsamyemuxwnthi 27 kumphaphnth ph s 2527 1 xakharesnasnaidaek ecdiy hruxchawithihyeriykwa kxngmu milksnakhlaymnithb rupthrngculamni khwamsung 32 sxk thansiehliymmimukh 4 dan phrxmsinghdanlahnungtw pradisthanphraphuththrupnngdanlahnungxngkh aelaerimsrangemuxeduxnminakhm ph s 2456 srangaelwesrcineduxnmkrakhm ph s 2458 odysrththakhunephiyr phxeliyngcxngnu phiruykicaelaaemcxngehuxnkhhbdi chawaemhxngsxnaelainxngkhphraecdiyidbrrcuphrabrmsaririkthatuiw 2 xuobsthepnxakharrupthrngmnthprupsiehliymphunpha kwang 6 emtr yaw 12 aemtr hlngkhaepnkhxnkritesrimehlkrup phraecdiy 5 yxd phayinekhiynphaphphuththprawtibnfaphnng banpratu hnatangthadwyimaekaslk phayinxuobsthpradisthanphraprathan thangwdidthaphithieththxnghlxkhun emuxwnthi 9 minakhm ph s 2522 ebikphraentremuxwnthi 15 minakhm ph s 2523 wiharhlwngphxotphayinepnthipradisthanphraprathan khux hlwngphxot srangemuxpi ph s 2496 odychangchawphmaepnphraphuththrupkhnadihy mikhnadhnatkkwang 4 85 emtr calxngmacakphrasrisakymuni hlwngphxot thiwdsuthsnethphwraram wiharmikhwamphsmphsanrahwangsthaptykrrmithihyphsmtawntk xakharmiphngepnruptwaexl phnngkxxiththuxpun pratu hnatangtxnbnokhng pradblwdlayaebbsthaptykrrmtawntk hlngkhamungsngkasi echingchaymilukimchluaebbkhnmpngkhing 3 wdcxngklang aekikhwdcxngklang eriykechnniephraatngxyurahwangwdcxngkha aelawdcxngihm orngeriynphrapriytithrrm edimepnsalathiphkkhnmacasilinwnphra emuxecaxawaswdcxngihmrupsudthayidmrnphaphip miphraphiksucakemuxnghmxkihmmarwmngansphecaxawaswdcxngihm aelaekhamaphkxasyinsalaeyndngklaw khnasrththaekharphnbthuxphraphiksuxngkhniepnxyangmak cungphrxmicknnimntthanmapracasalatxip cnemux ph s 2410 lungcxngcayhlx lungphhaca lungcxngtuk phxeliyngcangnu khunephiyr aelalungcxngcx idrwmknsrangwd hlngkhamungdwysngkasichlulwdlayaebbsthaptykrrm odychangfimuxchawithihy odyechphaahxngthangdanhlngthistawnxxk tamfaphnngpradbphaphrwm 180 phaph odymichangfimuxchangphma emuxsrangesrceriykwa wdcxngklang pitxmaphxeliyngcangnu khunephiyr aemcxngehuxn micitsrththasrangphrathatuecdiy thansiehliym mukhsidan aetladansrangsinghiw 1 tw phrxmkbsrangsalawipssnatidxngkhphrathatuecdiy thistawnxxkhlngkhathrngprasaththadwysngkasichlulwdlay erimsrangemuxpi ph s 2456 4 txmakrathrwngsuksathikarprakasrwmwdcxngklangkbwdcxngkhaepnwdediywkntngaetwnthi 14 tulakhm ph s 2517 minamwa wdcxngkha 5 xakharesnasnakhxngwdcxngklang idaek ecdiywiharelkdanhnasalakarepriyytidhnxngcxng snnisthanwasrangphrxmkbkarsrangwdcxngklang ecdiywiharmihlngkhaeruxnyxdthrngprasathsxnthunghachn swnyxdkhxnghlngkhathisungthisudpradbdwychtrthxngsamchn hlngkhamungsngkasi miolhachlulaytkaetngtamswntang khxnghlngkhaaelaechingchay wiharihyepnxakharxenkprasngkh khuxepnthipradisthanphraphuththrup ichprakxbphithikrrmnganbuypraephni cdaesdngphiphithphnth rwmthngepnhxchnaelakutikhxngecaxawasxangxing aekikh wdcxngkha rabbthankhxmulphrakthinphrarachthan wdcxngkhaphraxaramhlwng miwesiymithyaelnd wdcxngkha karthxngethiywaehngpraethsithy ththth wdcxngklang karthxngethiywaehngpraethsithy ththth prakaskrathrwngsuksathikar eruxng rwmwdcxngklang PDF rachkiccanuebksa khxmmxns miphaphaelasuxekiywkb wdcxngkhaekhathungcak https th wikipedia org w index php title wdcxngkha cnghwdaemhxngsxn amp oldid 9305578, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม