วิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย
วิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย เป็นกิจกรรมอดิเรกที่เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อได้มีการก่อตั้งสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 แต่กิจการวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย ยังไม่ได้รับการรับรองจากสากลในขณะนั้น กระทั่งได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริงเมื่อ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2530 จากการประกาศใช้ระเบียบคณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ ว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2530
ระยะเริ่มต้น
ก่อนหน้านั้น กิจการวิทยุสมัครเล่น มีขึ้นในประเทศไทยหลายสิบปีแล้ว จากการบอกกล่าวของนักวิทยุสมัครเล่นรุ่นแรกๆเล่าว่าได้มากกว่า 60 ปี แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากทั้งประชาชนทั่วไปและจากรัฐบาลเท่าใดนัก
นับจากก่อตั้งเป็นเวลากว่า 40 ปีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ โดยที่สมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ "เพื่อเป็นสมาคมของนักวิทยุสมัครเล่นที่มิใช่เพื่อการค้า แต่รวมกันเพื่อส่งเสริมความสนใจเกี่ยวกับการทดลองวิทยุเพื่อความก้าวหน้าทางศิลปการวิทยุ และผดุงไว้ซึ่งชื่อเสียงของนักวิทยุสมัครเล่น ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกันโดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง"
สมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พยายามดำเนินการกิจการวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทยให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยขออนุญาตทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุสมัครเล่นมาโดยตลอด เช่น การเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันระดับนานาชาติในรายการแข่งขันวิทยุสมัครเล่นต่างๆ รวมทั้งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันรายการต่างๆ หลายรายการนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติในสมัยนั้น ให้มีการจัดตั้งสถานีชั่วคราวขึ้นได้
การจัดตั้งชมรมวิทยุอาสาสมัคร
ต่อมามีการจัดตั้ง "ชมรมวิทยุอาสาสมัคร" ในปี พ.ศ. 2524 ขึ้น โดย พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขในขณะนั้น และได้มีการจัดให้มีการสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ซึ่งในครั้งนั้นมีการกำหนดสัญญาณเรียกขานเป็น "VR" (ย่อมาจาก Volunteer Radio : นักวิทยุอาสาสมัคร) โดยเริ่มจาก VR001 ไปเรื่อยๆ มีผู้สมัครสอบประมาณ 500 คน และสอบผ่าน 311 คน[ต้องการอ้างอิง] ผู้ที่สอบได้จะเรียกตัวเองว่า นักวิทยุอาสาสมัคร
แต่เป็นที่ทราบกันดีว่านักวิทยุอาสาสมัครได้ใช้ความถี่วิทยุสมัครเล่น ช่วยเหลือสังคม และงานต่างๆ ของทางราชการตลอดมา ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ประชาชนทั่วไปได้มีสิทธิใช้งานความถี่วิทยุ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้า การเมือง และศาสนา ซึ่งหลังจากนั้นคณะกรรมการชมรม ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในรูปแบบของสมาคม ภายใต้ชื่อ "สมาคมวิทยุอาสาสมัคร" มีชื่อภาษาอังฤษว่า "Voluntary Radio Association (VRA)" ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมนักวิทยุอาสาสมัคร ช่วยเหลือสังคมและสาธารณประโยชน์แลกเปลี่ยนความรู้ทางเทคนิคระหว่างสมาชิกและพัฒนาวิชาการด้านวิทยุคมนาคม โดยการปฏิบัติการติดต่อสื่อสารของสมาชิกทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือศาสนา และไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับการเมือง
ยุคการจัดตั้งตามกฎหมาย
"กิจการวิทยุสมัครเล่น" ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริงเมื่อ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2530 จากการประกาศใช้ระเบียบคณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ ว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2530 นับได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้มีการติดต่อสื่อสารแบบ "นักวิทยุสมัครเล่น" อย่างแท้จริงขึ้นในประเทศไทย โดยกำหนดสัญญาณเรียกขานที่เป็นสากลตามข้อกำหนดของ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
ซึ่งกำหนดให้ประเทศไทยใช้สัญญาณเรียกขานที่ขึ้นต้นด้วย "HS" และในเวลาต่อมาได้กำหนดสัญญาณเรียกขาน "E2" เพิ่มให้กับประเทศไทย
กิจกรรมของนักวิทยุสมัครเล่นไทย
สถานีพิเศษ
ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มักจะมีการกำหนดสัญญาณเรียกขานพิเศษ เพื่อใช้สำหรับการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ซึ่งนักวิทยุหลายคนก็คอยจะติดต่อกับสถานีพิเศษเหล่านี้ เพื่อจะขอรับบัตรยืนยันการติดต่อไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งในบางโอกาสอาจมีการใช้ prefix พิเศษ เช่น HS2000 ซึ่งเป็นสถานีรายงานการปรับเปลี่ยนปี ค.ศ. ใหม่ HS50A สัญญาณเรียกขานพิเศษสำหรับเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
การเป็นนักวิทยุสมัครเล่นและใบอนุญาต
สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย จะต้องผ่านการอบรมและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรวิทยุสมัครเล่นจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง_กิจการโทรทัศน์_และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจึงจะสามารถใช้งานความถี่วิทยุของนักวิทยุสมัครเล่นได้ ซึ่งนักวิทยุสมัครเล่นของประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- ประกาศนียบัตรวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น
- ประกาศนียบัตรวิทยุสมัครเล่นขั้นกลาง
- ประกาศนียบัตรวิทยุสมัครเล่นขั้นสูง
ซึ่งในแต่ระดับขั้นนั้นมีสิทธิที่จะใช้งานความถี่วิทยุสมัครเล่นและกำลังส่งที่แตกต่างกัน สำหรับนักวิทยุสมัครเล่นขั้นสูงนั้น มีการถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (HS1A) เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น และในปี พ.ศ 2559 สำนักงาน กสทช ได้เปิดให้มีสารสอบเพื่อรับใบประกาศนียบัตรวิทยุสมัครเล่นขั้นสูงในวันที่ 18 มิถนายน 2559 มีผู้สอบผ่านจำนวน 155 คน
สิทธิต่างๆ ของนักวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย
เมื่อสอบผ่านหรือได้รับประกาศนียบัตรรับรองการเป็นนักวิทยุสมัครเล่นแล้ว จะมีสิทธิการใช้งานความถี่ที่กำหนดให้ใช้เฉพาะนักวิทยุสมัครเล่นเท่านั้น ซึ่งมีหลายย่านความถี่ตามข้อกำหนดของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และใช้กำลังส่งได้สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดแต่ละลำดับชั้นของใบอนุญาต สำหรับประเทศไทยตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตและกำกับดูแลกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2557 สิทธิต่างๆ เป็นดังตาราง
ใบอนุญาต | ความถี่ | กำลังส่งสูงสุด |
นักวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น | ไม่เกิน 100 วัตต์ | |
144.000 - 147.000 MHz | ไม่เกิน 60 วัตต์ | |
435.000 - 438.000 MHz * | เฉพาะภาครับเท่านั้น | |
นักวิทยุสมัครเล่นขั้นกลาง | 135.7 – 137.8 kHz | 1 วัตต์ |
1.800 - 1.825 MHz 1.8.25 - 2.000 MHz * 3.500 - 3.540 MHz 3.540 - 3.600 MHz * 7.000 - 7.200 MHz 10.100 - 10.150 MHz 14.000 - 14.350 MHz 18.068 - 18.168 MHz 21.000 - 21.450 MHz 24.890 - 24.990 MHz 50.000 - 54.000 MHz ** 1,240 – 1,300 MHz *
| ไม่เกิน 200 วัตต์ | |
24 – 24.05 GHz 47 – 47.2 GHz 77.5 – 78 GHz 134 – 136 GHz 248 – 250 GHz | ไม่เกิน 10 วัตต์ | |
นักวิทยุสมัครเล่นขั้นสูง | 135.7 – 137.8 kHz | 1 วัตต์ |
1.800 - 1.825 MHz 1.8.25 - 2.000 MHz * 3.500 - 3.540 MHz 3.540 - 3.600 MHz * 7.000 - 7.200 MHz 10.100 - 10.150 MHz 14.000 - 14.350 MHz 18.068 - 18.168 MHz 21.000 - 21.450 MHz 24.890 - 24.990 MHz 50.000 - 54.000 MHz ** 1,240 – 1,300 MHz * | 1,000 วัตต์ | |
3,400 – 3,500 MHz * 5,650 – 5,850 MHz * 10.00 – 10.50 GHz * | 100 วัตต์ | |
24.00 – 24.05 GHz 24.05 – 24.25 GHz * 47.00 – 47.20 GHz 76.00 – 77.50 GHz * 77.50 – 78.00 GHz 78.00 – 79.00 GHz * 79.00 – 81.00 GHz * 122.25 – 123.00 GHz * 134.00 – 136.00 GHz 136.00 – 141.00 GHz * 241.00 – 248.00 GHz * 248.00 – 250.00 GHz | 10 วัตต์ |
หมายเหตุ
* กิจการรอง ไม่ได้รับการคุ้มครองการรบกวน ถ้าเกิดการรบกวนกับกิจการหลัก ให้หยุดใช้ความถี่ทันที
** ร่างตารางความถี่แห่งชาติ 2560 เชิงอรรถประเทศไทย T-P9
*** ร่างตารางความถี่แห่งชาติ 2560 เชิงอรรถประเทศไทย T-IMT
อ้างอิง
- ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตและกำกับดูแลกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2557