fbpx
วิกิพีเดีย

วิมานพญาแถน

อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน หรือ มหายุทธแดนอีสาน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำทวนฝั่งขวา ถนนมงคลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โดยจังหวัดยโสธรได้นำเอาแนวคิดทั้งด้านการตลาดและนโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสาน ซึ่งการก่อสร้างวิมานพญาแถนได้เชื่อมโยงกับงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัดยโสธร คือ ประเพณีบุญบั้งไฟซึ่งเป็นประเพณีขอฝนให้ตกตามฤดูกาลเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ได้มีน้ำเพื่อทำการเกษตรกรรมอย่างพอเพียง

อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน
ประเภทอุทยาน/พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่
ที่ตั้งถนนมงคลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร 35000
เปิดตัวทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
ผู้ดำเนินการเทศบาลเมืองยโสธร
สถานะสถานที่จัดกิจกรรมประจำจังหวัด

ประวัติ

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดที่มีประเพณีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวยโสธร ซึ่งมีความเชื่อว่าโลกนั้นประกอบด้วย โลกมนุษย์ โลกเทวดา และโลกบาดาล โดยโลกมนุษย์อยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกเทวดาซึ่งชาวอีสานเรียกเทวดาว่า พญาแถน ซึ่งพญาแถนมีอิทธิพลต่อ ฝน ฟ้า ลม หากมนุษย์ทำให้พญาแถนโปรดปรานหรือพอใจ ก็จะบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล จึงเกิดพิธีการบูชาพญาแถนโดยการใช้บั้งไฟ เพื่อแสดงการเคารพและเป็นการขอฝนจากพญาแถน อันเป็นที่มาของประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธรอันโด่งดัง จากตำนานเรื่องเล่าอันถือว่ามีความสำคัญต่อจังหวัดยโสธรดังกล่าวข้างต้น จังหวัดยโสธรจึงจัดสร้าง “วิมานพญาแถน” ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งภายในวิมานพญาแถนนั้นประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนถึงตำนานบุญบั้งไฟของยโสธร จึงจัดสร้าง วิมานพญาแถน ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดอโดยเริ่มก่อสร้างวิมานพญาแถน มาตั้งแต่สมัย นายวันชัย อุดมสิน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรและอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อนายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ขณะนั้น ได้จัดสรรงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดคือ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ มาดำเนินการก่อสร้าง เป็นช่วงๆ ปี คาดว่าจะใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกลุ่มจังหวัด

ตำนานเกี่ยวเนื่อง

ตำนานที่ 1

ตำนานนั้นมีอยู่ว่า พญาคันคากเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ เหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก และถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จนลืมที่จะเซ่นบูชาพระยาแถน พระยาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ศึกการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนจึงเกิดขึ้น โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี จึงเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเดือนหกอันเป็นต้นเดือนฤดูฝน ชาวอีสานจึงทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกต้องตามฤดูกาลนั่นเอง

ตำนานที่ 2

นางไอ่เป็นธิดาพระยาขอมผู้ครองเมืองชะธีตา นางไอ่เป็นสตรีที่มีสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปในนครต่าง ๆ ทั้งโลกมนุษย์และบาดาล มีชายหนุ่มหมายปองจะได้อภิเษกกับนางมากมาย ในจำนวนผู้ที่มาหลงรักนางไอ่ มีท้าวผาแดงและท้าวพังคี โอรสสุทโธนาค เจ้าผู้ครองนครบาดาล ท้าวทั้งสองต่างเคยมีความผูกพันกับนางไอ่มาแต่อดีตชาติ จึงต่างช่วงชิงจะได้เคียงคู่กับนาง แต่ก็พลาดหวัง จึงมิได้อภิเษกทั้งคู่เพราะแข่งขันบั้งไฟแพ้

ท้าวพังคีนาคไม่ยอมลดละ แปลงกายเป็นกระรอกเผือกคอยติดตามนางไอ่ สุดท้ายถูกฆ่าตาย พญานาคผู้เป็นพ่อจึงขึ้นมาถล่มเมืองล่มไป กลายเป็นหนองน้ำใหญ่ คือ หนองหาน หนองหานในตำนานท้าวผาแดงนางไอ่ ที่เป็นที่ถกเถียงกันว่าที่ไหนกันแน่ มีอยู่ถึง 3 ที่ ได้แก่ หนองหาน ที่อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี และหนองหาน อำเภอกุมภวาปี ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่แรกมากนัก และอีกที่หนึ่งก็คือหนองหาร จังหวัดสกลนคร

ในตำราอ้างอิงถึงเรื่องผาแดงนางไอ่จบลงด้วยการเกิดเป็นหนองน้ำ ขนาดใหญ่จากการต่อสู้ของพญานาคกับท้าวผาแดง ต่างก็มีข้อมูลอ้างอิงถึง หนองน้ำที่ชื่อหนองหาน แต่กล่าวต่างกันไปในตำราแต่ละเล่มถึงหนองน้ำ ทั้ง 3 แห่ง

สัญลักษณ์ของอุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน

พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก

 
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ใช้รูปแบบภายนอกอาคารเลียนแบบกายภาพโดยตรงของคางคก

อาคารพญาคันคากที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวนั้น สร้างขึ้นเป็นรูปร่างพญาคันคาก มีความสูง 19 เมตร พื้นที่รวม 835 ตารางเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 18.97 ล้านบาท ภายในอาคารประกอบด้วยพื้นที่จัดนิทรรศการจำนวน 5 ชั้น ได้แก่

  • ชั้นที่ 1 แสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองยโสธร
  • ชั้นที่ 2 ตำนานพญาแถนและพญาคันคาก
  • ชั้นที่ 3 ตำนานและเรื่องราวของบั้งไฟ
  • ชั้นที่ 4 อัตลักษณ์เมืองยโสธร
  • ชั้นที่ 5 จุดชมวิวเมืองยโสธร

พิพิธภัณฑ์พญานาค

 
พิพิธภัณฑ์พญานาค

สร้างทอดยาวริมฝั่งลำน้ำทวน ด้านทิศเหนือของพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อาคารกว้าง 12.50 เมตร ยาว 99 เมตร สูง 15-16 เมตร งบประมาณการก่อสร้าง 45 ล้านบาท มีแหล่งเรียนรู้ภายในอาคาร 5 โซน ดังนี้

  • โซนที่ 1 เล่าขานตำนาน เป็นเรื่องราวพญาคันคากและพญาแถน และการกำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาค
  • โซนที่ 2 รากความเชื่อ กำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาคและงูใหญ่ทั่วโลก
  • โซนที่ 3 สถิตในศรัทธา เรื่องราวของพญานาคที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา นาคในคติพราหมณ์ฮินดู และพุทธ
  • โซนที่ 4 ปฐมกาลมหานที ตำนานการเกิดแม่น้ำโขงโดยพญานาค ความพิเศษของโถงนี้คือการจำลองบรรยากาศให้เหมือนถ้ำบาดาล นักท่องเที่ยวจะได้ยืนบนสะพานพญานาคและชมภาพวีดีทัศน์ผ่านกำแพงถ้ำ
    • โซนที่ 4.2 จารีตและวิถี แสดงความเชื่อตามจารีตประเพณีเกี่ยวกับพญานาค จัดแสดงในกล่องทรงกลมวางตามมุมต่างๆ บนพื้นที่จัดแสดง ซึ่งทุกเรื่องสามารถอ่านรายละเอียดได้บนหน้าจอสัมผัส หรือบนกราฟิกบอร์ด
  • โซนที่ 5 พญานาคกับชีววิทยา ให้ความรู้เกี่ยวกับพญานาคและเรื่องราวของงูตามหลักเหตุผล โดยนำเสนอวิวัฒนาการของงู ผ่านกราฟิกบอร์ด, อนาโตมี่ของงูบนกราฟิกบอร์ด, ความหลากหลายทางชีวภาพของงู ผ่านการแสดงฉากจำลอง 6 ฉาก ตลอดจนได้ศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของงู โทษและประโยชน์ของงู รวมถึงการป้องกันรักษาเมื่อถูกงูกัด

อ้างอิง

  1. http://www.tourismthailand.org/ubonratchathani

มานพญาแถน, บทความน, องการการจ, ดหน, ดหมวดหม, ใส, งก, ภายใน, หร, อเก, บกวาดเน, อหา, ให, ณภาพด, ณสามารถปร, บปร, งแก, ไขบทความน, ได, และนำป, ายออก, จารณาใช, ายข, อความอ, นเพ, อช, ดข, อบกพร, องอ, ทยานสวรรค, หร, มหาย, ทธแดนอ, สาน, เป, นสถานท, กผ, อนหย, อนใจของจ, งห. bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxngxuthyanswrrkhwimanphyaaethn hrux mhayuththaednxisan epnsthanthiphkphxnhyxnickhxngcnghwdyosthr tngxyurimfnglanathwnfngkhwa thnnmngkhlburpha tablinemuxng xaephxemuxngyosthr cnghwdyosthr epnaehlngthxngethiywechingwthnthrrmaelaechingniews aelaichepnaehlngeriynruaelaphiphithphnthklangaecng odycnghwdyosthridnaexaaenwkhidthngdankartladaelanoybaydankarsngesrimkarthxngethiywwithiithyihmiskyphaphinkaraekhngkhn cungidihkhwamsakhykbkarphthnaaehlngthxngethiywekiywkbwthnthrrmaelapraephnikhxngchawxisan sungkarkxsrangwimanphyaaethnidechuxmoyngkbnganpraephnithisakhykhxngcnghwdyosthr khux praephnibuybngifsungepnpraephnikhxfnihtktamvdukalephuxihekidkhwamxudmsmburn sngphlihekstrkr chawir chawna idminaephuxthakarekstrkrrmxyangphxephiyngxuthyanswrrkhwimanphyaaethnpraephthxuthyan phiphithphnthkhnadihythitngthnnmngkhlburpha tablinemuxng xaephxemuxngyosthr cnghwdyosthr 35000epidtwthukwnimewnwnhyudnkkhtvksphudaeninkarethsbalemuxngyosthrsthanasthanthicdkickrrmpracacnghwd enuxha 1 prawti 2 tananekiywenuxng 2 1 tananthi 1 2 2 tananthi 2 3 sylksnkhxngxuthyanswrrkhwimanphyaaethn 3 1 phiphithphnthphyakhnkhak 3 2 phiphithphnthphyanakh 4 xangxingprawti aekikhcnghwdyosthrepncnghwdthimipraephnikarptibtisubenuxngknmaxyangyawnan odyechphaapraephnithiekiywkhxngkbsasna khwamechux aelawithichiwitkhxngchawyosthr sungmikhwamechuxwaolknnprakxbdwy olkmnusy olkethwda aelaolkbadal odyolkmnusyxyuphayitxiththiphlkhxngolkethwdasungchawxisaneriykethwdawa phyaaethn sungphyaaethnmixiththiphltx fn fa lm hakmnusythaihphyaaethnoprdpranhruxphxic kcabndalihfntktxngtamvdukal cungekidphithikarbuchaphyaaethnodykarichbngif ephuxaesdngkarekharphaelaepnkarkhxfncakphyaaethn xnepnthimakhxngpraephnibuybngifcnghwdyosthrxnodngdng caktananeruxngelaxnthuxwamikhwamsakhytxcnghwdyosthrdngklawkhangtn cnghwdyosthrcungcdsrang wimanphyaaethn khunbriewnlathwnephuxichepnsthanthithiaesdngthungwthnthrrmpraephnikhxngcnghwd epnaehlngthxngethiywaelaaehlngeriynruthisakhykhxngcnghwd sungphayinwimanphyaaethnnnprakxbipdwysingkxsrangthisathxnthungtananbuybngifkhxngyosthr cungcdsrang wimanphyaaethn khunbriewnlathwnephuxichepnsthanthithiaesdngthungwthnthrrmpraephnikhxngcnghwd epnaehlngthxngethiywaelaaehlngeriynruthisakhykhxngcnghwdxodyerimkxsrangwimanphyaaethn matngaetsmy naywnchy xudmsin xditphuwarachkarcnghwdyosthraelaxditrxngxthibdikrmkarpkkhrxng iderimdaeninkarepnkhrngaerk txmaemuxnayphirphnthu phalusukh rthmntriwakarkrathrwngwithyasastr khnann idcdsrrngbpramancakklumcnghwdkhux yosthr xublrachthani srisaeks aelaxanacecriy madaeninkarkxsrang epnchwng pi khadwacaichngbthngsinpraman 200 lanbath epahmayephuxphthnaihepnaehlngthxngethiywaehngihminklumcnghwd 1 tananekiywenuxng aekikhtananthi 1 aekikh tanannnmixyuwa phyakhnkhakepnphraophthistw eswychatiepnoxrskhxngkstriy ehtuthiidchuxwa phyakhnkhak epnephraaemuxkhrngprasutimiruprangphiwphrrnehmuxnkhangkhk hruxthichawxisaneriykknwa khnkhak aelathungaemphraxngkhcamiruprangxplksn aetphraxinthrkkhxychwyehlux cnphyakhnkhakepnthiekharphnbthuxkhxngchawban cnlumthicaesnbuchaphrayaaethn phrayaaethncungokrth imyxmplxynafnihtklngmayngolkmnusy sukkartxsurahwangphyakhnkhakaelaphyaaethncungekidkhun odyphyakhnkhakidnathphstwtang khuniprb cnidrbchychna phyaaethncungplxyihfntklngmaechnedim aetmikhxaemwacatxngcudbngifkhunipbuchaepnpracathukpi cungepnthimawaemuxthungeduxnhkxnepntneduxnvdufn chawxisancungthabngifcudkhunbnfathwayphyaaethn ephuxfncaidtktxngtamvdukalnnexng 2 tananthi 2 aekikh nangixepnthidaphrayakhxmphukhrxngemuxngchathita nangixepnstrithimisiriochmngdngamepnthieluxngluxipinnkhrtang thngolkmnusyaelabadal michayhnumhmaypxngcaidxphieskkbnangmakmay incanwnphuthimahlngrknangix mithawphaaedngaelathawphngkhi oxrssuthothnakh ecaphukhrxngnkhrbadal thawthngsxngtangekhymikhwamphukphnkbnangixmaaetxditchati cungtangchwngchingcaidekhiyngkhukbnang aetkphladhwng cungmiidxphieskthngkhuephraaaekhngkhnbngifaephthawphngkhinakhimyxmldla aeplngkayepnkrarxkephuxkkhxytidtamnangix sudthaythukkhatay phyanakhphuepnphxcungkhunmathlmemuxnglmip klayepnhnxngnaihy khux hnxnghan hnxnghanintananthawphaaedngnangix thiepnthithkethiyngknwathiihnknaen mixyuthung 3 thi idaek hnxnghan thixaephxhnxnghan cnghwdxudrthani aelahnxnghan xaephxkumphwapi sungkimiklcakthiaerkmaknk aelaxikthihnungkkhuxhnxnghar cnghwdsklnkhrintaraxangxingthungeruxngphaaedngnangixcblngdwykarekidepnhnxngna khnadihycakkartxsukhxngphyanakhkbthawphaaedng tangkmikhxmulxangxingthung hnxngnathichuxhnxnghan aetklawtangknipintaraaetlaelmthunghnxngna thng 3 aehngsylksnkhxngxuthyanswrrkhwimanphyaaethn aekikhphiphithphnthphyakhnkhak aekikh phiphithphnthphyakhnkhak ichrupaebbphaynxkxakhareliynaebbkayphaphodytrngkhxngkhangkhk xakharphyakhnkhakthiepncudsnickhxngnkthxngethiywnn srangkhunepnruprangphyakhnkhak mikhwamsung 19 emtr phunthirwm 835 tarangemtr ngbpramankarkxsrang 18 97 lanbath phayinxakharprakxbdwyphunthicdnithrrskarcanwn 5 chn idaek chnthi 1 aesdngprawtisastrkhwamepnmakhxngemuxngyosthr chnthi 2 tananphyaaethnaelaphyakhnkhak chnthi 3 tananaelaeruxngrawkhxngbngif chnthi 4 xtlksnemuxngyosthr chnthi 5 cudchmwiwemuxngyosthrphiphithphnthphyanakh aekikh phiphithphnthphyanakh srangthxdyawrimfnglanathwn danthisehnuxkhxngphiphithphnthphyakhnkhak xakharkwang 12 50 emtr yaw 99 emtr sung 15 16 emtr ngbpramankarkxsrang 45 lanbath miaehlngeriynruphayinxakhar 5 osn dngni osnthi 1 elakhantanan epneruxngrawphyakhnkhakaelaphyaaethn aelakarkaenidkhwamechuxeruxngphyanakh osnthi 2 rakkhwamechux kaenidkhwamechuxeruxngphyanakhaelanguihythwolk osnthi 3 sthitinsrththa eruxngrawkhxngphyanakhthiekiywkhxngkbphuththsasna nakhinkhtiphrahmnhindu aelaphuthth osnthi 4 pthmkalmhanthi tanankarekidaemnaokhngodyphyanakh khwamphiesskhxngothngnikhuxkarcalxngbrryakasihehmuxnthabadal nkthxngethiywcaidyunbnsaphanphyanakhaelachmphaphwidithsnphankaaephngtha osnthi 4 2 caritaelawithi aesdngkhwamechuxtamcaritpraephniekiywkbphyanakh cdaesdnginklxngthrngklmwangtammumtang bnphunthicdaesdng sungthukeruxngsamarthxanraylaexiydidbnhnacxsmphs hruxbnkrafikbxrd osnthi 5 phyanakhkbchiwwithya ihkhwamruekiywkbphyanakhaelaeruxngrawkhxngngutamhlkehtuphl odynaesnxwiwthnakarkhxngngu phankrafikbxrd xnaotmikhxngngubnkrafikbxrd khwamhlakhlaythangchiwphaphkhxngngu phankaraesdngchakcalxng 6 chak tlxdcnidsuksawithichiwitkhwamepnxyukhxngngu othsaelapraoychnkhxngngu rwmthungkarpxngknrksaemuxthukngukd 3 xangxing aekikh http pantip com topic 34241679 http travel trueid net detail Yb4qd0o4ODG https travel mthai com region 210682 html 1 http www tourismthailand org ubonratchathaniekhathungcak https th wikipedia org w index php title wimanphyaaethn amp oldid 9308618, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม