ประเทศเดนมาร์ก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เดนมาร์ก (อังกฤษ: Denmark; เดนมาร์ก: Danmark [ˈd̥ænmɑɡ̊] แดนมาก) (เดนมาร์ก: Danmark (วิธีใช้·ข้อมูล) ) หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (เดนมาร์ก: Kongeriget Danmark) เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีแผ่นดินหลักตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ ทางทิศเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางบกเพียงประเทศเดียว ทางทิศใต้ของประเทศนอร์เวย์ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน มีพรมแดนจรดทะเลเหนือและทะเลบอลติก เดนมาร์กมีดินแดนนอกชายฝั่งห่างไกลออกไปสองแห่ง คือหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ ซึ่งแต่ละแห่งมีอำนาจปกครองตนเอง
ราชอาณาจักรเดนมาร์ก Kongeriget Danmark (เดนมาร์ก) | |
---|---|
คำขวัญ: ไม่มี1 | |
เพลงสรรเสริญพระบารมี: Kong Christian (สรรเสริญพระบารมี) | |
เมืองหลวง และ ใหญ่สุด | โคเปนเฮเกน |
ภาษาราชการ | ภาษาเดนมาร์ก2 |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเทอที่ 2 | |
เมตเต เฟรเดอริกเซน | |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
การรวมชาติ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ | |
พื้นที่ | |
• รวม | 43,094 ตารางกิโลเมตร (16,639 ตารางไมล์) (131) |
1.6%3 | |
ประชากร | |
• 1 กรกฎาคม 2562 ประมาณ | 5,814,461 (109) |
• สำมะโนประชากร 2549 | 5,450,661 |
126 ต่อตารางกิโลเมตร (326.3 ต่อตารางไมล์) (783) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2560 (ประมาณ) |
• รวม | $ 285.468 พันล้าน |
• ต่อหัว | $ 49,612 |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2560 (ประมาณ) |
• รวม | $ 324.146 พันล้าน |
• ต่อหัว | $ 56,334 |
จีนี (2557) | 28.5 ข้อผิดพลาด: ค่าจีนีไม่ถูกต้อง |
HDI (2559) | 0.925 ข้อผิดพลาด: ค่า HDI ไม่ถูกต้อง · 5th |
สกุลเงิน | โครเนอเดนมาร์ก (DKK) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET3) |
• ฤดูร้อน (DST) | UTC+2 (CEST3) |
รหัสโทรศัพท์ | 453 |
โดเมนบนสุด | .dk3 |
1คำขวัญของสมเด็จพระราชินีนาถ: Guds hjælp, Folkets kærlighed, Danmarks styrke (ภาษาอังกฤษ: God's help, People's love, Denmark's strength) 2เป็นภาษาทางการร่วมกับภาษากรีนแลนด์ในกรีนแลนด์ และเป็นภาษาทางการร่วมกับภาษาแฟโรในหมู่เกาะแฟโร ภาษาเยอรมันได้รับการรับรองเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่เซาท์จัตแลนด์ ส่วนภาษาเดนมาร์กได้รับการรับรองเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ในเยอรมนี 3ข้อมูลนี้ไม่รวมกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโร |
เดนมาร์กเป็นประเทศองค์ประกอบที่มีการปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป แต่ยังไม่เข้าร่วมใช้สกุลเงินยูโร เดนมาร์กเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ
ภูมิศาสตร์
เดนมาร์กแต่เดิมเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย พื้นที่ตลอดชายฝั่งเป็นสันทรายกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนอื่นเกิดจากธารน้ำแข็งและหนองน้ำ เดนมาร์กตั้งอยู่ระหว่างทะเลบอลติกและทะเลเหนือ ล้อมรอบด้วยพื้นน้ำเกือบทั้งหมด ภูมิประเทศประกอบด้วยคาบสมุทร Jutland (Jylland) และเกาะต่างๆอีก 406 เกาะ ในจำนวนนี้ 76 เกาะมีผู้อยู่อาศัย เกาะใหญ่ที่สุดคือ Zealand (Sjælland), Funen (Fyn), Lolland และ Bornholm เกาะ Bornholm จะอยู่ในทะเลบอลติกทางด้านตะวันออกของประเทศ เกาะอื่นๆส่วนใหญ่จะเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กมาก ที่มีผู้อยู่อาศัยเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย เกาะขนาดใหญ่จะเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน สะพาน Øresund เชื่อมต่อเกาะ Zealand กับประเทศสวีเดน สะพาน Great Belt เชื่อมต่อเกาะ Funen กับเกาะ Zealand และสะพาน Little Belt เชื่อมต่อคาบสมุทร Jutland กับเกาะ Funen เรือเฟอร์รี่และเครื่องบินจะใช้เพื่อการเดินทางไปยังเกาะเล็กๆ เมืองหลวงหลักคือโคเปนเฮเกน (อยู่บนเกาะ Zealand) Århus, Aalborg, Esbjerg (อยู่บนคาบสมุทร Jutland) และ Odense (อยู่บนเกาะ Funen) พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นที่ราบไม่มีภูเขา นอกจากหมู่เกาะแฟโร และเกาะกรีนแลนด์ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลจะมีทั้งที่ราบสูง และภูเขาสูง
ภูมิประเทศมีที่ราบสูงเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลเพียง 31 เมตร จุดที่อยู่สูงที่สุดตามธรรมชาติคือเนินเขา Møllehøj อยู่ที่ความสูง 170.86 เมตร เนินเขาอื่นๆในบริเวณ Århus ตะวันตกเฉียงใต้ คือ Yding Skovhøj ที่ 170.77 เมตร และ Ejer Bavnehøj ที่ 170.35 เมตร ขนาดผืนน้ำบนผืนดินคือ 210 ตารางกิโลเมตร ในเดนมาร์กตะวันออก และ 490 ตารางกิโลเมตร ในเดนมาร์กตะวันตก
ช่องแคบออร์ซึนด์ (Oresund) ทางตะวันออกของประเทศ เป็นช่องแคบระหว่างเกาะ Zealand และประเทศสวีเดน เดนมาร์กมีอำนาจมากในการควบคุมทางผ่านช่องแคบนี้ สามารถเรียกเก็บภาษีจากผู้ผ่านเข้าออกได้
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของเดนมาร์กเริ่มตั้งแต่ที่ชนชาติเดนส์ (Denes) อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจากสวีเดน ในปลายศตวรรษที่ 9 หัวหน้านักรบไวกิ้งชื่อว่า Hadregon รบจนได้ชัยชนะเหนือคาบสมุทรจัตแลนด์ จากนั้นราชวงศ์ของเดนมาร์กได้เริ่มต้นขึ้นในต้นศตวรรษที่ 10 โดย บุตรชายของ Hadregon ขึ้นครองราชย์มีนามว่า กอร์ม เดอะ โอลด์
ในยุคต่อมา คือยุคของบุตรชายของ กอร์ม เดอะ โอลด์ ซึ่งมีชื่อว่า ฮาราลด์ บลูทูธ รบได้ชัยชนะขยายเขตแดนจนครอบคลุมพื้นที่เดนมาร์กในปัจจุบัน และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศในแถบทะเลบอลติก ตลอดจนอังกฤษ และในยุคนี้เองที่เดนมาร์กเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์
ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของเดนมาร์กได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1528 และได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ. 2392 ซึ่งเป็นปีที่รัฐธรรมนูญ ฉบับแรกได้ถูกร่างขึ้น ราชอาณาจักรเดนมาร์ก เคยครอบคลุมถึงสวีเดนและนอร์เวย์ จนกระทั่งสวีเดนแยกตัวออกไป เมื่อปี พ.ศ. 2066 และเดนมาร์กสูญเสียนอร์เวย์ให้แก่สวีเดน ภายใต้สนธิสัญญา Kiel เมื่อปี พ.ศ. 2357
ภายหลังสงครามนโปเลียนยุติลง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี พ.ศ. 2457 – 2461 เดนมาร์กได้ดำเนินนโยบายเป็นกลาง และเมื่อปี พ.ศ. 2482 ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 เดนมาร์ก ได้ประกาศความเป็นกลาง อย่างไรก็ดี เดนมาร์กถูกกองทัพเยอรมัน เข้ายึดครอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2483 ซี่งนำไปสู่การรวมตัว ของขบวนการต่อต้าน ของประชาชนชาวเดนมาร์ก โดยตลอดช่วงสงคราม ฝ่ายเยอรมันได้ตอบโต้ ด้วยการเข้าปกครองเดนมาร์กโดยตรง จนกระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 เดนมาร์ก ถูกปลดปล่อย โดยกองกำลังพันธมิตร และภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เดนมาร์กได้รับรอง ความเป็นเอกราชของไอซ์แลนด์ ซึ่งได้ประกาศตัวเป็นเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2487
และต่อมาเดนมาร์ก ได้ให้สิทธิในการปกครองตนเอง แก่หมู่เกาะแฟโร และเกาะกรีนแลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2491 และปี พ.ศ. 2522 ตามลำดับ จากนั้นในปี พ.ศ. 2496 รัฐธรรมนูญเดนมาร์ก ได้รับการแก้ไข ซึ่งส่งผลให้ มีบทบัญญัติใหม่ ที่สำคัญ ๆ ในเรื่องต่าง ๆ อันได้แก่ ให้รัชทายาทสตรี มีสิทธิขึ้นครองราชสมบัติ กำหนดให้รัฐสภา มีเพียงสภาเดียว และให้ประชาชนชาวเดนมาร์ก ชายและหญิง ที่มีอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้
ปัจจุบัน เดนมาร์กเป็นราชอาณาจักร โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญ คือ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2515 และทรงเป็นประมุขแห่งเดนมาร์ก ลำดับที่ 52
การเมืองการปกครอง
เดนมาร์กมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ สมเด็จพระบรมราชินีนาถมาเกรเธที่ 2 ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถและเป็นพระประมุขของราชอาณาจักรเดนมาร์ก และมีว่าที่องค์รัชทายาทคือ เจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ว่าที่สมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ต่อไปของเดนมาร์ก
รัฐสภาเดนมาร์ก (The Folketing) เป็นระบบรัฐสภาเดียว มีสมาชิกสภาจำนวน 179 คน มาจากการเลือกตั้ง (รวมผู้แทนจากหมู่เกาะแฟโร 2 คน และกรีนแลนด์ 2 คน) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ และนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภา
ระบบการเมืองของเดนมาร์กเป็นการเมืองแบบหลายพรรคการเมือง ที่แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับเลือกเป็นตัวแทนเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กมักจะต้องบริหารงานได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนน้อยในสภาอย่างน้อยหนึ่งพรรคเสมอ จึงหมายความว่าการเมืองของเดนมาร์กนั้นเป็นการเมืองแบบใช้พรรคร่วมนั่นเอง ตั้งแต่ พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) เป็นต้นมา ไม่มีพรรคการเมืองของเดนมาร์กพรรคใดที่สามารถครอบครองเสียงข้างมากในสภาเพียงพรรคเดียวได้เลย
การแบ่งเขตการปกครอง
การแบ่งเขตการปกครองแบบเก่าของเดนมาร์ก มีทั้งหมด 13 มณฑล (270 เทศบาลนคร) และอีก 3 เทศบาลนครที่ไม่ขึ้นกับมลฑลใด พ.ศ. 2513 - พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 1970 - ค.ศ. 2006) ก่อนการปฏิรูปเขตการปกครอง พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007)
- โคเปนเฮเกน (อังกฤษ:Copenhagen เดนมาร์ก:København, เทศบาลนครที่ไม่ขึ้นกับมฑลใด)
- เฟรดเดอริกสเบิร์ก (Frederiksberg) (เทศบาลนครที่ไม่ขึ้นกับมฑลใด)
- โคเปนเฮเกน เค้าท์ตี้ (Copenhagen County) หรือ (Københavns Amt)
- เฟรดเดอริกส์บอร์ก (Frederiksborg)
- Roskilde
- เวสซีแลนด์ (West Zealand) หรือ (Vestsjælland)
- สตอร์สตอร์ม (Storstrøm)
- ฟูเนน (Funen) หรือ (Fyn)
- South Jutland (Sønderjylland)
- ไรบ์ (Ribe)
- เวจเล (Vejle)
- Ringkjøbing
- ไวบอร์ก (Viborg)
- นอร์ทจัทแลนด์ (North Jutland) (Nordjylland)
- เมืองออร์ฮูส Aarhus (Århus)
- บอร์นฮอล์ม (Bornholm) (เทศบาลนครที่ไม่ขึ้นกับมณฑลใด)
กองทัพ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กองทัพบก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กองทัพอากาศ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กองทัพเรือ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กองกำลังกึ่งทหาร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชากรศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2550 เดนมาร์กมีประชากรราว 5.4 ล้านคน ส่วนใหญ่มีเชื้อสายเดนมาร์ก ร่วมกับชาวพื้นเมืองของกรีนแลนด์และแฟโร ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาทางการของประเทศ โดยใช้ร่วมกับภาษากรีนแลนด์และภาษาแฟโรในกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรตามลำดับ ภาษาเยอรมันเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยที่ได้รับความคุ้มครอง ใช้ในพื้นที่ติดชายแดน ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่สำคัญ ร้อยละ 83 ของประชากรเป็นสมาชิกของคริสตจักรเอวาเจลิคัลลูเธอรันแห่งเดนมาร์ก ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ
เศรษฐกิจ
เดนมาร์กคือหนึ่งในประเทศที่ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม นอกจากนี้ยังเป็นรัฐสวัสดิการขนาดใหญ่ที่มีสวัสดิการแก่ประชาชนมากมาย อีกทั้งยังติดอันดับประเทศที่มีรายได้เข้าประเทศในอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย ประสิทธิภาพทางการตลาดของเดนมาร์กก็อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้มาตรฐานการอยู่อาศัยของเดนมาร์กก็อยู่สูงกว่ามาตรฐานเฉลี่ยของยุโรป รวมทั้งมีการค้าขายเสรีจำนวนมากภายในประเทศ เดนมาร์กมีตัวเลขของผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อประชากรสูงกว่าประเทศในแถบยุโรปทั่วไป และสูงกว่าสหรัฐอเมริกาประมาณ 15 – 20 เปอร์เซ็น ทั้งนี้ยังเป็นประเทศที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงตามรายงานของการประชุมเศรษฐกิจโลกประจำปี พ.ศ. 2551 (World Economic Forum 2008), ไอเอ็มดี (IMD) และหนังสือพิมพ์ ดิอีโคโนมิสต์ (The Economist) และเดนมาร์กก็ยังเป็นสมาชิกของธนาคารโลก ตลาดแรงงานของเดนมาร์กเป็นตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาได้มากที่สุดในยุโรปตามการจัดลำดับของโออีซีดี (OECD) ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายสวัสดิการของรัฐที่ให้ตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดแรงงานในประเทศสามารถว่าจ้าง ไล่ออก หรืองานใหม่ได้อย่างง่ายดาย ทำให้แรงงานในประเทศไม่ต้องกังวลเรื่องตกงาน และยังเป็นประเทศที่สามรถขายหรือหาซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นผลมาจากลัทธิเสรีนิยมที่เปิดกว้างทางธุรกิจมากมายในยุคทศวรรษที่ 1990 สกุลเงินของเดนมาร์กคือโครเนอเดนมาร์ก ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของเดนมาร์กถือว่ามั่นคงโดยอยู่ราว ๆ 7.45 โครเนอต่อ 1 ยูโร และเมื่อเร็ว ๆ นี้อัตราแลกเปลี่ยนของโครเนอเดนมาร์กกับดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 5.75 โครเนอต่อ 1 ดอลลาร์ สินค้าส่งออกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ส่งออกไปยังประเทศในสหภาพยุโรป ส่วนสินค้าส่งออกที่สำคัญคือ อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์จากนม ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลา เฟอร์นิเจอร์ หนังสัตว์ เครื่องจักร เนื้อสัตว์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และน้ำตาล ส่วนขนาดของเศรษฐกิจของเดนมาร์ก ใหญ่เป็นอันดับที่ 11 จาก 162 ประเทศ ถูกจัดทำขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ เดอะ วอลสตรีท เจอร์นัล
การศึกษา
ระบบการศึกษาของเดนมาร์กเป็นระบบที่จะจัดหาสถานศึกษาให้นักศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือในระดับอุดมศึกษา ซึ่งนักศึกษาไม่จำเป็นต้องหาสถานศึกษาเอง ส่วนเกณฑ์ระยะเวลาในการศึกษานั้น เดนมาร์กกำหนดไว้อย่างต่ำ 10 ปี ทั้งนี้รวมถึงโรงเรียนเอกชนหรือการศึกษาที่บ้านด้วย 99% ของนักเรียนมีการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา 86% มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา 46% มุ่งไปยังการศึกษาในระดับที่สูงกว่า ซึ่งวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทุกแห่งในเดนมาร์กล้วนไม่มีค่าใช้จ่าย เดนมาร์กมีโอกาสทางการศึกษามากมายรวมทั้งมีการศึกษาหลายช่องทางให้ศึกษาซึ่งรวมถึงโรงเรียนเตรียมเข้าอุดมศึกษา (โรงเรียนสอนในระดับที่สูงกว่าระดับมัธยมศึกษาแต่ต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา) ในเดนมาร์กมีมหาวิทยาลัยมากมาย แห่งที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดคือ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1479
การคมนาคม
ทางด้านการคมนาคมของเดนมาร์กที่โดดเด่นที่สุดก็คือ สะพานโอเรซอนด์ ที่เชื่อมทางหลวงยุโรปสายอี 20 ระหว่างโคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก ไปยัง มาลโม, สวีเดน โดยเป็นสะพาน – อุโมงค์ มีทั้งทางสำหรับรถยนต์และทางรถไฟ และระบบสะพานเกรตเบลต์ที่เชื่อมระหว่างเกาะซีแลนด์และเกาะฟูเนน ทางทะเลก็มีท่าเรือโคเปเฮนเกน มาลโม ซึ่งก่อนการสร้างสะพานโอเรซอนด์ ท่าเรือแห่งนี้ใช้เป็นเส้นทางหลักในการไปมาระหว่างสวีเดนและเดนมาร์ก ซึ่งปัจจุบันนี้ท่าเรือข้ามฝากระหว่างสองเมืองนี้ได้ลดความสำคัญลงไปแล้วเป็นผลมาจากการสร้างสะพานโอเรซอนด์นั่นเอง ส่วนการคมนาคมทางรางของเดนมาร์กดำเนินการโดยการรถไฟแห่งเดนมาร์ก (Danish State Railways) สำหรับขบวนรถไฟโดยสาร ส่วนการเดินรถไฟบรรทุกสินค้าดำเนินการโดยบริษัทแรลลิออน (Railion) การควบคุมการจราจรทางรถไฟทั้งระบบควบคุมโดย บานด์ แดนมาร์ก นอกจากนี้ในกรุงโคเปนเฮเกนเองก็มีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินขนาดเล็กให้บริการและยังมีบริการรถไฟชานเมืองด้วย สายการบินแห่งชาติของเดนมาร์กคือ สายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ซิสเต็ม ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติร่วมกันของสามประเทศคือ นอร์เวย์, สวีเดน และเดนมาร์ก สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศคือสนามบินโคเปนเฮเกน และยังเป็นสนามบินหลักที่ใหญ่ที่สุดของสายการบินแห่งชาติ ทางทะเลมีบริการเรือเฟอร์รี่ระหว่างเกาะแฟโรกับกรุงโคเปนเฮเกนและประเทศเพื่อบ้านเช่น สวีเดน, นอร์เวย์ และเยอรมนี เป็นต้น ส่วนรถยนต์ของเดนมาร์กจากที่มีรถจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) อยู่ทั้งหมด 1,389,547 คัน เพิ่มขึ้นมาเป็น 2,020,013 คัน ใน พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) แต่แม้กระนั้นภาษีของการจดทะเบียนรถยนต์ก็ยังคงสูงลิ่วอยู่เช่นเดิมที่ประมาณ 180% และมาตรฐานรถยนต์ของเดนมาร์กได้รับการยอมรับว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงด้วย
วัฒนธรรม
ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เป็นที่รู้จักทั่วไปนะฐานะนักแต่งนิทานอันโด่งดังของเดนมาร์ก จากนิทานหลาย ๆ เรื่องของเขา เช่น พระราชากับชุดล่องหน (The Emperor’s New Clothes), เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) และ ลูกเป็ดขี้เหร่ (The Ugly Duckling) ฯลฯ จากนี้ยังมี นักเขียนรางวัลโนเบล คาเรน บลิกเซน, เฮนริก พอนทอปพิแดน นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล นีลส์ บอร์ นักวาดการ์ตูนล้อเลียน วิกเตอร์ บอร์จ และนักปรัชญา ซอร์เรน เคียร์เกการ์ด ทั้งหมดล้วนสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองและประเทศเดนมาร์กในระดับต่างประเทศทั้งสิ้น ในกรุงโคเปนเฮเกนล้วนมีสถานที่ที่สวยงามและน่าสนใจมากมายเช่น สวนทิโวลี พระราชวังอาเมเลียนเบิร์ก (ที่พำนักของพระราชวงศ์เดนมาร์ก) พระราชวังคริสเตียนเบิร์ก มหาวิหารโคเปนเฮเกน ปราสาทโรเซนเบิร์ก โรงละครโอเปร่า โบสถ์เฟดเดอร์ริก พิพิธภัณฑ์โทรวาร์ลด์เซน และรูปแกะสลักนางเงือก ฯลฯ ส่วนนครที่ใหญ่อันดับสองของประเทศคือ เมืองอาร์เธอร์ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยไวกิง และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศด้วย ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคยุโรปเหนือ เดนมาร์กยังเป็นประเทศผู้นำทางด้านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหมือนกับประเทศในแถบสแกนดิเนเวียอื่น ๆ เช่นการออกกฎหมายให้สื่อลามกเป็นสิ่งถูกกฎหมายหรือการออกกฎหมายให้ผู้รักร่วมเพศสามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วรรณกรรม
วรรณกรรมของเดนมาร์กที่เป็นที่รู้จักในระยะแรกคือ วรรณกรรมประเภทปริศนาและวรรณกรรมพื้นบ้านจากยุคคริสต์ศตวรรษที่ 10 – 11 ส่วนแซกโซ แกรมาทิซัส เป็นผู้ที่ซึ่งได้รับการเคารพนับถือในฐานะนักประพันธ์คนแรกของเดนมาร์ก เขาทำงานให้กับบิชอบที่แอบซาลอนตามบันทึกประติศาสตร์ของเดนมาร์ก ซึ่งน้อยมากที่จะมีผู้รู้จักนักประพันธ์คนอื่นจากยุคกลางซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังมีละครตลกที่นิยมกันจากช่วงยุคเรืองปัญญาของ ลุดวิก ฮอลเบิร์ก และยังมีนักเขียนและนักประพันธ์ที่สำคัญของโลกจากเดนมาร์ก เช่น ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน จากนิทานของเขาและยังมี ซอร์เรน เคียร์เกการ์ด ผู้ที่ยึดถือในหลักอัตถิภาวนิยม ซึ่งผลงานการประพันธ์ของเขาหลายละชิ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้ส่งผลกระเทือนไปยังสังคมของเดนมาร์ก และยังมีนักเขียนชื่อดังอีกมากมายเช่น จอร์จ บลันด์ และเฮนริก พอนทอปพิแดน เป็นต้น ทั้งคู่ล้วนได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรมด้วยกันทั้งคู่
ภาษา
ชาวเดนมาร์กส่วนใหญ่ใช้ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาแม่ ซึ่งเป็นภาษาในกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกเหนือ (หรือภาษาสแกนดิเนเวีย) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มภาษาเจอร์แมนิก สาขาของภาษาตระกูลอินโด-ยูโรเปียน ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาทางการภาษาเดียวของเดนมาร์ก และเป็นภาษาทางการหนึ่งในสองภาษาของเกาะกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโร ซึ่งมีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก นอกจากนี้ภาษาเดนมาร์กยังพูดกันในหมู่ชนกลุ่มน้อยทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี และในประเทศไอซ์แลนด์ ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาต่างประเทศภาษาที่สอง (รองจากภาษาอังกฤษ) ที่มีการเรียนการสอนกันในสถาบันการศึกษาแพร่หลายที่สุด
ดนตรี
เดนมาร์กเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมมาช้านาน รวมถึงดนตรีด้วยเช่นกัน โดยที่โดดเด่นที่สุดอยู่ที่กรุงโคเปนเฮเกน ซึ่งเดนมาร์กเองมีความหลายหลายทางด้านดนตรี วัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างออกไปในแต่ละแห่ง ซึ่งเกาะโพ้นทะเลของเดนมาร์กเองก็มีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่หลากหลายเช่นกัน ซึ่งวงดุริยางค์ออร์เคสตร้าหลวงของเดนมาร์กเป็นวงออร์เคสตร้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คาร์ล นีลเซน และนักดนตรีซิมโฟนี่ออร์เคสตร้าอีก 6 คน เป็นวงดนตรีแรกที่สร้างชื่อเสียงทางด้านดนตรีในระดับต่างประเทศให้กับประเทศจากการประพันธ์เพลงของคาร์ล และในขณะที่อุตสาหกรรมการบันทึกเสียงแผ่ขยายออกไปทั่วโลก วงการเพลงในเดนมาร์กก็ปั้นนักดนตรีป็อปสตาร์มากมายและปั้นนักดนตรีจากหลากหลายแขนงด้วยเช่นกัน แต่น้อยคนนักที่จะโด่งดังไปในระดับนานาชาติได้เท่ากับ ลาร์ อูลริช พร้อมด้วย วิกฟิลด์กับวงดนตรีป็อปยุคทศวรรษที่ 90 วงอควาที่โด่งดังไปทั่วโลก
กีฬา
กีฬาที่ได้รับความนิยมในเดนมาร์กได้แก่ ฟุตบอลและล่องเรือ หรือกีฬาทางน้ำอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ส่วนกีฬาในร่มก็ได้แก่ แบดมินตัน แฮนดีบอล กอล์ฟในร่ม และยิมนาสติก นอกจากนี้ในเดนมาร์กยังมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬาที่ใช้ความเร็วซึ่งก็ประสมความสำเร็จในหลายรายการแข่งขัน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือจากการแข่งขัน 24 ชั่วโมง รายการ 24 Hours of Le Mans ในฝรั่งเศส ที่ซึ่ง ทอมคริสเตนเซน ชนะเลิศการในแข่งขัน 8 สมัย ส่วนนักกีฬาที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น คาโรไลน์ วอซเนียคกี นักเทนนิสดาวรุ่ง, ไมเคิล รัสมุสเซน นักปั่นจักรยาน, ไมเคิล และ ไบรอัน เลาดรู๊ป, ปีเตอร์ ชไมเคิล, และยังเป็นประเทศบ้านเกิดของอดีตนักชกแชมป์ WBA & WBC รุ่นซุเปอร์มิดเดิลเวดท์ มิกเกล เคสส์เลอร์ รวมถึง นักกอล์ฟยูโรเปียนทัวร์ ทอมัส บจ์อน ที่ชนะหลายรายการแข่งขันในเวทีโลก
อาหาร
วัฒนธรรมอาหารของเดนมาร์กส่วนมากคล้ายคลึงกับกลุ่มประเทศนอร์ดิกอื่น ๆ ซึ่งบางส่วนรับวัฒนธรรมการกินมาจากเพื่อนบ้านอย่างเยอรมนี โดยส่วนมากประกอบขึ้นจากปลา เนื้อ อาหารจากนม เป็นต้น ซึ่งบางครั้งจะรวมเบียร์เข้าไปในบางมื้อเช่น มื้อเย็นด้วย มักรับประทานอาหารมีประโยชน์
อ้างอิง
- "Denmark". World Bank.
- Denmark proclaims new peak The Copenhagen Post Denmark เรียกข้อมูลวันที่ 31-08-2550 (อังกฤษ)
- The Folketing กระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก เรียกข้อมูลวันที่ 29-08-2550 (อังกฤษ)
- Counties of Denmark 1970 - 2006 World Statesmen Organization เรียกข้อมูลวันที่ 30-08-2550 (อังกฤษ)
- ↑ เวิลด์แฟกต์บุ๊ก เรียกข้อมูลวันที่ 13-06-2550 (อังกฤษ)
- Kirkestatistik for 2005 คริสตจักรเอวาเจลิคัลลูเธอรันแห่งเดนมาร์ก เรียกข้อมูลวันที่ 13-06-2550 (เดนมาร์ก)
- [1]Human Development Report 2007/2008
- [2]List of countries by Human Development Index
- "In the Media". Investindk.com. สืบค้นเมื่อ 2009-05-05.
ดูเพิ่ม
- ราชอาณาจักรเดนมาร์ก
- สหราชอาณาจักรเดนมาร์ก-นอร์เวย์
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลประเทศเดนมาร์ก จากกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย
- ข้อมูลประเทศเดนมาร์ก จากเดอะเวิลด์แฟกต์บุก ซีไอเอ (อังกฤษ)
- ข้อมูลประเทศเดนมาร์ก จากสารานุกรมบริทานิกา (อังกฤษ)
- เว็บท่าอย่างเป็นทางกาารของเดนมาร์ก (อังกฤษ)