เหตุแฟนบอลสโมสรฟุตบอลนครปฐมทำร้ายผู้ตัดสิน พ.ศ. 2553
เหตุแฟนบอลสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมทำร้ายผู้ตัดสิน พ.ศ. 2553 เป็นเหตุการณ์ที่แฟนบอลสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมทำร้ายผู้ตัดสิน ในการแข่งขันฟุตบอลในนัดที่รับการมาเยือนของสโมสรฟุตบอลจังหวัดศรีสะเกษระหว่างการแข่งขันเพลย์ออฟขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก ผลปรากฏว่าเสมอกัน 0-0 ประตู เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ทางสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมถูกลงโทษปรับ 160,000 บาท และห้ามเข้าร่วมการแข่งขันของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปี
เบื้องหลัง
ทั้งสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมและสโมสรฟุตบอลจังหวัดศรีสะเกษอยู่ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลรอบเพลย์ออฟขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก กลุ่ม เอ โดยทีมนครปฐม แข่งแล้ว 3 นัด มี 6 แต้ม และศรีสะเกษ แข่ง 2 นัด มี 4 แต้ม ผลจากการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ หากทีมใดเป็นผู้นำของกลุ่มก็จะได้สิทธิ์แข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีมติให้เพิ่มจำนวนทีมในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกจาก 16 ทีม เป็น 18 ทีม จึงมีการจัดการแข่งขันเพื่อหาอีก 2 ทีม โดยทีมแรกที่ได้รับสิทธิ์คือ สโมสรฟุตบอลทหารบก
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรนครปฐม ประกาศอัดฉีด 1 ล้านบาท
การแข่งขัน
การแข่งขันนัดดังกล่าว จัดขึ้นที่สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 โดยสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครปฐมรับการมาเยือนของสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ มีผู้เข้าชมการแข่งขันจำนวนหลายพันคน
นัดดังกล่าวเป็นนัดที่มีการให้ถึง 3 ใบแดง ได้แก่ เอ็นจี้ ดีวาย จากทีมศรีสะเกษ โดนใบเหลืองที่สองในนาทีที่ 55, เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ โดนใบเหลืองที่สองในนาทีที่ 58, และธนสิทธิ์ ทองอินทร์ โดนใบเหลืองที่สองในนาทีที่ 80 สุดท้ายผลเสมอกัน 0-0 ประตู
ตารางคะแนน นครปฐมแข่ง 4 นัด มี 7 คะแนนจำเป็นจ่าฝูง ส่วนศรีสะเกษแข่ง 3 นัด มี 5 คะแนน โดยจะแข่งกับแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งทางศรีสะเกษสามารถเอาชนะแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ดไป 2-1 ประตู เลื่อนชั้นเข้าไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก 2554 ต่อไป
เหตุความวุ่นวาย
หลังจบการแข่งขัน กองเชียร์นครปฐมนับร้อยคนได้เข้าไปรุมทำร้าย อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสิน รวมทั้งผู้ช่วยผู้ตัดสินและผู้ประเมินการแข่งขัน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นสารวัตรทหาร 10 นาย และตำรวจอีก 10 นายเท่านั้น เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้ตัดสินหนีออกจากสนามทางฝั่งกองเชียร์ทีมศรีสะเกษ ผู้ตัดสินรายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บตาขวาแตก ตาซ้ายบวม ใบหน้าช้ำ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ให้เย็บประมาณ 10 เข็ม แฟนบอลและเจ้าหน้าที่ทีมนครปฐมที่ไม่พอใจผลการตัดสินได้ไล่ทำร้ายร่างกายผู้ตัดสินและผู้เล่นทีมศรีสะเกษ ตลอดจนเข้าไปตะลุมบอนกับกองเชียร์ศรีสะเกษนานถึง 20 นาที ทำให้แฟนบอลทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บรวมกว่า 50 คน กองเชียร์ศรีสะเกษติดค้างอยู่ในสนามกีฬากว่าชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีชายคนหนึ่งชักปืนออกมากลางสนามอีกด้วย
ด้านผู้ตัดสินได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรกำแพงแสน โดยอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "หนนี้ถือว่ารอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะคิดว่าตายแน่ ต้องขอบคุณกองเชียร์ศรีสะเกษที่เข้ามาช่วยไว้" ยืนยันว่าตนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว
ปฏิกิริยา
กระบวนการยุติธรรม
วันที่ 26 ธันวาคม สาธิต ปิตุเตชะ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำลายความนิยมในวงการฟุตบอล และแสดงความคิดเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พบเห็นเหตุการณ์จะต้องดำเนินคดีอาญากับผู้ที่ทำความผิดโดยไม่ต้องรอแจ้งความ ส่วนประเด็นที่ว่ากรรมการตัดสินด้วยความยุติธรรมหรือไม่ให้สมาคมฟุตบอลจัดการ
“ | ผมหวังว่าจะเห็นพนักงานสอบสวน จะได้ชื่อผู้ทำกระทำความผิดทั้งหมด พร้อมกับต้องแจ้งความดำเนินคดีด้วย และหากต้องการให้มีการกล่าวโทษก่อน ผมก็จะขอกล่าวโทษในตอนนี้เลยเกี่ยวกับผู้กระทำความผิด และผมตนจะเดินทางไปตรวจสอบในสถานีตำรวจที่รับผิดชอบสนามกีฬามหาวิทยาเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่แข่งขันด้วย | ” |
ส่วนในกรณีที่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไปตบกรรมการผู้ตัดสิน สาธิตให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบความจริงกันต่อไป
วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553 พันจ่าเอกนพพร ศิริรังษี ผู้ที่ถือปืนในสนามระหว่างเกิดเหตุ ได้เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรกำแพงแสนแล้ว โดยไชยา สะสมทรัพย์ยอมรับว่ารู้จักกับชายคนดังกล่าว แต่ที่ชักปืนออกมาเป็นเพราะต้องการระงับเหตุการณ์เท่านั้น ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสนเปิดเผยว่า เตรียมออกหมายเรียกอีก 5 คนจากหลักฐานภาพถ่าย พร้อมกันนั้น ได้ตั้งทีมสอบสวนขึ้น 4 ชุด ติดตามจับกุมแฟนบอลที่มีส่วนในเหตุการณ์ และรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ด้านรองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสน ระบุว่าทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว 4 คน ได้แก่ จิ๊บ, "เอก" พีระ วิจิตร, เปิ้ล สมอร์รูม และ "จุ๋ม" ภาคิน"
ต่อมา ได้มีแฟนบอลนครปฐมที่มีส่วนในเหตุการณ์จำนวน 6 คนเข้าให้ปากคำกับทางตำรวจ ประกอบด้วย ฐานุพงษ์ รังสิไตรพงษ์, ชัยศิริ สกลพันธุ์, กิตติศักดิ์ ศรีมนทก, ยุมมาคาร คเกเคล, นิคม ทองหอม และวิศาล ลักษณ์ในธรรม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยยังไม่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ และพร้อมให้การในชั้นศาล ซึ่งทั้งหกคนให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายกรรมการอย่างที่ถูกกล่าหา โดยถูกตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้เข้ามาพบตำรวจแล้ว 7 ราย คงเหลือผู้ที่ถูกออกหมายเรียกอีก 3 ราย
ส่วนทางฝ่ายผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไปแล้ว 8 ราย ได้แก่ ผู้ตัดสินทั้งห้าคน ประกอบด้วย อภิสิทธิ์ อันรักษ์, สุเมธ สายแวว, พรไพรัช โพยกระโทก, สุรพล สว่างจิตต์ และโสภณ มหาบุญ และกองเชียร์อีกสามคน ประกอบด้วย อภิรักษ์ โนนทอง, นันทพนธ์ ศริเตชะวรากูล และสมศักดิ์ ศรีสะอาด
การลงโทษสโมสรนครปฐม
วันที่ 28 ธันวาคม วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริหารไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวถึงการพิจารณาบทลงโทษทีมนครปฐมว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามารยาทและวินัย โดยจะมีการประชุมสรุปหลักฐาน วิชิตได้เปิดเผยถึงข้อสรุปที่จะเสนอแก่คณะกรรมการ โดยพบว่ามีการทำผิดหลายกรณี ได้แก่ นักฟุตบอลใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมกับผู้ตัดสิน และทำร้ายผู้ตัดสิน บทลงโทษเบื้องต้นคือ ปรับเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายผู้ตัดสิน 100,000 บาท และกองเชียร์ที่ก่อเหตุอีก 50,000 บาท
“ | นอกจากนี้ ในส่วนบทลงโทษขั้นรุนแรงนั้น เราได้ข้อสรุปที่จะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ของ พล.ต.อ.วรพงษ์ ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 15.00 น.ได้แก่ การงดใช้สนามเหย้า ไม่น้อยกว่า 10 นัด หรือจะให้ถอนทีมจากการแข่งขัน หรือ นครปฐมจะถูกลดชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 หรืออีกกรณีคือ การพักสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันดิวิชั่น 1 เป็นเวลา 1 ปี | ” |
วิชิตระบุว่าบทลงโทษสูงสุด คือ การถอนสมาชิกภาพของสโมสร ซึ่งได้ส่งเป็นข้อเสนอให้สภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้พิจารณา พร้อมยืนยันว่าในฤดูกาลหน้า จะมีการแก้ไขระเบียบบทลงโทษให้รุนแรงยิ่งขึ้น โดยจะมีการเขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนำเสนอต่อสาธารณชนในช่วงงานฟุตบอล เอ็กซ์โป ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 มกราคมปีหน้า ในภายหลังมีกลุ่มแฟนบอลศรีสะเกษมายื่นหนังสือและซีดีบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าว
วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553 คณะพิจารณามารยาทและข้อประท้วง ที่มีพลตำรวจโทวรพงษ์ ชิวปรีชาเป็นประธาน ได้มีมติลงโทษสโมสรนครปฐม ตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดขึ้นทุกรายการเป็นเวลา 2 ปี ปรับรวมเป็นเงิน 160,000 บาท พร้อมทั้งห้ามธนากร ขำโขมะ กองหลังทีมนครปฐม ลงเล่น 1 นัด จากพฤติกรรมด่าทอผู้ตัดสินอย่างหยาบคาย ด้านพรีเมียร์ลีกพร้อมในกรณีที่ต้องจัดโปรแกรมแข่งขันโดยมี 17 ทีม หากนครปฐมผ่านเข้าเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า และหากพ้นกำหนดโทษแล้ว ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก อาจลงโทษยุบทีมเพราะกระทำความผิดซ้ำซากได้
ไชยา สะสมทรัพย์ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่าจะยุบทีม และหันไปทำทีมฟุตซอลลีกแทน และอาจให้ความสนใจกับฟุตบอล "ลาวลีก" ส่วนทางวิชิต แย้มบุญเรือง ออกมาระบุว่า ทีมที่มีชื่อ "นครปฐม" ในชื่อสโมสร ไม่สามารถส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลได้ เพราะเป็นการแข่งขันที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยรับรอง ผลจากบทลงโทษดังกล่าวทำให้ลีกดิวิชั่น 1 เหลือเพียง 17 ทีม
นอกจากนั้น วิชิต แย้มบุญเรือง ยังได้ออกกฎใหม่เพื่อความปลอดภัย คือ หากเกิดเหตุการณ์ที่แฟนบอลทำร้ายผู้ตัดสินหรือผู้เล่นคนใด จะโดนตัดสิทธิ์ถอนทีมทันที โดยไม่ต้องรอการประชุม
สโมสรนครปฐม
วันที่ 26 ธันวาคม แฟนคลับสโมสรนครปฐมได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแฟนบอลทีมศรีสะเกษผ่านเว็บไซต์ของสโมสร มีใจความว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ขอให้แฟนบอลทีมศรีสะเกษและทุกทีมเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจและอยากกล่าวคำว่า "ขอโทษจากใจ ให้แฟนบอลศรีสะเกษ ทุกท่าน" วันที่ 27 ธันวาคม แฟนสโมสรนครปฐมได้ออกรายการเจาะข่าวเด่นทางช่อง 3 กล่าวขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าผู้ที่ก่อเรื่องเป็นแฟนบอลพลัดถิ่น ไม่ใช่แฟนบอลนครปฐม ส่วนทางด้านไชยา สะสมทรัพย์และการ์ดไม่มีเจตนาอื่นนอกจากต้องการเข้าไปยุติเหตุการณ์เท่านั้น
ด้านไชยา สะสมทรัพย์ ที่เตรียมแถลงข่าวที่บ้านพักในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธันวาคม ได้ตัดสินใจเลื่อนแถลงข่าว โดยส่งตัวแทนออกมาให้เหตุผลว่า ยังทำใจไม่ได้ และยังไม่พร้อมที่จะให้ข่าว ต่อมา ได้มีการแถลงข่าว ยืนยันจะไม่ขอโทษผู้ตัดสินในเหตุการณ์ เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น และผู้ตัดสินรายดังกล่าวตัดสินผิดพลาด อันนำไปสู่เหตุการณ์ โดยยืนยันว่าบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกและสมาคมผู้ตัดสินไม่เคยพัฒนาตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้เคยแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นในนัดที่นครปฐมเยือนศรีสะเกษแก่สมาคมผู้ตัดสินแล้ว ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
“ | ผมเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดินลงไปเพื่อห้ามปราม แต่คนมากเอาไม่อยู่จริงๆ แฟนบอลมากจนทะลักลงมาที่ริมสนาม แปลกใจมากเล่นมาสองเลก และเพลย์ออฟ ไม่เคยมีสารวัตรทหารมาเป็นการส่วนตัว ยังถามว่าต้องจ่ายเงินหรือไม่ กรรมการบอกไม่ต้องจ่าย จ่ายมาแล้วเป็นการส่วนตัว หมายความว่าอย่างไร มีการวางแผนกันจะมาให้ผมขอโทษ ชาติหน้าบ่ายๆ เถอะ ผมไม่ขอโทษเด็ดขาด ทำไมผมต้องขอโทษ เราทำหนังสือไปเขายังไม่มีคำตอบมาให้ชัดเจน จะต้องไปขอโทษทำไมไม่มีทาง | ” |
ส่วนเฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ กองหลังทีมนครปฐม ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แสดงความสะใจจากเหตุทำร้ายอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ทั้งนี้ได้ประกาศว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมไม่ผิด และผู้ตัดสินตัดสินไม่เป็นธรรม ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยมีข้อความบางตอนว่า "สะใจสุด ๆ สมควรโดนมานานและ อุตส่าออกสื่อไปนานแล้วนะ ว่านครปฐมมือปืนเยอะ …… ยังไม่ฟังอีก สะจัยสาตตตต" และ "ไม่รู้สึกต่อเหตุการณ์แต่อย่างใด และถ้าหากว่าถูกลงโทษ ก็จะย้ายทีม"
หลังจากที่มีบทลงโทษสโมสรฟุตบอลนครปฐมออกมาแล้ว ทำให้ผู้เล่นทีมนครปฐมหาทีมใหม่ต่อไป โดยธนากร ขำโขมะ ที่ได้รับบทลงโทษไปด้วยนั้น ได้เซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลชัยนาท ร่วมกับภูวดล สุวรรณชาติด้วยแล้ว ส่วนผู้เล่นคนอื่นในทีม หลายคนยังตกงานอยู่ ส่วน วิมล จันทร์คำ โค้ชของทีมนครปฐม กล่าวว่าตนจะหยุดงานโค้ชไปเรียนต่อบี และเอ ไลเซนส์ เพื่อกลับมาทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ต่อมา ใน พ.ศ. 2554 สโมสรฟุตบอลนครปฐมได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์โทษจาก 2 ปี เหลือ 1 ปี ซึ่งจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ทางสโมสรได้ยื่นหนังสือไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นครั้งที่สองแล้ว
ผู้ตัดสิน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประธานคณะกรรมการฝ่ายผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เรียกประชุมคณะกรรมการด่วน โดยเชิญผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และผู้ควบคุมการแข่งขัน มารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสิน ได้ยืนยันว่า ตนได้ทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม หากมีการเอนเอียงหรือรับสินบน ยินดีจะยุติการทำหน้าที่ตลอดชีวิต ซึ่งอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ เป็นผู้ตัดสินฟีฟ่าเบอร์ 2 ของไทย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ตัดสินกว่า 300 คนตามทะเบียนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ตัดสินทุกนัด โดยหากเห็นว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยจะไม่เดินทางไปทำหน้าที่
อื่น ๆ
- สโมสรศรีสะเกษ
- จากข้อครหาว่าทีมศรีสะเกษซื้อตัวผู้ตัดสินฟุตบอลนัดดังกล่าว สมบัติ เกียรติสุรนนท์ ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรศรีสะเกษ ได้ออกมายืนยันและกล้าสาบานว่าไม่มีการซื้อตัวผู้ตัดสินแต่อย่างใด และไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกรณีดังกล่าว แต่ได้แจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสนจากกรณีที่มีแฟนบอลได้รับบาดเจ็บ รถ และอุปกรณ์เชียร์ได้รับความเสียหาย
- พรชัย โควสุรัตน์ อดีตประธานสโมสรฟุตบอลอุบลยูไนเต็ด
- ไม่อยากโทษให้เป็นความผิดของใคร แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จึงไม่ยอมร้องเรียนการกระทำของผู้ตัดสินตามกระบวนการ เรียกร้องให้แฟนบอลไม่ซื้อสินค้าของบริษัทที่ให้การสนับสนุนสมาคม เพื่อให้ทบทวนบทบาทของตนเอง หรือแสดงความรับผิดชอบต่อความตกต่ำของฟุตบอลไทย
อ้างอิง
- ↑ สมาคมฟุตบอลฯลงดาบนครปฐมแบน 2 ปี ปรับกว่า 1.5 แสนบาท[ลิงก์เสีย]. (29 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ นครปฐมเจ๊าศรีสะเกษแฟนบอลไล่ตีกันเละ. คมชัดลึก (26 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-253.
- ↑ แฟนบอลนครปฐม-ศรีสะเกษ ปะทะเดือดเหตุไม่พอใจกรรมการ. (26 ธันวาคม 2553). สืบค้นเมื่อ 30-12-2553.
- ↑ ฉาวอีกแล้ว! แฟนบอลนครปฐมรุมตื้บผู้ตัดสินคาสนาม. (26 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ศรีสะเกษ เอฟซี ยังคงอยู่รอด ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีก ต่อไป. (1 มกราคม 2554). สืบค้น 1-1-2554.
- ↑ ส่อลงดาบ"นครปฐม"3กระทงหนัก!. (27 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ จี้เอาผิดคนยุแฟนบอลตีกัน. เดลินิวส์. (26 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ นักเตะนครปฐมโพสต์ ผู้ตัดสินสมควรถูกสั่งสอน. (27 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ตร.นครปฐมเร่งล่าแฟนบอลทำร้ายกรรมการ. (26 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ โถๆ แฟนหมูป่า โบ้ยพวกพลัดถิ่นคือคนก่อเรื่อง. (28 ธันวาคม 2553). สืบค้น 31-12-2553.
- ↑ มอบตัวอีก 6 แฟนบอลหมูป่าเขี้ยวตัน - อีก 3 รายที่ถูกออกหมายเรียกเตรียมพบ ตร.พรุ่งนี้. ASTVผู้จัดการ. (28 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ ‘ไชยา’ ไม่ขอโทษ ชี้เชิ๊ตดำเป่าพลาด, 6แฟนหมูป่ามอบตัว. (29 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ลงดาบแฟนบอลนครปฐมบ่ายนี้(28ธ.ค.53). (28 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ ชงลงดาบปลดนครปฐมพ้นสมาชิก แฉซ้ำแฟนกูปรีโดนไล่ยิงนอกสนาม. กรุงเทพธุรกิจ. (29 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ↑ รัฐเร่งภาค7ชี้แจงคดีหมูป่า,วิชิตยันโต๊ะเล็กก็แข่งไม่ได้. (30 ธันวาคม 2553). สืบค้น 31-12-2553.
- ↑ 300 ผู้ตัดสิน ยื่นสมาคมบอลฯ ออกกฎเข้มความปลอดภัย ขู่หยุดทำหน้าที่หากไม่มีมาตรการดูแล. มติชน. (26 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-25553.
- ↑ "ไชยา"ลั่นชาติหน้าบ่ายๆ ขอโทษ จวก"ทีพีแอล-สมาคมผู้ตัดสิน"ไม่เอาไหน ต้นเหตุเกิดจลาจล[ลิงก์เสีย]. มติชน. (29 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- จวกเละ! แข้งนครปฐมโพสต์เฟซบุ๊คด่าเปาสมควรโดนทำร้าย. (27 ธันวาคม). สืบค้น 30-12-2553.
- บิ๊กเปี๊ยกเผยนครปฐมขออุทธรณ์จริง.
- ศรีสะเกษยันไม่ได้ทุ่มเงินซื้อเชิ้ตดำ. (27 ธันวาคม 2553). สืบค้น 30-12-2553.
- ชี้ทำร้ายกรรมการฟุตบอลเหตุคนดูไม่เชื่อมั่นผู้บริหารสมาคมบอลไทย. ASTVผู้จัดการ. (26 ธันวาคม). สืบค้น 30-12-2553.