fbpx
วิกิพีเดีย

อับราฮัม

อับราฮัม(ศัพท์ศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์) หรือ อิบรอฮีม (ศัพท์ศาสนาอิสลาม) (อังกฤษ: Abraham; ฮีบรู: אברהם‎; อาหรับ: إبراهيم‎) เป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มศาสนาอับราฮัม เรื่องราวของท่านถูกบันทึกไว้ในหนังสือปฐมกาล บทที่ 11 ถึง บทที่ 25 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ฮีบรูของศาสนายูดาห์ และคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิมของศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลามก็ถืออับราฮัมเป็นเราะซูลของอัลลอฮ์ด้วย

อับราฮัม
อับราฮัมกำลังส่งอาหารให้กับเทวทูตทั้งสาม ภาพโดยแร็มบรันต์
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
คู่สมรสซาราห์
ฮากัร (อยู่ด้วยกันโดยไม่ได้สมรส)
เคตูราห์
บุตรอิชมาเอล
อิสอัค
ซิมราน
โจคชาน
เมดาน
มีเดียน
อิชบัค
ชูอาฮ์
ญาติเตราห์ (พ่อ)
ฮาราน (พี่/น้องชาย)
นาโฮร์ (พี่/น้องชาย)
ลอต (หลานชาย)
ภรรยาของลอต (หลานสาว)
ชื่อตอนเกิดอับรัม
สถานที่เกิดอูร์ คาสดิม
สถานที่เสียชีวิตฮีบรอน
ที่ฝังศพถ้ำแห่งมัชเปลาฮ์
บริเวณที่ฝังศพ31°31′29″N 35°06′39″E / 31.524744°N 35.110726°E / 31.524744; 35.110726
เป็นที่รู้จักในศาสนาอับราฮัม
ทูตสวรรค์ยับยั้งอับราฮัม ขณะกำลังจะถวายอิสอัคแด่พระยาห์เวห์

อับราฮัม เดิมชื่อ "อับราม" เป็นบุตรของเทราห์ สืบเชื้อสายมาจากเชม บุตรของโนอาห์

ในศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์

การเดินทาง

เทราห์บิดาของอับราฮัมได้นำอับราฮัม นางซาราห์และโลทหลานชายออกเดินทางจากเมืองเออร์ ไปอยู่เมืองฮารานในดินแดนคานาอันภายหลังจากบิดาเสียชีวิต เมื่ออับราฮัมมีอายุได้ 75 ปี ท่านได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าให้ไปยังดินแดนที่พระเจ้าจะนำทาง อับราฮัมจึงออกเดินทางพร้อมด้วยนางซาราห์ และพาโลทไปด้วย

เมื่อเกิดการกันดารอาหาร อับราฮัมจึงได้อพยพเข้าไปในอียิปต์ เนื่องด้วยนางซาราห์เป็นคนสวย อับราฮัมเกรงจะถูกฆ่าเพื่อแย่งนาง อับราฮับจึงบอกคนอียิปต์ว่านางเป็นน้องสาว ด้วยเหตุนี้นางซาราห์จึงถูกนำไปถวายตัวแก่ฟาโรห์ พระเจ้าจึงทรงทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงแก่ฟาโรห์ ฟาโรห์จีงเรียกอับราฮัมมาและได้มอบตัวนางซาราห์และทรัพย์สมบัติให้ อับราฮัมจึงเดินทางออกจากอียิปต์

เมื่อออกจากอียิปต์ อับราฮัมได้แยกทางกับโลท เนื่องจากทั้งสองมีฝูงสัตว์และคนรับใช้จำนวนมาก ฝ่ายโลทเลือกเดินทางไปยังที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ ฝ่ายอับราฮัมก็เลือกไปอีกทางหนึ่ง

พันธสัญญาของพระเจ้า

เมื่ออับราฮัมอาศัยอยู่ในที่พำนักนั้น พระเจ้ามีพระดำรัสกับอับราฮัมว่า "มอง‍ดู​ฟ้า​สิ ถ้า​เจ้า​สามารถ​นับ​ดาว​ทั้ง‍หลาย​ได้ ก็​นับ​ไป เชื้อ‍สาย​ของ​เจ้า​จะ​เป็น​เช่น‍นั้น" และทรงมีคำพยากรณ์ให้อัมราฮัมอีกว่า "เจ้า​จง​รู้​แน่​เถิด​ว่า​เชื้อ‍สาย​ของ​เจ้า​จะ​เป็น​คน​ต่าง‍ด้าว​ใน​ดิน‍แดน​ซึ่ง​ไม่‍ใช่​ที่​ของ​พวก‍เขา และ​พวก‍เขา​จะ​ต้อง​รับ‍ใช้​ชาว‍เมือง​นั้น ชาว‍เมือง​นั้น​จะ​กด‍ขี่​เขา​ถึง​สี่‍ร้อย​ปี"

เมื่ออับราฮัม อายุได้ 99 ปี พระเจ้าทรงปรากฏต่อหน้าอับราฮัมและทรงเปลี่ยนชื่อ จากเดิม อับราม เป็น อับราฮัม และทรงกระทำพันธสัญญาแก่อับราฮัมว่า "นี่​คือ​พันธ‌สัญญา​ของ​เรา​กับ​เจ้า เจ้า​จะ​เป็น​บิดา​ของ​ประ‌ชา‍ชาติ​มาก‍มาย ชื่อ​ของ​เจ้า​จะ​ไม่‍ใช่​อับ‌ราม​อีก‍ต่อ‍ไป เจ้า​จะ​มี​ชื่อ​ใหม่​คือ​อับ‌รา‌ฮัม เพราะ​เรา​ให้​เจ้า​เป็น​บิดา​ของ​ประ‌ชา‍ชาติ​มาก‍มาย เรา​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​มี​พงศ์‍พันธุ์​มาก‍มาย‍ยิ่ง เรา​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​ชน​หลาย​ชาติ และ​กษัตริย์​หลาย​องค์​จะ​เกิด‍มา​จาก​เจ้า เรา​จะ​สถาปนา​พันธ‌สัญญา​ของ​เรา​ไว้​ระหว่าง​เรา​กับ​เจ้า และ​เชื้อ‍สาย​ต่อ‍มา​ของ​เจ้า​ตลอด‍ชั่ว‍ชาติ‍พันธุ์​ของ​เจ้า​ให้​เป็น​พันธ‌สัญญา​นิ‌รันดร์ คือ​เป็น​พระ‍เจ้า​แก่​เจ้า และ​แก่​เชื้อ‍สาย​ต่อ‍มา​ของ​เจ้า เรา​จะ​ให้​ดิน‍แดน​ที่​เจ้า​อาศัย​อยู่​อย่าง​คน‍ต่าง‍ด้าว​นี้ คือ​แผ่น‍ดิน​คา‌นา‌อัน​ทั้ง‍สิ้น​แก่​เจ้า​และ​แก่​เชื้อ‍สาย​ต่อ‍มา​ของ​เจ้า ให้​เป็น​กรรม‍สิทธิ์​นิ‌รันดร์ และ​เรา​จะ​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​พวก‍เขา"

พระเจ้าทรงให้อับราฮัมและครอบครัวของท่านเข้าสุหนัต เพื่อเป็นพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับอับราฮัมและเชื้อสายของท่าน โดยการตัดหนังหุ้มปลายองคชาต และกำหนดให้ผู้ชายทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 8 วันขึ้นไปต้องประกอบพิธีเข้าสุหนัต

บุตรชายของอับราฮัม

เรื่องราวบุตรชายของอับราฮัมที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ที่โดดเด่นมีด้วยกัน 2 คน คืออิชมาเอลหรืออิสมาอีล และอิสอัคหรืออิสฮาก และมีมุมมองต่อบุคคลทั้งสองแตกต่างกัน ระหว่างศาสนาอิสลามกับศาสนาคริสต์

อิชมาเอล (อิสมาอีล)

นางซาราห์ซึ่งเป็นภรรยาของอับราฮัมเป็นหมัน นางจึงยกนางฮาการ์สาวใช้ชาวอียิปต์ให้เป็นภรรยาอับราฮัม นางฮาการ์ก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายชื่ออิชมาเอลหรืออิสมาอีล ตามที่คัมภีร์ไบเบิลระบุไว้ว่าพระเจ้าไม่ได้ให้อิชมาเอลเป็นผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัม แต่ในคัมภีร์อัลกุรอาน ปรากฏความในบทที่ 14 (ซูเราะฮ์ อิบรอฮีม) โองการที่ 35 ว่า " (อับราฮัมได้กล่าวขอบคุณพระเจ้าว่า) บรรดาการสรรเสริญทั้งปวงพึงแด่อัลลอฮ์ ผู้ทรงประทานอิสมาอีลและอิสฮาก ให้เป็นบุตรสืบสกุลในยามชราภาพแก่ข้าพระองค์ (เพื่อสืบทอดภาระกิจและพันธกิจในการเทศนาเตือนสติแก่ลูกหลานอาดัม) แท้จริงองค์พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์เป็นผู้ได้ยินคำดุอาอ์วิงวอนเสมอ"

ในหนังสือปฐมกาลกล่าวว่า เมื่อนางฮาการ์ตั้งครรภ์ก็ดูถูกนายหญิงของตน ภายหลังเมื่อนางซาราห์มีบุตรของตนเอง นางฮาการ์และอิชมาเอลจึงถูกขับไล่ออกจากครอบครัว แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้พงศ์พันธุ์ของอิชมาเอลเป็นพงศ์พันธ์ใหญ่เช่นกัน นักศาสนศาสตร์บางท่านเชื่อว่า อิชมาเอลคือบรรพบุรุษของชาวเปอร์เซีย แต่ในทัศนะของอิสลาม อิชมาเอลเป็นบรรพบุรุษของชาวอาหรับ และเป็นบรรพบุรุษสายตรงของนบีมุฮัมมัด

อิสอัค (อิสฮาก)

อิสอัคเป็นบุตรของอับราฮัมและนางซาราห์ อิสอัคคลอดเมื่ออับราฮัมมีอายุได้ 100 ปี เมื่ออิสอัคโตขึ้น พระเจ้าก็ทรงลองใจอับราฮัม โดยให้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และเมื่ออับราฮัมแสดงความไว้วางใจพระเจ้า พระองค์ก็ให้ทูตสวรรค์มายั้งมืออับราฮัมและมอบลูกแกะให้เชือดเพื่อสักการะพระองค์แทนการเชือดลูกตัวเอง พระองค์ยังให้อิสอัคสืบเชื้อสายต่อจากอับราฮัมอีกด้วย จึงเป็นที่มาของคำที่พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า "เรา​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​บิดา​เจ้า เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​อับ‌รา‌ฮัม พระ‍เจ้า​ของ​อิส‌อัค และ​พระ‍เจ้า​ของ​ยา‌โคบ"

คัมภีร์ไบเบิลบันทึกไว้ว่าอับราฮัมสิ้นใจเมื่อมีอายุได้ 175 ปี เมื่ออับราฮัมเสียชีวิตอิสอัคและอิชมาเอลก็ฝังศพของท่านไว้ในถ้ำมัคเปลาห์

ในศาสนาอิสลาม

อิบรอฮีมเกิดเมื่อประมาณ 1900 ปีก่อนคริสตกาลในเมืองอูร์ ในปัจจุบันเป็นประเทศอิรัก บิดาของท่านชื่ออาซัร สมัยนั้นเป็นนักบวชผู้มั่งคั่งร่ำรวยจากการทำรูปปั้นและเทวรูปขายให้แก่บุคคลทั่วไป ด้วยความที่อิบรอฮีมเป็นเด็กที่มีความฉลาด เขาจึงตั้งข้อสงสัยว่าเทวรูปนั่นคือ "พระเป็นเจ้า" จริง ๆ หรือไม่ ในวันรุ่งขึ้นอิบรอฮีมได้เห็นดวงอาทิตย์ให้ความสว่างแก่ชาวโลก และเห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า อิบรอฮีมจึงรู้ความจริงว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้าที่แท้จริง ผู้สร้างดาวหรือดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวเหล่านี้ต่างหากที่เป็นพระเจ้า

อิบรอฮีมจึงขอเคารพสักการะแต่พระเจ้าที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้น อิบรอฮีมจึงถามบิดาของเขาว่า ทำไมต้องไปเคารพบูชาเทวรูปด้วย ทั้ง ๆ ที่เทวรูปก็ไม่ได้ช่วยอะไรพ่อเลย นอกจากอัลลอฮ์ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

ดังโองการที่พระผู้เป็นเจ้า​ทรงตรัส​แก่นบี มูฮัมมัด​

ซูเราะห์​อัล-บะเกาะเราะฮ์:135 البقرة:135 

وَقَالُواْ كُونُواْ هُودًا أَوْ نَصَارَى تَهْتَدُواْ قُلْ بَلْ مِلَّةَ إِبْرَاهِيمَ حَنِيفًا وَمَا كَانَ مِنَ الْمُشْرِكِينَ

 135. และพวกเขากล่าวว่า พวกท่านจงเป็นยิวเถิด หรือเป็นคริสต์เถิดพวกท่านก็จะได้รับคำแนะนำอันถูกต้อง จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) หาใช่เช่นนั้นไม่ แนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความจริงต่างหาก และเขาไม่เคยเป็นผู้สักการะเจว็ด 

วันต่อมาอิบรอฮีมได้เข้าไปยังสถานที่ตั้งของเทวรูปที่ผู้คนบูชา ยกเว้นเทวรูปองค์ใหญ่ที่สุดที่เขานำขวานไปแขวนไว้ และปล่อยให้ผู้คนกลับมาเห็นผู้คนจึงตะโกนร้องว่าเทวรูปของเราแตกไปหมดแล้วใครทำลาย เมื่ออิบรอฮีมถูกนำตัวมาผู้คนได้ถามว่า อิบรอฮีม เจ้าทำลายเทวรูปที่เราสักการะบูชาใช่หรือไม่ เขาตอบว่า เปล่า เทวรูปองค์ใหญ่นั้นต่างหากที่ทำไม่เชื่อลองถามเทวรูปเหล่านั้นดู ชาวบ้านจึงโกรธแค้นอิบรอฮีมมาก ผู้คนจึงได้จับอิบรอฮีมมัดและนำเขาไปวางไว้บนกองฟืนเมื่อผู้คนเริ่มจุดไฟเผา อัลลอฮ์ก็ได้มีบัญชาว่า "โอ้ไฟ" จงเย็นลงและอย่าทำอันตรายอิบรอฮีม หลังจากนั้นท่านก็ปลอดภัยจากการถูกชาวบ้านเผา

อ้างอิง

  1. หนังสือปฐมกาล บทที่ 11-25, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  2. หนังสือปฐมกาล 11:10-26, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  3. หนังสือปฐมกาล บทที่ 12, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  4. หนังสือปฐมกาล 15:5, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  5. หนังสือปฐมกาล 15:13, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  6. หนังสือปฐมกาล 17:4-8, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  7. หนังสือปฐมกาล 17:10-14, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  8. พระคัมภีร์อัลกุรอาน บทที่ 14 (อิบรอฮีม) โองการที่ 35
  9. หนังสือปฐมกาล บทที่ 16 และ บทที่ 21, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  10. หนังสือปฐมกาล 21:5, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  11. หนังสือปฐมกาล 22:1-19, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  12. หนังสือปฐมกาล 17:19, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
  13. หนังสืออพยพ 3:6, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011

บราฮ, พท, ศาสนาย, ดาห, และศาสนาคร, สต, หร, บรอฮ, พท, ศาสนาอ, สลาม, งกฤษ, abraham, บร, אברהם, อาหร, إبراهيم, เป, นบ, คคลสำค, ญในกล, มศาสนา, เร, องราวของท, านถ, กบ, นท, กไว, ในหน, งส, อปฐมกาล, บทท, บทท, งเป, นส, วนหน, งของค, มภ, บร, ของศาสนาย, ดาห, และค, มภ, ไบเ. xbrahm 1 sphthsasnayudahaelasasnakhrist hrux xibrxhim sphthsasnaxislam xngkvs Abraham hibru אברהם xahrb إبراهيم epnbukhkhlsakhyinklumsasnaxbrahm eruxngrawkhxngthanthukbnthukiwinhnngsuxpthmkal bththi 11 thung bththi 25 sungepnswnhnungkhxngkhmphirhibrukhxngsasnayudah aelakhmphiribebilphakhphnthsyyaedimkhxngsasnakhrist sasnaxislamkthuxxbrahmepneraasulkhxngxllxhdwyxbrahmxbrahmkalngsngxaharihkbethwthutthngsam phaphodyaermbrntkhxmultwlakhrineruxngkhusmrssarahhakr xyudwyknodyimidsmrs ekhturahbutrxichmaexlxisxkhsimranockhchanemdanmiediynxichbkhchuxahyatietrah phx haran phi nxngchay naohr phi nxngchay lxt hlanchay phrryakhxnglxt hlansaw chuxtxnekidxbrmsthanthiekidxur khasdimsthanthiesiychiwithibrxnthifngsphthaaehngmcheplahbriewnthifngsph31 31 29 N 35 06 39 E 31 524744 N 35 110726 E 31 524744 35 110726epnthiruckinsasnaxbrahmthutswrrkhybyngxbrahm khnakalngcathwayxisxkhaedphrayahewh xbrahm edimchux xbram epnbutrkhxngethrah subechuxsaymacakechm butrkhxngonxah 2 enuxha 1 insasnayudahaelasasnakhrist 1 1 karedinthang 1 2 phnthsyyakhxngphraeca 1 3 butrchaykhxngxbrahm 1 3 1 xichmaexl xismaxil 1 3 2 xisxkh xishak 2 insasnaxislam 3 xangxinginsasnayudahaelasasnakhrist aekikhkaredinthang aekikh ethrahbidakhxngxbrahmidnaxbrahm nangsarahaelaolthhlanchayxxkedinthangcakemuxngexxr ipxyuemuxngharanindinaednkhanaxnphayhlngcakbidaesiychiwit emuxxbrahmmixayuid 75 pi thanidrbkarthrngeriykcakphraecaihipyngdinaednthiphraecacanathang xbrahmcungxxkedinthangphrxmdwynangsarah aelaphaolthipdwyemuxekidkarkndarxahar xbrahmcungidxphyphekhaipinxiyipt enuxngdwynangsarahepnkhnswy xbrahmekrngcathukkhaephuxaeyngnang xbrahbcungbxkkhnxiyiptwanangepnnxngsaw dwyehtuninangsarahcungthuknaipthwaytwaekfaorh phraecacungthrngthaihekidphyphibtirayaerngaekfaorh faorhcingeriykxbrahmmaaelaidmxbtwnangsarahaelathrphysmbtiih xbrahmcungedinthangxxkcakxiyipt 3 emuxxxkcakxiyipt xbrahmidaeykthangkbolth enuxngcakthngsxngmifungstwaelakhnrbichcanwnmak fayoltheluxkedinthangipyngthilumaemnacxraedn sungepnthitngkhxngemuxngosodmaelaemuxngokomrah fayxbrahmkeluxkipxikthanghnung phnthsyyakhxngphraeca aekikh emuxxbrahmxasyxyuinthiphanknn phraecamiphradarskbxbrahmwa mxng du fa si tha eca samarth nb daw thng hlay id k nb ip echux say khxng eca ca epn echn nn 4 aelathrngmikhaphyakrnihxmrahmxikwa eca cng ru aen ethid wa echux say khxng eca ca epn khn tang daw in din aedn sung im ich thi khxng phwk ekha aela phwk ekha ca txng rb ich chaw emuxng nn chaw emuxng nn ca kd khi ekha thung si rxy pi 5 emuxxbrahm xayuid 99 pi phraecathrngprakttxhnaxbrahmaelathrngepliynchux cakedim xbram epn xbrahm aelathrngkrathaphnthsyyaaekxbrahmwa ni khux phnth syya khxng era kb eca eca ca epn bida khxng pra cha chati mak may chux khxng eca ca im ich xb ram xik tx ip eca ca mi chux ihm khux xb ra hm ephraa era ih eca epn bida khxng pra cha chati mak may era ca tha ih eca mi phngs phnthu mak may ying era ca tha ih eca epn chn hlay chati aela kstriy hlay xngkh ca ekid ma cak eca era ca sthapna phnth syya khxng era iw rahwang era kb eca aela echux say tx ma khxng eca tlxd chw chati phnthu khxng eca ih epn phnth syya ni rndr khux epn phra eca aek eca aela aek echux say tx ma khxng eca era ca ih din aedn thi eca xasy xyu xyang khn tang daw ni khux aephn din kha na xn thng sin aek eca aela aek echux say tx ma khxng eca ih epn krrm siththi ni rndr aela era ca epn phra eca khxng phwk ekha 6 phraecathrngihxbrahmaelakhrxbkhrwkhxngthanekhasuhnt ephuxepnphnthsyyarahwangphraecakbxbrahmaelaechuxsaykhxngthan odykartdhnnghumplayxngkhchat aelakahndihphuchaythukkhninkhrxbkhrw tngaetedkthimixayu 8 wnkhuniptxngprakxbphithiekhasuhnt 7 butrchaykhxngxbrahm aekikh eruxngrawbutrchaykhxngxbrahmthiklawthunginphrakhmphirthioddednmidwykn 2 khn khuxxichmaexlhruxxismaxil aelaxisxkhhruxxishak aelamimummxngtxbukhkhlthngsxngaetktangkn rahwangsasnaxislamkbsasnakhrist xichmaexl xismaxil aekikh nangsarahsungepnphrryakhxngxbrahmepnhmn nangcungyknanghakarsawichchawxiyiptihepnphrryaxbrahm nanghakarktngkhrrphaelakhlxdbutrchaychuxxichmaexlhruxxismaxil tamthikhmphiribebilrabuiwwaphraecaimidihxichmaexlepnphusubechuxsaykhxngxbrahm aetinkhmphirxlkurxan praktkhwaminbththi 14 sueraah xibrxhim oxngkarthi 35 wa xbrahmidklawkhxbkhunphraecawa brrdakarsrresriythngpwngphungaedxllxh phuthrngprathanxismaxilaelaxishak ihepnbutrsubskulinyamchraphaphaekkhaphraxngkh ephuxsubthxdpharakicaelaphnthkicinkarethsnaetuxnstiaeklukhlanxadm aethcringxngkhphraphuxphibalkhxngkhaphraxngkhepnphuidyinkhaduxaxwingwxnesmx 8 inhnngsuxpthmkalklawwa emuxnanghakartngkhrrphkduthuknayhyingkhxngtn phayhlngemuxnangsarahmibutrkhxngtnexng nanghakaraelaxichmaexlcungthukkhbilxxkcakkhrxbkhrw 9 aetphraecathrngsyyawacaihphngsphnthukhxngxichmaexlepnphngsphnthihyechnkn nksasnsastrbangthanechuxwa xichmaexlkhuxbrrphburuskhxngchawepxresiy aetinthsnakhxngxislam xichmaexlepnbrrphburuskhxngchawxahrb aelaepnbrrphburussaytrngkhxngnbimuhmmd xisxkh xishak aekikh xisxkhepnbutrkhxngxbrahmaelanangsarah xisxkhkhlxdemuxxbrahmmixayuid 100 pi 10 emuxxisxkhotkhun phraecakthrnglxngicxbrahm odyihthwayxisxkhepnekhruxngbucha 11 aelaemuxxbrahmaesdngkhwamiwwangicphraeca phraxngkhkihthutswrrkhmayngmuxxbrahmaelamxblukaekaihechuxdephuxskkaraphraxngkhaethnkarechuxdluktwexng phraxngkhyngihxisxkhsubechuxsaytxcakxbrahmxikdwy 12 cungepnthimakhxngkhathiphraecatrskbomesswa era epn phra eca khxng bida eca epn phra eca khxng xb ra hm phra eca khxng xis xkh aela phra eca khxng ya okhb 13 khmphiribebilbnthukiwwaxbrahmsinicemuxmixayuid 175 pi emuxxbrahmesiychiwitxisxkhaelaxichmaexlkfngsphkhxngthaniwinthamkheplahinsasnaxislam aekikhswnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxkxibrxhimekidemuxpraman 1900 pikxnkhristkalinemuxngxur inpccubnepnpraethsxirk bidakhxngthanchuxxasr smynnepnnkbwchphumngkhngrarwycakkartharuppnaelaethwrupkhayihaekbukhkhlthwip dwykhwamthixibrxhimepnedkthimikhwamchlad ekhacungtngkhxsngsywaethwrupnnkhux phraepneca cring hruxim inwnrungkhunxibrxhimidehndwngxathityihkhwamswangaekchawolk aelaehndwngxathitylbkhxbfa xibrxhimcungrukhwamcringwasingehlaniimichphraecathiaethcring phusrangdawhruxdwngxathity dwngcnthraeladwngdawehlanitanghakthiepnphraecaxibrxhimcungkhxekharphskkaraaetphraecathisrangthuksingthukxyangethann xibrxhimcungthambidakhxngekhawa thaimtxngipekharphbuchaethwrupdwy thng thiethwrupkimidchwyxairphxely nxkcakxllxhphuxphibalaehngsaklolkdngoxngkarthiphraphuepneca thrngtrs aeknbi muhmmd sueraah xl baekaaeraah 135 البقرة 135 و ق ال وا ك ون وا ه ود ا أ و ن ص ار ى ت ه ت د وا ق ل ب ل م ل ة إ ب ر اه يم ح ن يف ا و م ا ك ان م ن ال م ش ر ك ين 135 aelaphwkekhaklawwa phwkthancngepnyiwethid hruxepnkhristethidphwkthankcaidrbkhaaenanaxnthuktxng cngklawethid muhmmd haichechnnnim aenwthangkhxngxibrxhimphuifhakhwamcringtanghak aelaekhaimekhyepnphuskkaraecwd wntxmaxibrxhimidekhaipyngsthanthitngkhxngethwrupthiphukhnbucha ykewnethwrupxngkhihythisudthiekhanakhwanipaekhwniw aelaplxyihphukhnklbmaehnphukhncungtaoknrxngwaethwrupkhxngeraaetkiphmdaelwikhrthalay emuxxibrxhimthuknatwmaphukhnidthamwa xibrxhim ecathalayethwrupthieraskkarabuchaichhruxim ekhatxbwa epla ethwrupxngkhihynntanghakthithaimechuxlxngthamethwrupehlanndu chawbancungokrthaekhnxibrxhimmak phukhncungidcbxibrxhimmdaelanaekhaipwangiwbnkxngfunemuxphukhnerimcudifepha xllxhkidmibychawa oxif cngeynlngaelaxyathaxntrayxibrxhim hlngcaknnthankplxdphycakkarthukchawbanepha swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxangxing aekikh hnngsuxpthmkal bththi 11 25 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 11 10 26 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal bththi 12 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 15 5 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 15 13 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 17 4 8 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 17 10 14 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 phrakhmphirxlkurxan bththi 14 xibrxhim oxngkarthi 35 hnngsuxpthmkal bththi 16 aela bththi 21 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 21 5 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 22 1 19 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxpthmkal 17 19 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011 hnngsuxxphyph 3 6 phrakhristthrrmkhmphir chbbmatrthan 2011ekhathungcak https th wikipedia org w index php title xbrahm amp oldid 9419437, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม