แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง
แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง (อังกฤษ: The Sun Also Rises) เป็นนวนิยายเรื่องเอกเรื่องแรกของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ (21 กรกฎาคม พ.ศ. 2442 - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2504) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม จัดพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2469 มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้อพยพชาวอเมริกันและชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป ในยุค ค.ศ. 1920 ชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ซึ่งตั้งโดยเฮมิงเวย์ตามคำแนะนำของสำนักพิมพ์ นำมาจากพระธรรมปัญญาจารย์ 1:5 ที่มีเนื้อความว่าThe sun also ariseth, and the sun goeth down, and hasteth to his place where he arose. ซึ่งเป็นคัมภีร์ลำดับที่ 25 หรือ 21ของพระคริสตธรรมคัมภีร์ โดยก่อนหน้านี้เฮมิงเวย์ตั้งชื่อให้กับนวนิยายเรื่องนี้ว่า เฟียสตา (อังกฤษ: Fiesta) ซึ่งชื่อดังกล่าวได้นำไปใช้ในการจัดพิมพ์ในฉบับสหราชอาณาจักร และฉบับภาษาเยอรมัน ภาษารัสเซีย ภาษาอิตาลี และภาษาสเปนของนวนิยายเรื่องนี้
แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง | |
---|---|
ผู้ประพันธ์ | เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ |
ประเภท | วรรณกรรม |
สำนักพิมพ์ | ชาร์ลส์ สคริบเนอร์สัน (สหรัฐอเมริกา); โจนาธาน เคป (ในสหราชอาณาจักร โดยใช้ชื่อว่า Fiesta: A Novel) |
วันที่พิมพ์ | มิถุนายน พ.ศ. 2469 (USA) & พ.ศ. 2470 (UK) |
ชนิดสื่อ | จัดพิมพ์ในรูปของปกแข็งและปกอ่อน |
หน้า | 259 หน้ากระดาษ (ฉบับปกแข็ง) |
ISBN | NA ข้อผิดพลาดพารามิเตอร์ใน {{ISBN}}: ISBN ไม่ถูกต้อง |
เรื่องก่อนหน้า | กระแสลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ |
เรื่องถัดไป | เม็นวิทเอาท์วีเมน (รวมเรื่องสั้น) |
เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มกล่าวถึงนักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งมีชื่อว่า "แจ็ค บาร์นส์" ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงปารีสร่วมกับมิตรสหาย ในสมัยกลางยุค 20 และเดินทางไปชมการสู้วัวกระทิงที่สเปน เขาหลงรัก"เบรตต์ แอชลี" ทั้งที่จริงแล้วเธอค่อนข้างเป็นคนเจ้าชู้ รักง่ายหน่ายเร็ว เธอมีคู่หมั้นชื่อ"ไมค์" ทั้งยังมี"โคห์น"อดีตนักมวยชาวยิว และ"โรเมโร"มาธาดอร์ที่ต่างหลงรักเธอ แม้ว่าจะสร้างความเจ็บปวดใจให้ชายหลายคน แต่ก็ดูราวกับว่าทุกคนยังคงหลงในตัวเธออยู่ดี
เบื้องหลัง
ใน เดือนกรกฎาคม ค.ศ.1925 เฮมิงเวย์ได้เดินทางเยี่ยมชมเทศกาล ซานเฟมิน ในแปมป์โลนา ในสเปน ซึ่งเป็นเทศกาลที่สามของเขาเข้าเยี่ยมชม ก่อนที่จะได้แรงดลบันดาลใจในการเขียนเรื่อง "แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง" ในเวลาต่อมา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติการจัดพิมพ์
นวนิยายเรื่อง แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง ได้จัดพิมพ์ขึ้นเป็นโดยสำนักพิมพ์สคริบเนอร์ ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1926 ฉบับจัดพิมพ์ครั้งแรกถูกจัดพิมพ์ขึ้นเป็นจำนวน 5,090 เล่ม ในจัดจำหน่ายในราคาเล่มละ 2 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ในฉบับภาษาบริติชอิงลิชใช้ชื่อเรียกนวนิยายชุดนี้ว่า เฟียสตา
รูปแบบการเขียน
แฮมมิงเวย์ในยามว่างในการเขียนเรื่อง แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง ถือเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเขา โดยรูปแบบการเขียนมีอิทธิพลต่อการเขียนที่ฉีกแนวไปจากเดิม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตอบรับ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- ↑ บทวิเคราะห์ "แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง"
- Donaldson, op cit, p 89
- Oliver, Charles M. (1999). Ernest Hemingway A to Z: The Essential Reference to the Life and Work. New York: Checkmark. ISBN 0-8160-3467-2.
- Baker, Carlos (1972). Hemingway: The Writer as Artist (4th ed.). Princeton University Press. ISBN 0-691-01305-5. Unknown parameter
|note=
ignored (help) - Oliver, Charles M. (1999). Ernest Hemingway A to Z: The Essential Reference to the Life and Work. New York: Checkmark. ISBN 0-8160-3467-2.
- Donaldson, op cit, p 89
- Mellow, James R. (1992). Hemingway: A Life Without Consequences. New York: Houghton Mifflin. ISBN 0-395-37777-3.
- Meyers, Jeffrey (1985). Hemingway: A Biography. London: Macmillan. ISBN 0-333-42126-4.
เชิงอรรถ
- คำแปลพระธรรมปัญญาจารย์ในวิกิซอร์ซ ให้คำแปลของเนื้อความดังกล่าวว่า "ดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงอาทิตย์ตก แล้วรีบไปถึงที่ซึ่งขึ้นมานั้น"
- นับตามลำดับคัมภีร์ในนิกายโรมันคาทอลิก
- นับตามลำดับคัมภีร์ในนิกายโปรเตสแตนต์
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Hemingway Archives, John F. Kennedy Library
- The Sun Also Rises: Bibliography, Washington State University