fbpx
วิกิพีเดีย

การกอบกู้เอกราชของเจ้าตาก

การกอบกู้เอกราชของเจ้าตาก นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นการรวบรวมกองกำลังของเจ้าตาก เพื่อขับไล่กองทัพพม่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในกรุงศรีอยุธยา ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง อันส่งผลให้เกิดสภาพจลาจลโดยทั่วไป ราชอาณาจักรอยุธยาเดิมจึงถูกแบ่งออกเป็นชุมนุมต่าง ๆ เป็นอิสระต่อกัน

ราวปี พ.ศ. 2309 ก่อนเสียกรุง พระยาตากได้นำทหารในบังคับบัญชาตีฝ่าวงล้อมของกองทัพพม่าไปทางด้านทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยา เพื่อรวบรวมผู้คนและยุทธปัจจัยต่าง ๆ มาสู้รบกับกองทัพพม่าอีกครั้ง ในระหว่างนั้นยังได้ตั้งตนเป็นเจ้าเมืองระยอง เมื่อ เจ้าตาก เตรียมกำลังรบจนพร้อมสรรพแล้ว จึงได้เคลื่อนพลกลับไปยังกรุงศรีอยุธยาทางด้านปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อทำการขับไล่ทหารพม่าที่ยังคงเหลืออยู่ออกไปได้สำเร็จ

เบื้องหลัง

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310[I] เวลาประมาณบ่ายสามโมง พม่าจุดไฟสุมรากกำแพงเมืองตรงหัวรอที่ริมป้อมมหาชัย และยิงปืนใหญ่ระดมเข้าไปในพระนคร จากบรรดาค่ายที่รายล้อมทุกค่าย พอเพลาพลบค่ำกำแพงเมืองตรงที่เอาไฟสุมทรุดลง เวลา 2 ทุ่ม แม่ทัพพม่ายิงปืนเป็นสัญญาณให้ทหารเข้าพระนครพร้อมกันทุกด้าน พม่าเอาบันไดปีนพาดเข้ามาได้ตรงที่กำแพงทรุดนั้นก่อน ทหารอยุธยาที่รักษาหน้าที่เหลือกำลังจะต่อสู้ พม่าก็สามารถเข้าพระนครได้ในเวลาค่ำวันนั้นทุกทาง

หลังจากกรุงแตกแล้ว กองทัพพม่าได้พักอยู่ถึงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ก่อนจะรวบรวมเชลยและทรัพย์สมบัติแล้วยกทัพกลับ ในบรรดาเชลยนั้นมีสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรไปด้วย เนเมียวสีหบดีได้แต่งตั้งให้สุกี้เป็นนายทัพ คุมพล 3,000 คน ตั้งค่ายอยู่ที่ค่ายโพธิ์สามต้น คอยกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สินตามกลับไปภายหลัง

หลังจากนั้นทำให้เกิดชุมนุมทางการเมืองในระดับต่าง ๆ ซึ่งเป็น "รัฐบาลธรรมชาติ" ขึ้นมาในท้องถิ่นทันที ส่วนรัฐบาลธรรมชาติซึ่งมีขนาดใหญ่เกิดจากการที่บรรดาเจ้าเมืองขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากนักได้ตั้งตนเป็นใหญ่ในเขตอิทธิพลของตน เรียกว่า "ชุมนุม" หรือ "ก๊ก" ซึ่งมีจำนวน 4-6 แห่งทีเดียว นับเป็นมหันตภัยร้ายแรงเมื่อไม่มีชุมนุมทางการเมืองใดที่จะกอบกู้เอกราชหรือฟื้นฟูชาติให้กลับคืนดังเดิม

นโยบายทางการเมือง

พระยาตากได้ประกาศนโยบายรื้อฟื้นราชอาณาจักรอยุธยา ซึ่งมีความแตกต่างจากชุมนุมอื่น ๆ ที่เป็นเพียงแต่กลุ่มโจรปล้นสะดมเพื่อรักษาความอยู่รอดท่านั้น กิตติศัพท์ดังกล่าวทำให้มีตระกูลขุนนางบางส่วนจากกรุงศรีอยุธยามาสวามิภักดิ์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังอาจมองได้ในอีกแง่หนึ่ง คือ พระยาตากได้ประกาศตนเป็นพระเจ้าแผ่นดินนับตั้งแต่ยกทัพออกจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทำให้กองกำลังของพระยาตากเป็น "กลุ่มการเมืองติดอาวุธ" จึงแตกต่างไปจากชุมนุมอื่น การกระทำเช่นนี้ทำให้ขุนนางระดับผู้น้อยเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อพระยาตากจำนวนหนึ่ง ส่วนขุนนางระดับสูงยังไม่เข้าร่วมด้วย เพราะมองเห็นว่ากลุ่มขอพระยาตากยังไม่น่าประสบความสำเร็จตามนโยบาย

การตั้งตนเป็นใหญ่

เส้นทางเดินทัพของพระยาตาก

 
เส้นทางเดินทัพของพระยาตาก

ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2309 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือนยี่ จุลศักราช 1128 ปีจอ อัฐศก พระยาตากเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาคงต้องเสียทีแก่พม่า จึงตัดสินใจร่วมกับพระยาพิชัย พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา หลวงราชเสน่หา ขุนอภัยภักดี พร้อมด้วยทหารกล้าราว 500 คน มีปืนเพียงกระบอกเดียว แต่ชำนาญด้านอาวุธสั้น ยกกำลังออกจากค่ายวัดพิชัย และตีฝ่าวงล้อมทหารพม่าไปทางทิศตะวันออก มุ่งตรงไปยังบ้านโพธิ์สังหาร

ขณะที่เนื้อความใน คำให้การขุนหลวงหาวัด เอกสารที่ใกล้เคียงกับยุคสมัยมากกว่า ได้ระบุว่ามีราชโองการให้ "พระยาตาก" พระยาเพชรบุรีและหลวงสุรเสนีแต่งทัพเรือไปคอยดักสกัดทัพเรือพม่าที่วัดใหญ่ พระยาเพชรบุรีนำกำลังรุดเข้าตีทหารพม่าก่อนแต่กลับพ่ายแพ้ถูกสังหารในที่รบ "พระยาตาก หลวงสรเสนีถอยมาแอบดู หาช่วยหนุนไม่ แล้วไปตั้งอยู่ ณ วัดพิชัย"

รุ่งเช้า ได้ต่อสู้กับกองทหารพม่าจนล้มตายและบางส่วนแตกหนีไป ก่อนเดินทางไปตั้งค่ายพักอยู่บ้านพรานนก ในขณะนั้นมีทหารพม่ากองหนึ่งซึ่งประกอบด้วยทหารม้าประมาณ 30 คน ทหารเดินเท้าประมาณ 200 คน เดินทางมาจากแขวงเมืองปราจีนบุรี สวนทางมาพบทหารพระยาตากที่เที่ยวหาเสบียงอาหาร ทหารพม่าก็ไล่ตามมาแต่ถูกกลอุบาย "วงกับดักเสือ"ถูกตีกระหนาบจนแตกหนีไป

พวกราษฎรที่หลบซ่อนอยู่ทราบข่าวพระยาตากรบชนะพม่าก็พากันเข้ามาสมัครเป็นพรรคพวก พระยาตากจึงให้ราษฎรไปเกลี้ยกล่อมหัวหน้านายซ่องมาสวามิภักดิ์ และให้นำช้างม้าพาหนะและเสบียงอาหารมาด้วย นายซ่องทั้งหลายไม่ยอมอ่อนน้อมก็ถูกปราบปรามจนราบคาบริบพาหนะ ผู้คน ช้าง ม้า และศาสตราวุธได้เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นเจ้าตากจึงยกกองทหารไปทางนาเริง เมืองนครนายก ผ่านด่านกบแจะ ข้ามลำน้ำปราจีนบุรี ไปตั้งพักอยู่ชายดงศรีมหาโพธิ์ ข้างฝั่งตะวันออก พม่าที่ตั้งทัพอยู่ปากน้ำเจ้าโล้ หรือปากน้ำโจ้โล้ เมืองฉะเชิงเทรา

พระยาตากได้ยกกองทัพผ่านเมืองฉะเชิงเทรา ชลบุรี แล้วจึงเดินทางต่อไปยังบ้านนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง เมื่อถึงเมืองระยอง เจ้าเมืองระยองซึ่งได้ยินกิติศัพท์ของพระยาตากก็ยอมอ่อนน้อมเชิญให้เข้าเมือง นับตั้งแต่ได้ถอนตัวออกจากการป้องกันพระนครนั้น ภายในเวลาไม่ถึงเดือนก็สามารถยึดเมืองระยองเป็นที่มั่นได้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่เหนือกว่าชุมนุมอื่น ๆ ในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา

การประกาศยึดเมืองระยองได้กระทำกลางทุ่งนาและไพร่พลจำนวนมาก พระยาตากได้ประทับ ณ บริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล หลังจากนั้นบรรดาแม่ทัพนายกองที่สวามิภักดิ์ ต่างพร้อมใจกันยกพระยาตากขึ้นเป็นผู้นำขบวนการกอบกู้แผ่นดินและเรียกพระยาตากว่า เจ้าตาก นับตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้จะเป็นเสมือนผู้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง แต่เจ้าตากก็ระวังตนมิได้คิดตั้งตัวเป็นกบฏ ให้เรียกคำสั่งว่าพระประศาสน์อย่างเจ้าเมืองเอกเท่านั้น

อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาได้ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310 ข่าวกรุงแตกได้แพร่กระจายออกไปขณะที่พระยาตากอยู่ที่เมืองระยอง พระยาตากจึงได้ประกาศตนเป็นผู้นำในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยาให้กลับรุ่งเรืองดังเดิม พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา กล่าวถึงคำพูดของพระยาตากไว้ตอนหนึ่งว่า

ตัวเราคิดจะซ่องสุมประชาราษฎรในแขวงหัวเมืองให้ได้มาก แล้วจะยกกลับไปกู้กรุงให้คงคืนเป็นราชธานีดังเก่า แล้วจัดทำนุบำรุงสมณพราหมณาประชาราษฎร ซึ่งอนาถาหาที่พำนักมิได้ให้ร่มเย็นเป็นสุขานุสุข แล้วจะยอยกพระบวรพุทธศาสนาให้โชตนาการขึ้นเหมือนอย่างแต่ก่อน เราจะตั้งตัวเป็นเจ้าขึ้นให้คนทั้งหลายยำเกรงจงมาก ซึ่งจะก่อกู้แผ่นดินจึงจะสำเร็จโดยง่าย ท่านทั้งหลายจะเห็นประการใด— พระยาตาก

การยึดจันทบุรี

เจ้าตากเดินทัพจากระยองผ่านแกลงเข้าบางกระจะ มุ่งยึดจันทบุรี เจ้าเมืองจันทบุรีไม่ยอมสวามิภักดิ์ เจ้าตากต้องการยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นที่มั่นเพื่อรวบรวมกำลังมาตีพม่า จึงสั่งทหารทุกคนว่า "เราจะตีเมืองจันทบุรีในค่ำวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเสร็จแล้ว ทั้งนายไพร่ให้เททิ้งอาหารที่เหลือและต่อยหม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ในเมืองเอาพรุ่งนี้ ถ้าตีเอาเมืองไม่ได้ในค่ำวันนี้ ก็จะให้ได้ตายเสียด้วยกันให้หมดทีเดียว"

ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ครั้นถึงเวลา 19.00 น. เจ้าตากจึงได้สั่งให้ทหารไทยและจีนลอบเข้าไปอยู่ตามสถานที่ที่ได้วางแผนไว้แล้ว ให้คอยฟังสัญญาณเข้าตีเมืองพร้อมกัน จึงให้โห่ขึ้นให้พวกอื่นรู้ เมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าตากก็ขึ้นคอช้างพังคีรีบัญชร ให้ยิงปืนสัญญาณพร้อมกับบอกพวกทหารเข้าตีเมืองพร้อมกัน ส่วนเจ้าตากก็ไสช้างเข้าพังประตูเมืองจนทำให้บานประตูเมืองพังลง ทหารเจ้าตากจึงกรูกันเข้าเมืองได้ พวกชาวเมืองต่างพากันละทิ้งหน้าที่หนีไป ส่วนพระยาจันทบุรีก็พาครอบครัวลงเรือหนีไปยังเมืองบันทายมาศ เจ้าตากตีเมืองจันทบุรีได้ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน

หลังจากนั้น เจ้าตากได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรเกิดความเกรงกลัวต่างพากันมาอ่อนน้อมโดยดี ที่ปากน้ำเมืองตราดมีเรือสำเภาจีนมาทอดทุ่นอยู่หลายลำ เจ้าตากได้เรียกนายเรือมาพบ แต่พวกจีนนายเรือขัดขืนต่อสู้ เจ้าตากจึงนำกองเรือไปล้อมสำเภาจีนเหล่านั้น ได้ทำการต่อสู้กันอยู่ประมาณครึ่งวันเจ้าตากก็ยึดสำเภาจีนไว้ได้หมด ได้ทรัพย์สินสิ่งของมาเป็นจำนวนมาก

แผนการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา

เจ้าตากได้เดินทางกลับจากตราดมาตั้งมั่นรวบรวมผู้คนอยู่ที่เมืองจันทบุรี เพื่อวางแผนปฏิบัติการรบเพื่อตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากข้าศึก พร้อมกับสั่งให้ต่อเรือรบและรวบรวมเครื่องศัตราวุธและยุทธภัณฑ์ภายในเวลา 3 เดือน พร้อมกับฝึกไพร่พลให้พร้อมที่จะปฏิบัติการ

เมื่อสิ้นฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2310 เจ้าตากได้ยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเข้าโจมตีข้าศึกที่เมืองธนบุรี เมื่อเจ้าตากยึดเมืองธนบุรีและปราบนายทองอินได้แล้ว จึงเคลื่อนทัพต่อไปที่กรุงศรีอยุธยาเข้า ยึดค่ายโพธิ์สามต้นปราบพม่าจนราบคาบ สามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 13.00 น. ใช้เวลา 7 เดือนหลังจากคราวเสียกรุงศรีอยุธยา

ปราบดาภิเษก

ดูบทความหลักที่: อาณาจักรธนบุรี
 
ภาพประธานด้านหลังธนบัตร 20 บาท แบบที่ 12 เป็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี จำลองจากพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนสาธารณะทุ่งนาเชย อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

หลังจากสร้างพระราชวังบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ทรงจัดการบ้านเมืองเรียบร้อยพอสมควร บรรดาแม่ทัพ นายกอง ขุนนาง ข้าราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ตลอดทั้งสมณะพราหมณาจารย์และอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ณ วันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน จุลศักราช 1128 ซึ่งตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ทรงพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่เรียกขานพระนามของพระองค์ติดปากว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

เดิมพระองค์ทรงคิดที่จะปฏิสังขรณ์พระนครศรีอยุธยาให้กลับคืนเป็นดังเดิม แต่หลังจากตรวจดูแล้วยากต่อการฟื้นฟู จึงทรงให้อพยพผู้คนและทรัพย์สินลงมาทางใต้ และตั้งราชธานีใหม่ขึ้นที่เมืองธนบุรี เรียกนามว่า กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร

ปรากฏว่าที่เมืองลพบุรี มีพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์อยุธยามาพำนักอยู่เป็นจำนวนมาก พระเจ้าตากจึงรับสั่งให้คนไปอัญเชิญมายังเมืองธนบุรี พระองค์ทรงขุดพระบรมศพของพระเจ้าเอกทัศ ขึ้นมาถวายพระเพลิงตามโบราณราชประเพณี

อ้างอิง

  1. จรรยา ประชิตโรมรัน. หน้า 169.
  2. ขจร สุขพานิช. หน้า 270.
  3. นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2550). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด. หน้า 130.
  4. นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2550). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด. หน้า 126-128.
  5. นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2550). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด. หน้า 128.
  6. พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ว่า "ประมาณ 1000 เศษ"
  7. พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์, สามกรุง (พระนคร : คลังวิทยา,2511) หน้า 60.
  8. พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ว่า "บานโพสามหาว โพสาวหาร และโพสังหาร"
  9. คำให้การขุนหลวงหาวัด(กรุงเทพฯ: จดหมายเหตุ,2544) หน้า 243-4
  10. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สภาพทั่วไปและข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรของจังหวัดปราจีนบุรี
  11. ประกอบ โชประการ, มหาราชชาติไทย (กรุงเทพฯ : รวมการพิมพ์ 2523) หน้า 434.
  12. กรมตำรากระทรวงธรรมการ, พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (พระเจ้าตากสิน) จุลศักราช 1128-1144. พิมพ์ครั้งที่ 4 ; พระนคร : โรงพิมพ์กรมตำรากระทรวงพระธรรมการ, 2472. หน้า 8.
  13. สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ไทยรับพม่า ฉบับรวมเล่ม หน้า 385 ว่า "ปากน้ำเจ้าโล้ ข้างใต้เมืองปราจีนบุรี"
  14. กรมศิลปากร,ประชุมพงศาวดารภาคที่ 65 พงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). พระนคร: โรงพิมพ์เดลิเมล์ พ.ศ. 2480 (พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายพันเอก พระยาสิริจุลเสวก)
  15. ศิลปวัฒนธรรม, เส้นทางเดินทัพ พระเจ้าตาก เลียบทะเลตะวันออก 1 สิงหาคม 2546
  16. วัลลภา รุ่งศิริแสงรัตน์. (2546). บรรพบุรุษไทย: สมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. หน้า 5
  17. กรมศิลปากร, พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานบรรจุศพ คุณพ่อไต้ล้ง พรประภา วันที่ 4 กันยายน 2511) หน้า 603-604
  18. ศรรวริศา เมฆไพบูลย์,ศิริโชค เลิศยะใส. NATIONAL GEOGRAPHIC ฉบับที่ 77 ธันวาคม 2550. กรุงเทพฯ : อมรินทร์ปริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน),หน้า 51.ISSN 1513-9840
  19. จังหวัดตาก, ตากสินมหาราชานุสรณ์ งานฉลองวันขึ้นปีใหม่ ปีที่ 22 พ.ศ. 2515 (พระนคร : มิตรสยาม 2514) หน้า 113.
  20. กรมตำรากระทรวงธรรมการ, พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (พระเจ้าตากสิน) จุลศักราช 1128-1144. พิมพ์ครั้งที่ 4 ; พระนคร : โรงพิมพ์กรมตำรากระทรวงพระธรรมการ, 2472. หน้า 20-26.
  21. พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์, สามกรุง (พระนคร:คลังวิทยา 2511) หน้า 98.
  22. พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์, สามกรุง (พระนคร:คลังวิทยา 2511) หน้า 98.
  23. กรมตำรากระทรวงธรรมการ, พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (พระเจ้าตากสิน) จุลศักราช 1128-1144. พิมพ์ครั้งที่ 4 ; พระนคร : โรงพิมพ์กรมตำรากระทรวงพระธรรมการ, 2472. หน้า 23.
  24. สุนทรภู่, นิราศสุนทรภู่ ตอนนิราศพระบาท (พระนคร:คุรุสภา 2519) หน้า 123-124.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

  • หอมรดกไทย - งานกู้ชาติในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

การกอบก, เอกราชของเจ, าตาก, บเป, นเหต, การณ, สำค, ญทางประว, ศาสตร, ไทย, งเป, นการรวบรวมกองกำล, งของเจ, าตาก, เพ, อข, บไล, กองท, พพม, าท, งคงหลงเหล, ออย, ในกร, งศร, อย, ธยา, ภายหล, งการเส, ยกร, งศร, อย, ธยาคร, งท, สอง, นส, งผลให, เก, ดสภาพจลาจลโดยท, วไป, ราชอาณ. karkxbkuexkrachkhxngecatak nbepnehtukarnsakhythangprawtisastrithy sungepnkarrwbrwmkxngkalngkhxngecatak ephuxkhbilkxngthphphmathiyngkhnghlngehluxxyuinkrungsrixyuthya phayhlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng xnsngphlihekidsphaphclaclodythwip rachxanackrxyuthyaedimcungthukaebngxxkepnchumnumtang epnxisratxknrawpi ph s 2309 kxnesiykrung phrayatakidnathharinbngkhbbychatifawnglxmkhxngkxngthphphmaipthangdanthistawnxxkkhxngkrungsrixyuthya ephuxrwbrwmphukhnaelayuththpccytang masurbkbkxngthphphmaxikkhrng inrahwangnnyngidtngtnepnecaemuxngrayxng emux ecatak etriymkalngrbcnphrxmsrrphaelw cungidekhluxnphlklbipyngkrungsrixyuthyathangdanpakaemnaecaphraya ephuxthakarkhbilthharphmathiyngkhngehluxxyuxxkipidsaerc enuxha 1 ebuxnghlng 2 noybaythangkaremuxng 3 kartngtnepnihy 3 1 esnthangedinthphkhxngphrayatak 3 2 karyudcnthburi 3 3 aephnkarkxbkukrungsrixyuthya 4 prabdaphiesk 5 xangxing 6 duephim 7 aehlngkhxmulxunebuxnghlng aekikhduephimetimthi karesiykrungsrixyuthyakhrngthisxng wnthi 7 emsayn ph s 2310 I ewlapramanbaysamomng phmacudifsumrakkaaephngemuxngtrnghwrxthirimpxmmhachy aelayingpunihyradmekhaipinphrankhr cakbrrdakhaythiraylxmthukkhay phxephlaphlbkhakaaephngemuxngtrngthiexaifsumthrudlng ewla 2 thum aemthphphmayingpunepnsyyanihthharekhaphrankhrphrxmknthukdan phmaexabnidpinphadekhamaidtrngthikaaephngthrudnnkxn thharxyuthyathirksahnathiehluxkalngcatxsu phmaksamarthekhaphrankhridinewlakhawnnnthukthang 1 hlngcakkrungaetkaelw kxngthphphmaidphkxyuthungwnthi 6 mithunayn ph s 2310 2 kxncarwbrwmechlyaelathrphysmbtiaelwykthphklb inbrrdaechlynnmismedcphraecaxuthumphripdwy enemiywsihbdiidaetngtngihsukiepnnaythph khumphl 3 000 khn tngkhayxyuthikhayophthisamtn khxykwadtxnphukhnaelathrphysintamklbipphayhlnghlngcaknnthaihekidchumnumthangkaremuxnginradbtang sungepn rthbalthrrmchati khunmainthxngthinthnthi swnrthbalthrrmchatisungmikhnadihyekidcakkarthibrrdaecaemuxngkhnadihythiimidrbphlkrathbcaksngkhrammaknkidtngtnepnihyinekhtxiththiphlkhxngtn eriykwa chumnum hrux kk sungmicanwn 4 6 aehngthiediyw nbepnmhntphyrayaerngemuximmichumnumthangkaremuxngidthicakxbkuexkrachhruxfunfuchatiihklbkhundngedimnoybaythangkaremuxng aekikhphrayatakidprakasnoybayruxfunrachxanackrxyuthya sungmikhwamaetktangcakchumnumxun thiepnephiyngaetklumocrplnsadmephuxrksakhwamxyurxdthann kittisphthdngklawthaihmitrakulkhunnangbangswncakkrungsrixyuthyamaswamiphkdidwy 3 xyangirktam praedndngklawyngxacmxngidinxikaenghnung khux phrayatakidprakastnepnphraecaaephndinnbtngaetykthphxxkcakkrungsrixyuthyaaelw thaihkxngkalngkhxngphrayatakepn klumkaremuxngtidxawuth 4 cungaetktangipcakchumnumxun karkrathaechnnithaihkhunnangradbphunxyekhamaswamiphkditxphrayatakcanwnhnung swnkhunnangradbsungyngimekharwmdwy ephraamxngehnwaklumkhxphrayatakyngimnaprasbkhwamsaerctamnoybay 5 kartngtnepnihy aekikhesnthangedinthphkhxngphrayatak aekikh esnthangedinthphkhxngphrayatak inwnthi 4 mkrakhm ph s 2309 sungtrngkbwnesar khun 4 kha eduxnyi culskrach 1128 picx xthsk phrayatakehnwakrungsrixyuthyakhngtxngesiythiaekphma cungtdsinicrwmkbphrayaphichy phraechiyngengin hlwngphrhmesna hlwngrachesnha khunxphyphkdi phrxmdwythharklaraw 500 khn 6 mipunephiyngkrabxkediyw aetchanaydanxawuthsn 7 ykkalngxxkcakkhaywdphichy aelatifawnglxmthharphmaipthangthistawnxxk mungtrngipyngbanophthisnghar 8 khnathienuxkhwamin khaihkarkhunhlwnghawd exksarthiiklekhiyngkbyukhsmymakkwa idrabuwamirachoxngkarih phrayatak phrayaephchrburiaelahlwngsuresniaetngthpheruxipkhxydkskdthpheruxphmathiwdihy phrayaephchrburinakalngrudekhatithharphmakxnaetklbphayaephthuksngharinthirb phrayatak hlwngsresnithxymaaexbdu hachwyhnunim aelwiptngxyu n wdphichy 9 rungecha idtxsukbkxngthharphmacnlmtayaelabangswnaetkhniip kxnedinthangiptngkhayphkxyubanphrannk inkhnannmithharphmakxnghnungsungprakxbdwythharmapraman 30 khn thharedinethapraman 200 khn edinthangmacakaekhwngemuxngpracinburi 10 swnthangmaphbthharphrayatakthiethiywhaesbiyngxahar thharphmakiltammaaetthukklxubay wngkbdkesux 11 thuktikrahnabcnaetkhniipphwkrasdrthihlbsxnxyuthrabkhawphrayatakrbchnaphmakphaknekhamasmkhrepnphrrkhphwk phrayatakcungihrasdripekliyklxmhwhnanaysxngmaswamiphkdi aelaihnachangmaphahnaaelaesbiyngxaharmadwy naysxngthnghlayimyxmxxnnxmkthukprabpramcnrabkhabribphahna phukhn chang ma aelasastrawuthidepncanwnmak hlngcaknnecatakcungykkxngthharipthangnaering emuxngnkhrnayk 12 phandankbaeca khamlanapracinburi iptngphkxyuchaydngsrimhaophthi khangfngtawnxxk phmathitngthphxyupaknaecaol hruxpaknaocol emuxngchaechingethra 13 phrayatakidykkxngthphphanemuxngchaechingethra chlburi aelwcungedinthangtxipyngbannaeklux aekhwngemuxngbanglamung emuxthungemuxngrayxng ecaemuxngrayxngsungidyinkitisphthkhxngphrayatakkyxmxxnnxmechiyihekhaemuxng nbtngaetidthxntwxxkcakkarpxngknphrankhrnn phayinewlaimthungeduxnksamarthyudemuxngrayxngepnthimnid yxmaesdngihehnthungkhwamsamarthaelaskyphaphthimixyuehnuxkwachumnumxun inkarkxbkukrungsrixyuthya 14 15 karprakasyudemuxngrayxngidkrathaklangthungnaaelaiphrphlcanwnmak phrayatakidprathb n briewnwdlummhachychumphl hlngcaknnbrrdaaemthphnaykxngthiswamiphkdi tangphrxmicknykphrayatakkhunepnphunakhbwnkarkxbkuaephndinaelaeriykphrayatakwa ecatak nbtngaetnnma 16 thungaemcaepnesmuxnphulaemidkdhmaybanemuxng aetecatakkrawngtnmiidkhidtngtwepnkbt iheriykkhasngwaphraprasasnxyangecaemuxngexkethannxnepnchwngewlaediywkbthiphmaekhatikrungsrixyuthyaidinwnthi 7 emsayn ph s 2310 khawkrungaetkidaephrkracayxxkipkhnathiphrayatakxyuthiemuxngrayxng phrayatakcungidprakastnepnphunainkarkxbkukrungsrixyuthyaihklbrungeruxngdngedim phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha klawthungkhaphudkhxngphrayatakiwtxnhnungwa 17 twerakhidcasxngsumpracharasdrinaekhwnghwemuxngihidmak aelwcaykklbipkukrungihkhngkhunepnrachthanidngeka aelwcdthanubarungsmnphrahmnapracharasdr sungxnathahathiphankmiidihrmeynepnsukhanusukh aelwcayxykphrabwrphuththsasnaihochtnakarkhunehmuxnxyangaetkxn eracatngtwepnecakhunihkhnthnghlayyaekrngcngmak sungcakxkuaephndincungcasaercodyngay thanthnghlaycaehnprakarid phrayatak karyudcnthburi aekikh ecatakedinthphcakrayxngphanaeklngekhabangkraca mungyudcnthburi ecaemuxngcnthburiimyxmswamiphkdi ecataktxngkaryudemuxngcnthburiiwepnthimnephuxrwbrwmkalngmatiphma cungsngthharthukkhnwa eracatiemuxngcnthburiinkhawnni emuxkxngthphhungkhawesrcaelw thngnayiphriheththingxaharthiehluxaelatxyhmxesiyihhmd hmayipkinkhawechadwyknthiinemuxngexaphrungni thatiexaemuxngimidinkhawnni kcaihidtayesiydwyknihhmdthiediyw 18 inwnesarthi 14 mithunayn ph s 2310 khrnthungewla 19 00 n ecatakcungidsngihthharithyaelacinlxbekhaipxyutamsthanthithiidwangaephniwaelw ihkhxyfngsyyanekhatiemuxngphrxmkn cungihohkhunihphwkxunru emuxewla 03 00 n ecatakkkhunkhxchangphngkhiribychr ihyingpunsyyanphrxmkbbxkphwkthharekhatiemuxngphrxmkn 19 swnecatakkischangekhaphngpratuemuxngcnthaihbanpratuemuxngphnglng thharecatakcungkruknekhaemuxngid phwkchawemuxngtangphaknlathinghnathihniip swnphrayacnthburikphakhrxbkhrwlngeruxhniipyngemuxngbnthaymas 20 ecataktiemuxngcnthburiid emuxwnxathity eduxn 7 aerm 3 kha culskrach 1129 pikun nphsk ephla 3 yamess trngkbwnthi 15 mithunayn ph s 2310 ewlapraman 03 00 n hlngcakesiykrungsrixyuthyaaelw 2 eduxnhlngcaknn ecatakidekhluxnthphipyngemuxngtrad phwkkrmkaraelarasdrekidkhwamekrngklwtangphaknmaxxnnxmodydi thipaknaemuxngtradmieruxsaephacinmathxdthunxyuhlayla ecatakideriyknayeruxmaphb aetphwkcinnayeruxkhdkhuntxsu ecatakcungnakxngeruxiplxmsaephacinehlann idthakartxsuknxyupramankhrungwnecatakkyudsaephaciniwidhmd idthrphysinsingkhxngmaepncanwnmak aephnkarkxbkukrungsrixyuthya aekikh ecatakidedinthangklbcaktradmatngmnrwbrwmphukhnxyuthiemuxngcnthburi ephuxwangaephnptibtikarrbephuxtikrungsrixyuthyakhuncakkhasuk phrxmkbsngihtxeruxrbaelarwbrwmekhruxngstrawuthaelayuththphnthphayinewla 3 eduxn phrxmkbfukiphrphlihphrxmthicaptibtikaremuxsinvdumrsumineduxntulakhm ph s 2310 ecatakidykkxngthpheruxcakcnthburiekhamathangpakaemnaecaphraya aelwekhaocmtikhasukthiemuxngthnburi emuxecatakyudemuxngthnburiaelaprabnaythxngxinidaelw 21 cungekhluxnthphtxipthikrungsrixyuthyaekha yudkhayophthisamtnprabphmacnrabkhab samarthkxbkukrungsrixyuthyaklbkhunma emuxwnsukr eduxn 12 khun 15 kha culskrach 1129 pikun nphsk ewlabayomngess sungtrngkbwnsukrthi 6 phvscikayn ph s 2310 ewlapraman 13 00 n ichewla 7 eduxnhlngcakkhrawesiykrungsrixyuthyaprabdaphiesk aekikhdubthkhwamhlkthi xanackrthnburi phaphprathandanhlngthnbtr 20 bath aebbthi 12 epnphrabrmrupsmedcphraecakrungthnburi calxngcakphrabrmrachanusawriy n swnsatharnathungnaechy xaephxemuxngcnthburi cnghwdcnthburi hlngcaksrangphrarachwngbnfngtawntkkhxngaemnaecaphrayaaelw thrngcdkarbanemuxngeriybrxyphxsmkhwr brrdaaemthph naykxng khunnang kharachkarthngfaythharaelaphleruxn tlxdthngsmnaphrahmnacaryaelaxanapracharasdrthnghlay cungphrxmknkrabbngkhmthulxyechiykhunthrngprabdaphieskepnphramhakstriy n wncnthr khun 8 kha eduxnyi pikun culskrach 1128 sungtrngkbwnthi 28 thnwakhm ph s 2310 thrngphranamwa phrasrisrrephchy hrux smedcphrabrmrachathi 4 aeteriykkhanphranamkhxngphraxngkhtidpakwa smedcphraecataksin hrux smedcphraecakrungthnburiedimphraxngkhthrngkhidthicaptisngkhrnphrankhrsrixyuthyaihklbkhunepndngedim 22 aethlngcaktrwcduaelwyaktxkarfunfu cungthrngihxphyphphukhnaelathrphysinlngmathangit aelatngrachthaniihmkhunthiemuxngthnburi eriyknamwa krungthnburisrimhasmuthrpraktwathiemuxnglphburi miphrabrmwngsanuwngskhxngrachwngsxyuthyamaphankxyuepncanwnmak phraecatakcungrbsngihkhnipxyechiymayngemuxngthnburi phraxngkhthrngkhudphrabrmsphkhxngphraecaexkths khunmathwayphraephlingtamobranrachpraephni 23 24 xangxing aekikh crrya prachitormrn hna 169 khcr sukhphanich hna 270 nithi exiywsriwngs 2550 karemuxngithysmyphraecakrungthnburi orngphimphmtichnpakekrd hna 130 nithi exiywsriwngs 2550 karemuxngithysmyphraecakrungthnburi orngphimphmtichnpakekrd hna 126 128 nithi exiywsriwngs 2550 karemuxngithysmyphraecakrungthnburi orngphimphmtichnpakekrd hna 128 phrarachphngsawdarkrungthnburichbbphncnthnumas ecim wa praman 1000 ess phrawrwngsethx krmhmunphithyalngkrn samkrung phrankhr khlngwithya 2511 hna 60 phrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim wa banophsamhaw ophsawhar aelaophsnghar khaihkarkhunhlwnghawd krungethph cdhmayehtu 2544 hna 243 4 sankngankhnakrrmkarphthnakaresrsthkicaelasngkhmaehngchati sphaphthwipaelakhxmulesrsthkickarekstrkhxngcnghwdpracinburi prakxb ochprakar mharachchatiithy krungethph rwmkarphimph 2523 hna 434 krmtarakrathrwngthrrmkar phrarachphngsawdarkrungthnburi aephndinsmedcphrabrmrachathi 4 phraecataksin culskrach 1128 1144 phimphkhrngthi 4 phrankhr orngphimphkrmtarakrathrwngphrathrrmkar 2472 hna 8 smedckrmphrayadarngrachanuphaph ithyrbphma chbbrwmelm hna 385 wa paknaecaol khangitemuxngpracinburi krmsilpakr prachumphngsawdarphakhthi 65 phngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim phrankhr orngphimphedlieml ph s 2480 phimphaeckinnganphrarachthanephlingsph nayphnexk phrayasiriculeswk silpwthnthrrm esnthangedinthph phraecatak eliybthaeltawnxxk 1 singhakhm 2546 wllpha rungsiriaesngrtn 2546 brrphburusithy smykrungthnburiaelartnoksinthrtxntn orngphimphaehngculalngkrnmhawithyaly hna 5 krmsilpakr phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha phimphepnxnusrninnganbrrcusph khunphxitlng phrprapha wnthi 4 knyayn 2511 hna 603 604 srrwrisa emkhiphbuly siriochkh elisyais NATIONAL GEOGRAPHIC chbbthi 77 thnwakhm 2550 krungethph xmrinthrprintingaexndphblichching cakd mhachn hna 51 ISSN 1513 9840 cnghwdtak taksinmharachanusrn nganchlxngwnkhunpiihm pithi 22 ph s 2515 phrankhr mitrsyam 2514 hna 113 krmtarakrathrwngthrrmkar phrarachphngsawdarkrungthnburi aephndinsmedcphrabrmrachathi 4 phraecataksin culskrach 1128 1144 phimphkhrngthi 4 phrankhr orngphimphkrmtarakrathrwngphrathrrmkar 2472 hna 20 26 phrarachwrwngsethx krmhmunphithyalngkrn samkrung phrankhr khlngwithya 2511 hna 98 phrarachwrwngsethx krmhmunphithyalngkrn samkrung phrankhr khlngwithya 2511 hna 98 krmtarakrathrwngthrrmkar phrarachphngsawdarkrungthnburi aephndinsmedcphrabrmrachathi 4 phraecataksin culskrach 1128 1144 phimphkhrngthi 4 phrankhr orngphimphkrmtarakrathrwngphrathrrmkar 2472 hna 23 sunthrphu nirassunthrphu txnnirasphrabath phrankhr khuruspha 2519 hna 123 124 duephim aekikhsmedcphraecakrungthnburi karsngkhramsmysmedcphraecakrungthnburiaehlngkhxmulxun aekikhhxmrdkithy ngankuchatiinsmedcphraecataksinmharachekhathungcak https th wikipedia org w index php title karkxbkuexkrachkhxngecatak amp oldid 9402753, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม