fbpx
วิกิพีเดีย

พระยาพิชัยดาบหัก

พระยาพิชัยดาบหัก เป็นขุนนางในสมัยอยุธยาตอนปลายและธนบุรี ปรากฏชื่อในพระราชพงศาวดารเนื่องจากเป็นทหารเอกคู่พระทัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และเป็นผู้มีส่วนกอบกู้เอกราชของชาติไทยหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง มีชื่อเสียงอย่างยิ่งจากความกตัญญูกตเวทีและความกล้าหาญ

พระยาพิชัยดาบหัก (ทองดี)
ขุนนางชั้นพระยาพานทองในสมัยธนบุรี
อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก
หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
ชื่ออื่น จ้อย, นายทองดีฟันขาว
ชาติ ไทย
อาชีพ ขุนนางฝ่ายทหารในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี, เจ้าเมืองพิชัย
สมัย พ.ศ. 2310 - พ.ศ. 2325
งานสำคัญ ขุนศึกสำคัญของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในการร่วมกอบกู้เอกราชหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง (พ.ศ. 2310 - 2313), เจ้าเมืองพิชัย (พ.ศ. 2313-2325), ออกสู้รบกับกองทัพโปสุพลาจนดาบหักเป็นสองท่อน (พ.ศ. 2316), สละชีวิตตนเองเป็นราชพลี (พ.ศ. 2325)
ข้อมูลส่วนตัว
เกิด พ.ศ. 2284
บ้านห้วยคา เมืองพิชัย กรุงศรีอยุธยา
เสียชีวิต 7 เมษายน พ.ศ. 2325
เมืองธนบุรี อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)
บิดา ไม่ปรากฏนาม
มารดา ไม่ปรากฏนาม
หมวดหมู่:ขุนนางในสมัยกรุงธนบุรี

เดิมท่านชื่อ จ้อย เกิดที่บ้านห้วยคา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ศึกษาอยู่กับท่านพระครูวัดมหาธาตุหรือวัดใหญ่ เมืองพิชัย ภายหลัง จ้อยได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทองดี หรือ ทองดีฟันขาว มีความสามารถและชื่อเสียงอย่างยิ่งทั้งทางเชิงมวยและเชิงดาบ จนได้เข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นพระยาตาก ต่อมานายทองดีได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์มีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงพิชัยอาสา" เมื่อรับราชการมีความดีความชอบจึงได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าหมื่นไวยวรนาถ พระยาสีหราชเดโช และพระยาพิชัย ผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย ซึ่งรับพระราชทานเครื่องยศเสมอเจ้าพระยาสุรสีห์ ตามลำดับ

ภายหลังข้าศึกยกทัพมาตีเมืองพิชัย 2 ครั้ง ในการรบครั้งที่ 2 พระยาพิชัยถือดาบสองมือออกต่อสู้จนดาบหักไปข้างหนึ่ง และรักษาเมืองไว้ได้ ดังนั้นจึงไดัรับสมญานามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก"

ประวัติ

วัยเยาว์

พระยาพิชัยดาบหัก เดิมชื่อ จ้อย เกิดในปี พ.ศ. 2284 ที่บ้านห้วยคา เมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพี่น้อง 4 คน แต่เสียชีวิตไป 3 คน เด็กชายจ้อยมีนิสัยชอบชกมวยมาตั้งแต่เยาว์วัย บิดาได้พร่ำสอนเสมอ ถ้าจะชกมวยให้เก่งต้องขยันเรียนหนังสือด้วย เมื่ออายุได้ 14 ปี บิดานำไปฝากกับท่านพระครูวัดมหาธาตุ เมืองพิชัย จ้อยสามารถอ่านออกเขียนได้จนแตกฉานและซ้อมมวยไปด้วย

ต่อมาเจ้าเมืองพิชัยได้นำบุตร (ชื่อเฉิด) มาฝากที่วัดเพื่อร่ำเรียนวิชา เฉิดกับพวกมักหาทางทะเลาะวิวาทกับจ้อยเสมอ เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากวัดขึ้นไปทางเหนือโดยมิได้บอกพ่อแม่และอาจารย์ เดินตามลำน้ำน่านไปเรื่อยๆ เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักตามวัด ที่วัดบ้านแก่ง จ้อย ได้พบกับครูฝึกมวยคนหนึ่งชื่อ เที่ยง จึงฝากตัวเป็นศิษย์แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทองดี ครูเที่ยงรักนายทองดีมากและมักเรียกนายทองดีว่านายทองดี ฟันขาว (เนื่องจากท่านไม่เคี้ยวหมากพลูดังคนสมัยนั้น) ด้วยความสุภาพเรียบร้อย และขยันขันแข็งเอาใจใส่การฝึกมวยช่วยการงานบ้านครูเที่ยงด้วยดีเสมอมา ทำให้ลูกหลานครูเที่ยงอิจฉานายทองดีมาก จนหาทางกลั่นแกล้งต่างๆ นานา นายทองดี ฟันขาว เห็นว่าอยู่บ้านแก่งต่อไปคงลำบาก ประกอบครูเที่ยงก็ถ่ายทอดวิชามวยให้จบหมดสิ้นแล้วจึงกราบลาครูขึ้นเหนือต่อไป[ต้องการอ้างอิง]

ชื่อเสียง

เมื่อเดินถึงบางโพได้เข้าพักที่วัดวังเตาหม้อ (ปัจจุบันคือวัดท่าถนน) พอดีกับมีการแสดงงิ้ว จึงอยู่ดูอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน นายทองดี ฟันขาว สนใจงิ้วแสดง ท่าทางหกคะเมน จึงจดจำไปฝึกหัดจนจดจำท่างิ้วได้ทั้งหมดสามารถกระโดดข้ามศีรษะคนยืนได้อย่างสบาย จากนั้นก็ลาพระสงฆ์วัดวังเตาหม้อขึ้นไปท่าเสา ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ครูเมฆซึ่งมีชื่อเสียงในการสอนมวย ครูเมฆรักนิสัยใจคอจึงถ่ายทอดวิชาการชกมวยให้จนหมดสิ้น

ขณะนั้นนายทองดี ฟันขาว อายุได้ 18 ปี ต่อมาได้มีโอกาสชกมวยในงานไหว้พระแท่นศิลาอาสน์ กับนายถึก ศิษย์เอกของครูนิล นายถึกไม่สามารถป้องกันได้ ถูกเตะสลบไปนานประมาณ 10 นาที ครูนิลอับอายมากจึงท้าครูเมฆชกกัน นายทองดี ฟันขาว ได้กราบอ้อนวอนขอร้อง ขอชกแทนครูเมฆและได้ตลุยเตะต่อยจนครูนิลฟันหลุดถึง 4 ซี่ เลือดเต็มปากสลบอยู่เป็นเวลานาน ชื่อเสียงนายทองดี ฟันขาว กระฉ่อนไปทั่วเมืองทุ่งยั้ง ลับแล พิชัย และเมืองฝาง นายทองดีอยู่กับครูเมฆประมาณ 2 ปี ก็ขอลาไปศึกษาการฟันดาบที่เมืองสวรรคโลก ด้วยความฉลาดมีไหวพริบ เขาใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็เรียนฟันดาบสำเร็จเป็นที่พิศวงต่อครูผู้สอนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวเมืองสุโขทัยและเมืองตากระหว่างทางได้รับศิษย์ไว้ 1 คน ชื่อบุญเกิด (หมื่นหาญณรงค์) โดยเมื่อครั้งที่บุญเกิดถูกเสือคาบไปนั้น ทองดีได้ช่วยบุญเกิดไว้โดยการแทงมีดที่ปากเสือ จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว[ต้องการอ้างอิง]

รับราชการ

 
ภาพเขียนพระยาพิชัยต่อสู้กับพม่าเมื่อครั้งศึกโปสุพลายกทัพมาตีเมืองพิชัยจนดาบหัก

เมื่อท่านเดินทางถึงเมืองตาก ขณะนั้นได้มีพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาที่วัดใหญ่เจ้าเมืองตาก สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจัดให้มีมวยฉลองด้วย นายทองดี ฟันขาว ดีใจมากเข้าไปเปรียบมวยกับครูห้าวซึ่งเป็นครูมวยมือดีของเจ้าเมืองตากและมีอิทธิพลมาก นายทองดี ฟันขาว ใช้ความว่องไวใช้หมัดศอกและเตะขากรรไกรจนครูห้าวสลบไป เจ้าเมืองตากจึงถามว่าสามารถชกนักมวยอื่นอีกได้หรือไม่ นายทองดี ฟันขาว บอกว่าสามารถชกได้อีก เจ้าเมืองตากจึงให้ชกกับครูหมึกครูมวยร่างสูงใหญ่ ผิวดำ นายทองดี เตะซ้ายเตะขวา บริเวณขากรรไกร จนครูหมึกล้มลงสลบไป[ต้องการอ้างอิง]

เจ้าเมืองตากพอใจมากให้เงิน 3 ตำลึง และชักชวนให้อยู่ด้วย นายทองดี ฟันขาว จึงได้ถวายตัวเป็นทหารของเจ้าเมืองตาก (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) ตั้งแต่บัดนั้น เป็นที่โปรดปรานมากและได้รับยศเป็น "หลวงพิชัยอาสา" เมื่อเจ้าเมืองตากได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาวชิรปราการ ครองเมืองกำแพงเพชร หลวงพิชัยอาสาได้ติดตามไปรับใช้อย่างใกล้ชิดและเป็นเวลาเดียวที่พม่ายกทัพล้อม กรุงศรีอยุธยา[ต้องการอ้างอิง]

พระยาวชิรปราการพร้อมด้วยหลวงพิชัยอาสา และทหารเข้าสู้รบกับทัพพม่าหลายคราวจนได้รับชัยชนะ ได้ช้างม้าอาหารพอสมควร สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้รับการต้อนรับจากประชาชนและยกย่องขึ้นเป็นผู้นำ เมื่อกอบกู้เอกราชได้แล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงธนบุรีและได้โปรดเกล้าฯ ให้หลวงพิชัยอาสา เป็นเจ้าหมื่นไวยวรนาถ เป็นทหารเอกราชองครักษ์ในพระองค์[ต้องการอ้างอิง]

ในปี พ.ศ. 2311 พม่าได้ยกทัพมาอีก 1 หมื่นคน สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีพร้อมด้วยหมื่นไวยวรนาถได้เข้าโจมตีจนแตกพ่าย และได้มีการสู้รบปราบก๊กต่าง ๆ อีกหลายคราว เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จกลับกรุงธนบุรี โปรดตั้งเจ้าหมื่นไวยวรนาถเป็น "พระยาสีหราชเดโช" มีตำแหน่งเป็นนายทหารเอกราชองครักษ์ตามเดิม สุดท้ายเมื่อปราบชุมนุมเจ้าพระฝางได้แล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงปูนบำเหน็จความชอบให้ทหารของพระองค์โดยทั่วหน้า ส่วนพระยาสีหราชเดโช (จ้อย หรือ ทองดี ฟันขาว) นั้น ได้โปรดเกล้าฯ บำเหน็จความชอบให้เป็นพระยาพิชัยปกครองเมืองพิชัยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนแต่เยาว์วัย[ต้องการอ้างอิง]

ในปี พ.ศ. 2313 - 2316 ได้เกิดการสู้รบกับกองทัพพม่าอีกหลายคราว พอสิ้นฤดูฝนปีมะเส็ง พ.ศ. 2316 โปสุพลายกกองทัพมาตีเมืองพิชัย "ศึกครั้งนี้พระยาพิชัยจับดาบสองมือคาดด้าย ออกไล่ฟันแทงพม่าอย่างชุลมุน ณ สมรภูมิบริเวณ วัดเอกา จนเมื่อพระยาพิชัยเสียการทรงตัว ก็ได้ใช้ดาบข้างขวาพยุงตัวไว้ จนดาบข้างขวาหักเป็นสองท่อน" กองทัพโปสุพลาก็แตกพ่ายกลับไป เมื่อวันอังคาร เดือนยี่ แรม 7 ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. 2316 (ตรงกับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2316)[ต้องการอ้างอิง]

ถวายชีวิตเป็นราชพลี

 
พระปรางค์วัดราชคฤห์วรวิหาร สถานที่บรรจุอัฐิของพระยาพิชัยดาบหัก

เมื่อปี พ.ศ. 2325 หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถูกสำเร็จโทษ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเล็งเห็นว่าพระยาพิชัยเป็นขุนนางคู่พระทัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มีฝีมือและซื่อสัตย์ จึงชวนพระยาพิชัยเข้ารับราชการในแผ่นดินใหม่ แต่พระยาพิชัยไม่ขอรับตำแหน่งด้วยท่านเป็นคนจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และถือคติที่ว่า "ข้าสองเจ้าบ่าวสองนายมิดี" จึงขอให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกสำเร็จโทษตนเป็นการถวายชีวิตตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งทายาทของพระยาพิชัยดาบหัก ก็ได้รับราชการสืบมา โดยท่านเป็นต้นตระกูลของนามสกุล วิชัยขัทคะ วิชัยลักขณา ศรีศรากร พิชัยกุล ศิริปาละ ดิฐานนท์ เชาวนปรีชา

หลังจากท่านได้ถูกสำเร็จโทษ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเฉลิมพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงได้มีรับสั่งให้สร้างพระปรางค์นำอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ ณ วัดราชคฤห์วรวิหาร ซึ่งพระปรางค์นี้ก็ยังปรากฏสืบมาจนปัจจุบัน[ต้องการอ้างอิง]

พระยาพิชัยดาบหักได้สร้างมรดกอันควรแก่การยกย่องสรรเสริญให้สืบทอดมาถึงปัจจุบันได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดกล้าหาญ รวมถึงความรักชาติ ต้องการให้ชาติเจริญรุ่งเรืองมั่นคงต่อไป[ต้องการอ้างอิง]

อนุสรณ์

พระยาพิชัยดาบหัก นับเป็นวีรชนของชาติ ผู้ร่วมกู้เอกราชของชาติไทยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองและเป็นชาวอุตรดิตถ์ ดังนั้นจึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถาน รวมถึงการนำนามของท่านไปใช้ตั้งชื่อสถานที่ราชการสำคัญเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของท่านขึ้น ตัวอย่างของอนุสรณ์สถานและสถานที่เหล่านี้ เช่น

อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
 
พิธีสมโภชอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก‬ ใน พ.ศ. 2513

เพื่อระลึกถึงเกียรติในเรื่องความองอาจ กล้าหาญ รักชาติ และเสียสละของท่าน ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์จึงได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักแห่งแรก เพื่อประดิษฐานหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2513 ซึ่งต่อมาอนุสาวรีย์ดังกล่าวได้เป็นภาพจำตัวแทนบุคคลของพระยาพิชัยในวัฒนธรรมร่วมสมัย

 
ภาพพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก ในพิธีปลุกเศกเหรียญพระยาพิชัยดาบหัก‬ ณ ปรำพิธีหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2513

โดยอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เกิดขึ้นจากความต้องการของประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์มาช้านาน ต่อมาในสมัยนายเวทย์ นิจถาวร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มีพ่อค้า ประชาชน ร่วมกันบริจาคทรัพย์เป็นทุนก่อสร้าง โดยไม่มีงบประมาณแผ่นดินของทางหน่วยงานราชการมาเกี่ยวข้อง ทุนทรัพย์ทั้งหมดเกิดจากกำลังศรัทธาของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีพิธีอัญเชิญโกศดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก (แทนอัฐิ) ตามโบราณประเพณี เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2510 มีพิธีวางแผ่นศิลาฤกษ์แท่นฐานอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2511 โดยมี นายถวิล สุนทรศารทูล ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธี

สำหรับองค์พระยาพิชัยดาบหักนั้น ปั้นโดยกรมศิลปากร โดยมีอาจารย์สนั่น ศิลากร เป็นประติมากร และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จได้มีพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีนายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี

 
นายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก ณ ปรำพิธีหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2513

ในระหว่างวันที่ 7 - 13 มกราคม ของทุกปี จังหวัดอุตรดิตถ์ได้กำหนดให้มีการจัดงานเพื่อระลึกถึงวีรกรรมของท่าน ถือเป็นงานประจำปีของจังหวัดอุตรดิตถ์ เรียกชื่องานว่า "งานพระยาพิชัยดาบหักและงานกาชาด" โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ถือเอาวันที่ 7 มกราคม ของทุกปี เป็นวันเปิดงานพระยาพิชัยดาบหักฯ โดยอ้างอิงตามพระราชพงศาวดาร ที่ระบุวันซึ่งพระยาพิชัยออกสู้รบกับกองทัพโปสุพลาจนดาบหักสองท่อนตามปฏิทินสุริยคติ

อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ พิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก อ.พิชัย

ในปี พ.ศ. 2545 ประชาชนได้ร่วมใจกันจัดสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ปางนั่งครองเมือง ประดิษฐานด้านหน้าสถูปทรงปรางค์ ณ พิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก แห่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอำเภอพิชัย ในหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 บ้านห้วยคา ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อรำลึกถึงเมื่อครั้งที่ท่านได้เป็นผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัยในสมัยธนบุรี นอกจากนี้ในวันที่ 7 เมษายน หน่วยงานราชการพร้อมทั้งประชาชนชาวพิชัยจะมีการจัดพิธีสักการะบวงสรวงดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก เป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อรำลึกถึงวันที่พระยาพิชัยดาบหักถูกประหารชีวิตเมื่อครั้งสิ้นแผ่นดินพระเจ้าตากสินมหาราชอีกด้วย

อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี อ.เมืองอุตรดิตถ์
 
อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักสูงที่สุดในประเทศไทย ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี จ.อุตรดิตถ์

เพื่อระลึกถึงวีรกรรมและความกล้าหาญของท่าน ที่ได้เคยร่วมรบเคียงคู่พระวรกายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักแกะสลักจากไม้ตะเคียนโบราณองค์แรก ประดิษฐานบริเวณหน้าวัดคุ้งตะเภาหันหน้าสู่ทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี เพื่อรำลึกถึงอดีตเมืองสวางคบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายซึ่งเคยเป็นพื้นที่ ๆ ท่านได้มาฝึกมวยกับครูเมฆแห่งบ้านท่าเสา-คุ้งตะเภา ในวัยเด็ก และเป็นพื้นที่เกิดวีรกรรมการปรามชุมนุมเจ้าพระฝางแห่งเมืองสวางคบุรี เป็นชุมนุมสุดท้ายในสมัยธนบุรี รวมถึงยังเป็นสถานที่ท่านได้รับเลื่อนยศเป็นพระยาพิชัยผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย รับพระราชทานเครื่องยศเสมอเจ้าพระยาสุรสีห์ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในพระราชพงศาวดาร

 
ฯพณฯ ศาสตราจารย์ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี

โดยอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี เกิดขึ้นจากความต้องการของประชาชนและผู้เคารพศรัทธาในความกล้าหาญของท่านมาช้านาน ต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้พร้อมใจกันจัดพิธีเชิญดวงวิญญาณพระยาพิชัยดาบหัก (แทนอัฐิ) ตามโบราณประเพณี และมีพิธีวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์ฯ โดยมี ฯพณฯ ศาสตราจารย์ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ ต่อมาประชาชนได้นำไม้โบราณมาแกะสลักเป็นอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักจากไม้ตะเคียนองค์แรกขนาดเท่าครึ่งเพื่อประดิษฐานในบริเวณดังกล่าวให้ประชาชนผู้เคารพศรัทธาได้ระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญเสียสละของท่าน ในปี พ.ศ. 2561 และเททองหล่อประดิษฐานในปี พ.ศ. 2563 ในวาระครบรอบ 250 ปี ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเลื่อนยศให้ท่านเป็นพระยาพิชัยครองเมืองพิชัยบ้านเกิด

ศาลพระยาพิชัยดาบหัก ณ เมืองพิชัย

ในอำเภอพิชัยซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระยาพิชัยดาบหักในสมัยอยุธยาตอนปลาย และเป็นเมืองที่ท่านเคยผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัยในสมัยธนบุรี ประชาชนชาวอำเภอพิชัยต่างยังคงมีความเคารพศรัทธาในวีรกรรมและความกล้าหาญของท่านเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการสร้างศาลเพื่อระลึกถึงพ่อพระยาพิชัยดาบหักในสถานที่ต่าง ๆ

อย่างไรก็ดีศาลที่มีความเก่าแก่และสำคัญกับชาวพิชัยมายาวนานมี 2 แห่ง คือ ศาลท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก ณ วงเวียนหลังสถานีรถไฟพิชัย อำเภอพิชัย สร้างเป็นมณฑปจตุรมุขเปิดโล่งทั้งสี่ด้าน และศาลท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก ณ หน้าวัดมหาธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย ทั้งสองแห่งมีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือของชาวพิชัยมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างมาก่อนปี พ.ศ. 2513

พิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์พระยาพิชัย ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
 
พิพิธภัณฑ์อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์

ในบริเวณด้านข้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ มีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระยาพิชัย โดยงบประมาณภาครัฐบางส่วน และบางส่วนจากจิตศรัทธาของประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ. 2539 ด้านซ้ายของอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก สร้างอาคาร "พิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก" โดยจัดสร้างและแสดงดาบเหล็กน้ำพี้ขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนัก 557.8 กิโลกรัม ฝักดาบทำด้วยไม้ประดู่ ฝังลวดลายมุกหุ้มปลอกเงินสลักลาย และด้านขวาของอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก สร้างอาคาร "พิพิธภัณฑ์พระยาพิชัย" ภายในเก็บรวบรวมประวัติของพระยาพิชัยดาบหัก รวมทั้งแบบจำลองสนามรบ และวิถีชีวิตผู้คนเมืองอุตรดิตถ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยโบราณ โดยสถาปัตยกรรมภายนอกนั้นเป็นแบบทรงไทยประยุกต์ โดยมีจุดเด่นที่กรอบซุ้มประตูทางเข้านำมารูปแบบมาจากวิหารวัดดอนสัก อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นวิหารเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

พิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก อ.พิชัย

แม้ในตำนานประวัติของพระยาพิชัยดาบหัก จะระบุบ้านเกิดของท่านว่าอยู่ที่บ้านห้วยคา เมืองพิชัย แต่ก็ไม่เหลือร่องรอยตำแหน่งบ้านเกิดของท่านแล้วในปัจจุบัน ทำให้ต่อมาเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 หน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่เคารพศรัทธาในวีรกรรมของท่าน จึงได้พร้อมใจกันสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก ในเนื้อที่สาธารณประโยชน์ ประมาณ 326 ไร่ บนพื้นที่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 บ้านห้วยคา ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ภายในพื้นที่จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นเรือนทรงไทย มีการจัดแสดงชีวประวัติพระยาพิชัยดาบหักและมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น และมีการจัดสร้างสถูปทรงปรางค์ที่จำลองจากพระปรางค์ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานอัฐิของท่านในวัดราชคฤห์ กรุงเทพมหานคร

แม้ปัจจุบัน จะมีการอัญเชิญเถ้าอัฐิของท่านจากวัดราชคฤห์กลับบ้านเกิดท่านที่อุตรดิตถ์แล้ว แต่เป็นการอัญเชิญทางพิธีนามเท่านั้น ด้วยว่าเจดีย์ที่บรรจุเถ้าอัฐิ ทางวัดราชคฤห์ไม่อนุญาตให้ขุดค้น

นามสถานที่

  • โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
  • ม.พัน.7 ค่ายพิชัยดาบหัก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์

ในวัฒนธรรมร่วมสมัย

อ้างอิง

  1. สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย. (2512). ที่ระลึกพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ หน้าศาลากลาง จังหวัดอุตรดิตถ์ 20 กุมภาพันธ์ 2512. พระนคร : โรงพิมพ์มงคลการพิมพ์. หน้า 3
  2. ทรงพล นาคเอี่ยม. (2550). การเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายในเชิงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวไทย : กรณีศึกษามวยไทยสายพระยาพิชัยดาบหัก. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (พลศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  3. รับตำแหน่งหลวงพิชัยอาสา - Watrajkrueh::วัดราชคฤห์
  4. หมื่นหาญณรงค์ นักรบคู่ใจ - Watrajkrueh::วัดราชคฤห์
  5. พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2548, หน้า 230
  6. oknation. (2563). ๗ เมษายน ๒๓๒๕ ● ประหารชีวิต .."พระยาพิชัยดาบหัก ..!!"'. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://oknation.nationtv.tv/blog/wut2013/2020/04/07/entry-3
  7. กระทรวงมหาดไทย. (2513). หนังสือที่ระลึกพิธีปลุกเศกเหรียญพระยาพิชัยดาบหัก‬ ณ ปรำพิธีหน้าศาลากลาง จังหวัดอุตรดิตถ์ 31 มกราคม 2513. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.)
  8. คมชัดลึก. (2561). ลูกหลานชาวพิชัยสำนึกรักษ์ ถิ่นกำเนิด'พระยาพิชัยดาบหัก'. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.komchadluek.net/news/regional/320159
  9. ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2558). สวางคบุรีศรีคุ้งตะเภา : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกับสมรภูมิสวางคบุรี-คุ้งตะเภา อนุสรณ์ ๒๔๕ ปี แห่งการสถาปนาวัดคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์ : สำนักงานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กระทรวงวัฒนธรรม. ISBN 978-616-543-334-1
  10. สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3. (2561). อุตรดิตถ์-นำต้นตะเคียนแกะสลักเป็นรูปพระยาพิชัยยืนถือดาบคู่ใจ. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://news.ch3thailand.com/local/63924
  11. คมชัดลึก. (2561). ลูกหลานชาวพิชัยสำนึกรักษ์ ถิ่นกำเนิด'พระยาพิชัยดาบหัก'. [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.komchadluek.net/news/regional/320159
  12. ชมลีลาแอกชันสุดซี้ด! ของ "บัวขาว" จากหนัง "นายทองดีฟันขาว"

ดูเพิ่ม

หนังสืออ่านเพิ่มเติม

  • พระยาศรีสัชนาลัยบดี. (2511). ประวัติพระยาพิชัยดาบหัก เรียบเรียงโดย พระยาศรีสัชนาลัยบดี อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระณรงค์ฤทธี (ชาย ดิฐานนท์). พระนคร : โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น
  • ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2558). สวางคบุรีศรีคุ้งตะเภา : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกับสมรภูมิสวางคบุรี-คุ้งตะเภา อนุสรณ์ ๒๔๕ ปี แห่งการสถาปนาวัดคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์ : สำนักงานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กระทรวงวัฒนธรรม. ISBN 978-616-543-334-1
  • ศิริวรรณ คุ้มโห้. "พระยาพิชัยดาบหัก." บุคคลสำคัญของชาติ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : เดอะบุ๊คส์, [ม.ป.ป.]. หน้า 43-46. ISBN 978-974-394-229-7

แหล่งข้อมูลอื่น

  •   วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระยาพิชัยดาบหัก
  • ขำฉา, วิลาวัลย์ (2550). "รายการฐานข้อมูลท้องถิ่น เรื่อง พระยาพิชัยดาบหัก. อุตรดิตถ์:รายงานวิชาเอก บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ ปี 4" (PDF). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. Check date values in: |date= (help)

พระยาพ, ยดาบห, เป, นข, นนางในสม, ยอย, ธยาตอนปลายและธนบ, ปรากฏช, อในพระราชพงศาวดารเน, องจากเป, นทหารเอกค, พระท, ยของสมเด, จพระเจ, ากร, งธนบ, และเป, นผ, วนกอบก, เอกราชของชาต, ไทยหล, งการเส, ยกร, งศร, อย, ธยาคร, งท, สอง, อเส, ยงอย, างย, งจากความกต, ญญ, กตเวท, และ. phrayaphichydabhk epnkhunnanginsmyxyuthyatxnplayaelathnburi praktchuxinphrarachphngsawdarenuxngcakepnthharexkkhuphrathykhxngsmedcphraecakrungthnburi aelaepnphumiswnkxbkuexkrachkhxngchatiithyhlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng michuxesiyngxyangyingcakkhwamktyyuktewthiaelakhwamklahay 1 phrayaphichydabhk thxngdi khunnangchnphrayaphanthxnginsmythnburixnusawriyphrayaphichydabhkhnasalaklangcnghwdxutrditthchuxxun cxy naythxngdifnkhawchati ithyxachiph khunnangfaythharinsmedcphraecakrungthnburi ecaemuxngphichysmy ph s 2310 ph s 2325ngansakhy khunsuksakhykhxngsmedcphraecakrungthnburiinkarrwmkxbkuexkrachhlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng ph s 2310 2313 ecaemuxngphichy ph s 2313 2325 xxksurbkbkxngthphopsuphlacndabhkepnsxngthxn ph s 2316 slachiwittnexngepnrachphli ph s 2325 khxmulswntwekid ph s 2284banhwykha emuxngphichy krungsrixyuthyaesiychiwit 7 emsayn ph s 2325emuxngthnburi xanackrrtnoksinthr smysmburnayasiththirachy bida impraktnammarda impraktnamhmwdhmu khunnanginsmykrungthnburiedimthanchux cxy ekidthibanhwykha xaephxphichy cnghwdxutrditth insmyplaykrungsrixyuthya suksaxyukbthanphrakhruwdmhathatuhruxwdihy emuxngphichy phayhlng cxyidepliynchuxihmepnthxngdi hrux thxngdifnkhaw mikhwamsamarthaelachuxesiyngxyangyingthngthangechingmwyaelaechingdab cnidekharbrachkarkbsmedcphraecakrungthnburi tngaetkhrngdarngtaaehnngepnphrayatak txmanaythxngdiidrbaetngtngepnxngkhrksmibrrdaskdiepn hlwngphichyxasa emuxrbrachkarmikhwamdikhwamchxbcungidrbaetngtngepn ecahmuniwywrnath phrayasihrachedoch aelaphrayaphichy phusaercrachkarkhrxngemuxngphichy sungrbphrarachthanekhruxngysesmxecaphrayasursih tamladbphayhlngkhasukykthphmatiemuxngphichy 2 khrng inkarrbkhrngthi 2 phrayaphichythuxdabsxngmuxxxktxsucndabhkipkhanghnung aelarksaemuxngiwid dngnncungidrbsmyanamwa phrayaphichydabhk enuxha 1 prawti 1 1 wyeyaw 1 2 chuxesiyng 1 3 rbrachkar 1 4 thwaychiwitepnrachphli 2 xnusrn 2 1 phiphithphnth 2 2 namsthanthi 3 inwthnthrrmrwmsmy 4 xangxing 5 duephim 6 hnngsuxxanephimetim 7 aehlngkhxmulxunprawti aekikhwyeyaw aekikh phrayaphichydabhk edimchux cxy ekidinpi ph s 2284 thibanhwykha emuxngphichy cnghwdxutrditth miphinxng 4 khn aetesiychiwitip 3 khn edkchaycxyminisychxbchkmwymatngaeteyawwy bidaidphrasxnesmx thacachkmwyihekngtxngkhyneriynhnngsuxdwy emuxxayuid 14 pi bidanaipfakkbthanphrakhruwdmhathatu emuxngphichy cxysamarthxanxxkekhiynidcnaetkchanaelasxmmwyipdwytxmaecaemuxngphichyidnabutr chuxechid mafakthiwdephuxraeriynwicha echidkbphwkmkhathangthaelaawiwathkbcxyesmx ekhacungtdsinichnixxkcakwdkhunipthangehnuxodymiidbxkphxaemaelaxacary edintamlanananiperuxy emuxehnuxykhyudphktamwd thiwdbanaekng cxy idphbkbkhrufukmwykhnhnungchux ethiyng cungfaktwepnsisyaelwepliynchuxihmepnthxngdi khruethiyngrknaythxngdimakaelamkeriyknaythxngdiwanaythxngdi fnkhaw enuxngcakthanimekhiywhmakphludngkhnsmynn dwykhwamsuphapheriybrxy aelakhynkhnaekhngexaiciskarfukmwychwykarnganbankhruethiyngdwydiesmxma thaihlukhlankhruethiyngxicchanaythxngdimak cnhathangklnaeklngtang nana naythxngdi fnkhaw ehnwaxyubanaekngtxipkhnglabak prakxbkhruethiyngkthaythxdwichamwyihcbhmdsinaelwcungkrablakhrukhunehnuxtxip txngkarxangxing chuxesiyng aekikh emuxedinthungbangophidekhaphkthiwdwngetahmx pccubnkhuxwdthathnn phxdikbmikaraesdngngiw cungxyuduxyuecdwnecdkhun naythxngdi fnkhaw snicngiwaesdng thathanghkkhaemn cungcdcaipfukhdcncdcathangiwidthnghmdsamarthkraoddkhamsirsakhnyunidxyangsbay caknnklaphrasngkhwdwngetahmxkhunipthaesa khxsmkhrepnluksisykhruemkhsungmichuxesiynginkarsxnmwy khruemkhrknisyickhxcungthaythxdwichakarchkmwyihcnhmdsin 2 khnannnaythxngdi fnkhaw xayuid 18 pi txmaidmioxkaschkmwyinnganihwphraaethnsilaxasn kbnaythuk sisyexkkhxngkhrunil naythukimsamarthpxngknid thuketaslbipnanpraman 10 nathi khrunilxbxaymakcungthakhruemkhchkkn naythxngdi fnkhaw idkrabxxnwxnkhxrxng khxchkaethnkhruemkhaelaidtluyetatxycnkhrunilfnhludthung 4 si eluxdetmpakslbxyuepnewlanan chuxesiyngnaythxngdi fnkhaw krachxnipthwemuxngthungyng lbael phichy aelaemuxngfang naythxngdixyukbkhruemkhpraman 2 pi kkhxlaipsuksakarfndabthiemuxngswrrkholk dwykhwamchladmiihwphrib ekhaichewlaephiyng 3 eduxn keriynfndabsaercepnthiphiswngtxkhruphusxnyingnk hlngcaknnkipethiywemuxngsuokhthyaelaemuxngtakrahwangthangidrbsisyiw 1 khn chuxbuyekid hmunhaynrngkh 3 4 odyemuxkhrngthibuyekidthukesuxkhabipnn thxngdiidchwybuyekidiwodykaraethngmidthipakesux cnepnthiraluxipthw txngkarxangxing rbrachkar aekikh phaphekhiynphrayaphichytxsukbphmaemuxkhrngsukopsuphlaykthphmatiemuxngphichycndabhk emuxthanedinthangthungemuxngtak khnannidmiphithithuxnaphiphthnstyathiwdihyecaemuxngtak smedcphraecakrungthnburicdihmimwychlxngdwy naythxngdi fnkhaw diicmakekhaipepriybmwykbkhruhawsungepnkhrumwymuxdikhxngecaemuxngtakaelamixiththiphlmak naythxngdi fnkhaw ichkhwamwxngiwichhmdsxkaelaetakhakrrikrcnkhruhawslbip ecaemuxngtakcungthamwasamarthchknkmwyxunxikidhruxim naythxngdi fnkhaw bxkwasamarthchkidxik ecaemuxngtakcungihchkkbkhruhmukkhrumwyrangsungihy phiwda naythxngdi etasayetakhwa briewnkhakrrikr cnkhruhmuklmlngslbip txngkarxangxing ecaemuxngtakphxicmakihengin 3 talung aelachkchwnihxyudwy naythxngdi fnkhaw cungidthwaytwepnthharkhxngecaemuxngtak smedcphraecakrungthnburi tngaetbdnn epnthioprdpranmakaelaidrbysepn hlwngphichyxasa emuxecaemuxngtakidrbphrarachthanoprdekla ihepnphrayawchirprakar khrxngemuxngkaaephngephchr hlwngphichyxasaidtidtamiprbichxyangiklchidaelaepnewlaediywthiphmaykthphlxm krungsrixyuthya txngkarxangxing phrayawchirprakarphrxmdwyhlwngphichyxasa aelathharekhasurbkbthphphmahlaykhrawcnidrbchychna idchangmaxaharphxsmkhwr smedcphraecakrungthnburiidrbkartxnrbcakprachachnaelaykyxngkhunepnphuna emuxkxbkuexkrachidaelw smedcphraecakrungthnburikhunepnkstriypkkhrxngkrungthnburiaelaidoprdekla ihhlwngphichyxasa epnecahmuniwywrnath epnthharexkrachxngkhrksinphraxngkh txngkarxangxing inpi ph s 2311 phmaidykthphmaxik 1 hmunkhn smedcphraecakrungthnburiphrxmdwyhmuniwywrnathidekhaocmticnaetkphay aelaidmikarsurbprabkktang xikhlaykhraw emuxsmedcphraecakrungthnburiesdcklbkrungthnburi oprdtngecahmuniwywrnathepn phrayasihrachedoch mitaaehnngepnnaythharexkrachxngkhrkstamedim sudthayemuxprabchumnumecaphrafangidaelw smedcphraecakrungthnburiidthrngpunbaehnckhwamchxbihthharkhxngphraxngkhodythwhna swnphrayasihrachedoch cxy hrux thxngdi fnkhaw nn idoprdekla baehnckhwamchxbihepnphrayaphichypkkhrxngemuxngphichyxnepnbanekidemuxngnxnaeteyawwy txngkarxangxing inpi ph s 2313 2316 idekidkarsurbkbkxngthphphmaxikhlaykhraw phxsinvdufnpimaesng ph s 2316 opsuphlaykkxngthphmatiemuxngphichy sukkhrngniphrayaphichycbdabsxngmuxkhadday xxkilfnaethngphmaxyangchulmun n smrphumibriewn wdexka cnemuxphrayaphichyesiykarthrngtw kidichdabkhangkhwaphyungtwiw cndabkhangkhwahkepnsxngthxn kxngthphopsuphlakaetkphayklbip emuxwnxngkhar eduxnyi aerm 7 kha pimaesng ph s 2316 trngkbwnthi 7 mkrakhm ph s 2316 txngkarxangxing thwaychiwitepnrachphli aekikh phraprangkhwdrachkhvhwrwihar sthanthibrrcuxthikhxngphrayaphichydabhk emuxpi ph s 2325 hlngcaksmedcphraecataksinmharachthuksaercoths 5 smedcecaphrayamhakstriysukelngehnwaphrayaphichyepnkhunnangkhuphrathysmedcphraecakrungthnburithimifimuxaelasuxsty cungchwnphrayaphichyekharbrachkarinaephndinihm aetphrayaphichyimkhxrbtaaehnngdwythanepnkhncngrkphkdiaelasuxstytxxngkhsmedcphraecataksinmharach aelathuxkhtithiwa khasxngecabawsxngnaymidi cungkhxihsmedcecaphrayamhakstriysuksaercothstnepnkarthwaychiwittaytamsmedcphraecataksinmharach txngkarxangxing sungthayathkhxngphrayaphichydabhk kidrbrachkarsubma odythanepntntrakulkhxngnamskul wichykhthkha wichylkkhna srisrakr phichykul siripala dithannth echawnpricha 6 hlngcakthanidthuksaercoths smedcecaphrayamhakstriysukidprabdaphieskepnpthmkstriyaehngrachwngsckriechlimphranamwaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phraxngkhcungidmirbsngihsrangphraprangkhnaxthikhxngthanipbrrcuiw n wdrachkhvhwrwihar sungphraprangkhnikyngpraktsubmacnpccubn txngkarxangxing phrayaphichydabhkidsrangmrdkxnkhwraekkarykyxngsrresriyihsubthxdmathungpccubnidaek khwamsuxstysucrit khwamktyyuktewthi khwameddediywechiybkhadklahay rwmthungkhwamrkchati txngkarihchatiecriyrungeruxngmnkhngtxip txngkarxangxing xnusrn aekikhphrayaphichydabhk nbepnwirchnkhxngchati phurwmkuexkrachkhxngchatiithyinsmyesiykrungsrixyuthyakhrngthisxngaelaepnchawxutrditth dngnncungidmikarsrangxnusrnsthan rwmthungkarnanamkhxngthanipichtngchuxsthanthirachkarsakhyephuxralukthungwirkrrmkhxngthankhun twxyangkhxngxnusrnsthanaelasthanthiehlani echn xnusawriyphrayaphichydabhk n salaklangcnghwdxutrditth phithismophchxnusawriyphrayaphichydabhk in ph s 2513 ephuxralukthungekiyrtiineruxngkhwamxngxac klahay rkchati aelaesiyslakhxngthan chawcnghwdxutrditthcungidphrxmicknsrangxnusawriyphrayaphichydabhkaehngaerk ephuxpradisthanhnasalaklangcnghwdxutrditth aelwesrcinpi ph s 2513 sungtxmaxnusawriydngklawidepnphaphcatwaethnbukhkhlkhxngphrayaphichyinwthnthrrmrwmsmy phaphphithixyechiydwngwiyyanphrayaphichydabhk inphithiplukeskehriyyphrayaphichydabhk n praphithihnasalaklangcnghwdxutrditth ph s 2513 odyxnusawriyphrayaphichydabhk hnasalaklangcnghwdxutrditth ekidkhuncakkhwamtxngkarkhxngprachachnchawcnghwdxutrditthmachanan txmainsmynayewthy nicthawr epnphuwarachkarcnghwd miphxkha prachachn rwmknbricakhthrphyepnthunkxsrang odyimmingbpramanaephndinkhxngthanghnwynganrachkarmaekiywkhxng thunthrphythnghmdekidcakkalngsrththakhxngchawcnghwdxutrditth odymiphithixyechiyoksdwngwiyyanphrayaphichydabhk aethnxthi tamobranpraephni emuxwnthi 10 mkrakhm ph s 2510 miphithiwangaephnsilavksaethnthanxnusawriyphrayaphichydabhk emuxwnthi 8 singhakhm ph s 2511 odymi naythwil sunthrsarthul pldkrathrwngmhadithy epnprathanphithisahrbxngkhphrayaphichydabhknn pnodykrmsilpakr odymixacarysnn silakr epnpratimakr aelaemuxdaeninkaraelwesrcidmiphithiepidxnusawriyphrayaphichydabhk emuxwnthi 20 kumphaphnth ph s 2512 n briewnhnasalaklangcnghwdxutrditth odyminayphwng suwrrnrth pldkrathrwngmhadithy epnprathaninphithi 7 nayphwng suwrrnrth pldkrathrwngmhadithy epnprathaninphithixyechiydwngwiyyanphrayaphichydabhk n praphithihnasalaklangcnghwdxutrditth ph s 2513 inrahwangwnthi 7 13 mkrakhm khxngthukpi cnghwdxutrditthidkahndihmikarcdnganephuxralukthungwirkrrmkhxngthan thuxepnnganpracapikhxngcnghwdxutrditth eriykchuxnganwa nganphrayaphichydabhkaelangankachad odycnghwdxutrditth idthuxexawnthi 7 mkrakhm khxngthukpi epnwnepidnganphrayaphichydabhk odyxangxingtamphrarachphngsawdar thirabuwnsungphrayaphichyxxksurbkbkxngthphopsuphlacndabhksxngthxntamptithinsuriykhti xnusawriyphrayaphichydabhk n phiphithphnthbanekidphrayaphichydabhk x phichyinpi ph s 2545 prachachnidrwmickncdsrangxnusawriyphrayaphichydabhk pangnngkhrxngemuxng pradisthandanhnasthupthrngprangkh n phiphithphnthbanekidphrayaphichydabhk aehngeriynruprawtisastrkhxngxaephxphichy inhmuthi 4 aelahmuthi 6 banhwykha tablinemuxng xaephxphichy cnghwdxutrditth ephuxralukthungemuxkhrngthithanidepnphusaercrachkarkhrxngemuxngphichyinsmythnburi nxkcakniinwnthi 7 emsayn hnwynganrachkarphrxmthngprachachnchawphichycamikarcdphithiskkarabwngsrwngdwngwiyyanphrayaphichydabhk epnpracathuk pi ephuxralukthungwnthiphrayaphichydabhkthukpraharchiwitemuxkhrngsinaephndinphraecataksinmharachxikdwy 8 xnusawriyphrayaphichydabhk n hwthungsmrphumiswangkhburi x emuxngxutrditth xnusawriyphrayaphichydabhksungthisudinpraethsithy n hwthungsmrphumiswangkhburi c xutrditth ephuxralukthungwirkrrmaelakhwamklahaykhxngthan thiidekhyrwmrbekhiyngkhuphrawrkaysmedcphraecataksinmharach chawcnghwdxutrditthidphrxmicknsrangxnusawriyphrayaphichydabhkaekaslkcakimtaekhiynobranxngkhaerk pradisthanbriewnhnawdkhungtaephahnhnasuthungsmrphumiswangkhburi ephuxralukthungxditemuxngswangkhburiinsmykrungsrixyuthyatxnplaysungekhyepnphunthi thanidmafukmwykbkhruemkhaehngbanthaesa khungtaepha inwyedk aelaepnphunthiekidwirkrrmkarpramchumnumecaphrafangaehngemuxngswangkhburi epnchumnumsudthayinsmythnburi rwmthungyngepnsthanthithanidrbeluxnysepnphrayaphichyphusaercrachkarkhrxngemuxngphichy rbphrarachthanekhruxngysesmxecaphrayasursih tamhlkthanthangprawtisastrinphrarachphngsawdar 9 phn sastracary nph eksm wthnchy xngkhmntri epnprathaninphithibwngsrwngwangsilavksxnusawriyphrayaphichydabhk n hwthungsmrphumiswangkhburi odyxnusawriyphrayaphichydabhk n hwthungsmrphumiswangkhburi ekidkhuncakkhwamtxngkarkhxngprachachnaelaphuekharphsrththainkhwamklahaykhxngthanmachanan txmainwnthi 12 phvscikayn ph s 2559 prachachnchawcnghwdxutrditthidphrxmickncdphithiechiydwngwiyyanphrayaphichydabhk aethnxthi tamobranpraephni aelamiphithiwangsilavksxnusawriy odymi phn sastracary nph eksm wthnchy xngkhmntri epnprathaninphithiwangsilavks txmaprachachnidnaimobranmaaekaslkepnxnusawriyphrayaphichydabhkcakimtaekhiynxngkhaerkkhnadethakhrungephuxpradisthaninbriewndngklawihprachachnphuekharphsrththaidralukthungwirkrrmkhwamklahayesiyslakhxngthan inpi ph s 2561 10 aelaeththxnghlxpradisthaninpi ph s 2563 inwarakhrbrxb 250 pi thismedcphraecataksinmharachthrngeluxnysihthanepnphrayaphichykhrxngemuxngphichybanekid salphrayaphichydabhk n emuxngphichyinxaephxphichysungepnbanekidkhxngphrayaphichydabhkinsmyxyuthyatxnplay aelaepnemuxngthithanekhyphusaercrachkarkhrxngemuxngphichyinsmythnburi prachachnchawxaephxphichytangyngkhngmikhwamekharphsrththainwirkrrmaelakhwamklahaykhxngthanepnxyangying cungidmikarsrangsalephuxralukthungphxphrayaphichydabhkinsthanthitang xyangirkdisalthimikhwamekaaekaelasakhykbchawphichymayawnanmi 2 aehng khux salthanphxphrayaphichydabhk n wngewiynhlngsthanirthifphichy xaephxphichy srangepnmnthpcturmukhepidolngthngsidan aelasalthanphxphrayaphichydabhk n hnawdmhathatu tablinemuxng xaephxphichy thngsxngaehngmikhwamekaaekaelaepnthiekharphnbthuxkhxngchawphichymachanan snnisthanwasrangmakxnpi ph s 2513 phiphithphnth aekikh phiphithphnthphrayaphichy salaklangcnghwdxutrditth phiphithphnthxnusawriyphrayaphichydabhk hnasalaklangcnghwdxutrditth inbriewndankhangxnusawriyphrayaphichydabhk n salaklangcnghwdxutrditth mikarcdsrangphiphithphnthphrayaphichy odyngbpramanphakhrthbangswn aelabangswncakcitsrththakhxngprachachncnghwdxutrditth inpi ph s 2539 dansaykhxngxnusawriyphrayaphichydabhk srangxakhar phiphithphnthdabehlknaphiihythisudinolk odycdsrangaelaaesdngdabehlknaphikhnadihy thiminahnk 557 8 kiolkrm fkdabthadwyimpradu fnglwdlaymukhumplxkenginslklay aeladankhwakhxngxnusawriyphrayaphichydabhk srangxakhar phiphithphnthphrayaphichy phayinekbrwbrwmprawtikhxngphrayaphichydabhk rwmthngaebbcalxngsnamrb aelawithichiwitphukhnemuxngxutrditthinsmyxyuthyatxnplay rwmthngekhruxngmuxekhruxngichinsmyobran odysthaptykrrmphaynxknnepnaebbthrngithyprayukt odymicudednthikrxbsumpratuthangekhanamarupaebbmacakwiharwddxnsk xaephxlbael cnghwdxutrditth sungepnwiharekaaekinsmykrungsrixyuthyatxnplay phiphithphnthbanekidphrayaphichydabhk x phichyaemintananprawtikhxngphrayaphichydabhk carabubanekidkhxngthanwaxyuthibanhwykha emuxngphichy aetkimehluxrxngrxytaaehnngbanekidkhxngthanaelwinpccubn thaihtxmaemux 10 krkdakhm ph s 2545 hnwynganphakhrthaelaprachachnthiekharphsrththainwirkrrmkhxngthan cungidphrxmicknsrangphiphithphnthbanekidphrayaphichydabhk inenuxthisatharnpraoychn praman 326 ir bnphunthi hmuthi 4 aelahmuthi 6 banhwykha tablinemuxng xaephxphichy cnghwdxutrditth ephuxihepnsthanthithxngethiywechingprawtisastr phayinphunthicdsrangxakharphiphithphnthepneruxnthrngithy mikarcdaesdngchiwprawtiphrayaphichydabhkaelamrdkthangwthnthrrmkhxngthxngthin aelamikarcdsrangsthupthrngprangkhthicalxngcakphraprangkhsungepnsthanthipradisthanxthikhxngthaninwdrachkhvh krungethphmhankhr 11 aempccubn camikarxyechiyethaxthikhxngthancakwdrachkhvhklbbanekidthanthixutrditthaelw aetepnkarxyechiythangphithinamethann dwywaecdiythibrrcuethaxthi thangwdrachkhvhimxnuyatihkhudkhn namsthanthi aekikh orngphyabalkhayphichydabhk xaephxemuxng cnghwdxutrditth m phn 7 khayphichydabhk xaephxemuxng cnghwdxutrditthinwthnthrrmrwmsmy aekikhsomsrfutbxlcnghwdxutrditth misylksnepnrupphrayaphichydabhk aelamichayawa dabhkphikhat ph s 2560 bwkhaw bychaemkh rbbthepnphrayaphichydabhkinphaphyntrithyeruxng thxngdifnkhaw 12 xangxing aekikh sanknganpldkrathrwngmhadithy 2512 thiralukphithiepidxnusawriyphrayaphichydabhk n hnasalaklang cnghwdxutrditth 20 kumphaphnth 2512 phrankhr orngphimphmngkhlkarphimph hna 3 thrngphl nakhexiym 2550 karepliynaeplngkhxngkhwamhlakhlayinechingsilpakartxsupxngkntwithy krnisuksamwyithysayphrayaphichydabhk priyyaniphnth ks m phlsuksa krungethph bnthitwithyaly mhawithyalysrinkhrinthrwiorth rbtaaehnnghlwngphichyxasa Watrajkrueh wdrachkhvh hmunhaynrngkh nkrbkhuic Watrajkrueh wdrachkhvh phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2548 hna 230 oknation 2563 7 emsayn 2325 praharchiwit phrayaphichydabhk xxn iln aehlngthima http oknation nationtv tv blog wut2013 2020 04 07 entry 3 krathrwngmhadithy 2513 hnngsuxthiralukphithiplukeskehriyyphrayaphichydabhk n praphithihnasalaklang cnghwdxutrditth 31 mkrakhm 2513 krungethph m p th khmchdluk 2561 lukhlanchawphichysanukrks thinkaenid phrayaphichydabhk xxn iln aehlngthima http www komchadluek net news regional 320159 thirawthn aesnkha 2558 swangkhburisrikhungtaepha smedcphraecataksinmharachkbsmrphumiswangkhburi khungtaepha xnusrn 245 pi aehngkarsthapnawdkhungtaepha xutrditth sankngansphawthnthrrmcnghwdxutrditth krathrwngwthnthrrm ISBN 978 616 543 334 1 sthaniwithyuothrthsnithythiwisichxng 3 2561 xutrditth natntaekhiynaekaslkepnrupphrayaphichyyunthuxdabkhuic xxn iln aehlngthima http news ch3thailand com local 63924 khmchdluk 2561 lukhlanchawphichysanukrks thinkaenid phrayaphichydabhk xxn iln aehlngthima http www komchadluek net news regional 320159 chmlilaaexkchnsudsid khxng bwkhaw cakhnng naythxngdifnkhaw duephim aekikhsmedcphraecakrungthnburihnngsuxxanephimetim aekikhphrayasrischnalybdi 2511 prawtiphrayaphichydabhk eriyberiyngody phrayasrischnalybdi xnusrninnganphrarachthanephlingsph phranrngkhvththi chay dithannth phrankhr orngphimphswnthxngthin thirawthn aesnkha 2558 swangkhburisrikhungtaepha smedcphraecataksinmharachkbsmrphumiswangkhburi khungtaepha xnusrn 245 pi aehngkarsthapnawdkhungtaepha xutrditth sankngansphawthnthrrmcnghwdxutrditth krathrwngwthnthrrm ISBN 978 616 543 334 1 siriwrrn khumoh phrayaphichydabhk bukhkhlsakhykhxngchati elm 1 krungethph edxabukhs m p p hna 43 46 ISBN 978 974 394 229 7aehlngkhxmulxun aekikh wikikhakhmmikhakhmekiywkb phrayaphichydabhk khxmmxns miphaphaelasuxekiywkb phrayaphichydabhk wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb phrayaphichydabhk khacha wilawly 2550 raykarthankhxmulthxngthin eruxng phrayaphichydabhk xutrditth raynganwichaexk brrnarkssastraelasarniethssastr pi 4 PDF mhawithyalyrachphtxutrditth Check date values in date help ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phrayaphichydabhk amp oldid 9307426, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม