การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศมองโกเลีย
การระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา พ.ศ. 2562–2563 โดยได้รับการยืนยันว่าเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563
โรค | โรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 |
---|---|
สถานที่ | ประเทศมองโกเลีย |
ผู้ป่วยต้นปัญหา | ดอร์โนโกวี |
วันแรกมาถึง | 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 (1 ปี 10 เดือน 6 วัน) |
ต้นกำเนิด | อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ร่วมกับ ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ และตุรกี |
ยืนยันป่วย | 186 คน |
หาย | 65 คน |
เสียชีวิต | 0 คน |
ภูมิหลัง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยทางเดินหายใจในกลุ่มคนในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ซึ่งรายงานต่อองค์การอนามัยโลกในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562
อัตราป่วยตายของผู้ป่วยสำหรับโควิด-19 นั้นต่ำกว่าโรคซาร์ส พ.ศ. 2546 มาก แต่การแพร่เชื้อมีความหมายมากกว่า ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีนัยสำคัญ
เส้นเวลา
รายงานผู้ติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563 รองนายกรัฐมนตรีมองโกเลียแถลงการณ์พบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรก ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสโดยเข้ามายังเมืองอูลานบาตาร์ผ่านทางเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย
ผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 57 ปี แสดงอาการป่วยเป็นไข้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม จากการนำผลเลือดไปตรวจพบผลเป็นบวกต่อการพบโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และได้รับการนำไปกักกันตัวที่ดอร์โนโกวี แต่การไม่ปฏิบัติตาม ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเพิกเฉยกับการกักกันตัวต่อคำแนะนำ ในเวลาเดียวกัน ผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อสองรายได้เดินทางออกจากดอร์โนโกวี แม้จะมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัด ให้อยู่กักกันตัวภายในเมืองเท่านั้น คณะกรรมการเหตุการณ์ฉุกเฉินประจำรัฐ ได้ออกมากล่าวว่า ทั้งคู่จะต้องได้รับโทษตามกฎหมายจากการกระทำไม่กักกันตนเองอย่างแน่นอน มี 120 รายมีความเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดต้องถูกกันตัวเป็นการด่วน และอีก 500 ราย เป็นผู้ติดต่อโดยทางอ้อม อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของแพทย์
รัฐบาลได้แถลงประกาศมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ประกาศนี้ส่งผลให้มีการระงับการเข้าถึงพรมแดนการเข้า-ออกระหว่างประเทศมองโกเลียและประเทศจีน ทั้งทางบกและทางอากาศ นับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมจนกว่าจะมีมาตรการใหม่อีกครั้ง และระงับการเข้ถึงเที่ยวบินของอากาศยาน และรถไฟโดยสาร จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 งานกิจกรรมทางสาธารณะ อาทิ การประชุม การแข่งขันกีฬา และเทศกาลได้ถูกจัดการยกเลิกทุกงานทั้งหมดทั่วประเทศ และสถานศึกษาทุกแห่งภายในประเทศมองโกเลียได้ถูกสั่งระงับการศึกษา จนถึงวันที่ 30 เมษายน ประชาชนไม่มีสิทธิ์เดินทางออกจากนอกประเทศที่ถูกประกาศว่าเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ถ้าหากกลับมาจากประเทศอันเป็นกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะต้องกักกันตนเองภายในสถานที่ปลอดเชื้อเป็นระยะเวลา 14 วัน อันบุคคลใดที่ถูกสอบสอนโรค แต่มีพฤติการณ์หลี่ยงเลี่ยงและ/หรือปิดบังข้อมูล จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หลังจากที่ทางการทำการอพยพประชาชนนำอากาศยานขนส่งไปรับประชาชนที่มีลักษณะ "สุ่มเสี่ยง" ต่อการติดไวรัสจากพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ในพื้นที่ทวีปยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ โดยมีรายงานจากสื่อสิ่งพิมพ์ว่า พบผู้ติดเชื้อสามราย หนึ่งในนั้นอาการรุนแรงอย่างมาก อีกเก้ารายจำเป็นที่จะถูกแยกตัวมากักกันโรค
วันที่ 27 มีนาคม พบหนึ่งในผู้ที่ถูกกักกันโรคติดเชื้อจากการหาเชื้อแล้วพบว่าผลเป็นบวก โดยคนนี้เป็นหนึ่งในสองร้อยยี่สิบเอ็ดราย ที่ถูกนำไปตรวจไวรัสจากเลือด ขณะกำลังถูกกักกันตัว โดยเที่ยวบินจากเมืองอิสตันบูล-อูลานบาตาร์ จัดสรรโดยคณะกรรมการเหตุการณ์ฉุกเฉินประจำรัฐ ในวันเดียวกัน มูลนิธิโอนอม ได้ท้วงติงถึงรัฐบาลมองโกเลียปัญหาของเครื่องช่วยหายใจที่มีเพียง 160 เครื่อง (1 เครื่อง ต่อ 20,000 ราย สหรัฐ: 1 เครื่อง ต่อ 2,000 ราย) และถ้าหากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มารักษา จะเกิดปัญหากับระบบบุคลากรที่ต้องเผชิญกับการขาดเครื่องช่วยหายใจอย่างแน่นอน
การอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม คณะกรรมการเหตุการณ์ฉุกเฉินประจำชาติ ได้แถลงการณ์ว่า ระหว่างการอพยพผู้คนจากพื้นที่เสี่ยง (หลักพันราย) ไปยังการกักกันตัว โดยอากาศยานขนส่ง รัฐบาลใช้งบประมาณในการจ่ายค่าอาหารแก่ประชาชนที่ถูกกักกันตัวเป็นเงิน 500 ล้านทูกรุกมองโกเลีย (180 แสนดอลลาร์สหรัฐ) แต่ละคนจะแยกกักกันคนละห้องกัน นั้นหมายความว่า ผู้ที่ถูกกักตัวในเมืองอูลานบาตาร์จะถูกปล่อยตัวในวันที่ 2-3 เมษายน โดยรองผู้อำนวยการสำนักงานจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (NEMA) บอกว่า พอกเขาได้รับคำแนะนะให่ห่งจากบ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน มีการให้เพื่อนบ้านช่วยดูแล และมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราเพื่อการไม่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019
สถิติ
แผนภูมิ
แผนภูมิจะได้รับการปรับปรุงทุกวันจากการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขมองโกเลียผ่านสื่อใหญ่ภายในประเทศ:
- รายงานการติดเชื้อและเสียชีวิตต่อวัน
อ้างอิง
- Johns Hopkins CSSE. "Coronavirus COVID19 (2019-nCoV)" (ArcGIS). Coronavirus COVID-19 Global Cases. สืบค้นเมื่อ March 21, 2020.
- Elsevier. "Novel Coronavirus Information Center". Elsevier Connect. จากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- Reynolds, Matt (4 March 2020). "What is coronavirus and how close is it to becoming a pandemic?". Wired UK. ISSN 1357-0978. จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2020. สืบค้นเมื่อ 5 March 2020.
- ↑ "Crunching the numbers for coronavirus". Imperial News. จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- "High consequence infectious diseases (HCID); Guidance and information about high consequence infectious diseases and their management in England". GOV.UK (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 March 2020. สืบค้นเมื่อ 17 March 2020.
- "World Federation Of Societies of Anaesthesiologists – Coronavirus". www.wfsahq.org. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อmontsame.1
- "Mongolia confirms its first coronavirus case in French worker". Reuters. 10 March 2020.
- "More than 120 people taken to isolation after contact with coronavirus patient".
- ↑ "Тусгай үүргийн онгоцоор ирж тусгаарлагдсан иргэдийн гурваас нь COVID-19 илэрлээ" (ภาษามองโกเลีย). สืบค้นเมื่อ 21 March 2020.
- ↑ "11th case of novel coronavirus recorded in Mongolia". Ikon.mn.
- "The Government is about to make yet another MISTAKE by sending further charter flights". Gogo Mongolia.
- "Isolation of 1000 citizens brought on charter flights will be extended by 7 days". Gogo Mongolia.
- "B.Uuganbayar: There was even a case where food served with biscuits was thrown back at a worker's face". Gogo Mongolia.
- "Isolation of 1000 citizens brought on charter flights will be extended by 7 days". Gogo Mongolia.
- "Eleventh case of Coronavirus registered in Mongolia". Gogo Mongolia.