fbpx
วิกิพีเดีย

ขุนช้าง

ขุนช้าง เป็นตัวร้ายของวรรณคดีไทย เรื่องขุนช้างขุนแผน

ประวัติ

ขุนช้างเป็นลูกของขุนศรีวิชัยกับนางเทพทอง เกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ขุนศรีวิชัยเป็นเศรษฐีของเมืองสุพรรณบุรี รับราชการเป็นนายกรมช้างนอก ขุนช้างเป็นเพื่อนเล่นกับพลายแก้ว(ขุนแผน)และนางพิมพิลาไลยมาตั้งแต่เด็กแล้ว

แต่แล้วก็เกิดเรื่องเลวร้ายกับครอบครัวขุนช้าง(เช่นเดียวกับครอบครัวพลายแก้วและครอบครัวพิมพิลาไลย)เมื่อมีโจรกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาปล้นเรือน ขุนศรีวิชัยได้ถูกโจรฆ่าตาย โจรก็เอาทรัพย์สมบัติไปจำนวนหนึ่งเพราะทรัพย์สมบัติของขุนศรีวิชัยมีจำนวนมากทำให้พวกโจรขนไปไม่หมด หลังจากนั้นนางเทพทองก็ปกครองดูแลบ้านแทนสามีที่ตายและเลี้ยงดูขุนช้างเป็นอย่างดี

เวลาผ่านไป ขุนช้างก็ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และก็ได้เป็นเศรษฐีดูแลกิจการแทนแม่ของตน ขุนช้างก็มีภรรยาหนึ่งคนชื่อนางแก่นแก้ว แต่นางนั่นก็สิ้นใจไปไม่ถึงปี ขุนช้างก็จึงคิดที่จะมีภรรยาคนใหม่โดยคิดจะจีบนางพิมพิลาไลย เพื่อนสมัยเด็ก แต่นางพิมก็ไม่เล่นด้วย ต่อมาขุนช้างก็ได้ไปเข้าร่วมฟังเทศน์มหาชาติที่วัดป่าเลไลย์ โดยมีเณรพลายแก้ว(เพื่อนสมัยเด็กอีกคนหนึ่ง) เทศน์กัณฑ์มัทรี ซึ่งนางพิมพิลาไลยเป็นเจ้าของกัณฑ์เทศน์ นางพิมเลื่อมใสมากจนเปลื้องผ้าสไบบูชากัณฑ์เทศ์ ขุนช้างเห็นเช่นนั้นก็เปลื้องผ้าห่มของตนวางเคียงกับผ้าสไบของนางพิม อธิฐานขอให้ได้นางเป็นภรรยา ทำให้นางพิมโกรธ

ขุนช้างยังไม่ลดละความพยายามที่จะเอานางพิมมาเป็นภรรยาจึงขอให้นางเทพทองผู้เป็นมารดาไปสู่ขอนางพิมที่บ้านของนาง นางพิมก็เห็นท่าไม่ดีจึงเร่งรัดให้เณรพลายแก้วให้มาสู่ขอตนโดยเร็ว ซึ่งนางก็ยื่นเงินมาถุงหนึ่งมาให้พลายแก้วเป็นค่าสิดสอด หลังจากนั่นเณรพลายแก้วก็สึกแล้วให้นางทองประศรีมาสู่ขอนางพิมและแต่งงานกัน เมื่อขุนช้างทราบข่าวก็โกรธแค้นพลายแก้วและคิดหาวิธีที่จะแย่งนางพิมไปจากพลายแก้วให้ได้ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม

ทางกรุงศรีอยุธยาได้ข่าวว่ากองทัพเชียงใหม่ตีได้เมืองเชียงทอง ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระพันวษาถามหาเชื้อสายของขุนไกร ขุนช้างซึ่งเข้าไปรับราชการอยู่จึงเล่าเรื่องราวความเก่งกล้าสามาราถของพลายแก้ว เพื่อหวังจะพรากพลายแก้วไปให้ห่างไกลนางพิม สมเด็จพระพันวษาจึงให้ไปตามตัวมาแล้วแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพไปรบกับเมืองเชียงใหม่

ต่อมาขุนช้างทำอุบายนำหม้อใหม่ใส่กระดูกไปให้นางศรีประจันกับนางวันทอง(เปลี่ยนจากนางพิม)ดูว่าพลายแก้วตายแล้วและขู่ว่านางวันทองจะต้องถูกคุมตัวไว้เป็นม่ายหลวงตามกฎหมาย นางวันทองไม่เชื่อ แต่นางศรีประจันคิดว่าจริง ประกอบกับเห็นว่าขุนช้างเป็นเศรษฐีจึงบังคับให้นางวันทองแต่งงานกับขุนช้าง นางวันทองจำต้องตามใจแม่แต่นางไม่ยอมเข้าหอ

ต่อมาเมื่อนางวันทองทราบว่าพลายแก้วยังไม่ตาย เดินทางกลับมาจากรบศึกและได้รับยศถาบรรดาศักดิ์เป็นขุนแผนแสนสะท้าน แต่ขุนแผนก็ได้นางลาวทอง บุตรสาวของแสนคำแมน นายบ้านแห่งจอมทองกับนางศรีเงินยวงมาเป็นภรรยา ทำให้นางวันทองโกรธด่าทอโต้ตอบกับนางลาวทองและลืมตัวพูดก้าวร้าวขุนแผน ทำให้ขุนแผนโมโหพานางลาวทองไปอยู่ที่กาญจนบุรี นางวันก็ยอมตกเป็นภรรยาของขุนช้างด้วยความจำใจ

ต่อมาขุนช้างและขุนแผนเข้าไปรับราชการอบรมในวังและได้มหาดเล็กเวรทั้งสองคน วันหนึ่งนางทองประศรีให้คนมาส่งข่าวว่า นางลาวทองป่วยหนัก ขุนแผนจึงฝากเวรไว้กับขุนช้างแล้วไปดูอาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระพันวษาถามถึงขุนแผน ขุนช้างก็ใส่ร้ายว่าขุนแผนปีนกำแพงวังหนีไปหาภรรยา สมเด็จพระพันวษาโกรธจึงสั่งให้นำตัวนางลาวทองมากักไว้ในวังและสั่งไม่ให้ขุนแผนเข้าวังอีกทำให้ขุนแผนแค้นขุนช้างมาก

เวลาผ่านขุนแผนก็ได้กลับมาที่เมืองสุพรรณบุรีเพื่อมาแย่งชิงนางวันทองจากขุนช้าง ขุนแผนก็ไปที่บ้านของขุนช้างสะกดคนให้หลับหมดแล้วขึ้นไปบนบ้านก็ไปปลุกนางวันทองพาขึ้นม้าหนีเข้าป่าไป ขุนช้างไปฟ้องสมเด็จพระพันวษา พระองค์ให้ทหารตามจับขุนแผน แต่ถูกขุนแผนฆ่าตายไปหลายคน ขุนแผนกับนางวันทองหลบซ่อนอยู่ในป่าจนนางตั้งท้องจึงพากันออกมามอบตัวสู้คดีกับขุนช้างจนขุนช้างแพ้คดี เวลาต่อมาขุนแผนก็ถูกจองจำคุก ขุนช้างจึงพาพรรคพวกมาฉุดนางวันทองไปเป็นภรรยาอีกครั้ง ต่อมานางวันทองก็คลอดลูกชาย แล้วตั้งชื่อให้ว่าพลายงาม ขุนช้างก็รู้ว่าไม่ใช่ลูกของตนก็เกลียดชังพลายงาม วันหนึ่งจึงหลอกพาพลายงามเข้าไปในป่าทุบตีจนสลบแล้วเอาท่อนไม้ทับไว้จึงคิดว่าพลายงามตายแล้วจึงกลับบ้านไปด้วยความดีใจ แต่แท้จริงพลายงามก็ไม่ตายเพราะโหงพรายช่วยไว้และหนีไปอยู่กับนางทองประศรีผู้เป็นย่าที่เมืองกาญจนบุรีและร่ำเรียนวิชาอาคมจนแก่กล้าและไปรับราชการในวัง

เวลาผ่านไปเป็นช่วงที่หลังจากขุนแผนออกจากคุก และพลายงามหรือจมื่นไวยวรนาถได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก ขุนช้างก็ได้เข้าร่วมงานแต่งงานของพระไวย แต่กลับเมาสุราบุกเข้าไปชกต่อยกับพระไวย ทำให้สมเด็จพระพันวษาตัดสินให้ประหารชีวิตขุนช้าง แต่นางวันทองได้ขอให้พระไวยไปกราบทูลสมเด็จพระพันวษาให้ขออภัยโทษขุนช้าง พระไวยก็ทำตามนั่นทำให้ขุนช้างรอดตาย

ความสิ้นสุดบทบาทของขุนช้าง

ต่อมาพระไวยต้องการให้แม่มาอยู่กับตนและคืนดีกับพ่อ จึงไปลักพานางวันทองมา ขุนช้างเคืองมากไปฟ้องสมเด็จพระพันวษา จึงมีการไต่สวนคดีกันอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดสมเด็จพระพันวษาก็ถามความสมัครใจของนางว่าจะเลือกอยู่กับใคร นางตัดสินใจไม่ได้ สมเด็จพระพันวษาหาว่านางเป็นหญิงสองใจจึงสั่งให้นำตัวไปประหารชีวิต แม้พระไวยพยายามอ้อนวอนขออภัยโทษได้ แต่ไปห้ามการประหารไม่ทัน

หลังงานศพของนางวันทอง ขุนช้างก็อาลัยในตัวนางวันทอง และตัดสินใจออกบวชเป็นเณร* ที่ วัดตะไกร และค้างอยู่ 3 คืน จากนั้นจึงสึกกลับไปเมืองสุพรรณ ดังตัวบทที่กล่าวไว้ว่า

"ขุนช้างนึกมาศรัทธามี วิ่งรี่เข้าไปหาพระหมื่นไวย

บอกว่าดีฉันจะบวชตัว ทูนหัวช่วยบวชเป็นเณรให้

พระไวยบอกว่าข้าจนใจ พึ่งบวชใหม่สวดเรียนก็ไม่รู้

ขุนช้างวางมาจากพระไวย เข้าไปกราบไหว้หลวงตาหนู

ได้เอ็นดูแก่ฉันเถิดท่านครู บวชเณรเถรตู้ให้ฉันที ...

จบแล้วห่มดองครองผ้า รับศีลออกมาหาช้าไม่

นอนค้างอยู่กุฎีที่วัดตะไกร ครบสามคืนสึกไปเมืองสุพรรณ ..."

(เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน 2555 : 694 - 695)

เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร, 2555.

บุคคลิก

ขุนช้างเป็นคนหน้าขี้เหร่ หัวก็ล้านมาตั้งแต่กำเนิด รูปร่างก็อ้วน

ในภาพยนตร์เรื่อง ขุนแผน ฟ้าฟื้น ขุนช้างถูกสะเก็ดสายฟ้าของ ดาบฟ้าฟื้น ใส่หัวเลยทำให้ขุนช้างหัวล้าน

อ้างอิง

นช, าง, เป, นต, วร, ายของวรรณคด, ไทย, เร, องข, นแผน, เน, อหา, ประว, ความส, นส, ดบทบาทของ, คคล, างอ, งประว, แก, ไขเป, นล, กของข, นศร, ยก, บนางเทพทอง, เก, ดท, งหว, ดส, พรรณบ, นศร, ยเป, นเศรษฐ, ของเม, องส, พรรณบ, บราชการเป, นนายกรมช, างนอก, เป, นเพ, อนเล, นก, บพล. khunchang epntwraykhxngwrrnkhdiithy eruxngkhunchangkhunaephn enuxha 1 prawti 2 khwamsinsudbthbathkhxngkhunchang 3 bukhkhlik 4 xangxingprawti aekikhkhunchangepnlukkhxngkhunsriwichykbnangethphthxng ekidthicnghwdsuphrrnburi khunsriwichyepnesrsthikhxngemuxngsuphrrnburi rbrachkarepnnaykrmchangnxk khunchangepnephuxnelnkbphlayaekw khunaephn aelanangphimphilailymatngaetedkaelwaetaelwkekideruxngelwraykbkhrxbkhrwkhunchang echnediywkbkhrxbkhrwphlayaekwaelakhrxbkhrwphimphilaily emuxmiocrklumhnungbukekhamaplneruxn khunsriwichyidthukocrkhatay ocrkexathrphysmbtiipcanwnhnungephraathrphysmbtikhxngkhunsriwichymicanwnmakthaihphwkocrkhnipimhmd hlngcaknnnangethphthxngkpkkhrxngduaelbanaethnsamithitayaelaeliyngdukhunchangepnxyangdiewlaphanip khunchangkidetibotepnphuihyaelakidepnesrsthiduaelkickaraethnaemkhxngtn khunchangkmiphrryahnungkhnchuxnangaeknaekw aetnangnnksinicipimthungpi khunchangkcungkhidthicamiphrryakhnihmodykhidcacibnangphimphilaily ephuxnsmyedk aetnangphimkimelndwy txmakhunchangkidipekharwmfngethsnmhachatithiwdpaelily odymienrphlayaekw ephuxnsmyedkxikkhnhnung ethsnknthmthri sungnangphimphilailyepnecakhxngknthethsn nangphimeluxmismakcnepluxngphasibbuchakntheths khunchangehnechnnnkepluxngphahmkhxngtnwangekhiyngkbphasibkhxngnangphim xthithankhxihidnangepnphrrya thaihnangphimokrthkhunchangyngimldlakhwamphyayamthicaexanangphimmaepnphrryacungkhxihnangethphthxngphuepnmardaipsukhxnangphimthibankhxngnang nangphimkehnthaimdicungerngrdihenrphlayaekwihmasukhxtnodyerw sungnangkyunenginmathunghnungmaihphlayaekwepnkhasidsxd hlngcaknnenrphlayaekwksukaelwihnangthxngprasrimasukhxnangphimaelaaetngngankn emuxkhunchangthrabkhawkokrthaekhnphlayaekwaelakhidhawithithicaaeyngnangphimipcakphlayaekwihidimwacathukhruxphidktamthangkrungsrixyuthyaidkhawwakxngthphechiyngihmtiidemuxngechiyngthxng sungepnemuxngkhunkhxngkrungsrixyuthya smedcphraphnwsathamhaechuxsaykhxngkhunikr khunchangsungekhaiprbrachkarxyucungelaeruxngrawkhwamekngklasamarathkhxngphlayaekw ephuxhwngcaphrakphlayaekwipihhangiklnangphim smedcphraphnwsacungihiptamtwmaaelwaetngtngihepnaemthphiprbkbemuxngechiyngihmtxmakhunchangthaxubaynahmxihmiskradukipihnangsripracnkbnangwnthxng epliyncaknangphim duwaphlayaekwtayaelwaelakhuwanangwnthxngcatxngthukkhumtwiwepnmayhlwngtamkdhmay nangwnthxngimechux aetnangsripracnkhidwacring prakxbkbehnwakhunchangepnesrsthicungbngkhbihnangwnthxngaetngngankbkhunchang nangwnthxngcatxngtamicaemaetnangimyxmekhahxtxmaemuxnangwnthxngthrabwaphlayaekwyngimtay edinthangklbmacakrbsukaelaidrbysthabrrdaskdiepnkhunaephnaesnsathan aetkhunaephnkidnanglawthxng butrsawkhxngaesnkhaaemn naybanaehngcxmthxngkbnangsrienginywngmaepnphrrya thaihnangwnthxngokrthdathxottxbkbnanglawthxngaelalumtwphudkawrawkhunaephn thaihkhunaephnomohphananglawthxngipxyuthikaycnburi nangwnkyxmtkepnphrryakhxngkhunchangdwykhwamcaictxmakhunchangaelakhunaephnekhaiprbrachkarxbrminwngaelaidmhadelkewrthngsxngkhn wnhnungnangthxngprasriihkhnmasngkhawwa nanglawthxngpwyhnk khunaephncungfakewriwkbkhunchangaelwipduxakarkhxngnanglawthxng txnechasmedcphraphnwsathamthungkhunaephn khunchangkisraywakhunaephnpinkaaephngwnghniiphaphrrya smedcphraphnwsaokrthcungsngihnatwnanglawthxngmakkiwinwngaelasngimihkhunaephnekhawngxikthaihkhunaephnaekhnkhunchangmakewlaphankhunaephnkidklbmathiemuxngsuphrrnburiephuxmaaeyngchingnangwnthxngcakkhunchang khunaephnkipthibankhxngkhunchangsakdkhnihhlbhmdaelwkhunipbnbankippluknangwnthxngphakhunmahniekhapaip khunchangipfxngsmedcphraphnwsa phraxngkhihthhartamcbkhunaephn aetthukkhunaephnkhatayiphlaykhn khunaephnkbnangwnthxnghlbsxnxyuinpacnnangtngthxngcungphaknxxkmamxbtwsukhdikbkhunchangcnkhunchangaephkhdi ewlatxmakhunaephnkthukcxngcakhuk khunchangcungphaphrrkhphwkmachudnangwnthxngipepnphrryaxikkhrng txmanangwnthxngkkhlxdlukchay aelwtngchuxihwaphlayngam khunchangkruwaimichlukkhxngtnkekliydchngphlayngam wnhnungcunghlxkphaphlayngamekhaipinpathubticnslbaelwexathxnimthbiwcungkhidwaphlayngamtayaelwcungklbbanipdwykhwamdiic aetaethcringphlayngamkimtayephraaohngphraychwyiwaelahniipxyukbnangthxngprasriphuepnyathiemuxngkaycnburiaelaraeriynwichaxakhmcnaekklaaelaiprbrachkarinwngewlaphanipepnchwngthihlngcakkhunaephnxxkcakkhuk aelaphlayngamhruxcmuniwywrnathidrbkhwamdikhwamchxbepnxyangmak khunchangkidekharwmnganaetngngankhxngphraiwy aetklbemasurabukekhaipchktxykbphraiwy thaihsmedcphraphnwsatdsinihpraharchiwitkhunchang aetnangwnthxngidkhxihphraiwyipkrabthulsmedcphraphnwsaihkhxxphyothskhunchang phraiwykthatamnnthaihkhunchangrxdtaykhwamsinsudbthbathkhxngkhunchang aekikhtxmaphraiwytxngkarihaemmaxyukbtnaelakhundikbphx cungiplkphanangwnthxngma khunchangekhuxngmakipfxngsmedcphraphnwsa cungmikaritswnkhdiknxikkhrnghnung inthisudsmedcphraphnwsakthamkhwamsmkhrickhxngnangwacaeluxkxyukbikhr nangtdsinicimid smedcphraphnwsahawanangepnhyingsxngiccungsngihnatwippraharchiwit aemphraiwyphyayamxxnwxnkhxxphyothsid aetiphamkarpraharimthnhlngngansphkhxngnangwnthxng khunchangkxalyintwnangwnthxng aelatdsinicxxkbwchepnenr thi wdtaikr aelakhangxyu 3 khun caknncungsukklbipemuxngsuphrrn dngtwbththiklawiwwa khunchangnukmasrththami wingriekhaiphaphrahmuniwybxkwadichncabwchtw thunhwchwybwchepnenrihphraiwybxkwakhacnic phungbwchihmswderiynkimrukhunchangwangmacakphraiwy ekhaipkrabihwhlwngtahnuidexnduaekchnethidthankhru bwchenrethrtuihchnthi cbaelwhmdxngkhrxngpha rbsilxxkmahachaimnxnkhangxyukudithiwdtaikr khrbsamkhunsukipemuxngsuphrrn esphaeruxngkhunchangkhunaephn 2555 694 695 esphaeruxngkhunchangkhunaephn krungethph silpabrrnakhar 2555 bukhkhlik aekikhkhunchangepnkhnhnakhiehr hwklanmatngaetkaenid ruprangkxwninphaphyntreruxng khunaephn fafun khunchangthuksaekdsayfakhxng dabfafun ishwelythaihkhunchanghwlanxangxing aekikhhttp www teenpath net content asp ID 12180 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title khunchang amp oldid 9650401, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม