จังหวัดพระประแดง
จังหวัดพระประแดง เป็นจังหวัดของประเทศไทยในอดีต พัฒนาจากเมืองที่สร้างใหม่ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ชื่อว่าเมืองนครเขื่อนขันธ์ ภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพระประแดงเมื่อ พ.ศ. 2458 แต่หลังวิกฤตการณ์เศรษฐกิจตกต่ำจึงยุบจังหวัดพระประแดง อำเภอต่าง ๆ ถูกรวมเข้ากับจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดธนบุรีใน พ.ศ. 2474
จังหวัดพระประแดง | |||||
---|---|---|---|---|---|
จังหวัด | |||||
พ.ศ. 2358 – 2475 | |||||
ยุคประวัติศาสตร์ | รัตนโกสินทร์ | ||||
• ก่อตั้ง | พ.ศ. 2358 | ||||
• เปลี่ยนชื่อ | พ.ศ. 2458 | ||||
• ยกเป็นจังหวัด | พ.ศ. 2459 | ||||
• ยุบเลิก | 1 เมษายน พ.ศ. 2475 | ||||
| |||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ไทย |
ประวัติ
เดิมจังหวัดพระประแดงเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์บริเวณลัดต้นโพธิ์ จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพื่อพัฒนาเป็นเมืองหน้าด่านชายทะเล โดยแบ่งพื้นที่กรุงเทพมหานครกับเมืองสมุทรปราการบางส่วนมาตั้งเมืองใหม่ มีการสร้างป้อมปราการและกำแพงเมืองโดยใช้แรงงานจีน แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2358 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงพระราชทานนามเมืองว่าเมืองนครเขื่อนขันธ์ ลูกหลานชาวจีนยังอาศัยอยู่ย่านตำบลตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาพระยามหาโยธา (เจ่ง) ต้นสกุลคชเสนี เป็นผู้นำชาวมอญจากเมืองประทุมธานี เป็นชายฉกรรจ์ราว 300 คน มาตั้งถิ่นฐานในเมืองนครเขื่อนขันธ์ หลังจากนั้นก็มีคลื่นผู้อพยพเชื้อสายมอญจากพม่าหลายระลอกเข้าไปตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวนมาก พระยามหาโยธาและลูกหลานได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าเมืองนครเขื่อนขันธ์สืบต่อมาหลายรุ่น ทำให้เมืองแห่งนี้มีอัตลักษณ์ความเป็นมอญที่โดดเด่น จากการสำรวจของนายแพทย์ สุเอ็ด คชเสนี พบว่า พ.ศ. 2512-2515 มีชาวมอญปากลัดอาศัยอยู่ในพระประแดงจำนวนทั้งสิ้น 94,229 คน อิทธิพลมอญแพร่ไปยังกลุ่มมลายูมุสลิมที่ปากลัด ในพิธีสุหนัต เด็กชายที่เข้าพิธีจะถูกแต่งกายด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และแต่งแต้มใบหน้าอย่างประเพณีบวชลูกแก้วของไทใหญ่และพ่อนาคของมอญ แต่โพกผ้าสะระบั่นอย่างแขก ถือเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน
พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยว่า "เมืองนครเขื่อนขันธ์ แม้จะไม่ได้สร้างบนพื้นที่เดิมของเมืองพระประแดง แต่ก็อยู่ในเขตใกล้เคียงกัน และยังมีความสำคัญดั่งเช่นเมืองพระประแดงเดิม" จึงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองนครเขื่อนขันธ์ เป็นเมืองพระประแดง และเปลี่ยนเป็นจังหวัดพระประแดง ตามลำดับ ส่วนที่ตั้งเมืองพระประแดงเดิมช่วงพุทธศตวรรษที่ 23 นั้นอยู่บริเวณระหว่างคลองเตยกับคลองพระโขนงตรงข้ามคุ้งบางกะเจ้า ในต้นรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทำการรื้อกำแพงเมืองพระประแดงที่โรยราไปสร้างกรุงธนบุรี หลงเหลือเพียงวัดเก่าประมาณสี่วัดคือ วัดหน้าพระธาตุ วัดทอง วัดเงิน และวัดไก่เตี้ย อันเป็นหลักฐานการมีตัวตนของเมืองพระประแดงเก่า แต่ปัจจุบันวัดทั้งหมดถูกรื้อเพื่อสร้างท่าเรือคลองเตยเมื่อ พ.ศ. 2480 และเมืองพระประแดงเก่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองนครเขื่อนขันธ์หรือพระประแดงที่ตั้งขึ้นใหม่แต่ประการใด
15 ตุลาคม พ.ศ. 2458 มีการโอนอำเภอบ้านทวายไปขึ้นกับจังหวัดพระนคร 31 ตุลาคมปีเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษา ระบุว่า จังหวัดพระประแดงมีเขตการปกครองอยู่สองอำเภอคือ อำเภอพระประแดงและอำเภอพระโขนง ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2470 มีการโอนตำบลช่องนนทรีและบางโพงพางจากอำเภอพระประแดงมาขึ้นกับอำเภอพระโขนง และโอนอำเภอพระโขนงเข้าจังหวัดพระนคร และโอนอำเภอราษฎร์บุรณะ (ยกเว้นตำบลดาวคะนองและบางปะแก้ว) จากจังหวัดธนบุรีขึ้นกับจังหวัดพระประแดงเพื่อความสะดวกในการปกครอง หากเปรียบเทียบแล้วเฉพาะตำบลช่องนนทรีและบางโพงพางที่ถูกโอนออกไปเป็นพื้นที่มีประชากรหนาแน่นมาก เมื่อเทียบกับอำเภอราษฎร์บุรณะที่ถูกโอนเข้ามา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่น้อยลงของจังหวัดพระประแดง
ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในเวลานั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ จึงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้ยุบจังหวัดพระประแดง โดยอำเภอพระประแดงถูกยุบรวมเข้ากับจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอำเภอราษฎร์บุรณะถูกยุบรวมเข้ากับจังหวัดธนบุรี มีผลในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2474
การแบ่งเขตการปกครอง
จังหวัดพระประแดง ประกอบไปด้วย 4 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอพระประแดง (ปัจจุบันคือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ)
- อำเภอพระโขนง (ปัจจุบันคือ เขตพระโขนง, เขตคลองเตย, เขตวัฒนา, เขตประเวศ, เขตสวนหลวง, เขตบางนา และแขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร)
- อำเภอบ้านทะวาย (ปัจจุบันคือ เขตยานนาวา, เขตสาทร และเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร)
- อำเภอราษฎร์บุรณะ (ปัจจุบันคือ เขตราษฎร์บูรณะ และเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร)
อ้างอิง
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ ยุบรวมท้องที่บางมณฑลและบางจังหวัด" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 48: 576–578. 21 กุมภาพันธ์ 2474. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ "ชุมชนมอญในประเทศไทย - มอญปากลัด มอญพระประแดง จ.สมุทรปราการ". คลังเอกสารสาธารณะ. 17 กุมภาพันธ์ 2552. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "นครร้อยปี นครเขื่อนขันธ์" (PDF). หน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น จังหวัดสมุทรปราการ. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=
(help) - ↑ รุ่งโรจน์ อภิรมย์อนุกูล (2556). "เมืองพระประแดง: จากคลองเตย มานครเขื่อนขันธ์จบที่อำเภอพระประแดง". ดำรงวิชาการ. สืบค้นเมื่อ 30 ธันวาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - สุดารา สุจฉายา (26 พฤษภาคม 2559). "พิธีสุหนัตของบรรดาลูกหลานแขกมอญ ทุ่งครุ". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - สุจิตต์ วงษ์เทศ (3 กันยายน 2562). ""เมืองพระประแดง" แรกสุด และตำนานจระเข้พระประแดง ต้นตระกูลชาละวัน พิจิตร". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ประภัสสร์ ชูวิเชียร. วัดร้างในบางกอก. กรุงเทพฯ : มติชน, 2559, หน้า 217-226
- "ประกาศยกเลิกอำเภอชั้นใน ๗ อำเภอ และตั้งอำเภอชั้นในขึ้นใหม่ ๒๕ อำเภอ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 32: 335–348. 31 ตุลาคม 2458. Check date values in:
|date=
(help) - "ประกาศกระทรวงนครบาล เรื่อง กำหนดเขตร์ท้องที่การปกครองกรุงเทพพระมหานคร" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 32: 332–333. 31 ตุลาคม 2458. Check date values in:
|date=
(help) - "พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง แก้ไขเขตต์จังหวัดพระนคร ธนบุรี พระประแดง สมุทรปราการ และมีนบุรีในมณฑลกรุงเทพฯ กับธัญญะบุรีในมณฑลอยุธยา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44: 153–158. 21 สิงหาคม 2470. Check date values in:
|date=
(help)