ตำบลคุ้งตะเภา
ตำบลคุ้งตะเภา เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลคุ้งตะเภาเป็นตำบลขนาดใหญ่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าสองร้อยปี เดิมการปกครองของตำบลคุ้งตะเภาขึ้นอยู่กับตำบลท่าเสา อำเภอบางโพ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ในปัจจุบัน) ต่อมาในปี พ.ศ. 2490 จึงได้แยกการปกครองจากตำบลท่าเสามาตั้งเป็นตำบลใหม่ ปัจจุบันแบ่งหน่วยการปกครองเป็นหมู่บ้าน 6 หมู่บ้าน มีประชากร 8,735 คน เป็นชาย 4,265 คน หญิง 4,470 คน ประชากรตำบลคุ้งตะเภาส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท มีศาสนสถานในเขตตำบล 7 แห่ง สถานีอนามัยประจำตำบล 1 แห่ง และ โรงเรียนระดับพื้นฐาน 6 โรง มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคที่สำคัญคือ แม่น้ำน่าน เส้นทางคมนาคมหลักคือ ถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 11) ด้านเศรษฐกิจ ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบัน นายไพทูรย์ พรหมน้อย เป็นกำนันตำบลคุ้งตะเภา ซึ่งในปัจจุบันตำบลคุ้งตะเภามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับ เทศบาลตำบล มีพื้นที่ตลอดทั้งตำบลคุ้งตะเภา
ตำบลคุ้งตะเภา | |
---|---|
คำขวัญ: ลูกหลานชาวท่าเหนือ ลือเลื่องภูมิปัญญา สองพระปฏิมาคู่บ้าน หาดน้ำน่านงามตา พิพิธภัณฑ์วัดคุ้งตะเภาล้ำค่า เลิศล้ำประเพณีงาม 9 เดือน | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 17°39′24.444″N 100°8′54.564″E / 17.65679000°N 100.14849000°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 17°39′24.444″N 100°8′54.564″E / 17.65679000°N 100.14849000°E | |
อักษรไทย | ตำบลคุ้งตะเภา |
อักษรโรมัน | Tambon Khung Taphao |
จังหวัด | อุตรดิตถ์ |
อำเภอ | เมืองอุตรดิตถ์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 37.46 ตร.กม. (14.46 ตร.ไมล์) |
ประชากร (พฤศจิกายน 2550) | |
• ทั้งหมด | 8,735 คน |
• ความหนาแน่น | 230 คน/ตร.กม. (600 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 53000 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 530105 |
เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา | |
---|---|
คำขวัญ: คุ้งตะเภาดินแดนเกษตรปลอดภัยจากสารพิษ ตำบลแห่งคุณภาพชีวิตและน่าอยู่ | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 17°39′24.444″N 100°8′54.564″E / 17.65679000°N 100.14849000°E | |
รหัส อปท. | 05530109 |
ที่อยู่ สำนักงาน | สำนักงานเทศบาลตำบลคุ้งตะเภา เลขที่ 1/1 ถนนพิฆเนศวร ถนนพิษณุโลก–เด่นชัย ม.1 บ้านป่ากล้วย ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000 |
โทรศัพท์ | 0-5544-8181, 0-5544-8126, 0-5544-8127 |
โทรสาร | 0-5544-8181 ต่อ 16 |
เว็บไซต์ | www |
ประวัติและที่มาของชื่อ
คุ้งตะเภา มีความหมายว่า "คุ้งเรือสำเภา" มาจากศัพท์ "คุ้ง" ส่วนเว้าโค้งเข้าไปของฝั่งน้ำฯ และ "ตะเภา" แผลงมาจากศัพท์เดิมคือ "สำเภา" (เรือชนิดหนึ่ง)
ความเป็นมาชื่อคุ้งตะเภา มีที่มาจากคำบอกเล่าที่กล่าวกันมาว่า เคยมีเรือสำเภาล่มบริเวณโค้งแม่น้ำน่านหน้าวัด (วัดคุ้งตะเภา) ชาวสวนที่อาศัยทำไร่นาอยู่แถบนั้นจึงเรียกบริเวณนั้นว่า โค้งสำเภาล่ม ต่อมามีคนมาอาศัยอยู่มากขึ้นและเพื่อความสะดวกปาก จึงกลายเป็น คุ้งสำเภา มาตลอดสมัยอยุธยาตอนปลาย
ต่อมา เมื่อปีขาล โทศก จุลศักราช 1132 (พ.ศ. 2313) ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์เสด็จขึ้นมาปราบปรามชุมนุมเจ้าพระฝางเมืองสวางคบุรี และประทับชำระคณะสงฆ์จัดการหัวเมืองฝ่ายเหนือใหม่ตลอดฤดูน้ำ ดังปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ระหว่างจลาจล พระองค์ได้มีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้คนในแถบคุ้งสำเภาที่อพยพลี้ภัยสงคราม ได้ย้ายกลับมาตั้งครัวเรือนเหมือนดังเดิม ทรงสร้างวัดและศาลาการเปรียญขึ้นใหม่ ณ ริมคุ้งสำเภาล่ม พร้อมทั้งตรัสเรียกชื่อวัดที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ว่า "วัดคุ้งตะเภา" ปัจจุบันทางราชการได้นำชื่อวัดคุ้งตะเภาไปใช้ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านและชื่อตำบลคุ้งตะเภาสืบมาจนปัจจุบัน
จากข้อมูลคำประพันธ์ในขุนช้างขุนแผน พบหลักฐานว่า คนทั่วไปยอมรับนามวัด ที่ได้รับพระราชทานเมื่อคราวตั้งวัดคุ้งตะเภา เมื่อ จุลศักราช 1132 มาเรียกหมู่บ้านนี้ว่า คุ้งตะเภา มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ดังปรากฏในเสภาตอนหนึ่งใน ขุนช้าง–ขุนแผน ดังนี้
"...อ้ายมอญมือด่างบางโฉลง | เมียชื่ออีโด่งเป็นชาวเหนือ |
ลักถ้วนลักถี่ทั้งตีเรือ | ครกกระบากสากกะเบือไล่เก็บครบ |
ถัดไปอ้ายทองอยู่หนอกฟูก | เมียชื่ออีดูกลูกตาจบ |
กลางวันปิดเรือนเหมือนชะมบ | แต่พอพลบคนเดียวเที่ยวย่องเบา |
อ้ายมากสากเหล็กเจ๊กกือ | เมียมันตาปรือชื่ออีเสา |
ถัดไปอ้ายกุ้ง "คุ้งตะเภา" | ..." |
ซึ่งตอนนี้เป็นตอนที่สมเด็จพระพันวษา พระราชทานนักโทษฉกาจให้แก่ขุนแผนเพื่อนำร่วมทัพไปรบกับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมี "อ้ายกุ้ง (ชาว) คุ้งตะเภา" ปรากฏตัวในรายชื่อ 35 นักโทษด้วย และเนื่องจากข้อความในขุนช้างขุนแผนดังกล่าว เป็นวรรณคดีที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้แต่งขึ้นในสมัยของพระองค์ โดยมีเค้าโครงเรื่องเดิมจากสมัยอยุธยา
เขตตำบลที่ตั้งของแถบคุ้งตะเภานั้นตั้งอยู่ทิศตะวันออกของแม่น้ำน่าน ตรงข้ามกับตำบลท่าเสา อันเป็นย่านชุมชนการค้าขนาดใหญ่ที่สำคัญของภาคเหนือ แต่ในฝั่งคุ้งตะเภานั้นนับว่ายังไม่มีความเจริญนัก เพราะที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านจะมีสภาพเป็นเป็นที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมในช่วงน้ำหลากเสมอ ประกอบกับแถบนี้ยังมีป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ และมีเพียงหมู่บ้านขนาดเล็กเป็นกลุ่มย่อม ๆ เรียงกันไปตามฝั่งแม่น้ำน่านทิศตะวันออก โดยในแถบหมู่บ้านตรงข้ามบ้านท่าเสาเมื่อวัดจากเส้นทางคมนาคมทางน้ำระหว่างหมู่บ้านที่ตั้งอยู่แถบริมฝั่งแม่น้ำน่านทิศตะวันออกในเขตตำบลท่าเสาในสมัยนั้น จะมีทุ่งบ้านคุ้งตะเภา ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางในแถบตำบลนี้และหมู่บ้านคุ้งตะเภานับเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและมีประชากรมากที่สุดกว่าบ้านอื่นที่ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกในอดีต
และด้วยเหตุที่หมู่บ้านคุ้งตะเภาตั้งมานานกว่า ประกอบกับในสมัยก่อนยังไม่มีหมู่บ้านอื่นในแถบนี้ คนทั่วไปจึงได้ใช้ชื่อคุ้งตะเภาเรียกขานย่านบริเวณตำบลแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกว่าย่านตำบลคุ้งตะเภามาตั้งแต่อดีต ดังปรากฏหลักฐานว่ามีการเรียกแถบตำบลนี้ว่า "ตำบลคุ้งตะเภา" มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว โดยในสมัยนั้นตำบลคุ้งตะเภา อยู่ในเขตการปกครองของอำเภออุตรดิฐ แขวงเมืองพิชัย มณฑลพิษณุโลก
จนต่อมาช่วงหลัง ทางการได้รวมเขตปกครองตำบลคุ้งตะเภาเข้ากับตำบลท่าเสา อำเภอบางโพ อำเภออุตตรดิตถ์ เป็นระยะเวลาหนึ่ง เพราะเดิมหมู่บ้านในแถบนี้ยังไม่เจริญนัก และตำบลท่าเสานั้นนับเป็นย่านการค้าและชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่โบราณเหมาะแก่การเป็นศูนย์กลางในการดูแลหมู่บ้านในเขตปกครอง จนมาในปี พ.ศ. 2490 ทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้แบ่งเขตการปกครองในแถบนี้แยกออกจากตำบลท่าเสากลับมาตั้งเป็นตำบลคุ้งตะเภาเหมือนเดิม และได้ใช้ชื่อ คุ้งตะเภา มาตั้งเป็นชื่อตำบลเช่นเดิมสืบมาจนปัจจุบัน
ภูมิศาสตร์
ตำบลคุ้งตะเภาตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 10 กิโลเมตร ตำบลคุ้งตะเภามีสภาพเป็นที่ราบ มีแม่น้ำน่านไหลผ่านพื้นที่ มีหมู่บ้านจำนวน 8 หมู่บ้าน ย่านเจริญอยู่ทางทิศตะวันตกของตำบลติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 ส่วนด้านทิศตะวันออกเป็นแหล่งเกษตรกรรมหลักของตำบล
อาณาเขต
ตำบลคุ้งตะเภา มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลงิ้วงามแม่น้ำน่านและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลป่าเซ่า หมู่ที่ 1 ตำบลผาจุก และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลผาจุกและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับแม่น้ำน่านและเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์
สัญลักษณ์
ตรา
สัญลักษณ์ประจำตำบลคุ้งตะเภาคือ รูปเรือสำเภาทอง โดยมีที่มาจากประวัติของชื่อคุ้งตะเภาที่กล่าวถึงเรือสำเภา และอนุโลมจากพระนามของหลวงพ่อสุวรรณเภตรา ที่แปลว่า หลวงพ่อสำเภาทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวตำบลคุ้งตะเภา
สัญลักษณ์นี้ปรากฏในตราสัญลักษณ์ของหน่วยงานสำคัญในตำบลคุ้งตะเภา เช่น ตราสัญลักษณ์ของวัดคุ้งตะเภา องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งตะเภา ที่แม้ต่อมาเปลี่ยนฐานะเป็นเทศบาลตำบลคุ้งตะเภา ก็ยังนำสัญลักษณ์นี้มาใช้ด้วย
คำขวัญ
ลูกหลานชาวท่าเหนือ
ลือเลื่องภูมิปัญญา
สองพระปฏิมาคู่บ้าน
หาดน้ำน่านงามตา
พิพิธภัณฑ์วัดคุ้งตะเภาล้ำค่า
เลิศล้ำประเพณีงาม ๙ เดือน— คำขวัญประจำตำบลคุ้งตะเภา
คำขวัญดังกล่าว แสดงถึงจุดเด่นสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตำบลคุ้งตะเภา
โดยคำว่า "ลูกหลานชาวท่าเหนือ" แสดงถึง การที่ตำบลคุ้งตะเภามีประวัติความเป็นมายาวนานนับ 300 ปี ในที่ตั้งทางผ่านสำคัญของย่านการค้าขายของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ที่ทำให้มีผู้มาตั้งรกรากในแถบย่านตำบลนี้จนกลายมาเป็นชาวบ้านลูกหลานชาวตำบลคุ้งตะเภาในปัจจุบัน
คำว่า "ลือเลื่องภูมิปัญญา" หมายถึง ตำบลคุ้งตะเภาเป็นชุมชนที่มีทุนทางภูมิปัญญาที่เข้มแข็งในหลายด้าน เช่น ด้านบุคคล มีปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการอนุรักษ์ภูมิปัญญาโบราณ ด้านแพทย์แผนไทยโบราณ, ด้านดนตรีและการละเล่นไทย, และนักภูมิปัญญาประดิษฐ์ในพิธีสำคัญทางศาสนาในแต่ละหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งรวมถึงในด้านสถานที่ด้วย เช่น มีศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรไทยวัดคุ้งตะเภา ที่มีการอนุรักษ์สมุนไพรไทยหายากไว้กว่า 400 ชนิด แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางภูมิปัญญาโบราณของตำบลคุ้งตะเภาเป็นอย่างดี
คำว่า "สองพระปฏิมาคู่บ้าน" สื่อความหมายถึง องค์หลวงพ่อสุวรรณเภตรา และ หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์โบราณอายุกว่า 800 ปี ที่เป็นพระพุทธรูปสำคัญศูนย์รวมจิตใจของชาวตำบลคุ้งตะเภา และชาวจังหวัดอุตรดิตถ์มาช้านาน
คำว่า "หาดน้ำน่านงามตา" หมายถึง สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจสำคัญของตำบลคุ้งตะเภา คือสวนสาธารณะหาดริมน้ำน่านบ้านคุ้งตะเภา แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนสำคัญที่เป็นที่นิยมแห่งหนึ่งของอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
คำว่า "พิพิธภัณฑ์วัดคุ้งตะเภาล้ำค่า" หมายถึง ตำบลคุ้งตะเภามีทุนทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมความเป็นมาที่ยาวนาน มีพิพิธภัณฑ์ชุมชนเป็นของตนเองในวัดคุ้งตะเภา เป็นแหล่งศูนย์กลางรูปธรรมที่แสดงออกซึ่งความเป็นมาและความเจริญทางวัตถุรวมถึงความเจริญทางจิตใจในอดีตของชาวตำบลคุ้งตะเภา
คำว่า "เลิศล้ำประเพณีงาม ๙ เดือน" หมายความถึง การอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมดังเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวหมู่บ้านคุ้งตะเภาที่มีประเพณีสำคัญในแต่ละเดือนถึง 9 เดือน ตั้งแต่เดือน 3 ถึงเดือน 12 แสดงออกถึงความเจริญทางจิตใจและความผูกพันกับพระพุทธศาสนาของชาวตำบลคุ้งตะเภา และยังเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงทุนวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของชาวตำบลคุ้งตะเภาอีกด้วย
เพลง
เพลงประจำตำบลคือ "คุ้งตะเภารำลึก"
คุ้งตะเภารำลึก | |
ตัวอย่างบทเพลง คุ้งตะเภารำลึก |
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: เพลงประจำตำบลคุ้งตะเภา |
ชาวคุ้งตะเภาได้มีการจัดทำเพลงประจำตำบลขึ้น โดยมี นายวิเชียร ครุฑทอง ปราชญ์ชุมชนของตำบลคุ้งตะเภา เป็นผู้แต่งบทเพลง - ทำนองเพลง รวมทั้งเป็นผู้ขับร้อง ซึ่งได้มีการบันทึกเสียงดนตรีที่ห้องบันทึกเสียงคณะดนตรีวง "ไทไท" ในปี พ.ศ. 2547
เพลงที่นายวิเชียร ครุฑทอง แต่งขึ้นมี 2 บทเพลง ทั้งสองเพลงเป็นเพลงขับร้องแบบลูกทุ่ง โดยมีชื่อตามลำดับดังนี้
- "เพลงคุ้งตะเภารำลึก" มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชื่อคุ้งตะเภา
- "เพลงอรุณรุ่งที่คุ้งตะเภา" มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาหมู่บ้านคุ้งตะเภาในปัจจุบัน
ปัจจุบันทั้งสองเพลงได้มีการเปิดบรรเลงตาม "เสียงตามสาย" ของหมู่บ้านคุ้งตะเภา ก่อนการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของหมู่บ้าน เป็นเพลงที่คุ้นหู และเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของหมู่บ้านคุ้งตะเภามาจนปัจจุบัน
ตราสัญลักษณ์เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา เป็นรูปเรือสำเภาทอง
หลวงพ่อสุวรรณเภตรา 1 ใน 2 พุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์ในคำขวัญประจำตำบลคุ้งตะเภา
สวนสาธารณะหาดริมน้ำน่านบ้านคุ้งตะเภาในคำขวัญประจำตำบลคุ้งตะเภา
ประชากร
จำนวนประชากรรวม 8,735 คน แบ่งเป็น ชาย 4,265 คน หญิง 4,470 คน
การปกครอง
ตำบลคุ้งตะเภา แบ่งการปกครองตามรูปแบบหมู่บ้านออกเป็น 8 หมู่ คือ
- หมู่บ้านป่ากล้วย (หมู่ 1-2)
- หมู่บ้านป่าขนุน (หมู่ 3)
- หมู่บ้านคุ้งตะเภา (หมู่ 4)
- หมู่บ้านหัวหาด (หมู่ 5)
- หมู่บ้านหาดเสือเต้น (หมู่ 6,8)
- หมู่บ้านบ่อพระ (หมู่ 7)
กำนัน
ทำเนียบรายนามกำนันตำบลคุ้งตะเภา นับแต่สมัยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
ทำเนียบรายนามกำนันตำบลคุ้งตะเภา | |||
ลำดับที่ | รายนามกำนัน | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
---|---|---|---|
1. | ขุนภูมิคุ้งตะเภา | ปลายรัชกาลที่ 7 | |
2. | กำนันครีบ รัตนสากล | (ไม่ทราบ) | |
3. | กำนันต่วน คงตาม | (ไม่ทราบ) | |
4. | กำนันหลง ฟักสด | (ไม่ทราบ) | |
5. | กำนันคันโธ สิทธิชัย | (ไม่ทราบ) | |
6. | กำนันปิ่น แสงจันทร์ | (ไม่ทราบ) | |
7. | กำนันวิเชียร สรรค์เชื้อไพบูลย์ | 8 ธ.ค. 2521 – 14 ก.ค. 2535 | |
8. | กำนันไพทูรย์ พรหมน้อย | ก.ค. 2535 – ปัจจุบัน |
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กินพื้นที่ตลอดตำบลคุ้งตะเภา เทศบาลตำบลคุ้งตะเภาได้เปลี่ยนแปลงฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นเทศบาลตำบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2551 ปัจจุบันมี นายเอกสิทธิ์ พรหมน้อย เป็นนายกเทศมนตรี
การศึกษา
- ระดับอนุบาลและประถมศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษา
- โรงเรียนป่าขนุนเจริญวิทยา (ประถมฯและมัธยมฯต้น)
- โรงเรียนบ้านหาดเสือเต้น (ประถมฯและมัธยมฯต้น)
การสาธารณสุข
เนื่องจากตำบลคุ้งตะเภาอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ ทำให้การเข้ารับรักษาพยาบาลของคนในตำบลสามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก อย่างไรก็ตาม เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 1 แห่ง คือ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคุ้งตะเภา ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านคุ้งตะเภา หมู่ที่ 4
นอกจากนี้ เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน เพื่อช่วยในการดูแลรักษาคนในชุมชนอีกด้วย โดยกระจายไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ และมีลูกบ้านนั้น ๆ เป็นอาสาสมัคร
การคมนาคม
ถนน
เศรษฐกิจ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ศาสนสถาน
เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ในตำบลคุ้งตะเภา นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท จึงปรากฏวัดในพระพุทธศาสนาอยู่ในทุกหมู่บ้าน (ไม่ปรากฏศาสนสถานของศาสนาอื่น) ซึ่งวัดโดยส่วนใหญ่ตั้งตามชื่อของหมู่บ้านดังนี้
- วัดคุ้งตะเภา วัดประจำหมู่บ้านคุ้งตะเภา
- วัดใหม่เจริญธรรม วัดประจำหมู่บ้านป่าขนุน
- วัดป่ากล้วย วัดประจำหมู่บ้านป่ากล้วย
- วัดป่าสักเรไร วัดประจำหมู่บ้านหัวหาด
- วัดหาดเสือเต้น วัดประจำหมู่บ้านหาดเสือเต้น
- วัดหนองปล้อง วัดประจำหมู่บ้านบ่อพระ (หนองปล้อง)
- วัดบ่อพระ วัดประจำหมู่บ้านบ่อพระ
วัฒนธรรมประเพณี
ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธเถรวาท ประเพณีต่าง ๆ ยึดถือปฏิบัติเหมือนกันกับาวพุทธเถรวาทในแถบภาคกลางตอนบน เช่น บวชพระ ประเพณีแต่งงาน งานศพ ฯลฯ
สถานที่สำคัญ
หลวงพ่อสุวรรณเภตรา วัดคุ้งตะเภา
หลวงพ่อสุวรรณเภตรา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พุทธลักษณะสมัยสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ ณ อุโบสถวัดคุ้งตะเภา มีพุทธลักษณะงดงามยิ่ง สร้างโดยหลวงพ่อพระครูธรรมกิจจาภิบาล (กลม) เกจิอาจารย์รูปสำคัญของเมืองอุตรดิตถ์ (ยุคก่อนหลวงปู่ทองดำ) ในปี พ.ศ. 2489 ชาวบ้านคุ้งตะเภานับถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก
หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์ วัดคุ้งตะเภา
หลวงพ่อสุโขทัยสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์บริสุทธิ์ สร้างในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี สกุลช่างสุโขทัยยุคต้น-เชียงแสนปลาย มีอายุประมาณ 800 ปี เป็น 1 ใน 9 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญแห่งเมืองอุตรดิตถ์
สวนสาธารณะหาดน้ำน่าน
สวนสาธารณะหาดน้ำน่าน หรือ ลานเอนกประสงค์หาดน้ำน่าน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านคุ้งตะเภาริมแม่น้ำน่านทางด้านเหนือสุดของตำบล ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 เดิมบริเวณที่แห่งนี้เป็นหาดแม่น้ำกว้างสวยงาม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ในปี พ.ศ. 2545 องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งตะเภา โดยการนำของนายเอกสิทธิ์ พรหมน้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งตะเภา ได้ขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในการปรับปรุงภูมิทัศน์และก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ มีการจัดระเบียบร้านค้า จัดสร้างกำแพงกั้นและมีการจัดเก็บเงินค้าบำรุงสำหรับประชาชนที่มาพักผ่อนในช่วงเทศกาลสำคัญ[ต้องการอ้างอิง] รวมทั้งมีการฟื้นฟูกิจกรรมประเพณีต่าง ๆ เช่น ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ประเพณีเทศน์มหาชาติ เป็นต้น
ด้วยความสวยงามของภูมิทัศน์และความสะดวกสะบายในการเดินทาง ปัจจุบัน สวนสาธารณะหาดน้ำน่านได้รับความสนใจจากประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลลอยกระทง
สภาวัฒนธรรมตำบลคุ้งตะเภา วัดใหม่เจริญธรรม
สภาวัฒนธรรมตำบลคุ้งตะเภา ตั้งอยู่ที่ วัดใหม่เจริญธรรม เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์สร้างใหม่ แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยการนำของพระปลัดสมพงษ์ สมจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญธรรม เจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภารูปปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของการรักษาอนุรักษ์ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรมของตำบลคุ้งตะเภา และสำนักงานสภาวัฒนธรรมประจำตำบล ตัวอาคารจัดสร้างโดยการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวหมู่บ้านป่าขนุนและใกล้เคียง
ในทุกปี วัดใหม่เจริญธรรมจะมีงานส่งเสริมวัฒนธรรมการสืบทอดไหว้ครูมวยไทยสายพระยาพิชัยดาบหัก โดยมีอาคารสภาวัฒนธรรมตำบลคุ้งตะเภาเป็นศูนย์กลาง ปัจจุบัน อาคารสภาวัฒนธรรมตำบลคุ้งตะเภา ไม่ได้มีการจัดแสดงโบราณวัตถุหรือจัดแสดงนิทรรศการด้านกิจกรรมการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม แต่คงใช้เป็นศูนย์กลางของการปกครองคณะสงฆ์ของตำบลคุ้งตะเภา โดยใช้เป็นกุฏิสงฆ์และกุฏิเจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญธรรม และสำนักงานวัดใหม่เจริญธรรม รวมถึงเป็นสำนักเรียนนักธรรมประจำวัดใหม่เจริญธรรมอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา หรือ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดคุ้งตะเภา ตั้งอยู่ที่ กุฏิปั้นหยา วัดคุ้งตะเภา เป็นสถานที่จัดแสดงเอกสารและวัตถุโบราณของชุมชนคนบ้านคุ้งตะเภา เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้ศึกษาขนบวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของบรรพบุรุษ และเพื่อให้คนในท้องถิ่นได้รับรู้และเกิดความภาคภูมิใจในมรดกและความเป็นมาของชุมชนบ้านคุ้งตะเภาที่มีอายุความเป็นมายาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
เนื่องจากในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภาไม่มีงบประมาณในการจัดห้องแสดงในขณะที่โบราณวัตถุของวัดคุ้งตะเภามีจำนวนมาก ทำให้สิ่งของที่นำมาจัดแสดงมีจำนวนไม่มากนัก โดยโบราณวัตถุส่วนใหญ่ทางวัดเก็บรักษาไว้โดยไม่ได้นำออกแสดง ในอนาคตวัดคุ้งตะเภามีโครงการย้ายการจัดแสดงไปบนอาคารศาลาการเปรียญของวัดที่กำลังสร้างเสร็จ โดยจะนำโบราณวัตถุทั้งหมดมาจัดแสดง และจะจัดห้องแสดงเป็นสัดส่วนตามหลักการจัดการพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนบ้านคุ้งตะเภาที่สำคัญต่อไป
แหล่งเรียนรู้สมุนไพรไทย วัดคุ้งตะเภา
แหล่งเรียนรู้สมุนไพรไทยวัดคุ้งตะเภา เป็นศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ และแหล่งเรียนรู้ชุมชนด้านสมุนไพรไทยที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ตั้งอยู่ที่วัดคุ้งตะเภา โดยมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรยืนต้นกว่า 15 ไร่ ครอบคลุมอาณาบริเวณวัดคุ้งตะเภาทั้งหมด โดยความริเริ่มของพระครูประดิษฐ์ธรรมธัช (ธง ฐิติธมฺโม), พระอาจารย์อู๋ ปญฺญาวชิโร (ปราชญ์ชุมชนตำบลคุ้งตะเภา) และพระสมุห์สมชาย จีรปญฺโญ ที่ได้ดำริให้จัดพื้นที่ในบริเวณวัดสำหรับปลูกสมุนไพรที่รวบรวมมาได้จากที่ต่าง ๆ ทั้งชนิดยืนต้นและชนิดไม้ลงหัว ไปจนกระทั่งไม้เลื้อยขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รวบรวมพืชสมุนไพรไทยที่หาชมได้ยากนำมาปลูกในเขตพื้นที่บริเวณวัดหลายร้อยชนิด โดยเริ่มทำการจัดหาสมุนไพรมาอนุรักษ์เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2535 จากเดิมที่วัดคุ้งตะเภาเป็นพื้นที่เปิดโล่ง กลายมาเป็นวัดสวนป่าสมุนไพรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์
สวนป่าสมุนไพรวัดคุ้งตะเภา ในปัจจุบันยังคงปล่อยให้เป็นบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของสมุนไพร ซ่อนเร้นสมุนไพรไทยหายากอันมีคุณประโยชน์ยิ่งในบริเวณป่า จากพื้นที่โล่งร้อนกลายเป็นพื้นที่ป่าปลูกที่เงียบสงบเย็นเหมาะแก่การเจริญจิตตภาวนา และจากความริเริ่มของพระอาจารย์อู๋ ที่ไม่ให้ติดป้ายชื่อกำกับต้นไม้สมุนไพรทุกชนิดเหมือนสถานที่อื่น ทำให้วัดคุ้งตะเภาสามารถอนุรักษ์สมุนไพรบางชนิดที่หายากมากเอาไว้ได้โดยไม่ต้องคอยเฝ้าดูแล และเมื่อมีผู้สนใจมาศึกษาสมุนไพรทั้งจากภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ จะต้องให้พระอาจารย์อู๋มานำเดินชมด้วยตนเอง ทำให้ผู้สนใจได้รับความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านผู้ทรงภูมิปัญญาได้โดยตรง
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ข้อมูลจำนวนประชากรและบ้านตำบลคุ้งตะเภา กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ความเป็นมาหมู่บ้านและตำบลคุ้งตะเภา ในวิกิซอร์ซ
- ราชกิจจานุเบกษา, เรื่องตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ, เล่ม ๖๔, ตอน ๔๖, ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๐, หน้า ๒๕๑๖
- ข้อมูลจำนวนประชากรและบ้านตำบลคุ้งตะเภา กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ข้อมูลองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งตะเภา จากเว็บไซด์บริษัท กำลังแผ่นดิน
- ↑ เทวประภาส มากคล้าย เปรียญ.. เอกสาร : ประวัติวัดและหมู่บ้านคุ้งตะเภา . อุตรดิตถ์ : วัดคุ้งตะเภา , 2550.
- พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
- เรื่องเรือสำเภานี้เคยมีคนขุดเจอโครงเรือสำเภาโบราณขนาดใหญ่ขณะที่กำลังขุดบ่อน้ำ ที่หลังวัดคุ้งตะเภาบริเวณที่เคยเป็นท้องน้ำเดิม ปัจจุบันคือที่ตั้งของกลุ่มบ้านบริเวณโรงงานหมี่เก่าหลังวัดคุ้งตะเภา ซึ่งหากขุดดินบริเวณนั้นลงไป 4-5 เมตร จะเจอพื้นทรายเดิมและจะมีน้ำซึมตลอดเวลา สันนิษฐานว่าบริเวณที่เป็นโค้งสำเภาล่มนั้นคงจะเป็นสถานที่ขุดเจอโครงเรือนี้ ปัจจุบันยังไม่ได้ขุดขึ้นมาอนุรักษ์ เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ได้ถมบ่อน้ำนั้นไปแล้ว
- _________________. (ม.ป.ป.). พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระหว่างจลาจล จุลศักราช ๑๑๒๙-๑๑๓๐. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.). หน้า 49-51
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2558). วัดคุ้งตะเภา. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [1]. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์. (2555). จำนวนวัดจังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2554. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : [2]. เข้าถึงเมื่อ 30-3-55
- กรมการศาสนา. (2531). ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๗. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา. หน้า 34.
- ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๒๗ พลายงามอาสา
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงเกษตราธิการ ประกาศบอกล่วงหน้าจะแจกโฉนดสำหรับที่ดิน ในทุ่งบ้านวังหมู ตำบลวังหมู อำเภออุตรดิตถ์,ทุ่งบ้านป่าเซ่า ตำบลป่าเซ่า อำเภออุตรดิตถ์,ทุ่งบ้านคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภออุตรดิตถ์ แขวงเมืองพิชัย, เล่ม ๒๔, ๑๕ กันยายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๖, หน้า ๕๘๕
- ราชกิจจานุเบกษา, เรื่องตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ, เล่ม ๖๔, ตอน ๔๖, ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๐, หน้า ๒๕๑๖
- แผนที่สภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์. สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรของชุมชน กรมพัฒนาที่ดิน ภายใต้ความร่วมมือของศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เรียกข้อมูลเมื่อ 2-6-52
- คำขวัญประจำตำบลคุ้งตะเภาแต่งโดยพระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี เดิมเป็นคำขวัญประจำหมูบ้านคุ้งตะเภา
- สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานของตำบลคุ้งตะเภา. เว็บไซต์เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา
- จรูญ พรหมน้อย. (2554). ทำเนียบกำนันตำบลคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์ : (ม.ป.ท.).
- รายงานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ 2 ครั้งที่ 21/2551.เว็บไซต์ สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
- คืนชีวิต "หาดน้ำน่าน" ผลงานชุมชน-อ.บ.ต.คุ้งตะเภา. เว็บไซต์กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ทรงพล นาคเอี่ยม. (2550). การเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายในเชิงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวไทย : กรณีศึกษามวยไทยสายพระยาพิชัยดาบหัก. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (พลศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ข้อมูลและภาพสวนป่าสมุนไพรวัดคุ้งตะเภา (ศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์). จากเว็บไซต์วัดคุ้งตะเภา. เรียกข้อมูลเมื่อ 14-5-52
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: Settlements in Khung Taphao Subdistrict |
- เว็บไซต์เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา
- ข้อมูลตำบลคุ้งตะเภาจาก ThaiTambon.com
- เว็บบอร์ดลานบ้านคุ้งตะเภา กระดานสนทนาวัดคุ้งตะเภา