fbpx
วิกิพีเดีย

เมืองโบราณดงละคร

เมืองโบราณดงละคร เป็นเมืองโบราณสมัยทวาราวดี ตั้งอยู่ในเขตตำบลดงละคร อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ห่างจากตัวจังหวัดนครนายกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร จุดสูงสุดของเมืองอยู่ที่เนินดินทางด้านทิศตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 34 เมตร

เมืองโบราณดงละคร

เมืองโบราณดงละครเป็นเมืองรูปไข่เกือบกลม มีคูน้ำและคันดินโดยรอบ มีเนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 700-800 เมตร เดิมมีแนวกั้นเป็นคันดินสองชั้นแต่ปัจจุบันเหลือเพียงชั้นนอกชั้นเดียว คันดินชั้นนอกมีความสูงกว่าคันดินชั้นใน แต่คันดินชั้นในมีความหนามากกว่า ลักษณะการสร้างเมืองนั้นติดกับแม่น้ำนครนายกสายเดิม ซึ่งติดต่อกับชายฝั่งทะเลได้ เหมาะแก่การค้าขายทางทะเล และยังสามารถทำการเกษตรได้โดยรอบ เป็นลักษณะเดียวกับเมืองโบราณสมัยทวาราวดีในบริเวณใกล้กันของประเทศไทย คาดว่ามีผู้อยู่อาศัยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-18 และอยู่ในเครือข่ายการค้าขายทางทะเลในสมัยโบราณ

เมืองโบราณดงละคร ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478

ที่มาและตำนานของเมืองดงละคร

 
ในเมืองดงละครดูเป็นป่ารกชัฎ อาจเป็นที่มาของชื่อดงนคร แล้วเพี้ยนเป็นดงละครในภายหลัง

ที่มาของชื่อเมืองดงละคร

แต่เดิมชาวบ้านเรียกเมืองนี้ว่าเมืองลับแล ส่วนชื่อเมืองว่าดงละครนั้นไม่ทราบที่มาแน่ชัด บางแห่งกล่าวว่า เวลากลางคืน ได้ยินเสียงดนตรีวงมโหรีแว่วมาจากในเมืองกลางป่า คล้ายกับมีการเล่นละครในวัง จึงเรียกว่าดงละคร หมายถึงมาเล่นละครในดง ส่วนอีกแห่งก็กล่าวว่า เดิมเมืองนี้น่าจะเรียกว่า ดงนคร หมายถึงนครที่อยู่ในดง แต่นานเข้าจึงเรียกเพี้ยนกลายเป็น ดงละคร แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของชื่อเมืองดงละครนี้

พระบรมราชาธิบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี ได้มีพระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับเมืองดงละครไว้ว่า เป็นเมืองที่สร้างขึ้นโดยเจ้าแผ่นดินเขมรโบราณซึ่งเป็นสตรี หรืออาจเรียกว่าราชินีแห่งแผ่นดินเขมรโบราณนั่นเอง โดยเมื่อราชินีองค์นี้ขึ้นครองแผ่นดินเขมร ได้เฟ้นหาชายรูปงามจากแคว้นต่างๆ เพื่อเป็นคู่ครอง โดยได้พบชายชาวเขมรสองคนก่อน จึงได้รับเลี้ยงไว้ แต่ต่อมาได้พบกับชายอีกคนจากแผ่นดินเขมรเก่า (ปัจจุบันเป็นแผ่นดินไทย) ราชินีเขมรพอพระทัยในชายผู้นี้มากจึงอยากจะรับเลี้ยงไว้อีกคน แต่ชายสองคนก่อนไม่ยอม ราชินีเขมรจึงสร้างเมืองใหม่ชายอีกคนคือเมืองดงละครซึ่งอยู่ใกล้กับอาณาจักรเขมร แต่ต่อมาราชินีเขมรองค์นั้นก็ได้ประชวรและสิ้นพระชนม์ไป ไม่ได้มีราชบุตรสืบพระวงศ์ต่อไป ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานพระราชวินิจฉัยไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรีไว้ว่าเมืองนี้เป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินโบราณ

ข้อสันนิษฐานของอดีตอธิบดีกรมศิลปากร

นายนิคม มุสิกะคามะ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร สันนิษฐานต่อโดยประมวลจากพระบรมราชาธิบาย สรุปได้ความว่า เมืองดงละคร น่าจะสร้างหลังจากบริเวณนี้อยู่ในอาณาจักรไทยแล้ว แต่สร้างโดยคนเขมร เนื่องจากพบหลักฐานหลายอย่างซึ่งเป็นศิลปะเขมรในเมืองดงละคร เช่น คันฉ่องสำริด เทวรูปสำริดนุ่งผ้าศิลปะแบบเดียวกับที่นครวัด เป็นต้น

สรุปว่า เมืองดงละคร เป็นเมืองสมัยทวาราวดี ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากทั้งทวาราวดีและขอม มีอายุตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 12-18

การล่มสลายของเมืองเก่า

ภายหลังพุทธศตวรรษที่ 18 คาดว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางการไหลของแม่น้ำนครนายกซึ่งแต่เดิมไหลผ่านทางทิศตะวันตกของเมืองดงละคร กลายเป็นไหลอย่างปัจจุบันนี้ ทำให้เมืองที่เคยเจริญกลับไม่ได้รับความนิยมเพราะขาดน้ำ ทำให้เมืองดงละครกลายเป็นเพียงเมืองเล็กๆ มีประชากรอยู่ไม่กี่คน เพราะคนส่วนใหญ่ย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ตามการไหลของแม่น้ำ เป็นเมืองนครนายกในปัจจุบันนี้

ในช่วงที่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 คาดว่าชาวบ้านได้ย้ายเมืองหนีไปอยู่บริเวณเขาใหญ่เพื่อหนีการรุกรานของพม่า ทำให้เมืองร้างไปอีก

ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ มีพวกลาวพวน ลาวเวียง และมอญ มาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ โดยยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก ซึ่งมักมีช้างป่าลงมากินข้าวในนาเสมอๆ แต่ต่อมาชาวบ้านย้ายมาอยู่เยอะเข้า ช้างป่าเลยหนีไปอยู่ที่บริเวณเขาใหญ่แทน

การขุดแต่งทางโบราณคดี

 
ตัวอย่างเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบในบริเวณเมืองโบราณดงละคร

หลังจากเมืองดงละครโบราณได้ล่มสลายไป ต่อมาก็ได้มีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยในบริเวณนี้ โดยมากมีอาชีพทำการเกษตร ซึ่งระหว่างทำการเกษตรมีการขุดดิน ชาวบ้านก็ได้ขุดพบของโบราณเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2515ได้มีการขุดแต่งเมืองโบราณดงละครอย่างเป็นทางการโดยนักวิชาการ โดยนายพิสิฐ เจริญวงศ์ ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากรในขณะนั้นได้ดำเนินการขุดแต่งและอนุรักษ์เมืองนี้มาเป็นลำดับ และได้พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการอยู่อาศัยของผู้คนในยุคพุทธศตวรรษที่ 13-15 เช่น พระพิมพ์เนื้อเงิน ศิลปะแบบทวาราวดี เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเคลือบสีน้ำตาล เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถังและซ้อง รวมทั้งลูกปัดแก้วหลายสี ลูกปัดแบบลูกตา (eye beads) ลูกปัดสลับสี (mosaic beads) ลูกปัดหินคาร์เนเลียน และอะเกต

ภาชนะดินเผาบางชิ้น มีนักวิชาการบางท่านให้ความเห็นไว้ว่าเป็นของเปอร์เซีย ลักษณะเป็นเครื่องเคลีอบสีฟ้าอ่อน คาดว่ามาจากเมืองชีราฟของอิหร่าน และเมืองบาสราของอิรัก ซึ่งเครื่องปั้นดินเผาลักษณะเดียวกันนี้เคยพบที่แหลมโพธิ์ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี แสดงให้เห็นว่า เมืองดงละครน่าจเป็นทางผ่านของการค้าจากทางภาคใต้

นอกจากนี้ ยังมีการขุดพบโบราณวัตถุทำจากควอตซ์ ซึ่งมีแหล่งแร่ควอตซ์อยู่บริเวณเขาแก้ว อำเภอบ้านนา ห่างจากดงละครราว 20 กิโลเมตร และพบกำไลสำริด 2 วง คาดว่าจะมาจากเมืองลพบุรี นอกจากนี้ยังพบขวานหินขัดจำนวนมากที่ผลิตจากหินแอนดีไซต์และหินไรโอไลต์ ซึ่งมีแหล่งผลิตที่บ้านห้วยกรวด จังหวัดกระบี่ จึงสันนิษฐานว่าเมืองดงละครน่าจะเป็นทางผ่านในการค้าขายผ่านมาจากทางใต้ก็ได้

ความสำคัญ

เมืองดงละคร เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในสมัยโบราณช่วงพุทธศตวรรษที่ 13-18 โดยเป็นเมืองทางผ่านในการติดต่อค้าขายระหว่างจีน อินเดีย และเปอร์เซีย ซึ่งมีการซื้อขายสินค้าแลกเปลี่ยนวัตถุดิบกัน โดยในส่วนของตัวเมืองดงละครเอง ได้รับอิทธิพลจากเขมร โดยขุดพบโบราณวัตถุพวกกำไลและพระพุทธรูปสำริดศิลปะแบบบายน เครื่องปั้นดินเผา และลูกปัดต่างๆ

โบราณสถาน

โบราณสถานหมายเลข 1

 
โบราณสถานหมายเลข 1 บริเวณทางขวาของภาพในเงาไม้ จะเห็นแท่นอยู่ 2 อัน

อยู่ในเขตชั้นนอกของตัวเมืองดงละคร ห่างประตูเมืองชั้นในทางทิศเหนือ 250 เมตร ลักษณะเป็นกำแพงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 12 เมตร มีทางเข้าอยู่ทางทิศใต้ ภายในมีแท่นตั้งสำหรับวางรูปเคารพอยู่ 2 แท่น (คาดว่าเดิมมี 3 แท่น) โดยในการขุดแต่งเมื่อปี 2531-2532 และในการบูรณะเมื่อปี 2536 พบโบราณวัตถุที่สำคัญดังต่อไปนี้

  1. เศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทอง ศิลปะสมัยทวาราวดี
  2. แผ่นทองคำขนาดเล็ก
  3. เมล็ดข้าวสารดำ
  4. ชิ้นส่วนภาชนะ คาดว่าเป็นหม้อแบบมีสัน ศิลปะทวาราวดี
  5. คันฉ่องสำริด อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18

สันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นศาสนสถาน สร้างขึ้นก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของชาวดงละครสมัยโบราณ

โบราณสถานหมายเลข 2

 
โบราณสถานหมายเลข 2

อยู่ในเขตชั้นนอกของตัวเมืองดงละคร ห่างประตูเมืองชั้นในทางทิศเหนือ 250 เมตร ลักษณะเป็นแนวกรอบศิลาแลงกว้าง 3.7 เมตร ยาว 4 เมตร ตรงกลางขุดพบสถูปศิลาแลงรูปทรงกระบอกขนาดใหญ่ซ้อนกัน 2 ชั้น โดยในการขุดแต่งเมื่อปี 2532 พบโบราณวัตถุที่สำคัญดังนี้

  1. พระพุทธรูปและแม่พิมพ์ ทำด้วยดินเผา ศิลปะทวาราวดี
  2. เครื่องประดับ เช่น แหวน กำไล ตุ้มหู ทำด้วยสำริด แหวนทำด้วยหินสีต่างๆ
  3. ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ประมาณ 2,000 เม็ด
  4. หินแกะลาย คาดว่าเป็นตราประทับ รูปปู รูปช้าง

สันนิษฐานว่า อาจเป็นสถูปใช้บรรจุกระดูกของบุคคลสำคัญในเมืองนี้ในสมัยโบราณ หรืออาจเป็นสถูปที่ใช้ในการวางศิลาฤกษ์ เพราะพบของมีค่าหลายอย่างฝังปนอยู่ ลักษณะเดียวกับการฝังลูกนิมิตในปัจจุบัน

คูเมือง

 
คูเมืองเก่าของเมืองโบราณดงละคร

ได้มีการขุดคูเมืองเพื่อป้องกันข้าศึก โดยขุดคูผันน้ำจากแม่น้ำนครนายกสายเดิมเข้ามา แต่เนื่องจากแม่น้ำนครนายกได้เปลี่ยนทิศทางการไหลไปแล้ว คูเมืองเดิมจึงตึ้นเขินกลายเป็นแอ่งดินที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่แทน

คันดิน

ใช้เป็นกำแพงเมือง มีความสูงประมาณ 30 เมตร เดิมมี 2 ชั้น ปัจจุบันเห็นได้แต่ชั้นนอก ชั้นในไม่เหลือร่องรอยให้เห็นได้ชัดแล้ว

สระน้ำ

ที่ประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ จะมีสระน้ำอยู่ ปัจจุบันเห็นได้แต่ทางทิศเหนือที่ขุดแต่งแล้ว และทางทิศตะวันออก แต่ทางทิศตะวันออกจะมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมจำนวนมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนัก

คาดว่าสระน้ำนี้มีไว้ให้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าเมือง และป้องกันไม่ให้ข้าศึกเอาซุงมากระทุ้งประตูเมืองได้

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

บ่อน้ำนี้ตั้งอยู่ในแนวของแม่น้ำนครนายกสายเก่าซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนทิศทางการไหลไปแล้ว บ่อนี้คาดว่าเป็นบ่อที่ขุดเอาศิลาแลงไปใช้สร้างโบราณสถานต่างๆ ในเมืองดงละครสมัยโบราณ ต่อมาได้ถูกทิ้งร้างไปพร้อมกับการล่มสลายของเมืองดงละคร จนกระทั่งปี 2533 มีการเปิดโรงเจสว่างอริยธรรมสถาน มีเรื่องเล่าว่าทางโรงเจได้เชิญร่างทรงมาประทับ ร่างทรงได้มายังบ่อน้ำนี้และให้น้ำไปประกอบพิธี ตั้งแต่นั้นชาวบ้านก็ได้นำน้ำจากบ่อไปกินบ้าง อาบบ้าง เชื่อว่าเป็นสิริมงคงและทำให้หายจากโรคได้ ซึ่งชาวบ้านหลายคนก็ยืนยัน แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2542 ทางสำนักพระราชวังได้นำน้ำจากบ่อนี้ไปประกอบพิธีในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

โบราณสถานกลางเมืองดงละคร

อยู่ในเมืองชั้นใน พบร่องรอยของเจดีย์สมัยทวาราวดี คาดว่ามีอายุประมาณ 1,000 ปี โดยจากการสำรวจและขุดแต่งเมื่อปี 2539-2540 พบว่าเป็นโบราณสถานที่ถูกรบกวน เหลือเพียงฐานก่อด้วยศิลาแลงเท่านั้น จากการสันนิษฐานคาดว่าเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำและมีปล้องไฉนซ้อนขึ้นไปข้างบน และพบชิ้นส่วนจารึกคาถาเยธฺมมาฯ บนภาชนะดินเผา

สันนิษฐานว่า โบราณสถานแห่งนี้สร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 เป็นอย่างช้า เพราะเป็นช่วงที่พระพุทธศาสนาแบบเถรวาทได้รับความนิยม และคงอยู่ต่อมาถึงช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งประชาชนหันมานับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน เพราะพบหลักฐานคือ เศียรพระพุทธรูปแบบนาคปรก และคาดว่าในบริเวณนี้ น่าจะมีการสร้างอาคารด้วยไม้ขึ้นมาทับบริเวณที่เป็นเจดีย์เดิม เพราะได้ขุดพบหลุมเสาอาคาร และเครื่องถ้วยดินเผาสังคโลก แต่สุดท้ายเมืองนี้ก็ได้ทิ้งร้างไปในที่สุด

แต่ภายหลังจากการขุดแต่งเมื่อปี 2540 ทางกรมศิลปากรได้กลบปากหลุมบริเวณนี้ไปแล้ว

การเดินทางและการเข้าชม

จากกรุงเทพมหานคร ให้เดินทางมาที่รังสิต และเลี้ยวเข้าถนนรังสิต-นครนายก ขับไปจนถึงแยกสามสาว ให้เลี้ยวขวาขับไปตามทาง ผ่านเขื่อนนายก ข้ามคลองชลประทาน จนกระทั่งถึงวัดดงละคร จะมีป้ายให้เลี้ยวขวาเข้าไปยังเขตเมืองโบราณ

เมืองโบราณดงละครเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. หากต้องการวิทยากรแนะนำ ให้ติดต่อวิทยากรท้องถิ่นซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับโบราณสถาน โดยจะมีป้ายบอกข้อมูลอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ ของโบราณสถาน

อ้างอิง

แผ่นป้ายเผยแพร่ความรู้ของกรมศิลปากร ณ เมืองโบราณดงละคร

เม, องโบราณดงละคร, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, บทความน, องการการจ. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxngemuxngobrandnglakhr epnemuxngobransmythwarawdi tngxyuinekhttabldnglakhr xaephxemuxng cnghwdnkhrnayk hangcaktwcnghwdnkhrnaykipthangthistawntkechiyngitpraman 5 kiolemtr cudsungsudkhxngemuxngxyuthienindinthangdanthistawnxxk sungcakradbnathaelpanklang 34 emtremuxngobrandnglakhr emuxngobrandnglakhrepnemuxngrupikhekuxbklm mikhunaaelakhndinodyrxb mienuxthipraman 3 000 ir aelamiesnphasunyklangpraman 700 800 emtr edimmiaenwknepnkhndinsxngchnaetpccubnehluxephiyngchnnxkchnediyw khndinchnnxkmikhwamsungkwakhndinchnin aetkhndinchninmikhwamhnamakkwa lksnakarsrangemuxngnntidkbaemnankhrnayksayedim sungtidtxkbchayfngthaelid ehmaaaekkarkhakhaythangthael aelayngsamarththakarekstridodyrxb epnlksnaediywkbemuxngobransmythwarawdiinbriewniklknkhxngpraethsithy khadwamiphuxyuxasyinchwngphuththstwrrsthi 12 18 aelaxyuinekhruxkhaykarkhakhaythangthaelinsmyobranemuxngobrandnglakhr idrbkarprakaskhunthaebiynepnobransthankhxngchati tamprakasinrachkiccanuebksaelmthi 52 txnthi 75 emuxwnthi 8 minakhm ph s 2478 enuxha 1 thimaaelatanankhxngemuxngdnglakhr 1 1 thimakhxngchuxemuxngdnglakhr 1 2 phrabrmrachathibaykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw 1 3 khxsnnisthankhxngxditxthibdikrmsilpakr 2 karlmslaykhxngemuxngeka 3 karkhudaetngthangobrankhdi 4 khwamsakhy 5 obransthan 5 1 obransthanhmayelkh 1 5 2 obransthanhmayelkh 2 5 3 khuemuxng 5 4 khndin 5 5 srana 5 6 bxnaskdisiththi 5 7 obransthanklangemuxngdnglakhr 6 karedinthangaelakarekhachm 7 xangxingthimaaelatanankhxngemuxngdnglakhr aekikh inemuxngdnglakhrduepnparkchd xacepnthimakhxngchuxdngnkhr aelwephiynepndnglakhrinphayhlng thimakhxngchuxemuxngdnglakhr aekikh aetedimchawbaneriykemuxngniwaemuxnglbael swnchuxemuxngwadnglakhrnnimthrabthimaaenchd bangaehngklawwa ewlaklangkhun idyinesiyngdntriwngmohriaewwmacakinemuxngklangpa khlaykbmikarelnlakhrinwng cungeriykwadnglakhr hmaythungmaelnlakhrindng swnxikaehngkklawwa edimemuxngninacaeriykwa dngnkhr hmaythungnkhrthixyuindng aetnanekhacungeriykephiynklayepn dnglakhr aetxyangirktam immikhxsrupthichdecnekiywkbthimakhxngchuxemuxngdnglakhrni phrabrmrachathibaykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aekikh emuxkhrngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcpraphasemuxngpracinburi idmiphrabrmrachathibayekiywkbemuxngdnglakhriwwa epnemuxngthisrangkhunodyecaaephndinekhmrobransungepnstri hruxxaceriykwarachiniaehngaephndinekhmrobrannnexng odyemuxrachinixngkhnikhunkhrxngaephndinekhmr idefnhachayrupngamcakaekhwntang ephuxepnkhukhrxng odyidphbchaychawekhmrsxngkhnkxn cungidrbeliyngiw aettxmaidphbkbchayxikkhncakaephndinekhmreka pccubnepnaephndinithy rachiniekhmrphxphrathyinchayphunimakcungxyakcarbeliyngiwxikkhn aetchaysxngkhnkxnimyxm rachiniekhmrcungsrangemuxngihmchayxikkhnkhuxemuxngdnglakhrsungxyuiklkbxanackrekhmr aettxmarachiniekhmrxngkhnnkidprachwraelasinphrachnmip imidmirachbutrsubphrawngstxip sungtxmaphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwkidphrarachthanphrarachwinicchyiwemuxkhrngesdcpraphasmnthlpracinburiiwwaemuxngniepnthiprathbkhxngphraecaaephndinobran khxsnnisthankhxngxditxthibdikrmsilpakr aekikh naynikhm musikakhama xditxthibdikrmsilpakr snnisthantxodypramwlcakphrabrmrachathibay srupidkhwamwa emuxngdnglakhr nacasranghlngcakbriewnnixyuinxanackrithyaelw aetsrangodykhnekhmr enuxngcakphbhlkthanhlayxyangsungepnsilpaekhmrinemuxngdnglakhr echn khnchxngsarid ethwrupsaridnungphasilpaaebbediywkbthinkhrwd epntnsrupwa emuxngdnglakhr epnemuxngsmythwarawdi idrbxiththiphlwthnthrrmcakthngthwarawdiaelakhxm mixayutngaetsmyphuththstwrrsthi 12 18karlmslaykhxngemuxngeka aekikhphayhlngphuththstwrrsthi 18 khadwamikarepliynesnthangkarihlkhxngaemnankhrnayksungaetedimihlphanthangthistawntkkhxngemuxngdnglakhr klayepnihlxyangpccubnni thaihemuxngthiekhyecriyklbimidrbkhwamniymephraakhadna thaihemuxngdnglakhrklayepnephiyngemuxngelk miprachakrxyuimkikhn ephraakhnswnihyyayiptngthinthanihmtamkarihlkhxngaemna epnemuxngnkhrnaykinpccubnniinchwngthiesiykrungsrixyuthyakhrngthi 2 khadwachawbanidyayemuxnghniipxyubriewnekhaihyephuxhnikarrukrankhxngphma thaihemuxngrangipxikchwngtnrtnoksinthr miphwklawphwn lawewiyng aelamxy matngthinthanbriewnni odyyudxachiphthanaepnhlk sungmkmichangpalngmakinkhawinnaesmx aettxmachawbanyaymaxyueyxaekha changpaelyhniipxyuthibriewnekhaihyaethnkarkhudaetngthangobrankhdi aekikh twxyangekhruxngpndinephathikhudphbinbriewnemuxngobrandnglakhr hlngcakemuxngdnglakhrobranidlmslayip txmakidmichawbanekhamaxyuxasyinbriewnni odymakmixachiphthakarekstr sungrahwangthakarekstrmikarkhuddin chawbankidkhudphbkhxngobraneruxyma cnkrathnginpi 2515idmikarkhudaetngemuxngobrandnglakhrxyangepnthangkarodynkwichakar odynayphisith ecriywngs sungepnxacarymhawithyalysilpakrinkhnanniddaeninkarkhudaetngaelaxnurksemuxngnimaepnladb aelaidphbhlkthanthangprawtisastrthiaesdngthungkarxyuxasykhxngphukhninyukhphuththstwrrsthi 13 15 echn phraphimphenuxengin silpaaebbthwarawdi ekhruxngpndinepha ekhruxngekhluxbsinatal ekhruxngthwycinsmyrachwngsthngaelasxng rwmthnglukpdaekwhlaysi lukpdaebblukta eye beads lukpdslbsi mosaic beads lukpdhinkhareneliyn aelaxaektphachnadinephabangchin minkwichakarbangthanihkhwamehniwwaepnkhxngepxresiy lksnaepnekhruxngekhlixbsifaxxn khadwamacakemuxngchirafkhxngxihran aelaemuxngbasrakhxngxirk sungekhruxngpndinephalksnaediywknniekhyphbthiaehlmophthi xaephxichya cnghwdsurasdrthani aesdngihehnwa emuxngdnglakhrnacepnthangphankhxngkarkhacakthangphakhitnxkcakni yngmikarkhudphbobranwtthuthacakkhwxts sungmiaehlngaerkhwxtsxyubriewnekhaaekw xaephxbanna hangcakdnglakhrraw 20 kiolemtr aelaphbkailsarid 2 wng khadwacamacakemuxnglphburi nxkcakniyngphbkhwanhinkhdcanwnmakthiphlitcakhinaexndiistaelahiniroxilt sungmiaehlngphlitthibanhwykrwd cnghwdkrabi cungsnnisthanwaemuxngdnglakhrnacaepnthangphaninkarkhakhayphanmacakthangitkidkhwamsakhy aekikhemuxngdnglakhr ekhyepnemuxngthathisakhyinsmyobranchwngphuththstwrrsthi 13 18 odyepnemuxngthangphaninkartidtxkhakhayrahwangcin xinediy aelaepxresiy sungmikarsuxkhaysinkhaaelkepliynwtthudibkn odyinswnkhxngtwemuxngdnglakhrexng idrbxiththiphlcakekhmr odykhudphbobranwtthuphwkkailaelaphraphuththrupsaridsilpaaebbbayn ekhruxngpndinepha aelalukpdtangobransthan aekikhobransthanhmayelkh 1 aekikh obransthanhmayelkh 1 briewnthangkhwakhxngphaphinengaim caehnaethnxyu 2 xn xyuinekhtchnnxkkhxngtwemuxngdnglakhr hangpratuemuxngchninthangthisehnux 250 emtr lksnaepnkaaephngrupsiehliymphunpha kwang 12 emtr mithangekhaxyuthangthisit phayinmiaethntngsahrbwangrupekharphxyu 2 aethn khadwaedimmi 3 aethn odyinkarkhudaetngemuxpi 2531 2532 aelainkarburnaemuxpi 2536 phbobranwtthuthisakhydngtxipni esiyrphraphuththrupkaihlthxng silpasmythwarawdi aephnthxngkhakhnadelk emldkhawsarda chinswnphachna khadwaepnhmxaebbmisn silpathwarawdi khnchxngsarid xayurawphuththstwrrsthi 18snnisthanwaobransthanaehngniepnsasnsthan srangkhunkxnphuththstwrrsthi 18 ichepnthiprakxbsasnkickhxngchawdnglakhrsmyobran obransthanhmayelkh 2 aekikh obransthanhmayelkh 2 xyuinekhtchnnxkkhxngtwemuxngdnglakhr hangpratuemuxngchninthangthisehnux 250 emtr lksnaepnaenwkrxbsilaaelngkwang 3 7 emtr yaw 4 emtr trngklangkhudphbsthupsilaaelngrupthrngkrabxkkhnadihysxnkn 2 chn odyinkarkhudaetngemuxpi 2532 phbobranwtthuthisakhydngni phraphuththrupaelaaemphimph thadwydinepha silpathwarawdi ekhruxngpradb echn aehwn kail tumhu thadwysarid aehwnthadwyhinsitang lukpdaekw lukpdhin praman 2 000 emd hinaekalay khadwaepntraprathb ruppu rupchangsnnisthanwa xacepnsthupichbrrcukradukkhxngbukhkhlsakhyinemuxngniinsmyobran hruxxacepnsthupthiichinkarwangsilavks ephraaphbkhxngmikhahlayxyangfngpnxyu lksnaediywkbkarfngluknimitinpccubn khuemuxng aekikh khuemuxngekakhxngemuxngobrandnglakhr idmikarkhudkhuemuxngephuxpxngknkhasuk odykhudkhuphnnacakaemnankhrnayksayedimekhama aetenuxngcakaemnankhrnaykidepliynthisthangkarihlipaelw khuemuxngedimcungtunekhinklayepnaexngdinthimitnimkhunxyuaethn khndin aekikh ichepnkaaephngemuxng mikhwamsungpraman 30 emtr edimmi 2 chn pccubnehnidaetchnnxk chninimehluxrxngrxyihehnidchdaelw srana aekikh thipratuemuxngthng 4 this camisranaxyu pccubnehnidaetthangthisehnuxthikhudaetngaelw aelathangthistawnxxk aetthangthistawnxxkcamitnimkhunpkkhlumcanwnmak imsamarthmxngehnidchdecnnkkhadwasrananimiiwihcharalangrangkayihsaxadkxnekhaemuxng aelapxngknimihkhasukexasungmakrathungpratuemuxngid bxnaskdisiththi aekikh bxnanitngxyuinaenwkhxngaemnankhrnayksayekasungpccubnepliynthisthangkarihlipaelw bxnikhadwaepnbxthikhudexasilaaelngipichsrangobransthantang inemuxngdnglakhrsmyobran txmaidthukthingrangipphrxmkbkarlmslaykhxngemuxngdnglakhr cnkrathngpi 2533 mikarepidorngecswangxriythrrmsthan mieruxngelawathangorngecidechiyrangthrngmaprathb rangthrngidmayngbxnaniaelaihnaipprakxbphithi tngaetnnchawbankidnanacakbxipkinbang xabbang echuxwaepnsirimngkhngaelathaihhaycakorkhid sungchawbanhlaykhnkyunyn aetkimidmihlkthanthangwithyasastrmayunynxyangirktam inpi 2542 thangsankphrarachwngidnanacakbxniipprakxbphithiinphrarachphithiechlimphrachnmphrrsakhrb 6 rxb khxngphrabathsmedcphraecaxyuhw obransthanklangemuxngdnglakhr aekikh xyuinemuxngchnin phbrxngrxykhxngecdiysmythwarawdi khadwamixayupraman 1 000 pi odycakkarsarwcaelakhudaetngemuxpi 2539 2540 phbwaepnobransthanthithukrbkwn ehluxephiyngthankxdwysilaaelngethann cakkarsnnisthankhadwaepnecdiythrngrakhngkhwaaelamiplxngichnsxnkhunipkhangbn aelaphbchinswncarukkhathaeyth mma bnphachnadinephasnnisthanwa obransthanaehngnisranginchwngphuththstwrrsthi 15 epnxyangcha ephraaepnchwngthiphraphuththsasnaaebbethrwathidrbkhwamniym aelakhngxyutxmathungchwngphuththstwrrsthi 18 sungprachachnhnmanbthuxphraphuththsasnaaebbmhayan ephraaphbhlkthankhux esiyrphraphuththrupaebbnakhprk aelakhadwainbriewnni nacamikarsrangxakhardwyimkhunmathbbriewnthiepnecdiyedim ephraaidkhudphbhlumesaxakhar aelaekhruxngthwydinephasngkholk aetsudthayemuxngnikidthingrangipinthisudaetphayhlngcakkarkhudaetngemuxpi 2540 thangkrmsilpakridklbpakhlumbriewnniipaelwkaredinthangaelakarekhachm aekikhcakkrungethphmhankhr ihedinthangmathirngsit aelaeliywekhathnnrngsit nkhrnayk khbipcnthungaeyksamsaw iheliywkhwakhbiptamthang phanekhuxnnayk khamkhlxngchlprathan cnkrathngthungwddnglakhr camipayiheliywkhwaekhaipyngekhtemuxngobranemuxngobrandnglakhrepidihekhachmthukwn tngaetewla 08 00 16 00 n haktxngkarwithyakraenana ihtidtxwithyakrthxngthinsungtngbaneruxnxyuiklkbobransthan odycamipaybxkkhxmulxyutamtaaehnngtang khxngobransthanxangxing aekikhaephnpayephyaephrkhwamrukhxngkrmsilpakr n emuxngobrandnglakhr ekhathungcak https th wikipedia org w index php title emuxngobrandnglakhr amp oldid 8370281, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม