fbpx
วิกิพีเดีย

เปตรา

เปตรา (อังกฤษ: Petra, จากภาษากรีก πέτρα แปลว่าหิน; อาหรับ: البتراء‎) คือนครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบาในประเทศจอร์แดน นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อโยฮัน ลูทวิช บวร์คฮาร์ท นักสำรวจชาวสวิส เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1812)

เปตรา *
  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
อาคารที่ใหญ่ที่สุดในนครเปตรา
ประเทศ จอร์แดน
ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม
เกณฑ์พิจารณา(i) (iii) (iv)
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2528 (คณะกรรมการสมัยที่ 9)
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" (one of the most precious cultural properties of man's cultural heritage) ปัจจุบันสามารถเดินทางเข้าไปโดยอาศัยม้าเท่านั้น

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 นครเปตราได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ของโลก จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่

ประวัติ

ก่อตั้งและเจริญรุ่งเรือง

ชนกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาสู่เปตราคือพวกเอโดไมต์ ซึ่งเข้ามาราวปี 1000 ปีก่อนคริสตกาล แต่ชนชาติที่สร้างเมืองเปตราขึ้นมานั้นคือชาวนาบาเทียน (Nabataeans) ในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายอาหรับ คนกลุ่มนี้สกัดผาหินทรายเป็นบ้านเรือนและอาศัยอยู่ในถ้ำทีมีอยู่ทั่วเมือง พวกเขามีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแกะ แต่เปลี่ยนมาค้าขายและรับจ้างเป็นยามรักษาความปลอดภัยให้แก่กองคาราวาน คนเผ่านี้มีความซื่อสัตย์ ค่าธรรมเนียมผ่านทางที่เรียกเก็บจากผู้สัญจรก็ช่วยให้พวกนาบาเทียนมีชีวิตที่รุ่งเรื่องขึ้น

สาเหตุที่เปตราตั้งอยู่บนดินแดนอันแห้งแล้ง มีแต่หินกับทรายนั้นก็น่าจะเพราะเปตราตั้งอยู่เส้นทางการค้าสำคัญที่สุดของโลกในขณะนั้น 2 สาย ได้แก่เส้นทางสายสายตะวันออก - สายตะวันตก คาบสมุทรอาหรับกับอ่าวเปอร์เซียจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสายสายเหนือ - ใต้ ที่เชื่อมทะเลแดงกับ กรุงดามัสกัส ซีเรีย นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมีแหล่งน้ำจืดสำคัญซึ่งต่อมาเรียกกันว่า วาดี มูซา หรือ หุบเขาโมเสส ซึ่งเล่ากันว่าเป็นน้ำที่ได้เมื่อโมเสสเสกออกมาเพื่อให้ชาวยิวได้กินแก้กระหาย เหล่าพ่อค้าหรือนักเดินทางที่เดินทางผ่านทะเลทรายอันว่างเปล่าและแห้งแล้งใกล้เคียงนั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากมุ่งมาที่เมืองเปตราอย่างเดียว

เปตราเป็นศูนย์กลางค้าขนาดใหญ่ จนทำให้นักเดินทางชาวกรีกมักนำเรื่องความมั่งคั่งมาเล่าให้ฟัง ตามบันทึกของสตราโบ นักภูมิศาสตร์ชาวกรีกได้อธิบายไว้ว่า เมืองเปตราเป็นตลาดซื้อสินค้าสำคัญที่สุดของโลกตะวันออก ยางไม้หอม กำยาน เครื่องเทศของชาวอาหรับ ทองแดง เหล็ก เครื่องปั้นดินเผา รูปปั้น ผ้าย้อมของชาวฟินิเซียนล้วนถูกลำเลียงผ่านเมืองเปตราไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และชาวเปอร์เซีย

 
วิหารใหญ่ในเมืองเปตรา

เปตราเจริญถึงขีดสูงสุดในช่วง 50 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงคริสต์ศักราชที่ 70 ในช่วงเวลานี้เปตราถูกปกครองด้วยกษัตริย์นาม อารีตัสที่ 4 (Aretas IV) ผู้ที่ชาวกรีกยกย่องให้ว่า ฟิโลเดมอส (Philodemos) ซึ่งแปลว่า ผู้รักประชาชน และด้วยความมั่งคั่ง ความเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกล และชัยภูมิอันยากแก่การพิชิต จึงทำให้เมืองมีโอกาสเจริญเติบโตได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกลัวศัตรูจากภายนอก

ชาวเปตรานับถือเทพเจ้าสององค์คือ เทพดูซาเรส (Dushares) เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และเทพอัลอัซซา (Al Uzza) ชายาของเทพดูซาเรส เทวีแห่งน้ำ

การล่มสลาย

ด้วยเหตุที่เกิดเมืองใหม่และเส้นทางค้าขายใหม่ที่ปลอดภัยและสะดวกกว่าในช่วงเวลาต่อมา เปตราที่เคยเจริญรุ่งเรืองด้วยการค้าก็เริ่มสูญเสียอำนาจลง เมืองอ่อนแอและถูกต่างชาติโจมตีเข้าได้ง่าย จนเมื่อถึงปี พ.ศ. 649 (ค.ศ. 106) พวกโรมันนำโดยจักรพรรดิทราจัน หรือ ไทรอะนุส(Traianus) ได้เข้ายึดครองเปตราและผนวกนครนี้เข้าเป็นจังหวัดในจักรวรรดิโรมัน แต่เปตราก็ยังคงดำรงอยู่เรื่อยมาจนถึงราวปี ค.ศ. 300 เมื่อจักรวรรดิโรมันเริ่มคลอนแคลน ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 906 (ค.ศ. 363) แผ่นดินไหวก็ได้ทำลายอาคารและระบบชลประทานที่ถือว่าดีมากของเมืองลง

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 เปตรากลายเป็นที่ตั้งคริสต์ศาสนามณฑลของบิชอป แล้วถูกมุสลิมยึดในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แล้วก็เสื่อมถอยมาเรื่อย ๆ จนลบเลือนหายไปจากผู้คน

การค้นพบ

ถึงแม้ซากเมืองเปตราจะเป็นสิ่งที่น่าอยากรู้อยากเห็นของผู้คนในช่วงยุคกลาง เช่นมีสุลต่านของอียิปต์ ไบบารส์ (Sultan Baibars) เดินทางเข้าไปเยี่ยมชนในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 13 แต่การค้นพบเปตราที่นำไปสู่การเปิดเผยต่อสายตาชาวโลกเกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ เมื่อปี พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1812) เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท (Johann Ludwig Burckhardt) ซึ่งกำลังเดินทางจากจอร์แดนไปอียิปต์เพื่อไปศึกษาถึงแหล่งที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ บวร์กฮาร์ทได้เห็นด้านหน้าอันใหญ่โตของเปตรา แต่ผู้นำทางท้องถิ่นสั่งห้ามมิให้เขาลงไปทำอะไรที่นั่น บวร์กฮาร์ทจึงแอบบันทึกย่อไว้ขณะที่อูฐเดินผ่าน ถึงแม้จะเป็นเพียงบันทึกเล็ก ๆ คร่าว ๆ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เปิดเมืองสู่สายตาชาวโลก ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2369 (ค.ศ. 1826) เลออง เดอ ลาบอร์ด (Leon de Laborde) ชาวฝรั่งเศสที่ได้เดินทางเข้าไปสำรวจเมืองและเขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า "Voyage de l'Arabie Pétrée" แปลว่า "การเดินทางในเปตราแห่งอาหรับ" (ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2373) ซึ่งการเขียนหนังสือครั้งนี้ถือเป็นการนำภาพและความรู้ต่าง ๆ ที่ชาวโลกไม่เคยเห็นมาเปิดเผยให้ได้รับรู้

การสำรวจทางโบราณคดีเริ่มขึ้นในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงดำเนินการสำรวจอยู่

มรดกโลก

เปตราได้รับลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2528 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้

  • (i) - เป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกทีได้ถูกจัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันแสนฉลาด
  • (iii) - เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
  • (iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

อ้างอิง

  1. http://whc.unesco.org/archive/advisory_body_evaluation/326.pdf UNESCO advisory body evaluation
  2. B6255714 ต.ค. วันปิยะ P-288 ทัวร์จอร์แดน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มรดกโลก สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกใหม่ 6 วัน ทะเลเดดซี ลอยตัวได้จริงหรือ
  3. ย้อนรอยลี้ลับอารยธรรมโลก: เปตรา, บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) จำกัด, 2547, หน้า 192 ISBN 974-92395-4-7
  4. ย้อนรอยลี้ลับอารยธรรมโลก: เปตรา, บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) จำกัด, 2547, หน้า 196 ISBN 974-92395-4-7
  5. http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=9D03E3DF143EF934A25753C1A9659C8B63
  6. ย้อนรอยลี้ลับอารยธรรมโลก: เปตรา, บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) จำกัด, 2547, หน้า 195 ISBN 974-92395-4-7

แหล่งข้อมูลอื่น

  • 7สิ่งมหัศจรรย์วุ่น โวยโหวตซ้ำซ้อน! 9 ก.ค. 50 - 04:43 ไทยรัฐ
  • 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 12 ก.ค. 50 - 18:48 นิติภูมิ นวรัตน์ นสพ. ไทยรัฐ

พิกัดภูมิศาสตร์: 30°19′43″N 35°26′31″E / 30.32861°N 35.44194°E / 30.32861; 35.44194

เปตรา, งกฤษ, petra, จากภาษากร, πέτρα, แปลว, าห, อาหร, البتراء, อนครห, นแกะสล, กโบราณท, อนต, วอย, างล, กล, บในห, บเขาวาด, ซา, บเขาท, งอย, ระหว, างทะเลเดดซ, บอ, าวอะกาบาในประเทศจอร, แดน, นครน, แต, เด, มน, นเป, นนครแห, งการค, าขนาดใหญ, งต, อมาถ, กละท, งเป, นเวลาน. eptra xngkvs Petra cakphasakrik petra aeplwahin xahrb البتراء khuxnkhrhinaekaslkobranthisxntwxyangluklbinhubekhawadi musa hubekhathitngxyurahwangthaeleddsikbxawxakabainpraethscxraedn nkhrniaetedimnnepnnkhraehngkarkhakhnadihysungtxmathuklathingepnewlanankwa 700 pi cnemuxoyhn luthwich bwrkhharth nksarwcchawswis edinthangphanmaphbehnekhaemuxpi ph s 2355 kh s 1812 eptra aehlngmrdkolkodyyuensokxakharthiihythisudinnkhreptrapraeths cxraednpraephthmrdkthangwthnthrrmeknthphicarna i iii iv prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn2528 khnakrrmkarsmythi 9 chuxtamthiidkhunthaebiyninbychiaehlngmrdkolk phumiphakhthicdaebngodyyuensok nkhreptraidrblngthaebiyncakxngkhkaryuensokihepnmrdkolkemuxpi ph s 2528 odyklawxthibayiwwa epnhnunginsingthilakhamakthisudkhxngmrdkthangwthnthrrmaehngmwlmnusychati one of the most precious cultural properties of man s cultural heritage 1 pccubnsamarthedinthangekhaipodyxasymaethannemuxwnthi 7 krkdakhm ph s 2550 nkhreptraidrbkhdeluxkihepn 1 in ecdsingmhscrrykhxngolkyukhihmkhxngolk cakkarlngkhaaennthwolkthngthangxinethxrentaelaothrsphthekhluxnthi enuxha 1 prawti 1 1 kxtngaelaecriyrungeruxng 2 karlmslay 3 karkhnphb 4 mrdkolk 5 xangxing 6 aehlngkhxmulxunprawti aekikhkxtngaelaecriyrungeruxng aekikh chnklumaerkthiedinthangekhamasueptrakhuxphwkexodimt sungekhamarawpi 1000 pikxnkhristkal aetchnchatithisrangemuxngeptrakhunmannkhuxchawnabaethiyn Nabataeans inchwngstwrrsthi 4 kxnkhristkal 2 sungaetedimepnephiyngchnephaerrxninthaelthrayxahrb khnklumniskdphahinthrayepnbaneruxnaelaxasyxyuinthathimixyuthwemuxng phwkekhamixachiphepnkhneliyngaeka aetepliynmakhakhayaelarbcangepnyamrksakhwamplxdphyihaekkxngkharawan khnephanimikhwamsuxsty khathrrmeniymphanthangthieriykekbcakphusycrkchwyihphwknabaethiynmichiwitthirungeruxngkhunsaehtuthieptratngxyubndinaednxnaehngaelng miaethinkbthraynnknacaephraaeptratngxyuesnthangkarkhasakhythisudkhxngolkinkhnann 2 say idaekesnthangsaysaytawnxxk saytawntk khabsmuthrxahrbkbxawepxresiycnthungthaelemdietxrereniyn aelasaysayehnux it thiechuxmthaelaedngkb krungdamsks sieriy nxkcaknnemuxngniyngmiaehlngnacudsakhysungtxmaeriykknwa wadi musa hrux hubekhaomess sungelaknwaepnnathiidemuxomesseskxxkmaephuxihchawyiwidkinaekkrahay ehlaphxkhahruxnkedinthangthiedinthangphanthaelthrayxnwangeplaaelaaehngaelngiklekhiyngnnimmithangeluxkxun nxkcakmungmathiemuxngeptraxyangediyw 3 eptraepnsunyklangkhakhnadihy cnthaihnkedinthangchawkrikmknaeruxngkhwammngkhngmaelaihfng tambnthukkhxngstraob nkphumisastrchawkrikidxthibayiwwa emuxngeptraepntladsuxsinkhasakhythisudkhxngolktawnxxk yangimhxm kayan ekhruxngethskhxngchawxahrb thxngaedng ehlk ekhruxngpndinepha ruppn phayxmkhxngchawfiniesiynlwnthuklaeliyngphanemuxngeptraipsuthaelemdietxrereniyn aelachawepxresiy wiharihyinemuxngeptra eptraecriythungkhidsungsudinchwng 50 pikxnkhristkal cnthungkhristskrachthi 70 inchwngewlanieptrathukpkkhrxngdwykstriynam xaritsthi 4 Aretas IV phuthichawkrikykyxngihwa fioledmxs Philodemos sungaeplwa phurkprachachn aeladwykhwammngkhng khwamepnemuxngthixyuhangikl aelachyphumixnyakaekkarphichit cungthaihemuxngmioxkasecriyetibotidxyangngaydayodyimtxngklwstrucakphaynxk 4 chaweptranbthuxethphecasxngxngkhkhux ethphdusaers Dushares ethphaehngkhwamxudmsmburn aelaethphxlxssa Al Uzza chayakhxngethphdusaers ethwiaehngnakarlmslay aekikhdwyehtuthiekidemuxngihmaelaesnthangkhakhayihmthiplxdphyaelasadwkkwainchwngewlatxma eptrathiekhyecriyrungeruxngdwykarkhakerimsuyesiyxanaclng emuxngxxnaexaelathuktangchatiocmtiekhaidngay cnemuxthungpi ph s 649 kh s 106 phwkormnnaodyckrphrrdithracn hrux ithrxanus Traianus idekhayudkhrxngeptraaelaphnwknkhrniekhaepncnghwdinckrwrrdiormn aeteptrakyngkhngdarngxyueruxymacnthungrawpi kh s 300 emuxckrwrrdiormnerimkhlxnaekhln sungtxmainpi ph s 906 kh s 363 aephndinihwkidthalayxakharaelarabbchlprathanthithuxwadimakkhxngemuxnglng 5 inchwngkhriststwrrsthi 5 eptraklayepnthitngkhristsasnamnthlkhxngbichxp aelwthukmuslimyudinkhriststwrrsthi 7 aelwkesuxmthxymaeruxy cnlbeluxnhayipcakphukhnkarkhnphb aekikhthungaemsakemuxngeptracaepnsingthinaxyakruxyakehnkhxngphukhninchwngyukhklang echnmisultankhxngxiyipt ibbars Sultan Baibars edinthangekhaipeyiymchninchwngkxnkhriststwrrsthi 13 aetkarkhnphbeptrathinaipsukarepidephytxsaytachawolkekidkhunxyangengiyb emuxpi ph s 2355 kh s 1812 emuxminksarwcchawswitesxraelnd oyhnn lukhwik bwrkharth Johann Ludwig Burckhardt sungkalngedinthangcakcxraednipxiyiptephuxipsuksathungaehlngthiepntnkaenidkhxngaemnainl bwrkharthidehndanhnaxnihyotkhxngeptra aetphunathangthxngthinsnghammiihekhalngipthaxairthinn bwrkharthcungaexbbnthukyxiwkhnathixuthedinphan thungaemcaepnephiyngbnthukelk khraw aetkthuxidwaepnkarthiepidemuxngsusaytachawolk sungtxmainpi ph s 2369 kh s 1826 elxxng edx labxrd Leon de Laborde chawfrngessthiidedinthangekhaipsarwcemuxngaelaekhiynhnngsuxxxkmaelmhnungchuxwa Voyage de l Arabie Petree aeplwa karedinthangineptraaehngxahrb tiphimphinpi ph s 2373 sungkarekhiynhnngsuxkhrngnithuxepnkarnaphaphaelakhwamrutang thichawolkimekhyehnmaepidephyihidrbru 6 karsarwcthangobrankhdierimkhuninchwngtnkhxngkhriststwrrsthi 20 sunginpccubnkyngkhngdaeninkarsarwcxyumrdkolk aekikheptraidrblngthaebiynihepnmrdkolkinkarprachumkhnakrrmkarmrdkolksmysamykhrngthi 9 emuxpi ph s 2528 thikrungparis praethsfrngess dwykhxkahndaelahlkeknthinkarphicarna dngtxipni i epntwaethnthiaesdngthungphlnganchinexkthiidthukcdthakhundwykarsrangsrrkhxnaesnchlad iii epnsingthiyunynthunghlkthankhxngwthnthrrmhruxxarythrrmthipraktihehnxyuinpccubnhruxwathisabsuyipaelw iv epntwxyangxnoddednkhxngpraephthkhxngsingkxsrangxnepntwaethnkhxngkarphthnathangdanwthnthrrm sngkhm silpkrrm withyasastr ethkhonolyi xutsahkrrm inprawtisastrkhxngmnusychatixangxing aekikh http whc unesco org archive advisory body evaluation 326 pdf UNESCO advisory body evaluation B6255714 t kh wnpiya P 288 thwrcxraedn dinaednskdisiththi mrdkolk singmhscrryaehngolkihm 6 wn thaeleddsi lxytwidcringhrux yxnrxylilbxarythrrmolk eptra bristhridedxrs idecsth praethsithy cakd 2547 hna 192 ISBN 974 92395 4 7 yxnrxylilbxarythrrmolk eptra bristhridedxrs idecsth praethsithy cakd 2547 hna 196 ISBN 974 92395 4 7 http query nytimes com gst fullpage html res 9D03E3DF143EF934A25753C1A9659C8B63 yxnrxylilbxarythrrmolk eptra bristhridedxrs idecsth praethsithy cakd 2547 hna 195 ISBN 974 92395 4 7aehlngkhxmulxun aekikh7singmhscrrywun owyohwtsasxn 9 k kh 50 04 43 ithyrth 7 singmhscrrykhxngolk 12 k kh 50 18 48 nitiphumi nwrtn nsph ithyrthphikdphumisastr 30 19 43 N 35 26 31 E 30 32861 N 35 44194 E 30 32861 35 44194 khxmmxns miphaphaelasuxekiywkb eptraekhathungcak https th wikipedia org w index php title eptra amp oldid 9179016, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม