fbpx
วิกิพีเดีย

นามิ

นามิ

นามิจากวันพีซ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น ナミ
ชื่อภาษาอังกฤษ Nami
ฉายา นางมาร,โจรขโมยโจรสลัด,แมวขโมย
สังกัด โจรสลัดหมวกฟาง
ยศสูงสุด {{{rank}}}
ปรากฏตัวใน ต้นฉบับหนังสือการ์ตูน
ปรากฏตัวครั้งแรก หนังสือการ์ตูนตอนที่ 8
แอนิเมชัน ตอนที่ 1
วันเกิด {{{birthday}}}
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
นักพากย์เสียง ญี่ปุ่น
อาเคมิ โอกามูระ
(ตอนที่ 1-69 และ 79-ปัจจุบัน)
วากานะ ยามาซากิ (ตอนที่ 70-78)
เมงุมิ โทโยงุจิ (เฉพาะ OVA)
ไทย
ศรีอาภา เรือนนาค
(ตอนที่ 1-ปัจจุบัน)
วิภาดา จตุยศพร
(ตอนที่ 1-ปัจจุบัน)
ตัวละครในเรื่อง วันพีซ

นามิ ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องวันพีซ ต้นหนเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่

ประวัติตามท้องเรื่อง

นามิเป็นต้นหนของเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเป็นตัวละครตัวแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่โผล่มาในอนิเมะ เธอเป็นลูกเรือคนที่ 3 แต่หากนับการยอมร่วมกลุ่มแบบใจจริงเธอเป็นลูกเรือคนที่ 5 เนื่องจากเธอไม่ยอมรับการเป็นลูกเรือในตอนแรกแต่แค่ยอมร่วมมือด้วยเฉยๆ และเธอก็เป็นนักล่าสมบัติอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมาก ๆ ด้วย สมญานาม "นางแมวขโมย"

นามิสามารถบ่งบอกความแตกต่างของอากาศได้ และ เข้าใจกระแสน้ำ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางหลุดพ้นจากอากาศแสนวุ่นวายของแกรนด์ไลน์ได้ แต่สำหรับการเดินเรือในแกรนด์ไลน์เธอไม่ชำนาญในบางเรื่อง เช่น เธอไม่ทราบว่าต้องใช้ ล็อกโพส หรือ เอเทอนอลโพสในการเดินทาง พึ่งมาทราบจากคำแนะนำของคร็อกคัสที่เฝ้าประภาคาร และ มนุษย์เงือก (แนะนำล็อกโพส3เข็ม) เธอมีนิสัยตระหนี่ และ มักชอบใช้งานลูกเรือคนอื่นให้ทำงานแทนเธอ ตอนเด็กเธอมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย เธอมีอยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรักเบลล์เมียร์ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิคือการได้วาดแผนที่โลกที่สมบูรณ์แบบของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโคยาชิอยู่

ลักษณะของนามิคือ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง และเกวียน หมายถึงอดีตของเธอ ซึ่งตอนแรกจะเป็นรอยสักที่บ่งบอกว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน เธอมีความสูง 169 เซนติเมตร สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะเคยบอกว่านามิถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแมว และสีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม มีกลิ่นตัวเหมือนส้ม “Mikan” และ เงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิชอบกินที่สุดคือส้มและผลไม้ทุกชนิด

ในเรื่องของการต่อสู่ นามิไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระบองของเธอ และสามารถกำจัดโจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศอยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรกๆ กระบองถูกสร้างมาเพื่อใช้ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่างๆ มาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงานปาร์ตี้มาเป็นกระบองที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้สามารถทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิคบางอย่าง คือ “ทันเดอร์โบลท์ เทมโป” ที่ใช้คูลบอลกับฮีทบอลผสมกันให้เป็นเมฆ และส่งทันเดอร์บอลไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่และสามารถสร้างภาพมิราจ เป็นต้น แต่ต่อมาอีก 2 ปี นามิได้อยู่บนเกาะท้องฟ้าที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการควบคุมสภาพอากาศกระบองคุริมะจึงเปลี่ยนเป็น "กระบองคุริมะซอคเซรี่" แล้วพอจบศึกเดรสโรซ่าอุซปได้ดัดแปลงให้กระบองคุริมะมีความสามารถที่ดียิ่งกว่าเดิม แต่อุซปลืมใส่ไป 1 อย่าง

ค่าหัว

ค่าหัวของนามิ 16 ล้านเบรี หลังจากจัดการแคริเฟอร์และองค์กร CP9 หลังจากจัดการกลุ่มโดฟลามิงโก้ ปัจจุบันค่าหัวของนามิ คือ 66 ล้านเบรี

ท่าไม้ตาย

กระบองคุริมา
  • ท่าที่ใช้ในงานปาร์ตี้ 3 ท่อนแรก
  • ฟายน์เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกมาต่อเป็นรูป 3 เหลี่ยมแล้วกดปุ่มด้านข้างจะมีนกพิราบบินออกมา
  • คลาวด์ดี้เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนอันเดิมมาต่อกันเป็นรูปปืน L แล้วกดปุ่มจะมีดอกไม้ออกมา
  • ธันเดอร์เทมโป เป็นการนำกระบอง3ท่อนเดิมมาต่อกันเป็นรูป Y จับที่ปลายทั้ง2แล้วกดปุ่มก้จะมีหมัดออกมา)
  • เรนเทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกไม่ต้องต่อเป็นรูปแค่กดปุ่มก้จะมีน้ำพุ่งออกมา
  • ท่าที่ใช้ในการต่อสู้ 3 ท่อนหลัง
  • ฮีทบอล เป็นการสะบัดการเป่ากระบองแต่ละอันจะมีฟองอากาศเกิดขึ้น ท่อนแรกฟองอากาศร้อน
  • คลูบอล ท่อนที่ 2 ฟองอากาศเย็น
  • ธันเดอร์บอล ท่อนที่ 3 ฟองอากาศสายฟ้า
  • ไซโคลนเทมโป เป็นการนำท่อนร้อนและเย็นมาประกบกันเป็นรูป + จากนั้นปาออกไปมันจะเป็นบูมเมอร์แรงแต่ท่ามันไปกระทบอะไรมันจะเกิดลมระเบิดทันที
  • ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า
  • ทอเน็ตเทมโป/ทอนาโดเทมโป เป็นการนำกระบองมาต่อเป็นรูป T จากนั้นจับปลายด้ามหาง T กดปุ่มจะมีนกไขลานออกมามัดตัวศตรูไว้แล้วกระบองก็จะหมุนๆจนพุ่งออกไป
  • ฟ็อคเทมโป เป็นการใช้คลูบอลทำให้สะภาพอากาศรอบๆเย็นจัด จากนั้นใช้ความร้อนให้ระเหยขึ้นอากาศพอเย็นกับร้อนกระทบกันจะกลั่นตัวเป็นไอน้ำเกิดเป็นหมอก
  • มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
  • ธันเดอร์สทอร์มเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นนำกระบอง 3 ท่อนหลังมาต่อเป็นรูป 3 เหลี่ยมแล้วขว้างเข้าไปในเมฆ จะเกิดฟ้าคะนอง(ฝนตก-ฟ้าผ่า)
กระบองคุริมาเพอร์เฟ็ค
  • เป็นกระบองที่ถูกพัฒนาจากเดิมโดยเพิ่มไดอัลที่ส่วนหัวกระบองทั้ง 3 ท่อนที่ใช้ต่อสู้และเสริมความยาวนิดหน่อย
  • ธันเดอร์ชาร์จ กระบองใหม่นี้ส่วนหัวจะเป็นวงกลมเพื่อให้สะดวกในการใช้ท่าใหม่ ๆ ท่านี้พอกดปุ่มจะมีลูกบอลอากาศไฟฟ้าคลอบส่วนหัวกระบอง
  • คลูชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศเย็นคลอบส่วยหัวกระบอง
  • ฮีทชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศร้อนครอบส่วนหัวกระบอง
  • ธันเดอร์บอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศสายฟ้า
  • คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
  • ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
  • สวิงอาร์ม ใช้ธันเดอร์ชาร์จจากนั้นกดปุ่มปล่อยเชือกต่อกับกระบองอีก 2 ท่อนควงแล้วฟาดออกไป
  • ไซโคลนเทมโป คล้ายของเก่าแต่จะไม่เหมือนเดิมเพราะไม่ใช่บูมเมอร์แรงอีกแล้วหักปลายกระบองร้อนเย็นมาต่อคู่กันIIจากนั้นคว้างออกไปจะเกิดลมระเบิด
  • คลาวด์ดี้เทมโป ไม่เหมือนของเดิมแต่จะต่อเป็นรูปเดิมจะเกิดเมฆสีขาวออกมา
  • เรนเทมโป ไม่เหมือนของเดิมใช้คลูบอลใส่คลาวด์ดี้เทมโปที่อยู่บนฟ้าจากนั้นจะเกิดฝนตก
  • ดาร์คคลาวด์เทมโป ใช้ฮีทชาร์จคลูชาร์จมาประกบกันจากนั้นใส่สายฟ้าเข้าไปจะเกิดเมฆสายฟ้าขนาดเล็กอยู่ตรงหน้า
  • ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
  • ฟาตา โมร์กานา/ภูตเนรมิต ใช้มิราจเทมโปกับความหักเหของแสงทำให้เกิดภาพลวงตาของผู้ใช้ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย
  • มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
กระบองคุริมาซอคเซรี่
  • มิราจ ใช้คลูเอ้จ(เหมือนคลูชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม)กวาดไปกลางอากาศที่มีการคำนวณการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
  • กัสซอด มีฟองออกมาจากกระบอง เมื่อฟองแตกจะมีลมพุ่งออกมาโจมตีศัตรู(ชื่อท่าแปลว่าลมกระโชก)
  • แบล๊กบอล ฟองอากาศที่มีเมฆสายฟ้าอยู่ข้างใน(ชื่อท่าแปลว่าบอลสีดำ)
  • ไรอัลร๊อด ใช้แบล๊กบอลต่อกันเป็นโซ่ยาว พอเมฆออกมาจากฟองให้ฟาดออกไป
  • ธันเดอร์แทร็ป สร้างเมฆดำออกมาวางกับดัก (ชื่อท่าแปลว่ากับดักสายฟ้า)
  • ฮีทเอ้จ เหมือนฮีทชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม(ชื่อท่าแปลว่าไข่ร้อน)
  • มิลกี้บอล สร้างเมฆของเกาะแห่งท้องฟ้าออกมาเป็นทรงกลม ขนาดและจำนวนตามใจผู้ใช้
  • เวทเทอร์เอ้จ ปล่อยไข่จากกระบองขึ้นพอไข่แตกกลางอากาศจะมีเมฆสายฟ้าออกมา(ชื่อท่าแปลว่าไข่สภาพอากาศ)
  • ธันเดอร์บลีดเทมโป บังคับสายฟ้าที่ออกมาจากเมฆได้ ใช้ร่วมกับเวทเทอร์เอ้จ และเมฆสายฟ้าทุกอัน
  • ชาวเวอร์เทมโป สร้างเมฆฝนขนาดพอกับตัวไว้ใช้อาบน้ำ(ชื่อท่าแปลว่าสภาพอากาศอาบน้ำ)
  • มิลกี้โรด สร้างถนนเมฆของเกาะลอยฟ้า (ชื่อท่าแปลว่า ชื่อเฉพาะของถนนเกาะลอยฟ้า)
  • ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
  • คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
  • ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
  • ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า

นาม, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, จากว, นพ, ซช, อภาษาญ, ナミช, อภาษา. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir naminamicakwnphischuxphasayipun ナミchuxphasaxngkvs Namichaya nangmar ocrkhomyocrsld aemwkhomysngkd ocrsldhmwkfangyssungsud rank prakttwin tnchbbhnngsuxkartunprakttwkhrngaerk hnngsuxkartuntxnthi 8aexniemchn txnthi 1wnekid birthday ephaphnthu mnusynkphakyesiyng yipun xaekhmi oxkamura txnthi 1 69 aela 79 pccubn wakana yamasaki txnthi 70 78 emngumi othoynguci echphaa OVA ithy srixapha eruxnnakh txnthi 1 pccubn wiphada ctuysphr txnthi 1 pccubn twlakhrineruxng wnphisnami twlakhrkartuncakeruxngwnphis tnhneruxkhxngklumocrsldhmwkfanglufiprawtitamthxngeruxng aekikhnamiepntnhnkhxngeruxkhxngklumocrsldhmwkfang ethxepntwlakhrtwaerkkhxngklumocrsldhmwkfangthiophlmainxniema ethxepnlukeruxkhnthi 3 aethaknbkaryxmrwmklumaebbiccringethxepnlukeruxkhnthi 5 enuxngcakethximyxmrbkarepnlukeruxintxnaerkaetaekhyxmrwmmuxdwyechy aelaethxkepnnklasmbtixikdwy nxkcakniethxyngepnnklwngkraepathichanaymak dwy smyanam nangaemwkhomy namisamarthbngbxkkhwamaetktangkhxngxakasid aela ekhaickraaesna thaihklumocrsldhmwkfanghludphncakxakasaesnwunwaykhxngaekrndilnid aetsahrbkaredineruxinaekrndilnethximchanayinbangeruxng echn ethximthrabwatxngich lxkophs hrux exethxnxlophsinkaredinthang phungmathrabcakkhaaenanakhxngkhrxkkhsthiefapraphakhar aela mnusyenguxk aenanalxkophs3ekhm ethxminisytrahni aela mkchxbichnganlukeruxkhnxunihthanganaethnethx txnedkethxminisychxblkelkkhomynxy ethxmixyu 2 xyangthiethxchxbthisudnnkhux engin aela Mikan sungepnsmchnidhnung ephraaethxrkebllemiyrsungkhuxaemeliyngkhxngethx khwamfnkhxngnamikhuxkaridwadaephnthiolkthismburnaebbkhxngolk sungepnsingthiyngimsaerc aephnthiaerkthinamiwadkhuxaephnthikhxngekaathihmubanokhokhyachixyulksnakhxngnamikhux mirxyskthiaekhndansaykhxngethx sunghmaythung Mikan sungepnsmchnidhnung aelaekwiyn hmaythungxditkhxngethx sungtxnaerkcaepnrxyskthibngbxkwaepnphwkkhxngklumocrsldxarxn ethxmikhwamsung 169 esntiemtr sdswn 36 22 36 xacaryoxdaekhybxkwanamithukepriybethiybehmuxnkbaemw aelasithibngbxkekiywkbethxkhuxsism miklintwehmuxnsm Mikan aela engin xacaryoxdakbxkdwywa singthinamichxbkinthisudkhuxsmaelaphlimthukchnidineruxngkhxngkartxsu namiimchanayindankartxsuehmuxnthukkhninklum aetethxkyngsamarthpxngkntwidxyangelknxydwykrabxngkhxngethx aelasamarthkacdocrsldthrrmda hruxthhareruxthrrmdaid aemcamipyhaelknxy ethxsamarthplxyphlngocmtithithngerwthngaerng aelaemuxethxxyuthixlabastaaelahlngcaknn ethxichkrabxngthimikhwamsamrthepliynsphaphxakasxyukhanginthixuspsrangih txnaerk krabxngthuksrangmaephuxichinnganparti aetemuxnathatang maichrwmknaelw namiepliynkrabxngthiichinnganpartimaepnkrabxngthiaesnxntray aethlngcaknn krabxngkhurimaidklayepn krabxngkhurima chbbsmburn sungkrabxngnisamarththalayklumthhareruxidklumihyely ethkhnikhbangxyang khux thnedxroblth ethmop thiichkhulbxlkbhithbxlphsmknihepnemkh aelasngthnedxrbxlipbnemkhthaihekidsayfafadkhnadihyaelasamarthsrangphaphmirac epntn aettxmaxik 2 pi namiidxyubnekaathxngfathiichwithyasastrinkarkhwbkhumsphaphxakaskrabxngkhurimacungepliynepn krabxngkhurimasxkhesri aelwphxcbsukedrsorsaxuspidddaeplngihkrabxngkhurimamikhwamsamarththidiyingkwaedim aetxusplumisip 1 xyangkhahw aekikhkhahwkhxngnami 16 lanebri hlngcakcdkaraekhriefxraelaxngkhkr CP9 hlngcakcdkarklumodflamingok pccubnkhahwkhxngnami khux 66 lanebrithaimtay aekikhkrabxngkhurimathathiichinnganparti 3 thxnaerk faynethmop epnkarnakrabxng 3 thxnaerkmatxepnrup 3 ehliymaelwkdpumdankhangcaminkphirabbinxxkma khlawddiethmop epnkarnakrabxng 3 thxnxnedimmatxknepnruppun L aelwkdpumcamidxkimxxkma thnedxrethmop epnkarnakrabxng3thxnedimmatxknepnrup Y cbthiplaythng2aelwkdpumkcamihmdxxkma ernethmop epnkarnakrabxng 3 thxnaerkimtxngtxepnrupaekhkdpumkcaminaphungxxkma thathiichinkartxsu 3 thxnhlng hithbxl epnkarsabdkarepakrabxngaetlaxncamifxngxakasekidkhun thxnaerkfxngxakasrxn khlubxl thxnthi 2 fxngxakaseyn thnedxrbxl thxnthi 3 fxngxakassayfa isokhlnethmop epnkarnathxnrxnaelaeynmaprakbknepnrup caknnpaxxkipmncaepnbumemxraerngaetthamnipkrathbxairmncaekidlmraebidthnthi thnedxroblthethmop epnkarsabdkhlubxlaelahithbxlcanwnmakihkrathbknklangxakascaekidemkh caknnichthnedxrbxlpaekhaipinemkhcaekidfapha thxentethmop thxnaodethmop epnkarnakrabxngmatxepnrup T caknncbplaydamhang T kdpumcaminkikhlanxxkmamdtwstruiwaelwkrabxngkcahmuncnphungxxkip fxkhethmop epnkarichkhlubxlthaihsaphaphxakasrxbeyncd caknnichkhwamrxnihraehykhunxakasphxeynkbrxnkrathbkncaklntwepnixnaekidepnhmxk miracethmop emuxxakasrxncdihkwadkhlubxlipinthisthangkarhkehkhxngaesng cathaihekidphaphlwngta thnedxrsthxrmethmop epnkarsabdkhlubxlaelahithbxlcanwnmakihkrathbknklangxakascaekidemkh caknnnakrabxng 3 thxnhlngmatxepnrup 3 ehliymaelwkhwangekhaipinemkh caekidfakhanxng fntk fapha krabxngkhurimaephxrefkhepnkrabxngthithukphthnacakedimodyephimidxlthiswnhwkrabxngthng 3 thxnthiichtxsuaelaesrimkhwamyawnidhnxy thnedxrcharc krabxngihmniswnhwcaepnwngklmephuxihsadwkinkarichthaihm thaniphxkdpumcamilukbxlxakasiffakhlxbswnhwkrabxng khlucharc camilukbxlxakaseynkhlxbswyhwkrabxng hithcharc camilukbxlxakasrxnkhrxbswnhwkrabxng thnedxrbxl sabdhruxkdpumcaplxylukbxlxakassayfa khlubxl sabdhruxkdpumcaplxylukbxlxakaseyn hithbxl sabdhruxkdpumcaplxylukbxlxakasrxn swingxarm ichthnedxrcharccaknnkdpumplxyechuxktxkbkrabxngxik 2 thxnkhwngaelwfadxxkip isokhlnethmop khlaykhxngekaaetcaimehmuxnedimephraaimichbumemxraerngxikaelwhkplaykrabxngrxneynmatxkhuknIIcaknnkhwangxxkipcaekidlmraebid khlawddiethmop imehmuxnkhxngedimaetcatxepnrupedimcaekidemkhsikhawxxkma ernethmop imehmuxnkhxngedimichkhlubxliskhlawddiethmopthixyubnfacaknncaekidfntk darkhkhlawdethmop ichhithcharckhlucharcmaprakbkncaknnissayfaekhaipcaekidemkhsayfakhnadelkxyutrnghna thnedxraelnsethmop ichdarkhkhlawdethmopkxncaknnxxkhangmnphxpramanihichthnedxrcharccaekidfaphaphungcakemkhekhahathnedxrcharc fata omrkana phutenrmit ichmiracethmopkbkhwamhkehkhxngaesngthaihekidphaphlwngtakhxngphuich aetkhunxyukbkhwamsamarthkhxngphuichdwy miracethmop emuxxakasrxncdihkwadkhlubxlipinthisthangkarhkehkhxngaesng cathaihekidphaphlwngtakrabxngkhurimasxkhesrimirac ichkhluexc ehmuxnkhlucharcaetrunaerngkwaedim kwadipklangxakasthimikarkhanwnkarhkehkhxngaesng cathaihekidphaphlwngta kssxd mifxngxxkmacakkrabxng emuxfxngaetkcamilmphungxxkmaocmtistru chuxthaaeplwalmkraochk aeblkbxl fxngxakasthimiemkhsayfaxyukhangin chuxthaaeplwabxlsida irxlrxd ichaeblkbxltxknepnosyaw phxemkhxxkmacakfxngihfadxxkip thnedxraethrp srangemkhdaxxkmawangkbdk chuxthaaeplwakbdksayfa hithexc ehmuxnhithcharcaetrunaerngkwaedim chuxthaaeplwaikhrxn milkibxl srangemkhkhxngekaaaehngthxngfaxxkmaepnthrngklm khnadaelacanwntamicphuich ewthethxrexc plxyikhcakkrabxngkhunphxikhaetkklangxakascamiemkhsayfaxxkma chuxthaaeplwaikhsphaphxakas thnedxrblidethmop bngkhbsayfathixxkmacakemkhid ichrwmkbewthethxrexc aelaemkhsayfathukxn chawewxrethmop srangemkhfnkhnadphxkbtwiwichxabna chuxthaaeplwasphaphxakasxabna milkiord srangthnnemkhkhxngekaalxyfa chuxthaaeplwa chuxechphaakhxngthnnekaalxyfa thnedxraelnsethmop ichdarkhkhlawdethmopkxncaknnxxkhangmnphxpramanihichthnedxrcharccaekidfaphaphungcakemkhekhahathnedxrcharc khlubxl sabdhruxkdpumcaplxylukbxlxakaseyn hithbxl sabdhruxkdpumcaplxylukbxlxakasrxn thnedxroblthethmop epnkarsabdkhlubxlaelahithbxlcanwnmakihkrathbknklangxakascaekidemkh caknnichthnedxrbxlpaekhaipinemkhcaekidfapha bthkhwamekiywkbkartunyipunniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul duephimthi sthaniyxy kartunyipunekhathungcak https th wikipedia org w index php title nami amp oldid 9464821, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม