พระยาอภัยภูเบศร (นอง) เป็นเจ้าเมืองพระตะบองคนที่ 6 ระหว่าง พ.ศ. 2390–2403 มีนามเดิมว่า นอง, ฟอง หรือ ม่วง เป็นบุตรของพระยาธิราชวงศา
หลังจากเจ้าเมืองพระตะบองคนที่ 5 ที่นักองค์อิ่มเป็นกบฏต่อไทย ทำลายเมืองพระตะบองแล้วลงไปอยู่กับญวนที่พนมเปญ เมื่อ พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุง ซ่อมแซม เมืองพระตะบองเสียใหม่ แต่มิได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดเป็นเจ้าเมืองพระตะบองเป็นเวลานานถึง 7 ปี ซึ่งน่าจะมาจากเหตุผลที่ไทยยังไม่สามารถจะหาผู้ใดที่ไว้วางใจ จงรักภักดีต่อไทยอย่างจริงใจ
บุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองพระตะบองขณะนั้นมีอยู่ 2 ท่าน คือ พระพิทักษ์บดินทร์ (โสม) ซึ่งเป็นปลัดเมืองพระตะบอง และพระนิรนทรโยธา (นอง, ฟอง หรือ ม่วง) กรมการเมืองซึ่งเป็นบุตรเขยของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เจ้าเมืองพระตะบองคนที่ 1 ทั้งสองท่านมีบทบาทในการต่อสู้ป้องกันเมืองพระตะบองจากญวนเมื่อ พ.ศ. 2382 โดยนำกองทัพออกสะกัดครอบครัวเมืองพระตะบองให้กลับเข้าเมือง และนำกำลังเข้าตั้งมั่นรักษาเมือง ก่อนที่กองทัพจากกรุงเทพจะยกออกไป ทั้งสองท่านยังร่วมมือกับนักองค์ด้วงเกลี้ยกล่อมชักชวนชาวเมืองพระตะบองให้ลงไปพนมเปญ เมื่อ พ.ศ. 2381 และถูกจับได้จึงมีความผิด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าที่ทำไปเพราะตั้งใจจะประจบนักองค์ด้วงเพียงเท่านั้น อีกทั้งทั้งสองท่านเป็นข้าหลวงและบุตรหลานเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) จึงทรงพระกรุณามิให้ลงโทษ โปรดให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ภาคทัณฑ์ไว้ก่อน
หลังจากเว้นว่างจากการมีเจ้าเมืองพระตะบองนาน 7 ปี เป็นเวลาที่ไทยทำสงครามกับญวนครั้งที่ 2 เจ้าพระยาบดินทรเดชาเป็นแม่ทัพในการบัญชาทัพ ท่านเดินทางไปยังเมืองพระตะบองเพื่อติดต่อสั่งราชการที่เมืองพระตะบอง ท่านตั้งให้พระพิทักษ์บดินทร์ (โสม) รั้งราชการเป็นเจ้าเมืองพระตะบอง และให้พระนิรนทรโยธานำกองทัพออกไปทำสงครามกับญวนในเขมร เมื่อสงครามจบลง พระพิทักษ์บดินทร์ (โสม) ก็ถึงแก่อสัญกรรม จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระนิรนทรโยธา เป็นเจ้าเมืองพระตะบองคนที่ 6 ต่อมาท่านปกครองเมืองพระตะบองโดยปรับปรุงเมืองที่ทรุดโทรมให้เจริญขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของราษฎรดีขึ้น พระยาอภัยภูเบศร (นอง) ว่าราชการได้ 12 ปี ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ. 2403
บุตรอ้างอิง - ไกรฤกษ์ นานา. "สยามรัฐท่ามกลางจักวรรดินิยม". p. 63.
- ระยับศรี กาญจนะวงศ์. "บทบาทของเจ้าเมืองพระตะบองในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พ.ศ. 2337-2449" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 126–128.
- "ประชุมพงศาวดาร, เล่มที่ 12". p. 148.
พระยาอภ, ยภ, เบศร, นอง, เป, นเจ, าเม, องพระตะบองคนท, ระหว, าง, 2390, 2403, นามเด, มว, นอง, ฟอง, หร, วง, เป, นบ, ตรของพระยาธ, ราชวงศา, สำเร, จราชการเม, องพระตะบองดำรงตำแหน, 2390, 2403กษ, ตร, พระบาทสมเด, จพระน, งเกล, าเจ, าอย, วพระบาทสมเด, จพระจอมเกล, าเจ, าอย, . phrayaxphyphuebsr nxng epnecaemuxngphratabxngkhnthi 6 rahwang ph s 2390 2403 minamedimwa nxng fxng hrux mwng epnbutrkhxngphrayathirachwngsa 1 phrayaxphyphuebsr nxng phusaercrachkaremuxngphratabxngdarngtaaehnng ph s 2390 2403kstriy phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwkxnhna nkxngkhximthdip ecaphrayakhthathrthrninthr eyiy xphywngs khxmulswnbukhkhlekid nxng fxng hrux mwngesiychiwit ph s 2403butr 5hlngcakecaemuxngphratabxngkhnthi 5 thinkxngkhximepnkbttxithy thalayemuxngphratabxngaelwlngipxyukbywnthiphnmepy emux ph s 2382 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwkthrngoprdekla ihprbprung sxmaesm emuxngphratabxngesiyihm aetmiidthrngaetngtngphuidepnecaemuxngphratabxngepnewlananthung 7 pi sungnacamacakehtuphlthiithyyngimsamarthcahaphuidthiiwwangic cngrkphkditxithyxyangcringicbukhkhlthiidrbkarphicarnaaetngtngepnecaemuxngphratabxngkhnannmixyu 2 than khux phraphithksbdinthr osm sungepnpldemuxngphratabxng aelaphranirnthroytha nxng fxng hrux mwng krmkaremuxngsungepnbutrekhykhxngecaphrayaxphyphuebsr aebn ecaemuxngphratabxngkhnthi 1 thngsxngthanmibthbathinkartxsupxngknemuxngphratabxngcakywnemux ph s 2382 odynakxngthphxxksakdkhrxbkhrwemuxngphratabxngihklbekhaemuxng aelanakalngekhatngmnrksaemuxng kxnthikxngthphcakkrungethphcaykxxkip thngsxngthanyngrwmmuxkbnkxngkhdwngekliyklxmchkchwnchawemuxngphratabxngihlngipphnmepy emux ph s 2381 aelathukcbidcungmikhwamphid phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwthrngehnwathithaipephraatngiccapracbnkxngkhdwngephiyngethann xikthngthngsxngthanepnkhahlwngaelabutrhlanecaphrayaxphyphuebsr aebn cungthrngphrakrunamiihlngoths oprdihecaphrayabdinthredcha singh singhesni phakhthnthiwkxnhlngcakewnwangcakkarmiecaemuxngphratabxngnan 7 pi epnewlathiithythasngkhramkbywnkhrngthi 2 ecaphrayabdinthredchaepnaemthphinkarbychathph thanedinthangipyngemuxngphratabxngephuxtidtxsngrachkarthiemuxngphratabxng thantngihphraphithksbdinthr osm rngrachkarepnecaemuxngphratabxng aelaihphranirnthroythanakxngthphxxkipthasngkhramkbywninekhmr emuxsngkhramcblng phraphithksbdinthr osm kthungaekxsykrrm cungidthrngphrakrunaoprdekla aetngtngphranirnthroytha epnecaemuxngphratabxngkhnthi 6 txmathanpkkhrxngemuxngphratabxngodyprbprungemuxngthithrudothrmihecriykhun sphaphkhwamepnxyukhxngrasdrdikhun 2 phrayaxphyphuebsr nxng warachkarid 12 pi thungaekxnickrrmemux ph s 2403butr aekikhmibutrchayrwm 5 khn 3 ecaphrayakhthathrthrninthr eyiy xphywngs naythxngxyu naykha naybw nayysxangxing aekikh ikrvks nana syamrththamklangckwrrdiniym p 63 raybsri kaycnawngs bthbathkhxngecaemuxngphratabxnginsmykrungrtnoksinthrph s 2337 2449 PDF mhawithyalysilpakr p 126 128 prachumphngsawdar elmthi 12 p 148 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phrayaxphyphuebsr nxng amp oldid 9467199, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม