fbpx
วิกิพีเดีย

นางสิบสอง (นิทาน)

นางสิบสอง เป็นนิทานที่สืบต่อกันมาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสิบสองคนที่ต้องผจญภัยในที่ต่าง ๆ เนื่องจาก นนท์และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน พ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า

เนื้อเรื่อง

นานมาแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ นนท์ และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ทั้งสองมีลูกสาวถึง 12 คน ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน อยู่มาวันหนึ่งพ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า โดยหลอกลูกของตนว่าตนจะไปเยี่ยมญาติจะพาลูก ๆ ไปด้วย เมื่อมาถึงกลางป่าเขาก็บอกกับลูกว่าจะไปหาผลไม้มาให้กินให้ลูก ๆ

เมื่อได้โอกาสเขาก็หนีไปโดยหวังว่าจะมีคนที่ดีกว่านี้มารับเลี้ยงดู นางสิบสองรอบิดาของตนจนเหนื่อย โชคดีที่นางเภาน้องคนสุดท้องที่มีความฉลาดมากกว่าพวกพี่ ๆ ได้นำข้าวตากโรยตามทางที่เดินมา พวกนางทั้งสิบสองจึงกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

เมื่อบิดาและมารดาเห็นลูกของตนกลับมาได้ก็ตกใจมากและได้คิดว่าจะนำลูกของตนไปปล่อยป่าอีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึง พ่อของนางสิบสองได้นำลูกของตนไปปล่อยป่าอีก คราวนี้โชคร้ายนางเภาไม่ได้เอาข้าวตากมาทำให้นางทั้งสิบสองติดอยู่ในป่า นางทั้งสิบสองได้อยู่ในป่าจนรุ่งเช้าของอีกวัน นางเภาได้บอกกับพี่ของตนว่าควรจะหาทางกลับบ้านใหม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที จนในที่สุดก็มาเจอกับนางยักษ์สันตราพอดี นางยักษ์สันตราพอได้เห็นนางทั้งสิบสองก็เกิดความรักและเอ็นดูเนื่องจากตนไม่มีลูกและสามีของตนก็ตายไปแล้ว นางยักษ์จึงนำนางทั้งสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวังโดยสั่งให้ทุกคนในเมืองทานตะวันแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมดเนื่องจากกลัวว่านางทั้งสิบสองจะหวาดกลัวและเกลียดตน ส่วนตนเองก็ได้เปลี่ยนชื่อจากสันตราเป็นสันธมาลา

นางทั้งสิบสองใช้ชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายจนกระทั่งโตเป็นสาว นางเภาก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าเมืองนี้เป็นเมืองยักษ์เพราะว่าตนนั้นไม่เคยเห็นสัตว์ตัวไหนในเมืองในเมืองนี้เลยและพี่ของตนก็ได้เจอกับกองกระดูกที่พวกยักษ์กินไว้ทางท้ายวังซึ่งนางสันธมาลาห้ามไม่ให้ไปอีกด้วย นางเภาจึงพาพวกพี่หนีจากเมืองยักษ์จนนางสันตราตามมา แต่มองไม่เห็นนางทั้งสิบสองเพราะเทวดาในป่าคุ้มครอง นางสันตราจึงกลับเมืองไปด้วยความอาฆาตแค้น นางทั้งสิบสองดีใจที่หนีจากนางยักษ์มาได้และก็เดินทางไปโดยไร้จุดหมาย

จนมาถึงเมืองกุตลนครซึ่งมีราชารถสิทธิ์เป็นผู้ปกครองเมือง ท้าวรถสิทธิ์ เมื่อได้เห็นนางเภาที่รูปงามและพวกพี่ ๆ ของนางแล้วก็เกิดความรักใคร่ โดยรักนางเภามากที่สุด ท้าวรถสิทธิ์ได้นางทั้งสิบสองเป็นมเหสี อยู่มาวันหนึ่งนางทั้งสิบสองคนก็ได้ตั้งครรภ์ อีกด้านหนึ่งในขณะเดียวกันนางยักษ์สัตราได้ใช้มนต์วิเศษของตนดูภาพพวกนางทั้งสิบสองผ่านกระจก นางสันตราจึงได้เห็นและรู้ว่านางสิบสองอยู่ที่เมืองกุตลนครและได้เป็นมเหสีของราชารถสิทธิ์ ก็ได้ตามไปจนมาถึงเมืองกุตลนครและได้พบกับท้าวรถสิทธิ์ นางจึงเป่ามนต์สะกดให้ท้าวรถสิทธิ์รักใคร่และแต่งตั้งให้ตนเป็นพระมเหสีเอกแทนนางทั้งสิบสอง

เมื่อนางสิบสองรู้ข่าวว่าพระสวามีตนมีมเหสีใหม่จึงโมโหและอยากรู้ว่าเป็นใคร พอดีนางยักษ์สันตราผ่านมาพอดีนางสิบสองจึงได้รู้ว่าเป็นนางยักษ์สันตราก็ตกใจกลัว และร้องขอว่าอย่าทำอะไรตนเลย นางยักษ์สันตราไม่ยอมจึงเป่ามนต์ให้ท้าวรถสิทธิ์เกลียดนางทั้งสิบสองและสั่งนางทั้งสิบสองไปขังไว้ในถ้ำ นางทั้งสิบสองต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในถ้ำขณะที่ท้องของนางก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน ฝ่ายนางยักษ์สันตรายังไม่หยุดแค้นนางสิบสองจึงออกอุบายว่าตนป่วยเป็นโรคประหลาดและได้เป่ามนต์ใส่หมอหลวงให้พูดว่าต้องใช้ลูกตานางทั้งสิบสองมาทำยาให้กินจึงจะหาย

พระรถสิทธิ์จึงรีบให้จัดการควักลูกตานางสิบสองมาถวายทันทีโดยนางยักษ์ได้สั่งให้วิรุฬและจำบัง สมุนเอกของตนรับหน้าที่นี้ เมื่อมาถึงถ้ำทั้งสองได้ควักลูกตานางสิบสองทันทีโดยเรียงจากพี่ไปน้อง ด้านนางค่อมผู้ซื่อสัตย์ต่อนางสิบสองได้อ้อนวอน ขอให้พระรถสิทธิ์สั่งไม่ให้ควักลูกตานางสิบสองอยู่พักใหญ่ก็ได้นำราชโองการมาให้วิรุฬและจำบังดูแต่ด้วยตนเองแก่แล้วและหลังก็ค่อมอีกด้วย จึงมาไม่ทันโดยวิรุฬจำบังได้ควักลูกตาไปทั้ง 11 คนแล้ว เว้นแต่นางเภาโดนควักไปเพียงข้างเดียวเพราะตนมาทันที่นางเภาพอดี วิรุฬจำบังจึงได้นำลูกตาของนางสิบสองใส่โถไปถวายให้นางสันธมาลา

นางค่อมได้โมโหตัวเองที่มาไม่ทัน นี่ก็เป็นเพราะเวรกรรมของนางทั้งสิบสองที่ตอนเด็กได้ควักตาปลาออกมาเล่นแต่นางเภาควักออกมาเพียงข้างเดียว จึงไม่โดนควักลูกตาทั้ง 2 ข้าง นางทั้งสิบสองต้องทุกข์ทรมานเข้าอีกปวดทั้งตาและท้องแก่ที่ใกล้คลอดโดยหากบเขียดแถวนั้นมาย่างกินประทังชีวิตและข้าวที่นางค่อมคอยแอบนำมาถวาย

เวลาผ่านไปจนกระทั่งพวกนางคลอดลูกมาแต่ลูกของนางทั้ง 11 คนตายหมด เพราะพวกนางอดอยากจึงกินลูกตัวเองเหลือแต่นางเภาที่ให้กำเนิดพระโอรสและตั้งชื่อว่า รถเสน รถเสนเป็นเด็กฉลาดและรูปงามมากและเป็นหัวแก้วหัวแหวนของแม่และป้าทั้ง 11 คน

พระรถ-เมรี

รถเสนโตขึ้นแลอยากจะช่วยแม่และป้าของตนหาข้าวมากินจึงได้ไปบ่อนไก่อยู่หลายครั้งและตนนั้นก็มีไก่ที่เทวดาเสกมาและได้นำไปชนไก่และชนะอยู่หลายครั้ง จึงได้เงินมาซื้อข้าวให้แม่และป้าของตนกิน จนรู้ไปถึงหูของพระรถสิทธิ์ที่ไม่รู้ว่ารถเสนเป็นลูกตน

พอดีว่าเมืองกุตลนครมีเมืองอื่นมาท้าพนันตีไก่เอาบ้านเอาเมืองรถเสนได้รับคำเชิญจากพระรถสิทธิ์ให้นำไก่ของตนไปชนเพราะว่าได้ยินชื่อเสียงว่าเก่ง และก็ชนะด้วยทางฝ่ายนั้นก็ได้นำทัพกลับไป รถเสนก็กลายเป็นคนโปรดของพระรถสิทธิ์และนางสันธมาลาจึงได้นำไปเลี้ยงดูจนโตเป็นหนุ่มและได้กลับมาหานางทั้งสิบสอง นางยักษ์สันตราก็ได้รู้ว่ารถเสนเป็นลูกของนางเภา

ขณะเดียวกันที่เมืองทานตะวัน เมรี ลูกของพญายักษ์และมเหสีเป็นมนุษย์ที่นางสันธมาลาขอมาเลี้ยงไว้ก็ได้โตเป็นสาวแล้ว ฝ่ายนางยักษ์สันตราพอรู้แล้วว่ารถเสนเป็นลูกของนางเภาก็โกรธแค้นจึงได้ออกอุบายว่าตนป่วยอีกครั้งคราวนี้ให้นำมะงั่วหาว มะนาวโห่ที่เมืองทานตะวันมารักษาพร้อมให้รถเสนนำสาส์นที่ตนเขียนว่าเมื่อรถเสนมาถึงเมืองกลางวันก็ให้ฆ่ากลางวันถึงคืนก็ฆ่าคืนให้เมรีด้วยโดยบอกรถเสนว่าห้ามเปิดอ่านเด็ดขาด รถเสนจึงได้ขี่ม้าไปที่เมืองทานตะวันแต่แวะพักที่กระท่อมของฤๅษี ฤๅษีได้ขออ่านสาส์นของรถเสนจึงรู้ว่ารถเสนจะต้องตายแน่ จึงแปลงสาส์นว่าถึงเมื่อไหร่ก็ให้แต่งงานเมื่อนั้นและได้มอบม้าวิเศษพูดชื่อประกายเพชรได้ให้รถเสนด้วย แล้วรถเสนก็มาถึงเมืองทานตะวันเมื่อเมรีได้อ่านสาส์นก็เกิดความรักจึงได้แต่งงานกันและอยู่ที่เมืองทานตะวันอยู่พักหนึ่ง

ฝ่ายแม่ย่าได้ตรวจดวงชะตาของเมรีแล้วพบว่าถ้าเมรียังรักรถเสนอยู่อย่างนั้น เมรีจะต้องตาย แม่ย่าจึงคิดออกอุบายให้รถเสนไปจากเมรี ทางรถเสนที่จะนำดวงตาของนางสิบสองที่ห้องสรรพยาที่นางสันธมาลานำมาไว้เอาไปให้แม่และป้าของตน พอแม่ย่ารู้ก็สนับสนุนให้รถเสนไปจากเมรีจึงได้เปิดทางให้โดยสะดวกรถเสนได้นำดวงตาออกมาและขี่ม้าคู่ใจของตนไปเมืองกุตลนคร แต่เมรีไม่ให้ไปจึงวิ่งตามมารถเสนจึงอธิษฐานให้พื้นเป็นทะเลเมรีจึงตามไปไม่ได้ เมรีจึงตรอมใจตาย เมื่อรถเสนมาถึงก็ได้นำดวงตามาให้แม่และป้าของตนนางทั้งสิบสองจึงมีดวงตาเหมือนเดิม ทุกคนพอรู้ว่านางสันธมาลาเป็นยักษ์จึงได้เนรเทศออกนอกเมือง

พอเรื่องคลี่คลายแล้วรถเสนก็กลับไปเมืองทานตะวัน พอมาถึงก็พบว่าเมรีตายแล้ว รถเสนจึงทำศพให้เมรีแล้วบอกว่ารักขอโทษเมรีและจึงตรอมใจตายตามนางเมรีอันเป็นที่รักไป

ภาคต่อ

ภาคต่อของพระรถ เมรี คือ พระสุธน-มโนราห์ รถเสนเกิดเป็นพระสุธน ส่วนเมรีเกิดเป็นมโนราห์ เนื่องจากตอนที่นางเมรีตรอมใจตายเพราะรักที่มีให้แก่รถเสนก็อธิษฐานว่า "ถ้าชาตินี้น้องตามพี่ไม่ได้ งั้นชาติหน้าขอให้พี่ตามน้องแทน" เพราะอย่างนี้จึงทําให้ทั้งสองเกิดมาคู่กันอีก

การดัดแปลงเป็นสื่อ

นางสิบสองถูกทํามาเป็นละครโทรทัศน์ช่อง 5 ปี พ.ศ. 2538 , ช่อง 7 สี ปี พ.ศ. 2531 , พ.ศ. 2543 และ ช่อง 7 HD พ.ศ. 2562 - ถูกฉายเป็นการ์ตูนทางช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2552

อ้างอิง

  • อ่านการ์ตูนนางสิบสอง

นางส, บสอง, ทาน, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, อสงส, ยว, าบทความน, . bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir mikhxsngsywabthkhwamnixaclaemidlikhsiththi aetrabuimidchdecnephraakhadaehlngthima hruxxangthungsingphimphthiyngtrwcsxbimid hakaesdngidwabthkhwamnilaemidlikhsiththi ihaethnpaynidwy laemidlikhsiththi hakkhunmnicwabthkhwamniimidlaemidlikhsiththi ihaesdnghlkthaninhnaxphipray oprdxyanapaynixxkkxnmikhxsrupnangsibsxng epnnithanthisubtxknmaepneruxngrawekiywkbedksibsxngkhnthitxngphcyphyinthitang enuxngcak nnthaelaphrryakhxngekhachux phrahmni dwykhwamthilukeyxathanathangbancungkhxy tktalng enginthxngthiekbiwkhayiphmdenuxngcaktxngeliyngduluksawthngsibsxngkhn phxkhxngnangsibsxngkidkhidxubaywacanaluk thngsibsxngkhnipplxypa enuxha 1 enuxeruxng 2 phrarth emri 3 phakhtx 4 karddaeplngepnsux 5 xangxingenuxeruxng aekikhnanmaaelwmiesrsthikhnhnungchux nnth aelaphrryakhxngekhachux phrahmni thngsxngmiluksawthung 12 khn dwykhwamthilukeyxathanathangbancungkhxy tktalng enginthxngthiekbiwkhayiphmdenuxngcaktxngeliyngduluksawthngsibsxngkhn xyumawnhnungphxkhxngnangsibsxngkidkhidxubaywacanaluk thngsibsxngkhnipplxypa odyhlxklukkhxngtnwatncaipeyiymyaticaphaluk ipdwy emuxmathungklangpaekhakbxkkblukwacaiphaphlimmaihkinihluk emuxidoxkasekhakhniipodyhwngwacamikhnthidikwanimarbeliyngdu nangsibsxngrxbidakhxngtncnehnuxy ochkhdithinangephanxngkhnsudthxngthimikhwamchladmakkwaphwkphi idnakhawtakorytamthangthiedinma phwknangthngsibsxngcungklbbanidxyangplxdphyemuxbidaaelamardaehnlukkhxngtnklbmaidktkicmakaelaidkhidwacanalukkhxngtnipplxypaxikkhrng aelawnnnkmathung phxkhxngnangsibsxngidnalukkhxngtnipplxypaxik khrawniochkhraynangephaimidexakhawtakmathaihnangthngsibsxngtidxyuinpa nangthngsibsxngidxyuinpacnrungechakhxngxikwn nangephaidbxkkbphikhxngtnwakhwrcahathangklbbanihm aetedinipethaihrkimthungskthi cninthisudkmaecxkbnangykssntraphxdi nangykssntraphxidehnnangthngsibsxngkekidkhwamrkaelaexnduenuxngcaktnimmilukaelasamikhxngtnktayipaelw nangykscungnanangthngsibsxngmaeliyngiwinwngodysngihthukkhninemuxngthantawnaeplngkayepnmnusyihhmdenuxngcakklwwanangthngsibsxngcahwadklwaelaekliydtn swntnexngkidepliynchuxcaksntraepnsnthmalanangthngsibsxngichchiwitxyuinwngxyangsukhsbaycnkrathngotepnsaw nangephakekidsngsykhunmawaemuxngniepnemuxngyksephraawatnnnimekhyehnstwtwihninemuxnginemuxngnielyaelaphikhxngtnkidecxkbkxngkradukthiphwkykskiniwthangthaywngsungnangsnthmalahamimihipxikdwy nangephacungphaphwkphihnicakemuxngykscnnangsntratamma aetmxngimehnnangthngsibsxngephraaethwdainpakhumkhrxng nangsntracungklbemuxngipdwykhwamxakhataekhn nangthngsibsxngdiicthihnicaknangyksmaidaelakedinthangipodyircudhmaycnmathungemuxngkutlnkhrsungmiracharthsiththiepnphupkkhrxngemuxng thawrthsiththi emuxidehnnangephathirupngamaelaphwkphi khxngnangaelwkekidkhwamrkikhr odyrknangephamakthisud thawrthsiththiidnangthngsibsxngepnmehsi xyumawnhnungnangthngsibsxngkhnkidtngkhrrph xikdanhnunginkhnaediywknnangyksstraidichmntwiesskhxngtnduphaphphwknangthngsibsxngphankrack nangsntracungidehnaelaruwanangsibsxngxyuthiemuxngkutlnkhraelaidepnmehsikhxngracharthsiththi kidtamipcnmathungemuxngkutlnkhraelaidphbkbthawrthsiththi nangcungepamntsakdihthawrthsiththirkikhraelaaetngtngihtnepnphramehsiexkaethnnangthngsibsxngemuxnangsibsxngrukhawwaphraswamitnmimehsiihmcungomohaelaxyakruwaepnikhr phxdinangykssntraphanmaphxdinangsibsxngcungidruwaepnnangykssntraktkicklw aelarxngkhxwaxyathaxairtnely nangykssntraimyxmcungepamntihthawrthsiththiekliydnangthngsibsxngaelasngnangthngsibsxngipkhngiwintha nangthngsibsxngtxngthnthukkhthrmanxyuinthakhnathithxngkhxngnangkerimotkhunthukwn faynangykssntrayngimhyudaekhnnangsibsxngcungxxkxubaywatnpwyepnorkhprahladaelaidepamntishmxhlwngihphudwatxngichluktanangthngsibsxngmathayaihkincungcahayphrarthsiththicungribihcdkarkhwkluktanangsibsxngmathwaythnthiodynangyksidsngihwirulaelacabng smunexkkhxngtnrbhnathini emuxmathungthathngsxngidkhwkluktanangsibsxngthnthiodyeriyngcakphiipnxng dannangkhxmphusuxstytxnangsibsxngidxxnwxn khxihphrarthsiththisngimihkhwkluktanangsibsxngxyuphkihykidnarachoxngkarmaihwirulaelacabngduaetdwytnexngaekaelwaelahlngkkhxmxikdwy cungmaimthnodywirulcabngidkhwkluktaipthng 11 khnaelw ewnaetnangephaodnkhwkipephiyngkhangediywephraatnmathnthinangephaphxdi wirulcabngcungidnaluktakhxngnangsibsxngisothipthwayihnangsnthmalanangkhxmidomohtwexngthimaimthn nikepnephraaewrkrrmkhxngnangthngsibsxngthitxnedkidkhwktaplaxxkmaelnaetnangephakhwkxxkmaephiyngkhangediyw cungimodnkhwkluktathng 2 khang nangthngsibsxngtxngthukkhthrmanekhaxikpwdthngtaaelathxngaekthiiklkhlxdodyhakbekhiydaethwnnmayangkinprathngchiwitaelakhawthinangkhxmkhxyaexbnamathwayewlaphanipcnkrathngphwknangkhlxdlukmaaetlukkhxngnangthng 11 khntayhmd ephraaphwknangxdxyakcungkinluktwexngehluxaetnangephathiihkaenidphraoxrsaelatngchuxwa rthesn rthesnepnedkchladaelarupngammakaelaepnhwaekwhwaehwnkhxngaemaelapathng 11 khnphrarth emri aekikhrthesnotkhunaelxyakcachwyaemaelapakhxngtnhakhawmakincungidipbxnikxyuhlaykhrngaelatnnnkmiikthiethwdaeskmaaelaidnaipchnikaelachnaxyuhlaykhrng cungidenginmasuxkhawihaemaelapakhxngtnkin cnruipthunghukhxngphrarthsiththithiimruwarthesnepnluktnphxdiwaemuxngkutlnkhrmiemuxngxunmathaphnntiikexabanexaemuxngrthesnidrbkhaechiycakphrarthsiththiihnaikkhxngtnipchnephraawaidyinchuxesiyngwaekng aelakchnadwythangfaynnkidnathphklbip rthesnkklayepnkhnoprdkhxngphrarthsiththiaelanangsnthmalacungidnaipeliyngducnotepnhnumaelaidklbmahanangthngsibsxng nangykssntrakidruwarthesnepnlukkhxngnangephakhnaediywknthiemuxngthantawn emri lukkhxngphyayksaelamehsiepnmnusythinangsnthmalakhxmaeliyngiwkidotepnsawaelw faynangykssntraphxruaelwwarthesnepnlukkhxngnangephakokrthaekhncungidxxkxubaywatnpwyxikkhrngkhrawniihnamangwhaw manawohthiemuxngthantawnmarksaphrxmihrthesnnasasnthitnekhiynwaemuxrthesnmathungemuxngklangwnkihkhaklangwnthungkhunkkhakhunihemridwyodybxkrthesnwahamepidxaneddkhad rthesncungidkhimaipthiemuxngthantawnaetaewaphkthikrathxmkhxngvisi visiidkhxxansasnkhxngrthesncungruwarthesncatxngtayaen cungaeplngsasnwathungemuxihrkihaetngnganemuxnnaelaidmxbmawiessphudchuxprakayephchridihrthesndwy aelwrthesnkmathungemuxngthantawnemuxemriidxansasnkekidkhwamrkcungidaetngnganknaelaxyuthiemuxngthantawnxyuphkhnungfayaemyaidtrwcdwngchatakhxngemriaelwphbwathaemriyngrkrthesnxyuxyangnn emricatxngtay aemyacungkhidxxkxubayihrthesnipcakemri thangrthesnthicanadwngtakhxngnangsibsxngthihxngsrrphyathinangsnthmalanamaiwexaipihaemaelapakhxngtn phxaemyaruksnbsnunihrthesnipcakemricungidepidthangihodysadwkrthesnidnadwngtaxxkmaaelakhimakhuickhxngtnipemuxngkutlnkhr aetemriimihipcungwingtammarthesncungxthisthanihphunepnthaelemricungtamipimid emricungtrxmictay emuxrthesnmathungkidnadwngtamaihaemaelapakhxngtnnangthngsibsxngcungmidwngtaehmuxnedim thukkhnphxruwanangsnthmalaepnykscungidenrethsxxknxkemuxngphxeruxngkhlikhlayaelwrthesnkklbipemuxngthantawn phxmathungkphbwaemritayaelw rthesncungthasphihemriaelwbxkwarkkhxothsemriaelacungtrxmictaytamnangemrixnepnthirkipphakhtx aekikhphakhtxkhxngphrarth emri khux phrasuthn monrah rthesnekidepnphrasuthn swnemriekidepnmonrah enuxngcaktxnthinangemritrxmictayephraarkthimiihaekrthesnkxthisthanwa thachatininxngtamphiimid ngnchatihnakhxihphitamnxngaethn ephraaxyangnicungthaihthngsxngekidmakhuknxikkarddaeplngepnsux aekikhnangsibsxngthukthamaepnlakhrothrthsnchxng 5 pi ph s 2538 chxng 7 si pi ph s 2531 ph s 2543 aela chxng 7 HD ph s 2562 thukchayepnkartunthangchxng 3 inpi ph s 2552xangxing aekikhxankartunnangsibsxngekhathungcak https th wikipedia org w index php title nangsibsxng nithan amp oldid 9291831, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม