fbpx
วิกิพีเดีย

ภีษมะ

ภีษมะ หรือ เจ้าชายเทวพรต เป็นพระโอรสของพระราชาศานตนุแห่งกรุงหัสตินาปุระ แคว้นกุรุ กับพระแม่คงคา เป็นบุคคลสำคัญในเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ เพราะถือเป็นปู่คนหนึ่งของทั้งฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ ภายหลังจากที่เจ้าชายเทวพรตได้ให้สัตย์สาบานแก่ฟ้าดินว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบัลลังก์กษัตริย์และจะไม่แต่งงานมีลูกกับหญิงคนใดแล้วนั้น ก็ได้ชื่อใหม่คือ ท้าวภีษมะ พระบิดาคือท้าวศานตนุก็ซาบซึ้งพระทัยมากจึงให้พรกับภีษมะว่าจะให้ภีษมะมีอายุยืนยาวเท่าไรก็ได้ ไม่มีวันตาย นอกเสียจากว่าภีษมะจะต้องการตายเองจริง ๆ

"คำปฏิญาณของภีษมะ" ผลงานของ ราชา รวิ วรรมา
"มรณกรรมของภีษมะ" ภีษมะนอนบนเตียงลูกศร รายล้อมด้วยเหล่ากษัตริย์ที่เข้าร่วมในสงครามทุ่งกุรุเกษตรทั้งฝ่ายปาณฑพและฝ่ายเการพ (ศิลปะอินเดียสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมบัติของพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน สหรัฐอเมริกา)

ภีษมะนั้น ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพราะเป็นผู้เห็นเรื่องราวทุกอย่าง ความพินาศของราชวงศ์กุรุ การรบพุ่งกันบนสงครามกุรุเกษตร และผลพวงของสงคราม ที่เป็นเช่นนี้เพราะชาติก่อนท้าวภีษมะเคยเกิดเป็น หนึ่งในคณะเทพวสุ ก็คือคณะเทพที่มี 8 องค์ด้วยกัน และมีภรรยาครบทุกองค์ เมื่อจะไปที่ใดก็ต้องเสด็จไปทั้ง 16 องค์ มีอยู่วันหนึ่ง ภรรยาของเทพทยุ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะเทพวสุ อยากได้แม่โคนันทินีของฤๅษีวสิษฐ์ซึ่งเป็นฤๅษีคนสำคัญ เทพทยุรู้ว่าผิดแต่ก็ช่วยกันกับเทพอีก 7 องค์ในการโขมยวัวในระหว่างที่ฤๅษีวสิษฐ์ออกไปเก็บผลไม้ในป่า แต่ฤๅษีวสิษฐ์ก็จับได้เข้า จึงสาปให้เทพทั้ง 8 องค์ไปเกิดรับความทรมานบนโลกมนุษย์ แต่เทพ 7 องค์นั้นเป็นเพียงตัวประกอบในการช่วยกันโขมยวัวเท่านั้น ตัวตั้งตัวตีนั้นคือเทพทยุ จึงถูกสาปให้ไปเกิดบนโลกมนุษย์รับความทรมานแสนสาหัสหนักกว่าใครเพื่อน ด้วยเหตุนี้พระแม่คงคาจึงรับหน้าที่เป็นพระมารดาของเทพ 8 องค์ นี้ และโยนเทพทั้ง 7 องค์ที่มาเกิดบนโลกมนุษย์นี้ลงแม่น้ำทันทีจะได้ไม่ต้องมารับกรรมมาก ส่วนเทพทยุที่ทำผิดหนักกว่าใครเพื่อนก็ได้มาเกิดนานกว่าคนอื่นก็คือ ท้าวภีษมะ นั่นเอง โดยพระแม่คงคาได้นำตัวท้าวภีษมะไปร่ำเรียนวิชาพระเวทและคัมภีร์เวทานตะโดยฤๅษีวสิษฐ์ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่สาปให้ภีษมะมาเกิดบนโลกนานกว่าใคร ,วิชารัฐศาสตร์โดยพระพฤหัสบดี และวิชายิงธนูโดยภควาจารย์หรือฤๅษีปรศุราม(ที่เกลียดพวกวรรณะกษัตริย์แต่คราวนี้ยอมสอนให้)

ท้าวภีษมะนั่นไม่ได้แต่งงานแต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ได้ไปชิงตัวเจ้าหญิงแห่งแคว้นกาสี 3 พระองค์ก็คือ เจ้าหญิงอัมพา เจ้าหญิงอัมพิกา และเจ้าหญิงอัมพาลิกา มาเป็นมเหสีของวิจิตรวีรยะผู้เป็นน้องต่างมารดา (ตอนนั้นจิตรางคทะเสียชีวิตไปแล้วและโดยปกติมีข้อตกลงกันมานานแล้วว่า หากแคว้นกาสีมีพระธิดาจะต้องยกให้กับเจ้าชายแคว้นหัสตินาปุระก่อน แต่คราวนี้กลับทำพิธีสยุมพรแต่ไม่ได้เชิญเจ้าชายแคว้นหัสตินาปุระไปร่วมด้วย) แต่เมื่อชิงตัวทั้งสามมายังกรุงหัสตินาปุระเรียบร้อย เจ้าหญิงอัมพาเกิดบอกกับภีษมะว่าตอนที่ภีษมะกำลังจะไปชิงตัวนางนั้น นางกำลังจะทำพิธีสยุมพรกับท้าวศัลวะ ซึ่งเป็นคู่รักของนาง ทุกคนคือท้าวภีษมะ พระนางสัตยวดีและวิจิตรวีรยะตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงส่งตัวเจ้าหญิงอัมพาให้ท้าวศัลวะ แต่ท้าวศัลวะไม่ยอมรับตัวเจ้าหญิงอีกต่อไป เจ้าหญิงอัมพาเสียใจมาก เมื่อกลับมาหาท้าวภีษมะและขอร้องให้แต่งงานกับตน แต่ท้าวภีษมะทำไม่ได้เพราะเคยให้สัตย์สาบานกับฟ้าดินไว้ นางอัมพาโกรธแค้นท้าวภีษมะมากจึงขอให้ฤๅษีปรศุรามผู้เป็นอาจารย์ของท้าวภีษมะมาขอร้องแทนแต่ก็ไม่เป็นผลและยังต้องต่อสู้กับท้าวภีษมะอีกด้วย แต่ผลก็ไม่รู้แพ้รู้ชนะเพราะภีษมะกำลังจะตัดสินการสู้กันโดยใช้วิชาอัสตระชื่อวิชาปรัสวาปะ ซึ่งเป็นวิชาทำลายล้างโลก แต่ก็ถูกพระนารายณ์และพระศิวะห้ามไว้ก่อน เจ้าหญิงอัมพาจึงไม่สมหวังและขอพรกับเทพบุตรสันมุข พระองค์จึงให้พวงมาลัยที่ไม่มีวันเหี่ยวเฉากับนาง เพื่อเอาไปคล้องคอกับผู้ที่จะฆ่าท้าวภีษมะให้ แต่ไม่มีกษัตริย์คนใดยอมรับ มาถึงคนสุดท้ายคือท้าวทรุปัท พระองค์ก็ไม่ยอมเช่นกัน เจ้าหญิงจึงแขวนพวงมาลัยในที่เสาในท้องพระโรงและได้พรจากพระศิวะให้นางเป็นคนฆ่าภีษมะด้วยตนเอง นางทนรอชาติหน้าไม่ไหวจึงเผาตนเองในกองไฟไปเกิดใหม่เป็นพระธิดาของท้าวทรุปัทชื่อ ศิขัณทิน (แต่ภายหลังได้แลกเพศกับยักษ์ตนหนึ่ง)

ส่วนในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรนั้น ท้าวภีษมะต้องเข้าร่วมกับพวกเการพ และเป็นแม่ทัพให้กับทุรโยธน์ ท้าวภีษมะไม่เต็มใจนักเพราะแต่ละฝ่ายต่างก็เป็นหลานของตน จึงเข้าร่วมกับฝ่ายเการพและบอกว่าจะไม่สังหารพี่น้องปาณฑพอย่างเด็ดขาด

แต่ในที่สุดแล้ว ภีษมะก็ตายด้วยน้ำมือของอรชุนซึ่งเป็นหลาน ไม่ใช่ศิขัณทิน ในสงครามบนทุ่งกุรุเกษตร โดยอรชุนระดมยิงธนูใส่ภีษมะเป็นจำนวนมาก แต่ภีษมะยังไม่ตาย โดยสอนวิธีการปกครองให้กับพวกปาณฑพก่อนที่ตนเองจะตั้งใจตาย เมื่อสอนหลาน ๆ ฝ่ายปาณฑพจบภีษมะก็ได้ตายจากไปและขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ดังเดิม

อุปนิสัยของท้าวภีษมะ

ภีษมะเป็นบุคคลที่ชาวฮินดูให้ความเคารพนับถือมาก ด้วยความที่เป็นผู้เสียสละความสุขส่วนตัวทั้งชีวิตเพื่อบิดา ลูกหลาน และประชาชน เป็นที่น่าสะเทือนใจว่าบุคคลอย่างภีษมะต้องเผชิญกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความเหงา ความหงุดหงิดใจ และ ความเศร้าจากการสูญเสีย แม้แต่ความตายของภีษมะยังต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน ภีษมะไม่เคยสนใจว่าจะต้องสู้ร่วมกับฝ่ายไหน เพราะว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นลูกหลานที่ภีษมะรักเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น การสงครามครั้งนี้จึงเป็นเพียงหน้าที่ของภีษมะ ที่ต้องร่วมรบในฐานะที่เป็นวรรณะกษัตริย์ และความจงรักภักดีต่อราชวงศ์กุรุ ภีษมะเลือกที่จะตายต่อเมื่อฝ่ายปาณฑพผู้มีธรรมะชนะสงคราม หากทุรโยธน์ได้ขึ้นครองราชย์ ภีษมะเลือกที่จะอยู่ต่อไปเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่ทุรโยธน์จะก่อขึ้น เนื่องจากความที่เป็นผู้อาวุโสของราชสำนัก เหล่ากษัตริย์เรียกภีษมะว่า ปิตามะห์ (Pitamaha) แปลว่า ปู่ภีษมะ

ความดีและความยิ่งใหญ่ของภีษมะทำให้นักประวัติศาสตร์บางคนถึงกับออกความเห็นว่าบุคคลที่ชื่อภีษมะไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เพราะมนุษย์โลกยังมีความเห็นแก่ตัวเกินกว่าที่จะเสียสละได้อย่างภีษมะ {{

ษมะ, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, หร, เจ, าชายเทวพรต, เป, นพระโอรส. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phisma hrux ecachayethwphrt epnphraoxrskhxngphrarachasantnuaehngkrunghstinapura aekhwnkuru kbphraaemkhngkha epnbukhkhlsakhyineruxngmhakaphymhapharta ephraathuxepnpukhnhnungkhxngthngfayekarphaelafaypanthph phayhlngcakthiecachayethwphrtidihstysabanaekfadinwacaimyungekiywkbbllngkkstriyaelacaimaetngnganmilukkbhyingkhnidaelwnn kidchuxihmkhux thawphisma phrabidakhuxthawsantnuksabsungphrathymakcungihphrkbphismawacaihphismamixayuyunyawethairkid immiwntay nxkesiycakwaphismacatxngkartayexngcring khaptiyankhxngphisma phlngankhxng racha rwi wrrma mrnkrrmkhxngphisma phismanxnbnetiyngluksr raylxmdwyehlakstriythiekharwminsngkhramthungkuruekstrthngfaypanthphaelafayekarph silpaxinediysmykhriststwrrsthi 17 smbtikhxngphiphithphnthsmithoseniyn shrthxemrika phismann txngthnthukkhthrmanaesnsahsephraaepnphuehneruxngrawthukxyang khwamphinaskhxngrachwngskuru karrbphungknbnsngkhramkuruekstr aelaphlphwngkhxngsngkhram thiepnechnniephraachatikxnthawphismaekhyekidepn hnunginkhnaethphwsu kkhuxkhnaethphthimi 8 xngkhdwykn aelamiphrryakhrbthukxngkh emuxcaipthiidktxngesdcipthng 16 xngkh mixyuwnhnung phrryakhxngethphthyu sungepnhnunginkhnaethphwsu xyakidaemokhnnthinikhxngvisiwsisthsungepnvisikhnsakhy ethphthyuruwaphidaetkchwyknkbethphxik 7 xngkhinkarokhmywwinrahwangthivisiwsisthxxkipekbphliminpa aetvisiwsisthkcbidekha cungsapihethphthng 8 xngkhipekidrbkhwamthrmanbnolkmnusy aetethph 7 xngkhnnepnephiyngtwprakxbinkarchwyknokhmywwethann twtngtwtinnkhuxethphthyu cungthuksapihipekidbnolkmnusyrbkhwamthrmanaesnsahshnkkwaikhrephuxn dwyehtuniphraaemkhngkhacungrbhnathiepnphramardakhxngethph 8 xngkh ni aelaoynethphthng 7 xngkhthimaekidbnolkmnusynilngaemnathnthicaidimtxngmarbkrrmmak swnethphthyuthithaphidhnkkwaikhrephuxnkidmaekidnankwakhnxunkkhux thawphisma nnexng odyphraaemkhngkhaidnatwthawphismaipraeriynwichaphraewthaelakhmphirewthantaodyvisiwsisthsungepnkhnediywknkbthisapihphismamaekidbnolknankwaikhr wicharthsastrodyphraphvhsbdi aelawichayingthnuodyphkhwacaryhruxvisiprsuram thiekliydphwkwrrnakstriyaetkhrawniyxmsxnih thawphismannimidaetngnganaetmixyukhrnghnung idipchingtwecahyingaehngaekhwnkasi 3 phraxngkhkkhux ecahyingxmpha ecahyingxmphika aelaecahyingxmphalika maepnmehsikhxngwicitrwiryaphuepnnxngtangmarda txnnncitrangkhthaesiychiwitipaelwaelaodypktimikhxtklngknmananaelwwa hakaekhwnkasimiphrathidacatxngykihkbecachayaekhwnhstinapurakxn aetkhrawniklbthaphithisyumphraetimidechiyecachayaekhwnhstinapuraiprwmdwy aetemuxchingtwthngsammayngkrunghstinapuraeriybrxy ecahyingxmphaekidbxkkbphismawatxnthiphismakalngcaipchingtwnangnn nangkalngcathaphithisyumphrkbthawslwa sungepnkhurkkhxngnang thukkhnkhuxthawphisma phranangstywdiaelawicitrwiryatkicmakkberuxngthiekidkhun cungsngtwecahyingxmphaihthawslwa aetthawslwaimyxmrbtwecahyingxiktxip ecahyingxmphaesiyicmak emuxklbmahathawphismaaelakhxrxngihaetngngankbtn aetthawphismathaimidephraaekhyihstysabankbfadiniw nangxmphaokrthaekhnthawphismamakcungkhxihvisiprsuramphuepnxacarykhxngthawphismamakhxrxngaethnaetkimepnphlaelayngtxngtxsukbthawphismaxikdwy aetphlkimruaephruchnaephraaphismakalngcatdsinkarsuknodyichwichaxstrachuxwichaprswapa sungepnwichathalaylangolk aetkthukphranaraynaelaphrasiwahamiwkxn ecahyingxmphacungimsmhwngaelakhxphrkbethphbutrsnmukh phraxngkhcungihphwngmalythiimmiwnehiywechakbnang ephuxexaipkhlxngkhxkbphuthicakhathawphismaih aetimmikstriykhnidyxmrb mathungkhnsudthaykhuxthawthrupth phraxngkhkimyxmechnkn ecahyingcungaekhwnphwngmalyinthiesainthxngphraorngaelaidphrcakphrasiwaihnangepnkhnkhaphismadwytnexng nangthnrxchatihnaimihwcungephatnexnginkxngifipekidihmepnphrathidakhxngthawthrupthchux sikhnthin aetphayhlngidaelkephskbykstnhnung swninsngkhramthithungkuruekstrnn thawphismatxngekharwmkbphwkekarph aelaepnaemthphihkbthuroythn thawphismaimetmicnkephraaaetlafaytangkepnhlankhxngtn cungekharwmkbfayekarphaelabxkwacaimsngharphinxngpanthphxyangeddkhadaetinthisudaelw phismaktaydwynamuxkhxngxrchunsungepnhlan imichsikhnthin insngkhrambnthungkuruekstr odyxrchunradmyingthnuisphismaepncanwnmak aetphismayngimtay odysxnwithikarpkkhrxngihkbphwkpanthphkxnthitnexngcatngictay emuxsxnhlan faypanthphcbphismakidtaycakipaelakhunipxyubnswrrkhdngedimxupnisykhxngthawphisma aekikhphismaepnbukhkhlthichawhinduihkhwamekharphnbthuxmak dwykhwamthiepnphuesiyslakhwamsukhswntwthngchiwitephuxbida lukhlan aelaprachachn epnthinasaethuxnicwabukhkhlxyangphismatxngephchiykbchiwitthietmipdwykhwamehnga khwamhngudhngidic aela khwamesracakkarsuyesiy aemaetkhwamtaykhxngphismayngtxngtayxyangecbpwdthrman phismaimekhysnicwacatxngsurwmkbfayihn ephraawathngsxngfaytangkepnlukhlanthiphismarkethaethiymkn ephraachann karsngkhramkhrngnicungepnephiynghnathikhxngphisma thitxngrwmrbinthanathiepnwrrnakstriy aelakhwamcngrkphkditxrachwngskuru phismaeluxkthicataytxemuxfaypanthphphumithrrmachnasngkhram hakthuroythnidkhunkhrxngrachy phismaeluxkthicaxyutxipephuxaekikhkhwamphidphladthithuroythncakxkhun enuxngcakkhwamthiepnphuxawuoskhxngrachsank ehlakstriyeriykphismawa pitamah Pitamaha aeplwa puphismakhwamdiaelakhwamyingihykhxngphismathaihnkprawtisastrbangkhnthungkbxxkkhwamehnwabukhkhlthichuxphismaimmixyucringinprawtisastr ephraamnusyolkyngmikhwamehnaektwekinkwathicaesiyslaidxyangphisma ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phisma amp oldid 9354205, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม