มังรายกะยอฉะวาที่ 2 แห่งอังวะ (พม่า: မင်းရဲကျော်စွာ, ออกเสียง: [mɪ́ɴjɛ́ tɕɔ̀zwà]; 2110 – ปลายธันวาคม 2142) หรือ เมงเยจอสวา ทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง แห่ง พม่า ระหว่าง พ.ศ. 2136 ถึง 2142 และดำรงตำแหน่ง พระเจ้าอังวะ ระหว่าง พ.ศ. 2130 ถึง 2136 ในช่วง 6 ปีสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพพระองค์เป็นรัชทายาทของพระราชบิดา พระเจ้านันทบุเรง สุดท้ายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2142 พระองค์ทรยศพระราชบิดาและแปรพักตร์ไปเข้ากับตองอู พระเจ้าเมงเยสีหตู เจ้าเมืองตองอู กับพระเจ้าเมงราชาคยี เจ้าเมืองยะไข่ ทรงให้สัญญาว่า ถ้าหากเมงเยจอสวามาเข้าด้วย ร่วมกันโค่นล้มพระเจ้านันทบุเรง จะตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์องค์ถัดไป แต่ในที่สุดพระองค์ก็ถูกนัดจินหน่อง พระราชบุตรของเมงเยสีหตู ลอบวางยาพิษสังหารพระองค์ ในอีกไม่กี่วันต่อมา
ต้นพระชนม์ มังรายกะยอฉะวา ประสูติเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2110 ในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เป็นพระราชบุตรองค์ที่ 2 ของพระมหาอุปราชนันทบุเรง กับพระนางหงสาวดีมิบะยา ทรงเจริญพระชันษา อยู่ในพระราชวังกัมโพชธานี วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2124 พระเจ้าบุเรงนอง เสด็จสวรรคต พระเจ้านันทบุเรง ขึ้นเถลิงราชสมบัติ เป็นพระเจ้ากรุงหงสาวดี ตั้งมังกะยอชวา เป็นพระมหาอุปราชา มังรายกะยอฉะวา มีพระยศเป็นพระอุปราช แต่ทรงมิได้เคยออกศึกสงครามเลย ไม่ว่าจะเป็นศึกเมืองคัง ศึกเมืองอังวะ หรือแม้กระทั่งศึกสงครามกับกรุงศรีอยุธยา
พระเจ้าอังวะในฐานะประเทศราช เส้นทางการขึ้นครองราชย์
ในเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2129 พระเจ้าเมงเลตยา เจ้าเมืองอังวะ พระราชบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ สิ้นพระชนม์ลง ซึ่งทรงปกครองได้เพียง 2 ปี หลังจากพระเจ้านันทบุเรงปราบปรามพระเจ้าตะโดเมงสอ พระเจ้านันทบุเรง จึงทรงแต่งตั้งมังรายกะยอฉะวา เป็นพระเจ้าอังวะ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2130 พระเจ้านันทบุเรง ทรงส่งแม่ทัพและขุนนาง 10 คน ไปช่วยราชการ นำโดยพญายอทา เป็นอัครมหามนตรี และ แล๊ตแหว่คยีเมี่ยนมู เป็นอัครมหาเสนาบดี
แต่เมื่อพระเจ้ามังรายกะยอฉะวา ขึ้นครองราชย์ ซึ่งขณะนั้น มีพระชนมายุ 19 พรรษา ไม่ได้รับการยอมรับจากขุนนางเดิมของเมืองอังวะ เนื่องด้วยขุนนางเหล่านี้ ร่วมรบกับพระเจ้าตะโดเมงสอมาช้านาน ไม่ว่าพระเจ้านันทบุเรงจะส่งพระเจ้าเมงเลตยา พระราชบุตรของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ หรือ พระเจ้ามังรายกะยอฉะวาก็ตาม ก็มิได้เป็นที่ยอมรับ แล้วเกิดการจลาจลในรัฐฉาน และเมืองมณีปุระ ความวุ่นวายเหล่านี้ทำให้พระเจ้ามังรายกะยอฉะวา ต้องเผชิญปัญหาหนักหน่วง และเป็นสาเหตุให้อังวะไม่ได้ส่งกำลังไปช่วยรบกับอยุธยา
ขณะการครองราชย์
พระเจ้ามังรายกะยอฉะวา ต้องประสบปัญหามากมาย ในฐานะกษัตริย์หนุ่ม พระองค์มิได้ทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการศึกสงคราม ในช่วงกันยายน พ.ศ. 2130 รัฐฉานยกมาตีเมืองอังวะ พระเจ้าอังวะ มิอาจจัดทัพหรือหายุทธศาสตร์ในการรับมือกับข้าศึกได้ พระเจ้านันทบุเรง ต้องทรงส่งกองทัพ 4,000 ขึ้นไปช่วยรักษาเมืองอังวะ
ในปี พ.ศ. 2133 เกิดกบฏโมกองขึ้น พระเจ้าอังวะต้องนำทัพ 10,000 ไปช่วยปราบกบฏ พร้อมด้วยพระเจ้าแปรตะโดธรรมราชาที่ 3 และนัดจินหน่อง แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่ได้ออกรบด้วย พระเจ้าแปร ผู้เป็นพระอนุชานั้น เก่งกาจในการศึกกว่าพระเชษฐาหลายเท่านัก พระองค์นั้นต้องการแสดงให้เหล่าแม่ทัพนายกองเห็นว่า พระองค์มิได้ด้อยไปกว่าพระอนุชา จึงทรงบัญชาทัพอังวะ มีไพร่พล 8,000 ม้า 600 ช้าง 60 เข้าไปรบกับพวกโมกอง หลังการปิดล้อมนานกว่า 7 เดือน ก็สามารถตีเมืองหลวงของโมกองแตก พระองค์ทรงเป็นผู้กุมตัวพระเจ้าโมกองและประหารชีวิตพระองค์และเหล่ากบฎ และเสด็จกลับถึงหงสาวดีในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2134 แต่ไม่มีการฉลองชัยชนะ เพราะทัพฝ่ายพระมหาอุปราชาพ่ายศึกกลับมาจากอยุธยา
พระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี หลังจากการสวรรคตของพระมหาอุปราชามังกะยอชวา ในสงครามยุทธหัตถี พระเจ้านันทบุเรงทรงแต่งตั้ง มังรายกะยอฉะวา เป็นพระมหาอุปราชาพระองค์ใหม่ ในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2136 ส่วนเมืองอังวะ ให้พญายอทา กับ แล๊ตแหว่คยีเมี่ยนมู รักษาเมืองอังวะ มีไพร่พลประจำอยู่รักษาเมือง 3,000 นาย ส่วนเมืองหงสาวดีนั้น ขาดไพร่พลเป็นกำลังรักษาเมือง ผู้คนหนีไปบวชเป็นพระเพื่อหนีการเกณฑ์ทหาร พระมหาอุปราชวังหน้าพระองค์ใหม่ ต้องไปเกณฑ์ไพร่พลตามหัวเมืองมอญต่างๆ แม้แต่พระภิกษุก็ทรงให้จับสึกมาเป็นทหาร แม้ไพร่พลจากหัวเมืองมอญก็มิเพียงพอจะรักษาเมือง จึงให้ขึ้นไปเกณฑ์ไพร่พลตามหัวเมืองฝ่ายเหนือ แต่ก็ต้องปะทะกับพระเจ้าแปรที่มาเกณฑ์ไพร่พลตามหัวเมืองของตนเช่นกัน พระเจ้านันทบุเรงทรงให้พระเจ้าแปรส่งไพร่พลที่เกณฑ์ได้พร้อมด้วยศัตราวุธมาให้กับทัพหงสาวดี พระเจ้าแปรยอมส่งไพร่พลให้ แต่ก็ทรงไม่พอพระทัยพระราชบิดาอย่างมาก กรุงหงสาวดี ตอนนี้ ปราศจากอำนาจและพันธมิตร พ.ศ. 2142 ก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะยกทัพมาถึงหงสาวดี พระเจ้าเมงเยสีหตู เจ้าเมืองตองอู กับพระเจ้าเมงราชาคยี เจ้าเมืองยะไข่ เข้ามาล้อมกรุงหงสาวดี เมงเยสีหตูยื่นข้อเสนอให้กับมังรายกะยอฉะวา ว่าถ้าหากร่วมกันล้มพระเจ้านันทบุเรง พระองค์จะให้มังรายกะยอฉะวา อภิเษกสมรสกับ พระนางขิ่นชเวนัน พระธิดาของเมงเยสีหตู และตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์แห่งพุกามประะเทศองค์ถัดไป มังรายกะยอฉะวาทรงตอบรับข้อเสนอ และหนีไปเข้ากับเมงเยสีหตู พระองค์ทรงได้ไปพำนักยังเมืองตองอู พร้อมเสนาบดีคนสนิทอีก 30 คน พระเจ้านันทบุเรง เมื่อทรงทราบว่าพระมหาอุปราชา ทรงทิ้งพระองค์ไปเข้ากับตองอู พระองค์จึงทรงยอมจำนนต่อตองอู ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2142
สวรรคต เมื่อทรงเสด็จไปอยู่ตองอู นัดจินหน่อง พระมหาอุปราชแห่งตองอู ทรงมิชอบพอพระทัยกับพระเจ้านันทบุเรง เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทรงวางแผนสังหารมังรายกะยอฉะวา โดยมิได้สนพระทัยคำสัตย์สัญญาของพระราชบิดา พระองค์ได้ลอบวางยาพิษ ในพระกระยาหารของมังรายกะยอฉะวา พระองค์สวรรคตในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2142 ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 32 พรรษา
งรายกะยอฉะวาท, แห, งอ, งวะ, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, สำหร, บคว. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir sahrbkhwamhmayxun duthi mngraykayxchawa aekkhwamkakwm mngraykayxchawathi 2 aehngxngwa phma မင ရ က စ xxkesiyng mɪ ɴjɛ tɕɔ zwa 2110 playthnwakhm 2142 hrux emngeycxswa thayathphumisiththiodytrng aehng phma rahwang ph s 2136 thung 2142 aeladarngtaaehnng phraecaxngwa rahwang ph s 2130 thung 2136 inchwng 6 pisudthayaehngphrachnmchiphphraxngkhepnrchthayathkhxngphrarachbida phraecannthbuerng sudthayineduxnthnwakhm ph s 2142 phraxngkhthrysphrarachbidaaelaaeprphktripekhakbtxngxu phraecaemngeysihtu ecaemuxngtxngxu kbphraecaemngrachakhyi ecaemuxngyaikh thrngihsyyawa thahakemngeycxswamaekhadwy rwmknokhnlmphraecannthbuerng catngphraxngkhepnkstriyxngkhthdip aetinthisudphraxngkhkthukndcinhnxng phrarachbutrkhxngemngeysihtu lxbwangyaphissngharphraxngkh inxikimkiwntxmamngraykayxchawa မင ရ က စ thayathphumisiththiodytrngkhxngphmakhrxngrachy29 thnwakhm ph s 2136 18 thnwakhm ph s 2142kxnhnamngkayxchwatxipphraecaxonephtlunphraecaxngwa praethsrach khrxngrachy5 kumphaphnth ph s 2130 29 thnwakhm ph s 2136kxnhnaphraecaemngeltyathdipphyayxtha aela aeltaehwkhyiemiynmurachwngstxngxuphrarachbidaphraecannthbuerngphrarachmardahngsawdimibayaprasuti16 phvscikayn ph s 2110 wnxathity aerm 1 kha eduxnnadx 929 MEhngsawdi xanackrtxngxuswrrkhtplayeduxnthnwakhm ph s 2142 32 phrrsa eduxnpyaot 961 MEtxngxusasnaphuththethrwathbthkhwamnimixksrphma hakimmikarsnbsnunkarernedxrthiehmaasm khunxacehnekhruxnghmaykhatham klxnghruxsylksnxunaethnxksrphma enuxha 1 tnphrachnm 2 phraecaxngwainthanapraethsrach 2 1 esnthangkarkhunkhrxngrachy 2 2 khnakarkhrxngrachy 3 phramhaxuprachaaehnghngsawdi 4 swrrkhttnphrachnm aekikhmngraykayxchawa prasutiemuxwnthi 16 phvscikayn ph s 2110 inrchsmykhxngphraecabuerngnxng epnphrarachbutrxngkhthi 2 khxngphramhaxuprachnnthbuerng kbphrananghngsawdimibaya thrngecriyphrachnsa xyuinphrarachwngkmophchthani wnthi 10 tulakhm ph s 2124 phraecabuerngnxng esdcswrrkht phraecannthbuerng khunethlingrachsmbti epnphraecakrunghngsawdi tngmngkayxchwa epnphramhaxupracha mngraykayxchawa miphraysepnphraxuprach aetthrngmiidekhyxxksuksngkhramely imwacaepnsukemuxngkhng sukemuxngxngwa hruxaemkrathngsuksngkhramkbkrungsrixyuthyaphraecaxngwainthanapraethsrach aekikhesnthangkarkhunkhrxngrachy aekikh ineduxnknyayn tulakhm ph s 2129 phraecaemngeltya ecaemuxngxngwa phrarachbutrephiyngphraxngkhediywkhxngphraecataebngchaewti sinphrachnmlng sungthrngpkkhrxngidephiyng 2 pi hlngcakphraecannthbuerngprabpramphraecataodemngsx phraecannthbuerng cungthrngaetngtngmngraykayxchawa epnphraecaxngwa emuxwnthi 5 kumphaphnth ph s 2130 phraecannthbuerng thrngsngaemthphaelakhunnang 10 khn ipchwyrachkar naodyphyayxtha epnxkhrmhamntri aela aeltaehwkhyiemiynmu epnxkhrmhaesnabdiaetemuxphraecamngraykayxchawa khunkhrxngrachy sungkhnann miphrachnmayu 19 phrrsa imidrbkaryxmrbcakkhunnangedimkhxngemuxngxngwa enuxngdwykhunnangehlani rwmrbkbphraecataodemngsxmachanan imwaphraecannthbuerngcasngphraecaemngeltya phrarachbutrkhxngphraecataebngchaewti hrux phraecamngraykayxchawaktam kmiidepnthiyxmrb aelwekidkarclaclinrthchan aelaemuxngmnipura khwamwunwayehlanithaihphraecamngraykayxchawa txngephchiypyhahnkhnwng aelaepnsaehtuihxngwaimidsngkalngipchwyrbkbxyuthya khnakarkhrxngrachy aekikh phraecamngraykayxchawa txngprasbpyhamakmay inthanakstriyhnum phraxngkhmiidthrngmiphraprichasamarthindankarsuksngkhram inchwngknyayn ph s 2130 rthchanykmatiemuxngxngwa phraecaxngwa mixaccdthphhruxhayuththsastrinkarrbmuxkbkhasukid phraecannthbuerng txngthrngsngkxngthph 4 000 khunipchwyrksaemuxngxngwainpi ph s 2133 ekidkbtomkxngkhun phraecaxngwatxngnathph 10 000 ipchwyprabkbt phrxmdwyphraecaaeprtaodthrrmrachathi 3 aelandcinhnxng aetthungkrannphraxngkhkimidxxkrbdwy phraecaaepr phuepnphraxnuchann ekngkacinkarsukkwaphraechsthahlayethank phraxngkhnntxngkaraesdngihehlaaemthphnaykxngehnwa phraxngkhmiiddxyipkwaphraxnucha cungthrngbychathphxngwa miiphrphl 8 000 ma 600 chang 60 ekhaiprbkbphwkomkxng hlngkarpidlxmnankwa 7 eduxn ksamarthtiemuxnghlwngkhxngomkxngaetk phraxngkhthrngepnphukumtwphraecaomkxngaelapraharchiwitphraxngkhaelaehlakbd aelaesdcklbthunghngsawdiinchwngeduxnemsayn ph s 2134 aetimmikarchlxngchychna ephraathphfayphramhaxuprachaphaysukklbmacakxyuthyaphramhaxuprachaaehnghngsawdi aekikhhlngcakkarswrrkhtkhxngphramhaxuprachamngkayxchwa insngkhramyuththhtthi phraecannthbuerngthrngaetngtng mngraykayxchawa epnphramhaxuprachaphraxngkhihm inwnthi 29 thnwakhm ph s 2136 swnemuxngxngwa ihphyayxtha kb aeltaehwkhyiemiynmu rksaemuxngxngwa miiphrphlpracaxyurksaemuxng 3 000 nay swnemuxnghngsawdinn khadiphrphlepnkalngrksaemuxng phukhnhniipbwchepnphraephuxhnikareknththhar phramhaxuprachwnghnaphraxngkhihm txngipeknthiphrphltamhwemuxngmxytang aemaetphraphiksukthrngihcbsukmaepnthhar aemiphrphlcakhwemuxngmxykmiephiyngphxcarksaemuxng cungihkhunipeknthiphrphltamhwemuxngfayehnux aetktxngpathakbphraecaaeprthimaeknthiphrphltamhwemuxngkhxngtnechnkn phraecannthbuerngthrngihphraecaaeprsngiphrphlthieknthidphrxmdwystrawuthmaihkbthphhngsawdi phraecaaepryxmsngiphrphlih aetkthrngimphxphrathyphrarachbidaxyangmak krunghngsawdi txnni prascakxanacaelaphnthmitr ph s 2142 kxnthismedcphranerswrmharach caykthphmathunghngsawdi phraecaemngeysihtu ecaemuxngtxngxu kbphraecaemngrachakhyi ecaemuxngyaikh ekhamalxmkrunghngsawdi emngeysihtuyunkhxesnxihkbmngraykayxchawa wathahakrwmknlmphraecannthbuerng phraxngkhcaihmngraykayxchawa xphiesksmrskb phranangkhinchewnn phrathidakhxngemngeysihtu aelatngphraxngkhepnkstriyaehngphukampraaethsxngkhthdip mngraykayxchawathrngtxbrbkhxesnx aelahniipekhakbemngeysihtu phraxngkhthrngidipphankyngemuxngtxngxu phrxmesnabdikhnsnithxik 30 khn phraecannthbuerng emuxthrngthrabwaphramhaxupracha thrngthingphraxngkhipekhakbtxngxu phraxngkhcungthrngyxmcanntxtxngxu inwnthi 19 thnwakhm ph s 2142swrrkht aekikhemuxthrngesdcipxyutxngxu ndcinhnxng phramhaxuprachaehngtxngxu thrngmichxbphxphrathykbphraecannthbuerng epnthunedimxyuaelw cungthrngwangaephnsngharmngraykayxchawa odymiidsnphrathykhastysyyakhxngphrarachbida phraxngkhidlxbwangyaphis inphrakrayaharkhxngmngraykayxchawa phraxngkhswrrkhtinchwngeduxnthnwakhm ph s 2142 khnannthrngmiphrachnmayuephiyng 32 phrrsa ekhathungcak https th wikipedia org w index php title mngraykayxchawathi 2 aehngxngwa amp oldid 9375293, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม