ยุทธการที่อัลฮุดัยดะฮ์

ยุทธการที่อัลฮุดัยดะฮ์ (อังกฤษ: Battle of Al Hudaydah; อาหรับ: معركة الحديدة‎) ชื่อรหัสว่า ปฏิบัติการชัยชนะสีทอง (Operation Golden Victory) เป็นการโจมตีร่วมกันครั้งสำคัญซึ่งมีซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำ เป็นการกระทำต่ออัลฮุดัยดะฮ์ นครท่าในเยเมน โดยมีหัวหอก คือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย นับเป็นยุทธการครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่เกิดการแทรกแซงซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมนเมื่อ ค.ศ. 2015

ยุทธการที่อัลฮุดัยดะฮ์
ส่วนหนึ่งของ สงครามกลางเมืองเยเมน การรุกของคณะผู้ว่าการอัลฮุดัยดะฮ์ การแทรกแซงซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมน
การรุกอัลฮุดัยดะฮ์ของรัฐบาล Hadi      ในความควบคุมของรัฐบาลฮาดี      ในความควบคุมของฝ่ายฮูษี
วันที่ ช่วงแรก: 13–22 มิถุนายน 2018 (1 week and 2 days) ช่วงที่สอง: 9–16 กันยายน 2018 (1 week) ช่วงที่สาม: 1–27 พฤศจิกายน 2018 (3 weeks and 5 days) สถานที่ อัลฮุดัยดะฮ์ ประเทศเยเมน14°48′08″N 42°57′04″E / 14.80222°N 42.95111°E / 14.80222; 42.95111 สถานะ สหประชาชาติเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและถอนกำลังออกจากอัลฮุดัยดะฮ์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศระงับปฏิบัติการทางทหารในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ตามการเจรจาที่สหประชาชาติเป็นผู้ไกล่เกลี่ย การสู้รบเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2018 หลังการเจรจาสันติภาพล้มเหลว ฝ่ายฮูษีไม่มาร่วมประชุมที่เจนีวาเนื่องจากสหประชาชาติไม่ได้ทำให้สถานการณ์เหมาะสมเพียงพอที่จะพาพวกเขาไปที่นั่น มีการยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2018 โดยให้ทั้งสองฝ่ายถอนกำลังจากเมืองภายในเวลา 21 วัน ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 เริ่มภารกิจของสหประชาชาติในการสนับสนุนข้อตกลงอัลฮุดัยดะฮ์ ดินแดน เปลี่ยนแปลง กองกำลังผสมที่นำโดยซาอุดีอาระเบียอ้างว่าได้ยึดดินแดนรอบท่าอากาศยานนานาชาติอัลฮุดัยดะฮ์จากกองกำลังฮูษีในวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2018 แล้วยึดตัวสนามบินในวันที่ 20 มิถุนายน ฝ่ายฮูษียึดท่าอากาศยานคืน หรืออย่างน้อยบางส่วนในวันที่ 22 มิถุนายน โดยกองกำลังสัมพันธมิตรอยู่ห่างจากบริเวณนั้น 5 กิโลเมตร กองกำลังผสมยึดเส้นทางขนส่งเสบียงหลักของฮูษีจากอัลฮุดัยดะฮ์ไปยังซานาในวันที่ 11 กันยายน
คู่สงคราม
เยเมน (รัฐบาล Hadi)  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ซาอุดีอาระเบีย ขบวนการฝ่ายใต้ ผู้สนับสนุน:  ฝรั่งเศส  สหรัฐ  องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ	เยเมน (สภาการเมืองสูงสุด) ผู้ถูกอ้างว่าสนับสนุน:  อิหร่าน
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
Tareq Saleh	อับดุลมะลิก อัลฮูษี
หน่วยที่เกี่ยวข้อง
เยเมน ฝ่ายต่อต้านแห่งชาติ องครักษ์สาธารณรัฐ ฝ่ายต่อต้านของประชาชน Tihamah Resistance Al Amalaqah Brigades ขบวนการฝ่ายใต้ Security Belt  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ฝรั่งเศส กองทัพเรือฝรั่งเศส French Special Forces	ฮูษี Yemeni Marine and Coastal Defense Command Supreme Revolutionary Committee
กำลัง
กองทหาร 25,000 หน่วย กองทหาร 1,500–2,000 หน่วย	3,000-30,000
ความสูญเสีย
ทหารถูกฆ่า 9 คน ทหารถูกฆ่า 4 คน กองกำลังร่วม: ถูกฆ่า 90+ คน (ตามคำอ้างของ Houthi) ถูกจับ 160 คน (ตามคำอ้างของ Houthi) พาหนะเสียหาย 13 ชุด (ตามคำอ้างของ Houthi) เรือรบเสียหาย 1 ลำ (ตามคำอ้างของ Houthi)	ถูกฆ่า 290 คน, ถูกจับ 160 คน (ตามคำอ้างของกองกำลังร่วม)
ที่ตั้งในเยเมน

การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2018 มุ่งหมายจะขับกองกำลังฮูษีออกจากท่าอัลฮุดัยดะฮ์ เพื่อจะยึดนครอัลฮุดัยดะฮ์คืน และยุติการลำเลียงกองทุน อาวุธ และขีปนาวุธแบบทิ้งตัว ให้แก่ฝ่ายฮูษี ที่เชื่อว่ามีขึ้นในท่าอัลฮุดัยดะฮ์นี้

เนื่องจากท่าดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการส่งอาหารและความช่วยเหลือกว่าร้อยละ 80 ให้แก่เยเมน หน่วยงานทางมนุษยธรรมหลายแห่งจึงเตือนถึงผลลัพธ์อันเป็นความเสียหายร้ายแรงด้านมนุษยธรรม สหประชาชาติได้พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเข้าควบคุมท่าอัลฮุดัยดะฮ์แทนฝ่ายฮูษี และจัดการไปตามเขตอำนาจของสหประชาชาติ ฝ่ายฮูษีกล่าวว่า จะร่วมมือกับองค์การนานาชาติในการส่งความเชื่อเหลือให้แก่เยเมน สหประชาชาติยังเตือนว่า การสู้รบครั้งนี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อเด็กกว่า 300,000 ชีวิตในเขตที่มีผู้อยู่อาศัย ทั้งจะกีดกันการส่งอาหารให้แก่อีกหลายล้านชีวิต

อ้างอิง

1. "Humanitarian Crisis Worsens in Yemen After Attack on Port" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 June 2018.
2. "Battle starts for lifeline Yemen port". BBC News (ภาษาอังกฤษ). 13 June 2018. สืบค้นเมื่อ 17 June 2018.
3. https://www.aljazeera.com/news/2019/05/yemen-houthis-withdraw-hodeidah-190510192224500.html
4. "Hodeidah offensive paused as Houthis talk withdrawal". Middle East Eye. 1 July 2018. สืบค้นเมื่อ 4 July 2018.
5. "Yemeni army seizes key Houthi supply routes into Hodeidah". www.aljazeera.com. สืบค้นเมื่อ 6 November 2018.
6. "Yemen peace talks collapse in Geneva after Houthi no-show". /www.reuters.com. สืบค้นเมื่อ 8 January 2019.
7. "Yemen: ceasefire agreed for port city of Hodeidah". www.theguardian.com. สืบค้นเมื่อ 13 December 2018.
8. "Saudi-led forces seize airport in Yemen city of Hodeidah" (ภาษาอังกฤษ). Associated Press. สืบค้นเมื่อ 16 June 2018.
9. "Saudi, UAE coalition enters airport compound of Yemen's Hudaida" (ภาษาอังกฤษ). Al Jazeera. สืบค้นเมื่อ 21 June 2018.
10. "Saudi-led coalition seizes Yemen's Hodeidah airport, fears for population grow" (ภาษาอังกฤษ). Reuters. สืบค้นเมื่อ 21 June 2018.
11. "Fog of war clouds Hodeidah airport as media disagree about who controls site". สืบค้นเมื่อ 6 November 2018.
12. Fitch, Asa. "With Much at Stake in Yemen Port, Coalition Puts Advance on Hold". สืบค้นเมื่อ 6 November 2018.
13. "Yemen: Coalition forces consolidate positions near Hodeidah Airport". 27 June 2018. สืบค้นเมื่อ 6 November 2018.
14. "Tareq Saleh Leads 'Republican Guards' against Houthis on Yemen's West Coast". Asharq Al-awsat (ภาษายูเครน). สืบค้นเมื่อ 15 June 2018.
15. "قائد المقاومة التهامية لـ المدينة : نقترب من زبيد كبرى مدن الحديدة" [Leader of the Tihamah Resistance to al-Madina: We are approaching Zabid, the greater cities of Hodeidah]. al-Madina. 8 February 2018. สืบค้นเมื่อ 11 February 2018.
16. "المقاومة التهامية : دور محوري للقوات الإماراتية في تحرير الساحل الغربي" [Tihamah Resistance: The Emirati Forces have a pivotal role in the liberation of the West Coast]. al Khaleej. 25 January 2018. สืบค้นเมื่อ 11 February 2018.
17. "Yemen National Resistance, Brigades al-'Amalaqah and Tihama Forces prepare for massive military campaign to liberate Hodeidah from Houthi clutches". Emirates News Agency.
18. "'Security Belt': The UAE's Tribal Counterterrorism Strategy in Yemen - Jamestown".
19. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ YMCDC
20. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ SRC statement
21. "Who are the Yemeni ground forces fighting in Hodeidah?". thenational.ae. 14 June 2018.
22. https://www.theguardian.com/world/2018/jun/18/yemen-crisis-saudi-coalition-demands-houthis-unconditional-withdrawal-from-portmilitants
23. Wintour, Patrick (14 June 2018). "Pro-government forces 'breach defences' at crucial Yemen port". The Guardian.
24. . Almasirah.net. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2018-06-16. สืบค้นเมื่อ 17 June 2018.
25. . Almasirah.net. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2018-06-18. สืบค้นเมื่อ 17 June 2018.
26. "Battle of Al-Hudaydah: Saudi-led Forces Bogged Down Outside Port City, Claim New Yemen Missile Intercepted". Alahednews.
27. "Update: Yemeni rebels claim to have hit naval vessel - Jane's 360". www.janes.com.
28. "A Saudi-led coalition warship was struck and 250 Houthi fighters were reportedly killed in assault on Yemeni city".
29. Ghobari, Mohammed; Mokashef, Mohamed; Shalal, Andrea; Miles, Tom. Lawrence, Janet (บ.ก.). "Civilians flee bombardment as Arab states pound Yemen port". Reuters. Coalition spokesman Turki al-Malki has said operation "Golden Victory" aimed to wrest control of the port and airport, but that troops would avoid entering the city.
30. "Saudi Arabia, UAE, launch attack on Yemen's port city of Hudaida". Al Jazeera English. 13 June 2018.
31. Nissenbaum, Dion; Stancati, Margherita (13 June 2018). "Yemeni Forces, Backed by Saudi-Led Coalition, Launch Assault on Country's Main Port". The Wall Street Journal. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 13 June 2018.
32. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ guard1
33. "AU.N. In Talks To Take Over Administration Of Strategic Yemeni Port City". Kaiser Family Foundation (ภาษาอังกฤษ). 18 June 2018. สืบค้นเมื่อ 18 June 2018.
34. "Assault on key Yemeni port would endanger 300,000 children and 'choke off' aid for millions more: UNICEF chief". UN News (ภาษาอังกฤษ). 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 14 June 2018.

แหล่งข้อมูลอื่น

• A concise timeline of the Yemen conflict by Reuters
• "Who are the Houthis in Yemen?", by Al-Jazeera