วานรสิบแปดมงกุฏ เป็นวานร (ลิง) ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ วานรเหล่านี้เป็นเทวดาที่จุติลงมาเป็นวานร และมาเป็นทหารเอกในกองทัพของพระราม ผู้ซึ่งเป็นองค์พระนารายณ์อวตารลงมา และต้องไปอยู่ในป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี เพื่อรักษาสัจจวาจาของพระราชบิดา คือท้าวทศรถ
รูปบางส่วนของวานรสิบแปดมงกุฎ ในการแสดงโขนที่ลานคนเมืองเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน2549
เมื่อพระมเหสีของพระราม คือ นางสีดา ถูกทศกัณฐ์ กษัตริย์เมืองลงกา ลักพาตัวไป พระรามต้องนำกองทัพติดตามไปรับนางสีดาคืนมา โดยมีหนุมานผู้นำเอา สุครีพ ซึ่งเป็นน้าชายมาถวายตัวพร้อมไพร่พลเมืองขีดขิน และท้าวมหาชมพูที่ยกกำลังพลเมืองชมพูให้เป็นทหารแห่งองค์พระราม วานรสิบแปดมงกุฏจึงเป็นกำลังพลในทัพขององค์พระราม ที่มาจากสองเมืองคือ เมืองขีดขินของสุครีพ และเมืองชมพูของท้าวมหาชมพู
วานรสิบแปดมงกุฏ - 1.เกยูร
- อยู่เมืองวานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีม่วงแก่ หรือ สีม่วงชาดแก่ หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือท้าววิรุฬหก จอมกุมภัณฑ์ จตุโลกบาลแห่งทิศใต้
เกยูรนามเยี่ยงนี้ | | ในสกนธ์ นั้นฤๅ |
| | |
วิรุณหกเวหน | | หากแบ่ง ภาคแฮ |
| | |
ช่วยชูราเมศห้ำ | | หั่นเสี้ยนศึกอสูร |
| | |
— กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช |
- 2.โกมุท
- อยู่เมืองวานรฝ่ายเมืองขีดขิน สีบัวโรย มีลักษณะ หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระหิมพานต์ เทพเจ้าแห่งป่าหิมพานต์ เมื่อครั้งเสร็จศึกลงกา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเสนาฝ่ายซ้ายเมืองขีดขิน คู่กับไชยามพวาน
คือองค์พระหิมพานต์ | | ปันภาคย์ มาแฮ |
| | |
หวังรบราพฉลองใต้ | | บาทเบื้องอวตาร |
| | |
— พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค |
- 3.ไชยามพวาน
- อยู่เมืองวานรฝ่ายเมืองขีดขิน สีเทา หรือสีมอหมึกอ่อน มีลักษณะ หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระอีศาณ หรือพระวิศาลเทพบุตร ไชยามพวานได้รับพรจากพระอิศวรให้เป็นผู้ถือธงชัยนำกองทัพพระรามไปรบ เพราะมีชื่อเป็นมงคลข่มนามอสูร เมื่อเสร็จศึกลงกา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเสนาฝ่ายขวาเมืองขีดขิน คู่กับโกมุท
จุติจากสวรรค์ลี้ | | แบ่งเพี้ยงภาคย์ผัน |
| | |
— พระเทพกระวี |
- 4.มาลุนทเกสร
- วานรฝ่ายเมืองขีดขินลักษณะ สีเมฆ หรือ สีม่วงครามอ่อน หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระพฤหัสบดี เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าพระครู เทพแห่งครู วิทยาความรู้ นักบวช และฤษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของพระอินทร์ และเป็นผู้นำสวดมนต์บนสวรรค์
- 5.วิมลพานร
- วิมลพานร หรือ พิมลพานร หรือ นิลพานร วานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีดำหมึก หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระเสาร์ เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าแห่งการกสิกรรม
- 6.ไวยบุตร
- วานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีเมฆครึ้มฝน หรือ สีมอครามแก่ หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระพิรุณ เทพเจ้าแห่งฝน
- 7.สัตพลี
- วานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีขาวผ่อง หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือ พระจันทร์ เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าแห่งความรัก ความงาม ผู้ให้แสงสว่างเวลากลางคืน สัตพลีนอกจากมีหน้าที่จดความดีความชอบของเหล่าทหารแล้ว ยังมีบทบาทเด่นเป็นผู้เขียนสารส่งไปยังกรุงลงกา ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นอาลักษณ์แห่งเมืองขีดขิน
- 8.สุรกานต์
- วานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีเหลืองจำปา หรือ สีแดงชาด หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระมหาชัย เทพเจ้าแห่งชัยชนะ สุรกานต์เป็นผู้คุมกำลัง 30 สมุทรมาช่วยพระรามรบ เมื่อเสร็จศึกแล้วได้ครองเมืองโรมคัล
- 9.สุรเสน
- วานรฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีแสด หรือ สีเขียว บางตำราว่าสีแดงเจือเขียว หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระพุธ เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าแห่งวาจาและพาณิชย์ สุรเสนมีความเก่งกาจเกือบเทียบได้กับหนุมาน เมื่อเสร็จศึกได้ไปครองเมืองอัสดงค์ของสัทธาสูร
- 10.นิลขัน
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีหงดิน หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระพิฆเนศ พระวิฆเนศ เทพเจ้าแห่งศิลปะ
- 11.นิลปานัน
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีสำริด หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระราหู เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าผู้สถิตอยู่บนก้อนเมฆ
- 12.นิลปาสัน
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีเลื่อมเหลือง หรือ สีหมากสุก หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระศุกร์ เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าแห่งความบันเทิงและความสันติ
- 13.นิลราช
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีน้ำไหล หรือ สีฟ้าอ่อนเจือเขียว หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระสมุทร เทพเจ้าประจำมหาสมุทร นิลราชนอกจากมีบทบาทสำคัญในการรบแล้ว ยังมีหน้าที่เอาก้อนหินไปถมทะเลในตอนจองถนน เพราะต้องคำสาปของฤๅษีคาวิน ว่าเมื่อเอาสิ่งใดทิ้งน้ำให้จมอยู่กับที่ จึงต้องเป็นผู้อาสาเอาศิลาไปทิ้งทะเลแต่ผู้เดียวจึงจะพ้นคำสาป
- 14.นิลเอก
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีทองแดง หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระพินาย วินายก นิลเอกคือผู้ที่ไปช่วยพระลักษณ์ทำลายพิธีกุมภนิยาของอินทรชิต
- 15.วิสันตราวี
- วานรฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีลิ้นจี่ หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระอังคาร เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าแห่งสงคราม
- 16.กุมิตัน
- ไม่ปรากฏว่าเป็นฝ่ายใด วานรพงศ์ ของ พระเทวาภินิมมิต (ฉายเทวาภินิมมิต) ว่าเป็นฝ่าย เมืองชมพู ลักษณะ สีทอง หรือ สีเหลืองรง หัวโล้น ปากหุบ ชาติเดิมคือพระเกตุ เทวดานพเคราะห์ เทพเจ้าผู้คุ้มครองสวัสดิมงคล
- 17.เกสรทมาลา
- ลิงตัวหอม ไม่ปรากฏว่าเป็นฝ่ายใด วานรพงศ์ของพระเทวาภินิมมิต (ฉายเทวาภินิมมิต) ว่าเป็นฝ่ายเมืองขีดขิน ลักษณะ สีเหลืองอ่อน หรือ สีเลื่อมเหลือง หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือพระไพศรพณ์ พระพนัสบดี เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ในป่า คุณสมบัติพิเศษคือ มีกลิ่นกายหอมสดชื่น มีหน้าที่อยู่ใกล้ๆองค์พระราม ให้กลิ่นกายไปสร้างความสดชื่นให้กับพระองค์
- 18.มายูร
- ไม่ปรากฏว่าเป็นฝ่ายใด วานรพงศ์ของพระเทวาภินิมมิต (ฉายเทวาภินิมมิต) ว่าเป็นฝ่ายเมืองชมพู ลักษณะ สีม่วงอ่อน หัวโล้น ปากอ้า ชาติเดิมคือท้าววิรูปักษ์ ราชาแห่งนาค จตุโลกบาล ประจำ ทิศตะวันออก
ระบำวานรพงศ์ของกรมศิลปากร ระบำวานรพงศ์เป็นชุดการแสดงที่สร้างสรรค์ใหม่ โดยนาย เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๑ สาขาศิลปการละคร (ถึงแก่กรรม ๒๕๕๐) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการสังคีต กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบและสร้างบท นำออกแสดงในโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมานชาญสมร ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ คือ นาย กรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๑ สาขานาฏศิลป์โขน (ถึงแก่กรรม ๒๕๔๑) ผู้รับถ่ายทอดท่ารำ คือ นาย ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ( เกษียณฯ ๒๕๔๕ )
การแสดงชุดนี้เป็นการนำให้ผู้ชมทราบชื่อลิงสิบแปดมงกุฏและลิงพญาวานรที่เป็นกำลังสำคัญในกองทัพฝ่ายพลับพลาของพระราม และได้เห็นลักษณะการแต่งกายและสีประจำกายของลิงแต่ละตัว
ดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดง ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้า หรือเครื่องคู่ หรือเครื่องใหญ่
การแต่งกายนั้นแต่งตามรูปแบบลิงสิบแปดมงกุฎ และลิงพญายืนเครื่องเต็มตัว พร้อมอาวุธประจำตัว สีเสื้อและศีรษะเป็นสีเดียวกันตามพงศ์ในเรื่องรามเกียรติ์
ส่วนลักษณะท่ารำนั้น ลิงสิบแปดมงกุฏออกท่าเพลงหน้าพาทย์รุกร้น แล้วตีบทในเพลงแขกโหม่งชั้นเดียว ต่อจากนั้นลิงพญาออกท่าเพลงหน้าพาทย์รัวสามลาและเพลงกราวกลาง โดยตีบทตามความหมายของบทร้อง ในกิริยาอาการของลิงผสมผสานกับลีลานาฏศิลป์เรียงตามลำดับตามชื่อด้วยความคล่องแคล่วว่องไวการแสดงชุดนี้ใช้เวลาแสดงประมาณ ๑๒ นาที
เนื้อความจากบทร้องในระบำวานรพงศ์
- ชุดแรก วานรสิบแปดมงกุฏ ปี่พาทย์ทำเพลงรุกร้น ร้องเพลงแขกโหม่งชั้นเดียว
นำดัวยไชยามพวานทหารหน้า | | เกสรทมาลากล้ากลั่น |
| | |
ถัดมานิลราชกาจฉกรรจ์ | | เคียงคู่นิลขันชาญชัย |
| | |
นิลเอกฤทธิไกรดังไฟกัลป์ | | คู่นิลปานันทหารใหญ่ |
| | |
วิมลรณรบว่องไว | | ถัดไปชื่อวิสันตราวี |
| | |
มาลุนเริงแรงกำแหงหาญ | | เคียงขนานเกยูรกระบี่ศรี |
| | |
ทั้งมายูรพูนพลังแข็งขันดี | | คู่กับสัตพลีมีเดชา |
| | |
สุรเสนเจนจบรบรอนราญ | | คู่กับสุรกานต์ทหารกล้า |
| | |
โกมุทวุฒิไกรไวปัญญา | | เคียงมากับกระบี่กุมิตัน |
| | |
ไวยบุตรรำบาญราญแรง | | เคียงแข่งกับนิลปาสัน |
| | |
ครบสิบแปดมงกุฎสุดฉกรรจ์ | | ทหารเอกทรงธรรม์รามราชา |
| | |
- ชุดที่ 2 เหล่าพญาวานร ปี่พาทย์ทำเพลงรัวสามลา ร้องเพลงกราวกลาง
สุครีพโอรสพระสุริย์ฉาน | | คำแหงหนุมานทหารหน้า |
| | |
นิลพัทฝ่ายชมพูนัครา | | องคตบุตรพญาพาลี |
| | |
ชมพูพานศิวะโปรดประสาท | | ชามภูวราชชาติเชื้อพญาหมี |
| | |
นิลนนท์ลูกพระอัคนี | | ล้วนกระบี่พงศ์พญาวานร |
| | |
สำนวนไทย ในหนังสือ "สำนวนไทย" ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์) เขียนไว้ว่า สิบแปดมงกุฎ นำมาใช้เป็นสำนวนในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีนักเลงการพนันใหญ่ลือชื่อพวกหนึ่ง กล่าวกันว่าเป็นนักเลงชั้นยอด สักตามตัวเป็นรูปมงกุฎ จึงเรียกว่า สิบแปดมงกุฎ ตามเรื่องราวในรามเกียรติ์ จากนั้นถ้าใครเป็นนักเลงการพนันก็เลยเรียกว่า สิบแปดมงกุฎ
ทุกวันนี้ สิบแปดมงกุฎมิใช่สำนวนที่ใช้เรียกพวกนักเลงพนันเท่านั้น แต่ใช้เรียกพวกมิจฉาชีพทั้งหลาย เป็นสำนวนที่พบเห็นบ่อยมากตามสื่อมวลชนต่างๆ ซิ่งมีความหมายถึงพวกที่ยักยอก ต้มตุ๋น หลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อแล้วยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินผู้อื่นมาเป็นของตน
โครงกลอนที่แสดงถึงวานรสิบแปดมงกุฏ เทวดา 18 องค์ที่อาสามาช่วยพระนารายณ์ตอนอวตารมาเป็นพระราม ปรากฏในในบทละครรามเกียรติ์ ที่กล่าวถึงตอนนี้ว่า
เมื่อนั้น | | ฝูงเทพเทวาน้อยใหญ่ |
| | |
ต่างทูลอาสาพระภูวไนย | | จะขอไปเป็นพลพระอวตาร |
| | |
มาล้างเหล่าอสูรพาลา | | ที่หยาบช้าเบียนโลกทุกสถาน |
| | |
— พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
เมื่อนางมณโฑเทวีผู้เคยเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ออกไปดูทัพพระรามกับทศกัณฐ์ เมื่อเห็นทัพลิงก็ตกใจ แล้วกล่าวว่า
อันทหารทั้งสองนคเรศ | | เลื่องชื่อลือเดชชาญสมร |
| | |
ล้วนเทวามาเป็นพานร | | อาจจะช้อนพิภพเมืองอินทร์ |
| | |
ถึงจะพลิกสี่มหาสุธาธาร | | ทั่วทุกจักรวาลก็ได้สิ้น |
| | |
อ้างอิงแหล่งข้อมูลอื่น - สี ลักษณะหัวโขน และประวัติสังเขปของตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ นาย ประพันธ์ สุคนธชาติ รวบรวม
- ๑๘ มงกฎ คือ เทวดาแปลง แผลงฤทธิ์มาช่วยพระราม
- หัวโขน-สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ www.culture.go.th
- สีที่ใช้กับหัวโขน
- จารีตนาฏศิลป์ไทย. โดย นาย ประเมษฐ์ บุณยะชัย นิตยสารศิลปากร. ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๑ มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐. หน้า ๕ - ๑๙
- ภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องรามเกียรติ์ วัดหัวลำโพง wathualampong.com
- โคลงรามเกียรติ์ รอบพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม www.bloggang.com-praingpayear