วีระกร คำประกอบ
นายวีระกร คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ 8 สมัย เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร อดีตเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
วีระกร คำประกอบ ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 24 ตุลาคม พ.ศ. 2540 | |
นายกรัฐมนตรี | พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 (67 ปี) |
พรรคการเมือง | พลังประชารัฐ |
ประวัติ
วีระกร คำประกอบ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายสวัสดิ์ คำประกอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับนางมะลิ คำประกอบ มีพี่น้องอีก 2 คน คือ นายภานุวัฒน์ คำประกอบ และนายดิสทัต คำประกอบ
วีระกร คำประกอบ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเขาเป็นนายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2518 ระดับปริญญาโท ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยยังส์ทาวน์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส อาร์ลิงตัน
การทำงาน
วีระกร คำประกอบ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 ในสังกัดพรรคกิจสังคม และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องอีก 5 สมัย ในปี พ.ศ. 2531 จนถึงปี พ.ศ. 2539 ในสังกัดพรรคต่างๆ อาทิ พรรคเอกภาพ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย และพรรคความหวังใหม่ ตามลำดับ ยกเว้นในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2526 เพียงครั้งเดียว ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคไทยรักไทย แต่แพ้ให้กับนายสมควร โอบอ้อม จากพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี พ.ศ. 2548
ในปี พ.ศ. 2550 เขาเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี
วีระกร เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งขณะนั้นเขาสังกัดพรรคความหวังใหม่
ในวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 นายวีระกรได้เข้ามาสังกัด พรรคพลังประชารัฐ และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2540 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
อ้างอิง
- ↑ ประวัติผู้สมัคร ส.ส. กรมการปกครอง
- บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายดิสทัต คำประกอบ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๙ ราย)
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๑, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๐
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๘, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙