fbpx
วิกิพีเดีย

ศิลปะทวารวดี

อาณาจักรทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-16) เป็นของชนชาติมอญ ละโว้ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี อำเภออู่ทอง และกินพื้นที่ไปจนถึงภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงหนือ แถบ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปราจีนบุรี และขึ้นไปถึงทางเหนือ จังหวัดลำพูน มีศิลปะเป็นของตนเอง

พระพุทธรูปปางแสดงธรรมที่พระปฐมเจดีย์

จิตรกรรม

ไม่เหลืออะไรปรากฏเป็นหลักฐานทางด้านจิตรกรรม ชำรุดเสียหายไปหมดแล้ว เพราะงานจิตรกรรมเขียนด้วยวัสดุที่ไม่คงทน และถูกแดดถูกฝนจึงสูญหายไป

ประติมากรรม

พระพุทธรูป

ลักษณะสำคัญของพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี แบ่งออกเป็น 3 ยุค คือ

  1. มีลักษณะของอินเดียแบบคุปตะและหลังคุปตะ บางครั้งก็มีอิทธิพลของอมราวดีอยู่ด้วย ลักษณะวงพักตร์แบบอินเดีย ไม่มีรัศมี จีวรเรียบเหมือนจีวรเปียก พระพุทธรูปนั่งจะขัดสมาธิหลวม ๆ แบบอมราวดี มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12
  2. พัฒนาขึ้นจากแบบแรก โดยมีอิทธิพลพื้นเมืองผสมมากขึ้น พระขนงต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเกตุมาลาเป็นต่อมนูนใหญ่ บางทีมีรัศมีบัวตูมเหนือเกตุมาลา และสั้น พระพักตร์แบนกว้าง พระเนตรโปน พระหนุ (คาง) ป้าน พระนลาฏ (หน้าผาก) แคบ พระนาสิกป้านใหญ่แบน พระโอษฐ์หนา พระหัตถ์และพระบาทใหญ่ ยังคงขัดสมาธิหลวม ๆ แบบอมราวดี มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษ ที่ 13-15
  3. พระพุทธรูปในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลศิลปะเขมร เนื่องจากเขมรเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในสมัยเมืองพระนคร ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ในระยะนี้จึงมีอิทธิพลเขมรแบบบาปวนในประเทศไทยเรียกว่าศิลปะลพบุรีปะปน เช่น พระพักตร์เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีลักยิ้ม นั่งขัดสมาธิราบ เป็นต้น นอกจากพระพุทธรูปแล้วยังพบสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ซึ่งแสดงการสืบทอดแนวคิดทางศิลปะอินเดียโบราณก่อนหน้าที่จะทำรูปเคารพเป็นรูปมนุษย์ภายใต้อิทธิพลศิลปะกรีก

ประติมากรรมกลุ่มเทวรูปรุ่นเก่า

เป็นประติมากรรมศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู อยู่ร่วมสมัยกับทวารวดีตอนต้น และตอนปลาย ในราวพุทธศตวรรษที่ 11-13 ที่เมืองศรีมโหสถและเมืองศรีเทพ และพบอยู่ร่วมกับศรีวิชัยและทวารวดีที่ภาคใต้ของประเทศไทย มักจะทำเป็นรูปพระนารายณ์

ลักษณะพระพักตร์จะไม่เหมือนพระพุทธรูปแบบทวารวดี จะมีลักษณะคล้ายกับอินเดีย ตัวอย่างเช่น พระนารายณ์ที่ไชยาแสดงลักษณะอิทธิพลศิลปะอินเดียแบบมทุราและอมราวดี(พุทธศตวรรษที่ 6-9) รวมทั้งที่พบที่นครศรีธรรมราช ซึ่งถือสังข์ด้วยพระหัตถ์ซ้ายด้านล่าง ผ้านุ่งและผ้าคาดที่พบที่ภาคใต้และที่เมืองศรีมโหสถ จะมีผ้าคาดเฉียงเหมือนศิลปะอินเดียหลังคุปตะ (ปัลลวะ) ในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ส่วนเทวรูปรุ่นเก่าที่อำเภอศรีเทพจะมีอายุใกล้เคียงกัน และที่ศรีเทพนอกจากที่จะพบรูปพระนารายณ์แล้วยังพบรูปพระกฤษณะและพระนารายณ์ด้วย

ลักษณะของเทวรูปกลุ่มนี้ไม่เหมือนกับที่พบในเขมรเนื่องจากทำรูปลอยตัวอย่างแท้จริง ไม่ทำแผ่นหินมารับกับพระหัตถ์คู่บน แต่ยังไม่มีการนำเอากลุ่มเทวรูปนี้เข้าไปไว้ในศิลปะทวารวดี จึงเพียงมีแต่สมมุติฐานว่าเทวรูปกลุ่มนี้น่าจะเป็นทวารวดีที่เป็นพราหมณ์ การเข้ามาของเทวรูปนี่มีข้อคิดเห็นแตกไปเป็น 2 ทางคือ เป็นศิลปะอินเดียที่นำเข้าที่พร้อมกับการติดต่อค้าขาย หรือเป็นศิลปะแบบอินเดียที่ทำขึ้นในท้องถิ่น และมีการพัฒนาการภายใต้อิทธิพลศิลปะพื้นเมืองแบบทวารวดีและศรีวิชัย

สถาปัตยกรรม

สถาปัตยกรรมแบบทวาราวดีมักก่ออิฐและใช้สอดิน เช่น วัดพระเมรุและเจดีย์จุลปะโทน จังหวัดนครปฐม บางแห่งมีการใช้ศิลาแลงบ้าง เช่น ก่อสร้างบริเวณฐานสถูป การก่อสร้างเจดีย์ในสมัยทวารวดีพบทั้งเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม เจดีย์ทรงระฆังคว่ำมียอดแหลมอยู่ด้านบน

เครื่องมือเครื่องใช้

เครื่องมือเครื่องใช้ที่พบในแหล่งทวารวดีทั่วไปมักจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เศษภาชนะดินเผา เนื้อดินมักทำเป็นภาชนะปากบาน ภาชนะทรงหม้อตาล เศษภาชนะเคลือบ มีทั้งที่เป็นเครื่องเคลือบจีนในสมัยราชวงศ์ถังถึงสมัยราชวงศ์หยวน เครื่องเคลือบจากเตาในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ เครื่องเคลือบเปอร์เซีย เครื่องใช้อื่น ๆ ก็มีพบ เช่น กุณฑีดินเผา กาดินเผา ตะคันดินเผา กระสุนดินเผา ที่ประทับตราดินเผา ตุ๊กตาดินเผา ฯลฯ นอกจากเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ยังพบเครื่องใช้สำริด ทั้งเป็นเครื่องใช้ทั่วไปกับที่เป็นของของสูง หรือของที่ใช้ในพีธีกรรม เช่นคันฉ่อง เครื่องประกอบราชยานคานหาม และเครื่องใช้ทำจากเหล็ก นอกจากเครื่องใช้แล้วยังพบเครื่องประดับทำจากหิน แก้ว ดินเผา สำริด ทองคำ ได้แก่ ลูกปัด แหวนตุ้มหู กำไล ฯลฯ

แหล่งข้อมูลอื่น

  • หอมรดกไทย-พระพุทธรูปสมัยทวาราวดี
  • พุทธสถาปัตยกรรม ทวาราวดี เมืองโบราณบ้านคูบัว


ลปะทวารวด, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, อาณาจ, กรทวารวด, ทธศตวรรษท. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir xanackrthwarwdi phuththstwrrsthi 11 16 epnkhxngchnchatimxy laow misunyklangxyubriewncnghwdnkhrpthm cnghwdrachburi xaephxxuthxng aelakinphunthiipcnthungphakhtawnxxk aelaphakhtawnxxkechiynghnux aethb cnghwdburirmy cnghwdpracinburi aelakhunipthungthangehnux cnghwdlaphun misilpaepnkhxngtnexngphraphuththruppangaesdngthrrmthiphrapthmecdiy enuxha 1 citrkrrm 2 pratimakrrm 2 1 phraphuththrup 2 2 pratimakrrmklumethwrupruneka 3 sthaptykrrm 4 ekhruxngmuxekhruxngich 5 aehlngkhxmulxuncitrkrrm aekikhimehluxxairpraktepnhlkthanthangdancitrkrrm charudesiyhayiphmdaelw ephraangancitrkrrmekhiyndwywsduthiimkhngthn aelathukaeddthukfncungsuyhayippratimakrrm aekikhphraphuththrup aekikh lksnasakhykhxngphraphuththrupsmythwarawdi aebngxxkepn 3 yukh khux milksnakhxngxinediyaebbkhuptaaelahlngkhupta bangkhrngkmixiththiphlkhxngxmrawdixyudwy lksnawngphktraebbxinediy immirsmi ciwreriybehmuxnciwrepiyk phraphuththrupnngcakhdsmathihlwm aebbxmrawdi mixayuinrawphuththstwrrsthi 12 phthnakhuncakaebbaerk odymixiththiphlphunemuxngphsmmakkhun phrakhnngtxknepnruppikka phraektumalaepntxmnunihy bangthimirsmibwtumehnuxektumala aelasn phraphktraebnkwang phraentropn phrahnu khang pan phranlat hnaphak aekhb phranasikpanihyaebn phraoxsthhna phrahtthaelaphrabathihy yngkhngkhdsmathihlwm aebbxmrawdi mixayuxyuinrawphuththstwrrs thi 13 15 phraphuththrupinchwngniidrbxiththiphlsilpaekhmr enuxngcakekhmrerimmixiththiphlmakkhuninsmyemuxngphrankhr pramanphuththstwrrsthi 15 inrayanicungmixiththiphlekhmraebbbapwninpraethsithyeriykwasilpalphburipapn echn phraphktrepnrupsiehliym milkyim nngkhdsmathirab epntn nxkcakphraphuththrupaelwyngphbsylksnkhxngphraphuththeca sungaesdngkarsubthxdaenwkhidthangsilpaxinediyobrankxnhnathicatharupekharphepnrupmnusyphayitxiththiphlsilpakrikpratimakrrmklumethwrupruneka aekikh epnpratimakrrmsasnaphrahmnhruxhindu xyurwmsmykbthwarwditxntn aelatxnplay inrawphuththstwrrsthi 11 13 thiemuxngsrimohsthaelaemuxngsriethph aelaphbxyurwmkbsriwichyaelathwarwdithiphakhitkhxngpraethsithy mkcathaepnrupphranaraynlksnaphraphktrcaimehmuxnphraphuththrupaebbthwarwdi camilksnakhlaykbxinediy twxyangechn phranaraynthiichyaaesdnglksnaxiththiphlsilpaxinediyaebbmthuraaelaxmrawdi phuththstwrrsthi 6 9 rwmthngthiphbthinkhrsrithrrmrach sungthuxsngkhdwyphrahtthsaydanlang phanungaelaphakhadthiphbthiphakhitaelathiemuxngsrimohsth camiphakhadechiyngehmuxnsilpaxinediyhlngkhupta pllwa inrawphuththstwrrsthi 12 swnethwruprunekathixaephxsriethphcamixayuiklekhiyngkn aelathisriethphnxkcakthicaphbrupphranaraynaelwyngphbrupphrakvsnaaelaphranarayndwylksnakhxngethwrupklumniimehmuxnkbthiphbinekhmrenuxngcaktharuplxytwxyangaethcring imthaaephnhinmarbkbphrahtthkhubn aetyngimmikarnaexaklumethwrupniekhaipiwinsilpathwarwdi cungephiyngmiaetsmmutithanwaethwrupklumninacaepnthwarwdithiepnphrahmn karekhamakhxngethwrupnimikhxkhidehnaetkipepn 2 thangkhux epnsilpaxinediythinaekhathiphrxmkbkartidtxkhakhay hruxepnsilpaaebbxinediythithakhuninthxngthin aelamikarphthnakarphayitxiththiphlsilpaphunemuxngaebbthwarwdiaelasriwichysthaptykrrm aekikhsthaptykrrmaebbthwarawdimkkxxithaelaichsxdin echn wdphraemruaelaecdiyculpaothn cnghwdnkhrpthm bangaehngmikarichsilaaelngbang echn kxsrangbriewnthansthup karkxsrangecdiyinsmythwarwdiphbthngecdiythansiehliym ecdiythrngrakhngkhwamiyxdaehlmxyudanbnekhruxngmuxekhruxngich aekikhekhruxngmuxekhruxngichthiphbinaehlngthwarwdithwipmkcaepnekhruxngmuxekhruxngichinchiwitpracawn echn essphachnadinepha enuxdinmkthaepnphachnapakban phachnathrnghmxtal essphachnaekhluxb mithngthiepnekhruxngekhluxbcininsmyrachwngsthngthungsmyrachwngshywn ekhruxngekhluxbcaketainekhtcnghwdburirmy ekhruxngekhluxbepxresiy ekhruxngichxun kmiphb echn kunthidinepha kadinepha takhndinepha krasundinepha thiprathbtradinepha tuktadinepha l nxkcakekhruxngpndinephaaelw yngphbekhruxngichsarid thngepnekhruxngichthwipkbthiepnkhxngkhxngsung hruxkhxngthiichinphithikrrm echnkhnchxng ekhruxngprakxbrachyankhanham aelaekhruxngichthacakehlk nxkcakekhruxngichaelwyngphbekhruxngpradbthacakhin aekw dinepha sarid thxngkha idaek lukpd aehwntumhu kail laehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb Dvaravati arthxmrdkithy phraphuththrupsmythwarawdi phuththsthaptykrrm thwarawdi emuxngobranbankhubwekhathungcak https th wikipedia org w index php title silpathwarwdi amp oldid 9440689, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม