fbpx
วิกิพีเดีย

สมเด็จพระมหาอุปราช เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์

ระวังสับสนกับ กรมขุนอินทรพิทักษ์

เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ พระนามเดิมว่า จุ้ย (ไม่ทราบ – พ.ศ. 2325) เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ประสูติแต่กรมหลวงบาทบริจา ดำรงพระอิสริยยศเป็นพระมหาอุปราชแห่งกรุงธนบุรี

เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์
สมเด็จพระมหาอุปราช
ครองราชย์ไม่ปรากฏ - พ.ศ. 2325
ก่อนหน้าเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิต (กรุงศรีอยุธยา)
ถัดไปสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (กรุงรัตนโกสินทร์)
ราชวงศ์ธนบุรี
พระราชบิดาสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
พระราชมารดากรมหลวงบาทบริจา
สวรรคตพ.ศ. 2325

พระราชประวัติ

พระชนม์ชีพช่วงต้น

กรมขุนอินทรพิทักษ์ มีพระนามเดิมว่า จุ้ย (เอกพงศาวดารกัมพูชา ระบุว่าพระนามว่าพระองค์เจ้าน้อย) ประสูติแต่กรมหลวงบาทบริจา (สอน) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระอนุชาหนึ่งพระองค์คือเจ้าฟ้าน้อย ด้วยเหตุที่พระองค์ประสูติแต่พระอัครมเหสีที่มิได้เป็นเจ้ามาแต่เดิม เมื่อแรกประสูติจึงมีพระยศเป็น พระองค์เจ้า ต่อมาทรงรับราชการได้รับความชอบชนะศึกพม่าในปี พ.ศ. 2318 จึงถูกยกเป็นเจ้าฟ้าทรงกรม ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ความว่า "จึงพระกรุณาโปรดตั้งพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าจุ้ยเป็นกรมขุนอินทรพิทักษ์"

เจ้าฟ้าจุ้ยมีพระปรีชาสามารถในการรบ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าสถาปนาเป็นพระมหาอุปราช และโปรดให้เสด็จไปตีเมืองกัมพูชาพร้อมกับสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก โดยมีพระราชดำริว่า เมื่อตีเขมรได้ก็ให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ ทำพิธีสถาปนากรมขุนอินทรพิทักษ์ขึ้นเป็นเจ้าครองนครกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามกรมขุนอินทรพิทักษ์ถือว่ามีบทบาทด้านการศึกน้อยเมื่อเทียบกับกรมขุนอนุรักษ์สงคราม (เจ้ารามลักษณ์) พระนัดดา ที่มักปรากฏในพงศาวดารบ่อยครั้งกว่า

ความขัดแย้งกับพระราชบิดา

ช่วงปี พ.ศ. 2323 เป็นช่วงที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีถูกกล่าวถึงว่ามีพระอารมณ์หงุดหงิดวิปริตไปเสียหมด ตามที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารพระราชหัตถเลขา ดังปรากฏว่า

"ครั้งถึง ณ วันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ พระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องใหญ่ ครั้งเสร็จแล้วส่องพระฉายทอดพระเนตรเห็นพระเกศาเหนือพระกรรณเบื้องซ้ายเหลืออยู่เส้นหนึ่ง ก็ทรงพิโรธเจ้าพนักงานชาวพระภูษามาลาซึ่งทรงเครื่องนั้น ว่าแกล้งทำประจานพระองค์เล่น จึงดำรัสถามพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนอินทรพิทักษ์ว่า โทษคนเหล่านี้จะเป็นประการใด กรมขุนอินทรพิทักษ์กราบทูลว่า เห็นจะไม่พิจารณาดูทั่ว พระเกศาจึงหลอหลงอยู่เส้นหนึ่ง ซึ่งจะแกล้งทำประจานพระองค์เล่นนั้นเห็นจะไม่เป็น ๆ แท้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระพิโกรธพระเจ้าลูกเธอเป็นกำลัง ดำรัสว่ามันเข้ากับผู้ผิดกล่าวแก้กันแกล้งให้เขากระทำประจานพ่อดูเล่นได้ ไม่เจ็บแค้นด้วย จึงให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนอินทรพิทักษ์ร้อยทีแล้วจำไว้ ให้เอาตัวชาวพระภูษามาลาซึ่งทรงเครื่องทั้งสองคน กับทั้งพระยาอุทัยธรรมจางวางว่าไม่ดูแลตรวจตรากำกับเอาไปประหารชีวิตเสียทั้งสามคน"

แต่เรื่องราวดังกล่าวไม่ปรากฏในหลักฐานอื่น เป็นต้นว่า พระราชพงศาวดารฉบับบริติชมิวเซียม, พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ, ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๕ รวมไปถึงจดหมายเหตุกรมหลวงนรินทรเทวี ซึ่งมักจะมีการบันทึกเรื่องราวทำนองนี้แต่กลับไม่ปรากฏไว้

แต่หลังจากนั้นอีก 6 วัน กรมขุนอินทรพิทักษ์ก็ถูกถอดพระอิสริยยศ ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ความว่า "ถึง ณ วันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๗ ดำรัสสั่งให้รื้อตำหนักพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนอินทรพิทักษ์แล้วริบเครื่องยศ ให้ถอดเสียจากยศ ครั้นนานมาหายพระโกรธแล้ว จึงโปรดให้พ้นโทษ พระราชทานเครื่องยศแล้วให้คงยศดังเก่า" ซึ่งสอดคล้องกับจดหมายเหตุโหรความว่า "ปีชวด จ.ศ. ๑๑๔๒ วัน ๖ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๗ ริบเครื่องยศเจ้าวังนอก" และเหตุดังกล่าวได้พาลไปถึงพระราชมารดาของพระองค์ ถึงกับออกคำสั่งขับกรมหลวงบาทบริจาออกจากวังไปประทับกับลูก ดังปรากฏในจดหมายเหตุของกรมหลวงนรินทรเทวีคือ "ขับเจ้าหอกลางไปอยู่ที่วังนอก"

ช่วงที่ถูกริบเครื่องยศ พระองค์ได้ตัดสินใจออกผนวช เพื่อเลี่ยงพระราชอาญา เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงหายพิโรธแล้ว ก็พระราชทานยศศักดิ์คืนตามเดิม ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้เป็นทัพหนุนเข้าตีเมืองพุทไธเพชร สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ได้หมายพระทัยที่จะรั้งพระโอรสพระองค์นี้ครองกรุงกัมพูชาสืบไป

การผลัดแผ่นดิน

เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2325 ขณะกรมขุนอินทรพิทักษ์ และพระยากำแหงสงคราม (บุญคง) ตั้งทัพอยู่ที่เมืองพุทไธเพชร (บันทายเพชร ราชธานีของกัมพูชา) สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ ได้ยกทัพกลับกรุงธนบุรี และปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พร้อมกับสำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบรมวงศานุวงศ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินที่เป็นชาย ได้ส่งทหารตามจับกุมตัวกรมขุนอินทรพิทักษ์ พร้อมด้วยพระยากำแหงสงคราม และทหารองครักษ์จำนวน 5 คน ได้ในป่าตำบลเขาน้อย สระบุรี

สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกตรัสถามกรมขุนอินทรพิทักษ์ว่าทรงยินดีที่จะไว้พระชนม์ให้ แต่กรมขุนอินทรพิทักษ์ทรงยืนยันที่ขอตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสิน สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำตัวเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ไปสำเร็จโทษพร้อมกับพระยากำแหงสงคราม และพระอนุชา คือเจ้าฟ้าน้อย เมื่อวันเสาร์ เดือน 6 แรม 8 ค่ำ พ.ศ. 2325

พระโอรสธิดา

เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์มีพระโอรส-ธิดาจำนวนหนึ่ง ปรากฏสำคัญเพียง 4 พระองค์ คือ

  1. เจ้าหญิงมะเดื่อ เป็นชายาในพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหมื่นนราเทเวศร์ ต้นราชสกุลปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา มีโอรสและธิดาเป็นหม่อมเจ้า 3 พระองค์
  2. เจ้าหญิงสาลี่ เป็นชายาในพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์ ต้นราชสกุลเสนีวงศ์ ณ อยุธยา มีโอรสคือหม่อมเจ้าทินกร เสนีวงศ์
  3. เจ้าชาย (ไม่ทราบพระนาม) มีบุตรสองคน คนหนึ่งเป็นที่หลวงอินทรโกษา
  4. เจ้าชายทองอิน เป็นที่พระยากลาโหมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนถูกสำเร็จโทษในปี 2346 บุตรชายคนหนึ่งเป็นเจ้าพระยายมราช (สุก สินสุข)

ดังนั้นกรมขุนอินทรพิทักษ์เป็นต้นสกุลสินสุข และอินทรโยธิน

อ้างอิง

  1. เรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนะรัชต์), นายพันตรี. ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา. กรุงเทพฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006) จำกัด, 2563, หน้า 155
  2. ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์ และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544. 490 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-222-648-2
  3. ปรามินทร์ เครือทอง. กบฏเจ้าฟ้าเหม็น. พิมพ์ครั้งที่ 3 (ปรับปรุง). กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 36-37
  4. จุลลดา ภักดีภูมินทร์, นิตยสารสกุลไทย, ฉบับที่ 2488 ปีที่ 48 ประจำวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2545
  5. ปรามินทร์ เครือทอง. กบฏเจ้าฟ้าเหม็น. พิมพ์ครั้งที่ 3 (ปรับปรุง). กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 37
  6. พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา. คลังวิทยา. 2516, หน้า 437
  7. ปรามินทร์ เครือทอง. กบฏเจ้าฟ้าเหม็น. พิมพ์ครั้งที่ 3 (ปรับปรุง). กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 38
  8. พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา. คลังวิทยา. 2516, หน้า 438
  9. ประชุมพงศาวดารภาคที่ 8. คุรุสภา. 2507, หน้า 118
  10. ปรามินทร์ เครือทอง. กบฏเจ้าฟ้าเหม็น. พิมพ์ครั้งที่ 3 (ปรับปรุง). กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 38-39
  11. ฐานข้อมูลรากฐานไทย
  12. ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๓๙ หน้า ๑๓๘
  13. ส.พลายน้อย. พระเจ้าตากสิน มหาราชแห่งชาติไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : พิมพ์คำ, 2553, หน้า 173
  14. ส.พลายน้อย. พระเจ้าตากสิน มหาราชแห่งชาติไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : พิมพ์คำ, 2553, หน้า 179


สมเด, จพระมหาอ, ปราช, เจ, าฟ, ากรมข, นอ, นทรพ, กษ, ระว, งส, บสนก, กรมข, นอ, นทรพ, กษ, เจ, าฟ, ากรมข, นอ, นทรพ, กษ, พระนามเด, มว, ไม, ทราบ, 2325, เป, นพระราชโอรสพระองค, ใหญ, ในสมเด, จพระเจ, ากร, งธนบ, ประส, แต, กรมหลวงบาทบร, จา, ดำรงพระอ, สร, ยยศเป, นพระมหาอ, ป. rawngsbsnkb krmkhunxinthrphithks ecafakrmkhunxinthrphithks phranamedimwa cuy imthrab ph s 2325 epnphrarachoxrsphraxngkhihyinsmedcphraecakrungthnburi prasutiaetkrmhlwngbathbrica darngphraxisriyysepnphramhaxuprachaehngkrungthnburiecafakrmkhunxinthrphithkssmedcphramhaxuprachkhrxngrachyimprakt ph s 2325kxnhnaecafakrmkhunphrphinit krungsrixyuthya thdipsmedcphrabwrrachecamhasursinghnath krungrtnoksinthr rachwngsthnburiphrarachbidasmedcphraecakrungthnburiphrarachmardakrmhlwngbathbricaswrrkhtph s 2325 enuxha 1 phrarachprawti 1 1 phrachnmchiphchwngtn 1 2 khwamkhdaeyngkbphrarachbida 1 3 karphldaephndin 2 phraoxrsthida 3 xangxingphrarachprawti aekikhphrachnmchiphchwngtn aekikh krmkhunxinthrphithks miphranamedimwa cuy exkphngsawdarkmphucha rabuwaphranamwaphraxngkhecanxy 1 prasutiaetkrmhlwngbathbrica sxn insmykrungsrixyuthya miphraxnuchahnungphraxngkhkhuxecafanxy 2 dwyehtuthiphraxngkhprasutiaetphraxkhrmehsithimiidepnecamaaetedim emuxaerkprasuticungmiphraysepn phraxngkheca 3 txmathrngrbrachkaridrbkhwamchxbchnasukphmainpi ph s 2318 cungthukykepnecafathrngkrm dngpraktinphrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha khwamwa cungphrakrunaoprdtngphraecalukethxphraxngkhecacuyepnkrmkhunxinthrphithks 3 ecafacuymiphraprichasamarthinkarrb smedcphraecataksinmharachoprdeklasthapnaepnphramhaxuprach aelaoprdihesdciptiemuxngkmphuchaphrxmkbsmedcecaphrayamhakstriysuk 4 odymiphrarachdariwa emuxtiekhmridkihsmedcecaphraya thaphithisthapnakrmkhunxinthrphithkskhunepnecakhrxngnkhrkmphucha aetxyangirktamkrmkhunxinthrphithksthuxwamibthbathdankarsuknxyemuxethiybkbkrmkhunxnurkssngkhram ecaramlksn phrandda thimkpraktinphngsawdarbxykhrngkwa 5 khwamkhdaeyngkbphrarachbida aekikh chwngpi ph s 2323 epnchwngthismedcphraecakrungthnburithukklawthungwamiphraxarmnhngudhngidwipritipesiyhmd tamthipraktinphrarachphngsawdarphrarachhtthelkha dngpraktwa khrngthung n wnesar khun 15 kha eduxn 7 phraphuththecaxyuhwthrngekhruxngihy khrngesrcaelwsxngphrachaythxdphraentrehnphraeksaehnuxphrakrrnebuxngsayehluxxyuesnhnung kthrngphiorthecaphnknganchawphraphusamalasungthrngekhruxngnn waaeklngthapracanphraxngkheln cungdarsthamphraecalukethx krmkhunxinthrphithkswa othskhnehlanicaepnprakarid krmkhunxinthrphithkskrabthulwa ehncaimphicarnaduthw phraeksacunghlxhlngxyuesnhnung sungcaaeklngthapracanphraxngkhelnnnehncaimepn aeth smedcphraecaxyuhwthrngphraphiokrthphraecalukethxepnkalng darswamnekhakbphuphidklawaekknaeklngihekhakrathapracanphxduelnid imecbaekhndwy cungihlngphrarachxayaekhiynphraecalukethx krmkhunxinthrphithksrxythiaelwcaiw ihexatwchawphraphusamalasungthrngekhruxngthngsxngkhn kbthngphrayaxuthythrrmcangwangwaimduaeltrwctrakakbexaippraharchiwitesiythngsamkhn 6 aeteruxngrawdngklawimpraktinhlkthanxun epntnwa phrarachphngsawdarchbbbritichmiwesiym phrarachphngsawdarchbbphncnthnumas prachumphngsawdarphakhthi 65 rwmipthungcdhmayehtukrmhlwngnrinthrethwi sungmkcamikarbnthukeruxngrawthanxngniaetklbimpraktiw 7 aethlngcaknnxik 6 wn krmkhunxinthrphithkskthukthxdphraxisriyys dngpraktinphrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha khwamwa thung n wnsukr aerm 6 kha eduxn 7 darssngihruxtahnkphraecalukethx krmkhunxinthrphithksaelwribekhruxngys ihthxdesiycakys khrnnanmahayphraokrthaelw cungoprdihphnoths phrarachthanekhruxngysaelwihkhngysdngeka 8 sungsxdkhlxngkbcdhmayehtuohrkhwamwa pichwd c s 1142 wn 6 aerm 6 kha eduxn 7 ribekhruxngysecawngnxk 9 aelaehtudngklawidphalipthungphrarachmardakhxngphraxngkh thungkbxxkkhasngkhbkrmhlwngbathbricaxxkcakwngipprathbkbluk dngpraktincdhmayehtukhxngkrmhlwngnrinthrethwikhux khbecahxklangipxyuthiwngnxk 9 chwngthithukribekhruxngys phraxngkhidtdsinicxxkphnwch ephuxeliyngphrarachxaya 7 emuxsmedcphraecakrungthnburithrnghayphiorthaelw kphrarachthanysskdikhuntamedim thngyngoprdekla ihepnthphhnunekhatiemuxngphuthithephchr smedcphraecakrungthnburikidhmayphrathythicarngphraoxrsphraxngkhnikhrxngkrungkmphuchasubip 10 karphldaephndin aekikh emuxeduxnemsayn ph s 2325 khnakrmkhunxinthrphithks aelaphrayakaaehngsngkhram buykhng tngthphxyuthiemuxngphuthithephchr bnthayephchr rachthanikhxngkmphucha smedcecaphrayamhakstriysuk aelaecaphrayasursih idykthphklbkrungthnburi aelaprabdaphieskepnphraecaaephndin phrxmkbsaercothssmedcphraecataksinmharach aelaphrabrmwngsanuwngskhxngsmedcphraecataksinthiepnchay 11 idsngthhartamcbkumtwkrmkhunxinthrphithks phrxmdwyphrayakaaehngsngkhram aelathharxngkhrkscanwn 5 khn idinpatablekhanxy sraburi 11 smedcecaphrayamhakstriysuktrsthamkrmkhunxinthrphithkswathrngyindithicaiwphrachnmih aetkrmkhunxinthrphithksthrngyunynthikhxtaytamsmedcphraecataksin smedcecaphrayamhakstriysukcungoprdekla ihnatwecafakrmkhunxinthrphithksipsaercothsphrxmkbphrayakaaehngsngkhram 11 aelaphraxnucha khuxecafanxy emuxwnesar eduxn 6 aerm 8 kha ph s 2325 12 phraoxrsthida aekikhecafakrmkhunxinthrphithksmiphraoxrs thidacanwnhnung praktsakhyephiyng 4 phraxngkh khux 13 ecahyingmaedux epnchayainphrasmphnthwngsethx krmhmunnraethewsr tnrachskulpalkawngs n xyuthya mioxrsaelathidaepnhmxmeca 3 phraxngkh ecahyingsali epnchayainphrasmphnthwngsethx krmhlwngesnibrirks tnrachskulesniwngs n xyuthya mioxrskhuxhmxmecathinkr esniwngs ecachay imthrabphranam mibutrsxngkhn khnhnungepnthihlwngxinthroksa ecachaythxngxin epnthiphrayaklaohminrchkalphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach kxnthuksaercothsinpi 2346 butrchaykhnhnungepnecaphrayaymrach suk sinsukh dngnnkrmkhunxinthrphithksepntnskulsinsukh aelaxinthroythin 14 xangxing aekikh eruxngedchxnnt thxngdi thnarcht nayphntri rachphngsawdarkrungkmphucha krungethph ithykhwxlitibukhs 2006 cakd 2563 hna 155 tharngskdi xayuwthna rachskulckriwngs aelarachskulsmedcphraecataksinmharach krungethph sankphimphbrrnkic phimphkhrngthi 3 ph s 2544 490 hna hna hnathi ISBN 974 222 648 2 3 0 3 1 praminthr ekhruxthxng kbtecafaehmn phimphkhrngthi 3 prbprung krungethph mtichn 2555 hna 36 37 cullda phkdiphuminthr nitysarskulithy chbbthi 2488 pithi 48 pracawnxngkharthi 25 mithunayn 2545 praminthr ekhruxthxng kbtecafaehmn phimphkhrngthi 3 prbprung krungethph mtichn 2555 hna 37 phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha khlngwithya 2516 hna 437 7 0 7 1 praminthr ekhruxthxng kbtecafaehmn phimphkhrngthi 3 prbprung krungethph mtichn 2555 hna 38 phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha khlngwithya 2516 hna 438 9 0 9 1 prachumphngsawdarphakhthi 8 khuruspha 2507 hna 118 praminthr ekhruxthxng kbtecafaehmn phimphkhrngthi 3 prbprung krungethph mtichn 2555 hna 38 39 11 0 11 1 11 2 thankhxmulrakthanithy prachumphngsawdarphakhthi 39 hna 138 s phlaynxy phraecataksin mharachaehngchatiithy phimphkhrngthi 2 krungethph phimphkha 2553 hna 173 s phlaynxy phraecataksin mharachaehngchatiithy phimphkhrngthi 2 krungethph phimphkha 2553 hna 179 kxnhna smedcphramhaxuprach ecafakrmkhunxinthrphithks thdipecafakrmkhunphrphinit krungsrixyuthya phramhaxuprachaehngkrungthnburi smedcphrabwrrachecamhasursinghnath krungrtnoksinthr ekhathungcak https th wikipedia org w index php title smedcphramhaxuprach ecafakrmkhunxinthrphithks amp oldid 9199960, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม