อารี ไกรนรา
อารี ไกรนรา เป็นนักการเมืองชาวไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ ในปี 2562 สังกัดพรรคเพื่อชาติ เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อารี ไกรนรา | |
---|---|
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | |
อยู่ในวาระ | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 มกราคม พ.ศ. 2496 (68 ปี) |
พรรคการเมือง | เพื่อชาติ |
ประวัติ
อารี ไกรนรา เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2496 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิต (สังคมศึกษา) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (สื่อสารการเมือง) จากมหาวิทยาลัยเกริก
การทำงาน
อารี ไกรนรา เข้าร่วมงานการเมืองกับกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย (การ์ด นปช.) และเป็นคนสนิทของจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งจตุพร เคยเสนอชื่อเขาให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นนักวิชาการประจำกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อชาติ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก ในการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว เขาเคยลงมติสวนทางกับมติของฝ่ายค้านในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564 ส่งผลให้ จตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาเปิดเผยว่านี่คือการแยกทางกันทางการเมืองอย่างเป็นทางการกับนายอารี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2563 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2555 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
อ้างอิง
- แดงพรึ่บเมืองคอนยินดี'อารีย์ ไกรนรา'
- “จตุพร” การันตี “อารี ไกรนรา” ไม่ย้ายขั้ว
- ปชป.อัด จตุพร ตั้ง"อารี ไกรนรา" เป็นนักวิชาการประจำกมธ.
- เปิด 10 ลำดับแรกผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติ ฮือฮาหัวหน้าการ์ดนปช.มีลุ้นเข้าสภาฯ
- 'เพื่อชาติ' ปัดขายตัว-แจงฟรีโหวต 'ธรรมนัส' ย้ำต้องให้ความเป็นธรรม
- "จตุพร" ประกาศตัดสัมพันธ์ "อารี ไกรนรา" รับไม่ได้โหวตสวนมติฝ่ายค้าน
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓