อาลบี
อาลบี (ฝรั่งเศส: Albi) เป็นเมืองหลัก (Chef-lieu) ของเขตจังหวัดตาร์น แคว้นอ็อกซีตานี ทางภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำตาร์น ห่างจากเมืองตูลูซ ประมาณ 85 กิโลเมตร จากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
อาลบี อาลบี Albi | |
---|---|
ทัศนียภาพของสะพาน ตัวเมืองเก่า และมหาวิหาร | |
ประเทศ | ฝรั่งเศส |
แคว้น | อ็อกซีตานี |
จังหวัด | ตาร์น |
เขต | อาลบี (Albi) - เป็นเมืองหลัก |
อำเภอ | ไม่มี (เนื่องจากเป็นเมืองหลัก) |
สหเทศบาล | อาลบีฌัว |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี (2008-2014) | Philippe Bonnecarrère (ตั้งแต่ 2001) |
พื้นที่1 | 44.26 ตร.กม. (17.09 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2010)2 | 48,916 |
• ความหนาแน่น | 1,100 คน/ตร.กม. (2,900 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) |
รหัสอีนเซ/ไปรษณีย์ | 81004 /81000 |
สูงจากระดับน้ำทะเล | 130–308 m (427–1,010 ft) (avg. 23 m หรือ 75 ft) |
1 ข้อมูลอาณาเขตที่ตามขึ้นทะเบียนไว้โดยไม่รวมทะเลสาบ, หนองน้ำ, ธารน้ำแข็งที่ขนาดใหญ่กว่า 1 ตารางกิโลเมตรตลอดจนปากแม่น้ำ 2 Population without double counting: residents of multiple communes (e.g., students and military personnel) only counted once. |
อาลบี * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
วิวแบบพาโนรามา | |
ประเทศ | ฝรั่งเศส |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (iv) (v) |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2010 (คณะกรรมการสมัยที่ 34) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
เมืองอาลบี เคยเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของอัครมุขนายกแห่งอาลบี ซึ่งอยู่ในมุขมณฑลแห่งอาลบี (Diocese of Albi) เขตเมืองอาลบี ได้แก่ เมืองเก่า ซึ่งในปัจจุบันตั้งอยู่ตรงกลางใจเมือง และบริเวณรอบของมหาวิหารอาลบี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปีค.ศ. 2010 ในนาม Espicopal City of Albi (ฝรั่งเศส: Cité épiscopale d'Albi)
การปกครอง
เมืองอาลบีเป็นศูนย์กลางการปกครอง (Chef-lieu) ประกอบด้วยตำบล (Canton) ทั้งหมด 6 ตำบล แบ่งย่อยออกเป็นเทศบาลรวมทั้งสิ้น 18 เทศบาล (Commune)
ประวัติ
ได้มีการค้นพบหลักฐานการตั้งรกรากของมนุษย์สมัยยุคสำริด (ประมาณ 3,000-600 ปีก่อนคริสตกาล) และหลังจากชัยชนะของชาวโรมันต่อชาวกอลในปี 51 ก่อนคริสตกาล เมืองได้ถูกเรียกว่า Civitas Albigensium การขุดค้นทางโบราณคดีไม่พบหลักฐานสมัยโรมันเก่า จึงสันนิษฐานได้ว่าอาลบีจัดเป็นเมืองในยุคโรมันสมัยใหม่
ในปีค.ศ. 1040 ได้มีการขยายตัวเมือง และมีการสร้างสะพาน (สะพานเก่า หรือ Pont Vieux) มีการขยายเมืองใหม่ เนื่องจากการค้าขายระหว่างเมืองทำให้อาลบีเริ่มมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีการเรียกเก็บค่าผ่านทางจากใช้สะพานอีกด้วย
ในปี.ศ. 1208 พระสันตะปาปาและกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสได้ร่วมมือกันทำสงครามกับพวกนอกรีต แคทาร์ พื้นที่แถบนั้นประสบความยากลำบากจากสงครามจนต้องถูกผนวกเป็นเมืองขึ้นต่อกษัตริย์ฝรั่งเศส
หลังจากสงครามเสร็จสิ้นลงราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 พระสังฆราชแบร์นาร์ เดอ กัสตาแน ได้สร้างพระราชวังเสร็จ โดยมีลักษณะเป็นป้อมปราการ โดยต่อมาเขาได้สั่งให้มีการสร้างมหาวิหารนักบุญเซซีลีอาตั้งแต่ปีค.ศ. 1282 ในขณะนั้นเป็นยุคที่รุ่งเรืองทางการค้า จากการปลูกต้นคราม พืชที่ใช้สำหรับการย้อมผ้า เพื่อการค้า โดยมีประจักษ์พยานจากความร่ำรวยได้จากบ้านเรือนที่ตกแต่งแบบเรอแนซ็องส์ อาลบีก็ได้เก็บรักษามรดกความสวยงามทางสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงทุกวันนี้
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
อาลบีเริ่มต้นจากส่วนของมหาวิหารและอาคารพิธีต่าง ๆ อาณาเขตนี้กินพื้นที่กว่า 63 เฮกตาร์ โดยอาคารต่างๆมีลักษณะเด่นคืออิฐสีแดงแบบล็องก์ด็อก อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอาลบี ตูลูซ และมงโตบ็อง
มหาวิหารอาลบีถือเป็นงานสถาปัตยกรรมกอทิกชั้นเลิศ สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 15 โดยมีลักษณะที่โดดเด่นทางการออกแบบอย่างตรงกันข้าม โดยเฉพาะภายนอกที่เป็นป้อมปราการอย่างแข็งแรง และงานตกแต่งภายในอย่างวิจิตรพิสดาร สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ความศรัทธาในคริสต์ศาสนาภายหลังจากการสงครามกับพวกนอกรีตแคทาร์ ตัววิหารขนาดใหญ่นี้สร้างจากอิฐซึ่งได้ทนทานมานับศตวรรษ ประกอบด้วย ประตูทางเข้า Dominique de Florence หอระฆังสูง 78 เมตร เบญจาคริสต์ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้า (สร้างราวปี ค.ศ. 1515-1540) ฉากกางเขน เป็นฉากแกะบนหินในแบบกอธิกช่วงปลาย ที่มีผลงานรูปสลักของศิลปินชาวเบอร์กันดีกว่า 200 รูป
อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ ที่มาอายุมากกว่าพระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง คือพระราชวังพระสังฆราช (Palais de la Berbie) ซึ่งในปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ตูลูซ-โลแทร็ก (Musée Toulouse-Lautrec) ซึ่งเป็นปราสาทที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้สร้างเสร็จราวช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยชื่อเรียกมาจากภาษาอุตซิตา ว่า บิสเบีย (Bisbia) มีความหมายว่า พระสังฆราช
สะพานเก่า (Pont Vieux) ซึ่งยังใช้มาถึงปัจจุบันมีอายุเกือบหนึ่งพันปี โดยแรกสร้างโดยหินในปีค.ศ. 1035 แล้วเสริมด้วยอิฐในภายหลัง มีเสาโค้งจำนวน 8 เสา มีความยาวสะพานรวม 151 เมตร ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ได้มีการดัดแปลงเพิ่มเติมให้มีลักษณะเป็นป้อมปราการ โดยมีสะพานยกคอยป้องกันการรุกราน
มรดกโลก
องค์การยูเนสโกได้ยกย่องถึงตัวสะพานเก่า (Pont-Vieux) ย่านโบสถ์แซ็ง-ซาลวี (Collégiale Saint-Salvi) ย่านมหาวิหารแบบป้อมปราการ (ปลายศตวรรษที่ 13) ในแบบสถาปัตยกรรมกอทิกชั้นเยี่ยมตามแบบฝรั่งเศสตอนใต้โดยใช้อิฐสีส้มพื้นเมือง พระราชวังพระสังฆราช (Palais de la Berbie) และย่านที่อยู่อาศัยโบราณ ทำให้องค์ประกอบโดยรวมของเมืองแห่งอาลบี มีอัตลักษณ์อันหนึ่งอันเดียวกันที่ไม่เปลี่ยนแปลงในรอบหลายร้อยปี ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- http://whc.unesco.org/en/list/1337 UNESCO:Episcopal City of Albi