เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เจ้าชายแห่งวีท
เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เจ้าชายแห่งวีท (อังกฤษ: William Frederick, Prince of Wied) ประสูติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2415 ณ ราชอาณาจักรปรัสเซีย เป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่ในเจ้าชายวิลเฮ็ล์ม เจ้าชายแห่งวีท และเจ้าหญิงมารีแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นพระนัดดาในเจ้าชายเฟรเดอริกแห่งเนเธอร์แลนด์ และพระราชปนัดดาในพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 แห่งเนเธอร์แลนด์ และ พระเจ้าฟรีดริช วิลเฮ็ล์มที่ 3 แห่งปรัสเซีย ทั้งพระบิดาและพระมารดานั้น ทรงสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งบริเตนใหญ่ เหมือนกัน และมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาในเอลิซาเบธแห่งโรมาเนีย สมเด็จพระราชินีแห่งกรีซ
เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เจ้าชายแห่งวีท | |
---|---|
พระนาม | วิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช แฮร์มัน อ็อทโท คาร์ล |
พระอิสริยยศ | เจ้าชายพระประมุขแห่งวีท |
ฐานันดรศักดิ์ | เซอรีนไฮเนส |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์วีท-น็อยวีท |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
ประสูติ | 27 มิถุนายน 2415 ราชอาณาจักรปรัสเซีย |
สิ้นพระชนม์ | 18 มิถุนายน พ.ศ. 2488 (72 ปี) ประเทศเยอรมนี |
พระบิดา | เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม เจ้าชายแห่งวีท |
พระมารดา | เจ้าหญิงมารีแห่งเนเธอร์แลนด์ |
พระชายา | เจ้าหญิงเพาลีเนอแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค (ค.ศ. 1877–1965) |
พระบุตร | เจ้าชายแฮร์มัน เจ้าชายดีทริช |
เสกสมรส
เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เจ้าชายแห่งวีท ทรงเสกสมรสกับเจ้าหญิงเพาลีเนอแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค (ค.ศ. 1877–1965) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2441 มีพระบุตรดังนี้
- เจ้าชายแฮร์มัน
- เจ้าชายดีทริช
พระองค์ทรงกลายเป็นเจ้าชายพระประมุขแห่งวีทเมื่อ พ.ศ. 2450 ภายหลังพระบิดาสิ้นพระชนม์ลง จากการปฏิวัติเยอรมัน ค.ศ. 1918–1919 ใน พ.ศ. 2462 มีการยกเลิกตำแหน่งขุนนางทั้งหมด พระองค์จึงมีพระนามเพียงสามัญชนเท่านั้น ต่อมาพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2488 ก่อนวันประสูติปีที่ 73 เพียง 11 วัน และด้วยเจ้าชายแฮร์มันพระโอรสพระองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ไปใน พ.ศ. 2484 จากพระอาการบาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่สอง ตำแหน่งเจ้าชายพระประมุขแห่งวีทจึงตกเป็นของเจ้าชายฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม เจ้าชายแห่งวีท
อ้างอิง
- Lundy, Darryl. "Friedrich Wilhelm Hermann Otto Karl Fürst zu Wied". The Peerage. p. 11056 § 110557.[แหล่งอ้างอิงไม่น่าเชื่อถือ]
- Genealogics - Leo van de Pas - Friedrich, 6.Fürst zu Wied
- The Royal House of Stuart, London, 1969, 1971, 1976, Addington, A. C., Reference: 336